สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์
![]() |
|||
ชื่อเต็ม | Tottenham Hotspur Football Club | ||
---|---|---|---|
ฉายา | Spurs Lilywhites ไก่เดือยทอง (ในภาษาไทย) |
||
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1882(ในชื่อ "สโมสรฟุตบอลฮอตสเปอร์) | ||
สนาม | สนามกีฬาเวมบลีย์ | ||
ความจุ | 90,000 ที่นั่ง | ||
เจ้าของ | อีเอ็นไอซีกรุป | ||
ประธาน | ดาเนียล เลวี | ||
ผู้จัดการ | เมารีซีโอ โปเชตีโน | ||
ลีก | พรีเมียร์ลีก | ||
2016−17 | พรีเมียร์ลีก, อันดับที่ 2 | ||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | ||
|
|||
สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ (อังกฤษ: Tottenham Hotspur F.C.) เป็นสโมสรฟุตบอลอังกฤษซึ่งอยู่ในพรีเมียร์ลีกรู้จักในนามสั้น ๆ ว่า "สเปอส์" (Spurs) และแฟนคลับของสโมสรเรียกว่า "ยิดอาร์มี" (Yid Army) อันหมายถึง ชาวยิว อันเนื่องจากแฟนคลับแต่ดั้งเดิมของสโมสรเป็นชาวยิวที่ตั้งรกรากในกรุงลอนดอนตอนเหนือ ซึ่งเป็นที่ตั้งสโมสร[1] เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีความยิ่งใหญ่และตำนานอันยาวนาน ในเกาะอังกฤษ เป็นคู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน กับ เชลซี และ อาร์เซนอล เคยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดถึง 2 สมัย สเปอส์ถือเป็นสโมสรระดับหัวแถวของลีกโดยในยุคของมาร์ติน โยล สเปอร์มีโอกาสที่จะเข้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกแต่ก็ทำได้เพียงอันดับ 5 มาเกือบตลอด และในปี 2007 ได้มีการปลดมาร์ติน โยลออกจากตำแหน่งเนื่องจากออกสตาร์ทฤดูกาลได้ย่ำแย่ทั้งที่ใช้เงินลงทุนมหาศาลรวมถึงการซื้อดาร์เรน เบนท์มาด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ซึ่งทำลายสถิติสโมสรหลังจากนั้นได้แต่งตั้งฆวนเต้ รามอส อดีตผู้จัดการทีมเซบีย่าและในฤดูกาลนั้น สเปอส์สามารถชนะเชลซี 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศคาร์ลิงคัปซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ในรอบ 9 ปี ต่อมาภายใต้การคุมทีมของแฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือชาวอังกฤษ โดยการย้ายการคุมทีมมาจากพอร์ตสมัท
แฮร์รี เรดแนปป์ ได้ดึงลูกทีมเก่าจากพอร์ตสมัทมาหลายคน อาทิ ปีเตอร์ เคร้าช์, นิโก ครานชาร์, เจอร์เมน เดโฟ, ยูเนส คาบูล โดย 2 รายหลังนั้นเป็นการกลับมาทีมเก่า และยังดึงมิดฟิลด์พันธุ์ดุจากฮอนดูรัสอย่าง วิลสัน ปาลาซิออส มาจาก วีแกน แอธแลนติก เพื่อนร่วมลีก พรีเมียร์ลีก รวมทั้ง ยืมตัว ไอเดอร์ กุดจอห์นเซน กองหน้าจาก โมนาโก
ผลงานล่าสุดในฤดูกาล 2011-12 จากการซื้อนักเตะที่มีประสิทธิภาพและความสามารถของแฮร์รี เรดแนปป์ ได้นำพาทีมสเปอส์คว้าพรีเมียร์ลีก อันดับที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่สองในการนำทีมสเปอร์จบอันดับ 4 ซึ่งจะมีโอกาสไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากขึ้น
แต่แล้วการตัดสินใจในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ของเรดแนปป์ก็ไม่เข้าที่เข้าทางสักที แฮร์รี เรดแนปป์ จึงได้ลาออกจากสโมสร และต่อมาไม่ถึง 2 เดือน ทางคณะบอร์ดบริหารได้แต่งตั้งอังเดร วิลลัช-โบอัช ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส เป็นผู้จัดการทีม
เนื้อหา
