รอนัลดีนโย
![]() รอนัลดีนโย ในปี 2017 | |||||||||||||
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | รอนัลดู จี อาซิส โมเรย์รา | ||||||||||||
วันเกิด | 21 มีนาคม ค.ศ. 1980 | ||||||||||||
สถานที่เกิด | โปร์ตูอาแลกรี, ประเทศบราซิล | ||||||||||||
ส่วนสูง | 1.83 m (6 ft 0 in)[1] | ||||||||||||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก / กองหน้า | ||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||
1987–1998 | เกรมีอู | ||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||
1998–2001 | เกรมีอู | 52 | (21) | ||||||||||
2001–2003 | ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง | 55 | (17) | ||||||||||
2003–2008 | บาร์เซโลนา | 145 | (70) | ||||||||||
2008–2011 | เอซี มิลาน | 76 | (20) | ||||||||||
2011–2012 | ฟลาเมงกู | 33 | (15) | ||||||||||
2012–2014 | อัตเลชีกูมีเนย์รู | 47 | (17) | ||||||||||
2014–2015 | เกเรตาโร | 25 | (8) | ||||||||||
2015 | ฟลูมิเนนเซ่ | 5 | (1) | ||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||
1996 | บราซิล U17 | 6 | (2) | ||||||||||
1999 | บราซิล U20 | 5 | (3) | ||||||||||
1999–2005 | บราซิล U23 | 27 | (18) | ||||||||||
1999–2013 | บราซิล | 97 | (33) | ||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 13:04, 4 เมษายน 2013 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2013 |
รอนัลดู จี อาซิส โมเรย์รา (โปรตุเกส: Ronaldo de Assis Moreira) หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรนัลจีญู[2] (โปรตุเกส: Ronaldinho "โรนัลโดน้อย") หรือ รอนัลดีนโย ตามการออกเสียงในภาษาอังกฤษ[3] เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) เป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล รอนัลดีนโยเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเป็นหลัก แต่สามารถขยับไปเล่นเป็นตัวริมเส้นได้เช่นกัน เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของฟีฟ่า 2 สมัย และรางวัลบาลงดอร์ 1 สมัย เขามีจุดเด่นในเรื่องของการเลี้ยงบอล, การผ่านบอลให้เพื่อน โดยมีภาพจำที่ติดตาแฟนฟุตบอลคือการผ่านบอลได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องมองเพื่อน[4] และสามารถเล่นลูกตั้งเตะได้อย่างยอดเยี่ยม
รอนัลดีนโย ลงสนามนัดแรกในเกมทางการของตนเองกับสโมสรเกรมีอู ในประเทศบราซิล ในปี 1998 ต่อมา ในปี 2001 เขาย้ายไปร่วมทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง[5] ก่อนจะย้ายร่วมทีมบาร์เซโลนา ในปี 2003 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ในอาชีพของเขา ในฤดูกาลที่สองของเขากับบาร์เซโลนา เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟีฟ่าเป็นสมัยแรก โดยบาร์เซโลนาชนะเลิศการแข่งขัน ลาลิกา ในปีนั้น ต่อมาในฤดูกาล 2005-06 ถือเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของรอนัลดีนโยอย่างแท้จริง[6] โดยเขาสามารถพาทีมชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปีของสโมสร และยังป้องกันแชมป์ ลาลิกา เอาไว้ได้ ส่งผลให้เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นครั้งที่สอง รวมถึงรางวัลบาลงดอร์ในปีนั้น และภายหลังจากทำประตูอันงดงามได้ในนัดที่พบกับ เรอัลมาดริด ในปีนั้น ทำให้เขาเป็นผู้เล่นบาร์เซโลนาคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเสียงปรบมือยกย่องจากแฟนฟุตบอลของเรอัลมาดริด ณ สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว[7][8][9] ต่อจาก ดิเอโก มาราโดนา
ต่อมา ในฤดูกาล 2006-07 บาร์เซโลนาทำได้เพียงคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ ลาลิกา และรอนัลดีนโยยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนถึงฤดูกาล 2007-08 ทำให้เขาตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เอซี มิลาน[10] ก่อนจะคว้าแชมป์ลีกได้ในปี 2011 และได้กลับไปเล่นอาชีพที่ประเทศบราซิลร่วมกับสโมสร ฟลาเม็งกู และ สโมสรมิไนโร่ ตามด้วยการย้ายไปร่วมทีม เกเรตาโร่ ในเม็กซิโก ก่อนจะกลับมาปิดท้ายการเล่นอาชีพกับสโมสร ฟลูมิเนนเซ่ ในบราซิลในปี 2005 นอกเหนือจากรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของฟีฟ่า และรางวัลบาลงดอร์ รอนัลดีนโยยังได้รับรางวัลสำคัญอีกมากมาย อาทิ การติดหนึ่งในผู้เล่นทีมยอดเยี่ยมของ สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป, รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำทวีปอเมริกาใต้ และในปี 2004 เขาได้รับการจัดอันดับโดย เปเล่ ตำนานรุ่นพี่ทีมชาติบราซิลให้มีชื่ออยู่ใน 1 ใน 100 นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่[11]