ประวัติของสโมสร[แก้]
ยุคก่อตั้งสโมสร (1882-1898)[แก้]

สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1882 โดยใช้ชื่อ ฮอตสเปอร์ เอฟซี มีสนามประจำสโมสรคือ ทอตนัม มาร์เชส แต่แล้วในปี ค.ศ. 1897 สนาม ทอตนัม มาร์เชส ได้ถูกระงับการใช้งานอย่างถาวร เนื่องจากเกิดปัญหาสงครามโลกขึ้น โดย ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้เช่าบริเวณย่านเมือง นอททัมเบอร์แลนด์ และขอเช่าสนาม นอททัมเบอร์แลนด์ พาร์ค เป็นเวลา 8 ปี ก่อนที่จะย้ายไปยังสนาม ไวต์ฮาร์ตเลน สนามประจำสโมสรในปัจจุบัน โดยสโมสรแห่งนี้เล่นในลีกทางใต้ของ ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้แชมป์ของลีกทางใต้ 1 สมัยในปี ค.ศ. 1900 จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1908 ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้ย้ายไปเล่นใน ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 ของ ประเทศอังกฤษ โดยก่อนหน้านั้น สเปอร์ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในการแข่งฟุตบอลใน ประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1901 ทั้งที่ยังเป็นทีมสมัครเล่นอยู่ และในปี ค.ศ. 1908 สเปอร์ก็ได้รองแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 ซึ่งนักฟุตบอลชื่อดังของสเปอร์ในสมัยนั้นคือ อาเทอร์ กริมส์เดล กัปตันทีมของสเปอร์
ยุคทองแห่งความสำเร็จ (1949-1981)[แก้]
แล้วหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1949 ฮอตสเปอร์ เอฟซี ได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทอตนัมฮอตสเปอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และชื่อประจำเมืองในถิ่น ไวต์ฮาร์ตเลน โดยในช่วงนั้นมีผู้จัดการทีมชื่อ อาเทอร์ โรเวย์ ผู้จัดการทีมชาว อังกฤษ นำทีมสเปอร์ขึ้นมาเล่นใน ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 ของ ประเทศอังกฤษ ได้สำเร็จ โดยในช่วงเดียวกันนั้นสเปอร์ได้แชมป์ลีกดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1950-51 และ หลังจากนั้นในฤดูกาล 1960-61 ในยุคของ บิล นิโคลสัน ตำนานของ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ได้กลับเข้ามาคุมทีมอีกครั้ง หลังจากยกเลิกการเล่นฟุตบอลไปแล้ว โดยเขาได้นำทีมสเปอร์เป็นรองแชมป์ดิวิชั่น 1 2 ครั้ง, แชมป์ เอฟเอคัพ 3 สมัย, ฟุตบอลลีกคัพ 1 สมัย, เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ 3 สมัย และ ในระดับบอลถ้วยยุโรปเขาก็นำทีมสเปอร์ เป็นแชมป์ ยูฟ่าคัพ (ยูโรป้า ลีก ในปัจจุบัน) 1 สมัย และ แชมป์ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ซึ่งในช่วงยุคนั้นเป็นยุคที่สเปอร์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังจากยุคของ นิโคลสัน แล้วนั้น สเปอร์ก็ยังเล่นได้อยู่ในระดับที่มีความสามารถพอดี โดยสามารถสู้กับทีมใหญ่ๆได้ โดยในช่วงปี ค.ศ. 1981 และ ค.ศ. 1982 สเปอร์เป็นแชมป์ เอฟเอคัพ 2 สมัยติดกันในช่วงยุคของ คีธ เบอร์คินชอว์ และเขายังนำสเปอร์ได้แชมป์ ยูฟ่าคัพ ซึ่งเป็นแชมป์ 2 สมัย ของสโมสร
ยุคแห่งความมั่นคงของสโมสร (1982-ปัจุจบัน)[แก้]

หลังจากยุคปี 2000 สเปอร์ก็ยังเล่นในลีก พรีเมียร์ลีก (ดิวิชั่น 1 เดิม) ได้อย่างมั่นคง และส่วนใหญ่มักจะอยู่ในอันดับต้นๆของตาราง ซึ่งส่วนมากจะจบในอันดับที่ 5 เป็นส่วนใหญ่ โดยมีผู้จัดการทีมหลายคนในช่วงนั้น ซึ่งมี เกล็น ฮอดเดิล, ฌัก ซ็องตีนี, มาร์ติน โยล, ฆวนเด รามอส และ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การคุมทีมของ แฮร์รี เรดแนปป์ กุนซือของชาว อังกฤษ โดย ในปี ค.ศ. 2008 ในยุคของ ฆวนเด รามอส สเปอร์ได้แชมป์ ฟุตบอลลีกคัพ ด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลเชลซี ไป 2-1 หลังต่อเวลาพิเศษ และ จบอันดับที่ 5 ได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ต่อมา ฤดูกาล 2008-09 เมื่อสโมสรได้ซื้อ กองหน้า ตัวเก่งชาว อังกฤษ อย่าง เจอร์เมน เดโฟ จากพอร์ทสมัท และ ร็อบบี คีน จากลิเวอร์พูลมาเสริมความแกร่งของแนวรุกมากขึ้น ซึ่งนัดแรกสเปอร์บุกไปแพ้ มิดเดิลสโบรไป 2-1 และ 7 นัดต่อมา ก็มาชนะครั้งแรกได้ในบ้านของตน ด้วยการอัดโบลตันไป 2-0 และต่อมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 2008 สเปอร์ได้ปลด ฆวนเต รามอส ออกจากผู้จัดการทีม และ แต่งตัง แฮร์รี เรดแนปป์ เป็นผู้จัดการทืมไปจนจบฤดูกาล ซึ่งเรดแนปป์นำทีมสเปอร์ไปสู่รอบรองชิงชนะเลิศ ฟุตบอลลีกคัพ กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ แต่ก็ต้องพ่ายจุดโทษไป 4-1 (หลังเสมอ 0-0) และจบอันดับ 8 เมื่อขึ้นฤดูกาลใหม่ 2009-10 เรดแนปป์ได้เสริมนักเตะใหม่โดยการถึง ปีเตอร์ เคราช์ จากพอร์ทสมัท กับ ไคล์ วอล์กเกอร์ จากเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาเสริมความแกร่งและการรุกของสโมสรให้คมมากขึ้น เพื่อทดแทนการเสีย ดาเรน เบนท์ อดีตดาวซัลโวของสโมสรเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งนัดแรกเปิดบ้านเฉือนชนะลิเวอร์พูลไปได้ 2-1 และจบอันดับที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สเปอร์จบในอันดับทีได้ไปเล่นถ้วย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นับตั้งแต่ ฤดูกาล 1961-62

ฤดูกาล 2010-11 สเปอร์ได้ซื้อ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กองกลางจากเรอัลมาดริด และ ซานดรู ราเนียเร มิดฟิลด์แนวรุกชาวบราซิล มาเสริมทัพ โดยคราวนี้สเปอร์ได้ไปเล่น ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งในรอบเพลย์ออฟชนะ บีเอสซี ยอง บอยส์ ไป 6-3 (รวม 2 นัด) และทะลุเขาไปในรอบแบ่งกลุ่มโดยได้อยู่สายเดียวกับ อินเตอร์ มิลาน, ทเวนเต และ แวร์เดอร์ เบรเมน ซึ่งสเปอร์และอินเตอร์มิลาน ได้เป็นแชมป์และรองแชมป์กลุ่มตามลำดับ และต่อมาในรอบ 16 ทีม ได้ชนะ เอซี มิลาน ไป 1-0, รอบ 8 ทีมสุดท้ายแพ้ เรอัล มาดริด ไป 4-1 จึงตกรอบไป และต่อมาใน พรีเมียร์ลีก นัดแรกสเปอร์ได้เสมอแมนเชสเตอร์ซิตี ไป 0-0 และนัดถัดมาบุกไปเฉือนชนะสโตกซิตี ได้ 2-1 โดยดาวซัลโวของสโมสรในฤดูกาลนี้คือ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่ทำประตูได้ 15 ประตู และนำทีมจบในอับดับที่ 5 ไปเล่น ยูโรปาลีก
ผลงานล่าสุดในฤดูกาล 2011-12 จากการซื้อนักเตะที่มีประสิทธิภาพและความสามารถของแฮร์รี เรดแนปป์ ได้นำพาทีมสเปอส์คว้าพรีเมียร์ลีก อันดับที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งที่สองในการนำทีมสเปอร์จบอันดับ 4 ซึ่งจะมีโอกาสไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก มากขึ้น
แต่แล้วการตัดสินใจในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ของเรดแนปป์ก็ไม่เข้าที่เข้าทางสักที แฮร์รี เรดแนปป์ จึงได้ลาออกจากสโมสร และต่อมาไม่ถึง 2 เดือน ทางคณะบอร์ดบริหารได้แต่งตั้ง อังเดร วิลลัช-โบอัช ผู้จัดการทีมชาว โปรตุเกส เป็นผู้จัดการทีม
ตราสัญลักษณ์ของสโมสร[แก้]
ตราสัญลักษณ์ของสโมสรทอตนัมฮอตสเปอร์เป็นรูปไก่ตัวผู้ที่มีเดือยแหลมคมเหยียบลูกฟุตบอล จึงได้ฉายาในภาษาไทยว่า "ไก่เดือยทอง" ตราสัญลักษณ์นี้มีที่มาจากนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1901 เมื่อแฮร์รี เพอร์ซี ฮอตสเปอร์ บุคคลที่เชื่อกันว่าทางสโมสรได้นำนามสกุลของเขาตั้งขึ้นเป็นชื่อสโมสร ใส่รูปไก่ตัวผู้ลงไปในตราสัญลักษณ์เพื่อให้ผู้เล่นเกิดความฮึกเหิม ต่อมาอีก 8 ปี วิลเลียม เจมส์ สก๊อต อดีตผู้เล่นของสโมสรได้ทำรูปหล่อสำริดไก่ตัวผู้เหยียบลูกฟุตบอลขึ้นมา จึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสโมสรนับตั้งแต่บัดนั้น
โดยสัญลักษณ์รูปนี้ได้ทำการปรับเปลี่ยนมาหลายครั้งในหลายยุคสมัย โดยในยุคทศวรรษที่ 1920 เป็นรูปลักษณ์ที่เรียบ ๆ ต่อมาสมัยก็มีรูปลูกโลกรวมถึงสิงโตคู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลนอร์ททัมเบอร์แลนด์ของแฮร์รี ฮอตสเปอร์ ทั้งปราสาทบรูซซึ่งตั้งอยู่ใกล้สนามไวท์ฮาร์ทเลน รวมทั้งต้นไม้ 7 ต้น สื่อถึงเซเวนซิสเตอร์ส์ ย่านหนึ่งในลอนดอนเหนือที่ตั้งของสโมสรด้วย พร้อมคติภาษาละตินที่ว่า "Audere Est Facere" (จงกล้าที่จะทำ) ต่อมาในยุคทศวรรษที่ 1980 ได้ตัดรายละเอียดต่าง ๆ ออกไป เหลือเพียงไก่กับสิงโตและคติภาษาละตินเท่านั้น
โดยสัญลักษณ์แบบปัจจุบันเกิดขึ้นในปี 2006[2]
ชุดและสปอนเซอร์ที่ใช้[แก้]
ชุดที่ใช้[แก้]
- 1978–1980: แอดมิรัล
- 1980–1985: เลอ ค็อก สปอร์ทิฟ
- 1985–1991: ฮุมเมล
- 1991–1995: อัมโบร
- 1995–1999: โพนี
- 1999–2002: อาดิดาส
- 2002–2006: แคปปา
- 2006–2012: พูมา
- 2012–2017: อันเดอร์ อาร์มัวร์
- 2017 - Nike (ไนกี้)
สปอนเซอร์[แก้]
- 1882–1983: ไม่มี
- 1983–1995: โฮลสเตน
- 1995–1999: ฮิวเลตต์-แพคการ์ด
- 1999–2002: โฮลสเตน
- 2002–2006: ธอมสัน ฮอลิเดย์
- 2006–2010: Mansion.com คาสิโน & โป๊กเกอร์
- 2010–2011: ออโตโนมี คอร์ปอเรชัน (ใช้ในพรีเมียร์ลีก)[3]
- 2010–2013: ธนาคารอินเวสเทค (ใช้ในแชมเปียนส์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพและยูโรปาลีก)[4]
- 2011–2013: ออราสมา1 (ใช้ในพรีเมียร์ลีก)[5]
- 2013–2014: ฮิวเลตต์-แพคการ์ด2[6], AIA (เอฟเอคัพ, ลีกคัพและยูโรปาลีก)[7]
- 2014–: AIA[8]
1 ออราสมาเป็นบริษัทลูกของ ออโตโนมี คอร์ปอเรชัน
2 ฮิวเลตต์-แพคการ์ด เป็นบริษัทแม่ของ ออโตโนมี คอร์ปอเรชัน
ผู้เล่น[แก้]
ผู้เล่นชุดปัจจุบัน[แก้]
- ณ วันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2018[9]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว[แก้]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
ทีมงานปัจจุบัน[แก้]
ตำแหน่ง | ชื่อ |
---|---|
ผู้จัดการทีม | ![]() |
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม | ![]() |
ผู้จัดการทีมสำรอง | ![]() |
ผู้ช่วยผู้จัดการทีมสำรอง | |
ผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนส | ![]() |
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู | ![]() |
ผู้ฝึกสอนกองหน้า | ![]() |
นักกายภาพบำบัด | ![]() |
ทำเนียบผู้จัดการทีมของสโมสร[แก้]
- รายชื่อผู้จัดการทีมสโมสรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน:
20 อันดับผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดของสโมสร[แก้]
- ดูจากเปอร์เซนต์ในการชนะ
ชื่อผู้จัดการทีม | ปี | ลงเล่น | ชนะ | ชนะ % | |
---|---|---|---|---|---|
1 | ![]() |
1898–1899 | 63 | 37 | 58.73 |
2 | ![]() |
1942–1946 | 49 | 27 | 55.10 |
3 | ![]() |
1899–1907 | 570 | 296 | 51.93 |
4 | ![]() |
1986–1987 | 119 | 60 | 50.42 |
5 | ![]() |
2008–2012 | 198 | 98 | 49.49 |
6 | ![]() |
1958–1974 | 832 | 408 | 49.03 |
7 | ![]() |
1949–1955 | 283 | 135 | 47.70 |
8 | ![]() |
1907–1908 | 61 | 29 | 47.54 |
9 | ![]() |
1955–1958 | 161 | 75 | 46.58 |
10 | ![]() |
1929–1935 | 253 | 109 | 46.38 |
11 | ![]() ![]() |
1992–1993 | 51 | 23 | 45.09 |
12 | ![]() |
2004–2007 | 150 | 67 | 44.67 |
13 | ![]() |
1984–1986 & 1991–1992 | 177 | 79 | 44.63 |
14 | ![]() |
1935–1938 | 146 | 65 | 44.52 |
15 | ![]() |
1913–1927 & 1938–1942 | 750 | 331 | 44.13 |
16 | ![]() |
1908–1913 | 231 | 99 | 42.86 |
17 | ![]() |
1946–1949 | 150 | 64 | 42.67 |
18 | ![]() |
1976–1984 | 431 | 182 | 42.23 |
19 | ![]() |
1987–1991 | 165 | 67 | 40.61 |
20 | ![]() |
1927–1929 | 124 | 49 | 39.52 |
* Stats correct as of14 June 2012
1 Includes caretaker manager stints in 1998, 2001 and 2003–04
2 Includes short caretaker manager stint
3 Includes his one match as caretaker manager after Santini's resignation
อดีตผู้เล่นที่มีชื่อเสียง[แก้]
เฮอร์เบิร์ต แชปแมน (1905–1907)
จิมมี่ กรีฟส์ (1961–1970)
แกรม ซูเนสส์ (1970–1972)
คริส ฮิวตัน (1977–1990)
เรย์ คลีเมนซ์ (1981–1988)
พอล แกสคอยน์ (1988–1992)
แกรี่ ลินิเกอร์ (1989–1992)
เอียน วอล์กเกอร์ (1989–2001)
ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน (1992–2004)
โซล แคมป์เบลล์ (1992–2001)
เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม (1992–1997, 2001–2003)
เจอร์เกน คลินส์มันน์ (1994–1995)
เลส เฟอร์ดินันด์ (1997–2003)
เดวิด ชิโนลา (1997–2000)
ปีเตอร์ เคราช์ (1998–2000, 2009– 2011)
เลดลีย์ คิง (1998–2012)
นีล ซุลลิแวน (2000–2003)
ไซมอน เดวิส (2000–2005)
กุสตาโบ โปเย (2001–2004)
เคซี่ย์ เคลเลอร์ (2001–2005)
เจมี่ เรดแนปป์ (2002–2005)
ร็อบบี คีน (2002–2008, 2009–2011)
เฮลเดอร์ ปอสติกา (2003–2004)
บ๊อบบี้ ซาโมรา (2003–2004)
พอล โรบินสัน (2004–2008)
ลี ยอง-เปียว (2005–2008)
เจอร์เมน จีนาส (2005–2013)
แดนนี่ เมอร์ฟี่ (2006–2007)
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (2006–2008)
แกเร็ธ เบล (2007–2013)
แดร์เรน เบนต์ (2007–2009)
เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (2008–2009-ยืมตัว)
ลูกา โมดริช (2008–2012)
โรมัน พาฟลูเชนโก (2008–2012)
วิลสัน ปาลาซิออส (2009–2011)
นิโก ครานจ์ชาร์ (2009–2012)
ไอเดอร์ กุดยอห์นเซน (2010-ยืมตัว)
ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ต (2010–2012)
สก็อต พาร์กเกอร์ (2011–2013)
ผลงานของสโมสร[แก้]
- ฟุตบอลลีกดิวิชั่น 1 เดิม: 2 ครั้ง
- 1950-51 1960-61
- ฟุตบอลลีกดิวิชั่นสอง: 2 ครั้ง
- 1919-20 1949-50
- เซาท์เทิร์นฟุตบอล ลีก: 1 ครั้ง
- 1899-00
- เวสต์เทิร์นฟุตบอล ลีก: 1 ครั้ง
- 1903-04
- เอฟเอคัพ: 8 ครั้ง
- 1900-01 1920-21 1960-61 1961-62 1966-67 1980-81 1981-82 1990-91
- ฟุตบอลลีกคัพ: 4 ครั้ง
- 1970-71 1972-73 1998-99 2007-08
- เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ : 7 ครั้ง
- 1920-21 1950-51 1960-61 1961-62 1966-67 1980-81 1990-91
- ยูฟ่ายูโรปาลีก : 2 ครั้ง
- 1971-72 1983-84
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ : 1 ครั้ง
- 1962-63
- อัลกโลว์-อิตาเลียน ลีกคัพ: 1 ครั้ง
- 1970-71
ในประเทศไทย[แก้]
สำหรับผู้ที่นิยมหรือสนับสนุนทอตนัมฮอตสเปอร์ในประเทศไทยที่มีชื่อเสียง ได้แก่ อาทิวราห์ คงมาลัย (นักร้อง), อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี (นักร้อง[10]), ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ (นักร้องและนักแสดง) เป็นต้น
อ้างอิง[แก้]
- ↑ “David Cameron: Yid is not hate speech when it’s Spurs" from Jewish Chronicle. Jewish Chronicle.
- ↑ "ทำไมสเปอร์ต้องเป็นไก่". tukthakai. 10 March 2016.
- ↑ "Sponsorship and 2010/2011 Kit Update". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur. 8 July 2010. สืบค้นเมื่อ 1 March 2013.
- ↑ "Tottenham Hotspur announces new shirt sponsorship with Investec". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur. 16 August 2010. สืบค้นเมื่อ 1 March 2013.
- ↑ "Historical Kits – Tottenham Hotspur". historicalkits.co.uk. Historic Football Kits. สืบค้นเมื่อ 1 March 2013.
- ↑ "Club Announce HP as Principal Partner". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur. 8 July 2013. สืบค้นเมื่อ 8 July 2013.
- ↑ "Tottenham Hotspur announces AIA as Cup Shirt Partner". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur. 15 August 2013. สืบค้นเมื่อ 22 August 2013.
- ↑ "AIA to Become Tottenham Hotspur's New Principal Partner". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur. 13 February 2014. สืบค้นเมื่อ 5 June 2014.
- ↑ "First team profiles". Tottenham Hotspur F.C. สืบค้นเมื่อ 25 July 2017.
- ↑ "สัมภาษณ์2นักร้องชื่อดังที่แฟนปืน-ผีอาจมีเคือง". thaifootball.com. 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551.
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ |
- TottenhamHotspur.com Official club website
- สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่เฟซบุ๊ก
- สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่ทวิตเตอร์
- Tottenham Hotspur at the Premier League official website
- Tottenham Hotspur F.C.[ลิงก์เสีย] at UEFA
- Tottenham Hotspur News – Sky Sports
- Tottenham Hotspur Ladies Official ladies club website
- Supporters' Trust
- Spurs Canada
- Tottenham Hotspur Brasil
- Tottenham Hotspur Switzerland
- Spurs history 1882–1921
- Timesonline archive
- Full list of honours
- เว็บไซต์แฟนคลับในประเทศไทย
- เฟซบุกแฟนคลับในประเทศไทย
- เฟซบุกแฟนคลับในประเทศไทย
- ทวิตเตอร์แฟนคลับในประเทศไทย
|