ในการเล่นให้กับทีมชาติบราซิล เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 97 นัด ด้วยผลงาน 33 ประตู และมีส่วนร่วมในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2 สมัยโดยคว้าแชมป์โลกได้ 1 สมัย (ฟุตบอลโลก 2002) และยังคว้าแชมป์ ซีเอเอฟ คอนเฟเดอเรชัน คัพ 1 สมัย (ค.ศ. 2005) ซึ่งเขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศ และยังเป็นกัปตีนทีมชาติชุดที่คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกฤดูร้อนใน ค.ศ. 2008
ประวัติ[แก้]
รอนัลดีนโยเกิดในเมืองโปร์ตูอาแลกรี
(Porto Alegre) เมืองเอกของรัฐฮิวกรังจีดูซูว (Rio Grande do Sul) มารดาของเขาเป็นนางพยาบาล ส่วนบิดาของเขานั้นเป็นทั้งพนักงานอู่ซ่อมเรือและนักฟุตบอล ในวัยเยาว์ ทักษะในการเล่นฟุตบอลของเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถยิงประตูคนเดียว 23 ประตูให้ทีมชนะทีมพื้นเมืองไป 23-0 เขาจึงได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมนักฟุตบอลอายุต่ำกว่า 17 ปีชิงแชมป์โลกที่ประเทศอียิปต์ ปี พ.ศ. 2540
ต่อมาก็มีทีมฟุตบอลต่าง ๆ ยื่นข้อเสนอมาให้เขามากมาย ท้ายที่สุดเขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมทีมเกรมีอู ภายหลังถูกซื้อตัวโดยทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็งในลีกฝรั่งเศส หลังจากนั้นเขาต้องการจะย้ายออกจากปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง โดยมีเป้าหมายว่าจะไปบาร์เซโลนา ในที่สุดเขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมทีมกับบาร์เซโลนาและประสบความสำเร็จอย่างมาก ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับเอซีมิลาน และปัจจุบันมกราคมปี 2554 ได้ย้ายกลับไปเล่นกับทีมฟลาเมงกูในบราซิล ต่อมาจึงย้ายออกจากฟลาเมงกูที่ไม่ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้แล้วย้ายไปอยู่อัตเลชีกูมีเนย์รูน์
เกียรติประวัติ[แก้]
รางวัลที่ได้ส่วนตัว
- FIFA World Player of the Year ปี 2547 2548
- World Soccer Player of the Year ปี 2547 2548
- Ballon d'Or ปี 2548
- FIFPro World Player of the Year ปี 2548 2549
- UEFA Club Footballer of the Year ปี 2548
ระดับสโมสร
- แชมป์ ลาลิกา 2548 2549
- แชมป์ ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2548
- แชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2549
ระดับนานาชาติ
- แชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลกอายุ 17 ปี 2540
- แชมป์ โกปาอาเมริกา 2542 2547
- แชมป์ ฟุตบอลโลก 2002
- แชมป์ คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2548
อ้างอิง[แก้]
- ↑ "Goal.com Ronaldinho player profile". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-25. สืบค้นเมื่อ 2013-04-30.
- ↑ ออกเสียง [ʁonaɫˈdʒĩɲu] เนื่องจากในหลายพื้นที่ของบราซิล พยัญชนะ /d/ เมื่อนำหน้าสระ /i/ จะกลายเป็นเสียง [dʒ] (เสียงเดียวกับ j ในภาษาอังกฤษ)
- ↑ ในภาษาอังกฤษออกเสียง /ˌrɒnəlˈdiːnjəʊ/ (สำเนียง Received Pronunciation ในสหราชอาณาจักร) หรือ /ˌrɑːnəlˈdiːnjoʊ/ (สำเนียง General American ในสหรัฐอเมริกา). Longman Dictionary of Contemporary English fifth edition. [DVD-ROM]. London: Pearson Education, 2009.
- ↑ admin (2019-06-26). "Ronaldinho Passes with His Back". Soccer Training Info (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ "PSG close to Ronaldinho deal". Sky Sports (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ UEFA.com (2006-05-17). "2005/06: Ronaldinho delivers for Barça". UEFA.com (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "15 Years Ago, Ronaldinho Received A Bernabéu Ovation, A Feat Few Barça Players Ever Achieve". The18.
- ↑ "On This Day in 2005: Ronaldinho Earns Standing Ovation From Real Madrid Fans at Santiago Bernabéu". 90min.com (ภาษาอังกฤษ). 2019-11-19.
- ↑ Dimond, Alex. "Barcelona's Ronaldinho Gets Real Madrid Ovation in Clasico for the Ages". Bleacher Report (ภาษาอังกฤษ).
- ↑ "Brazilian superstar Ronaldinho joins Milan for $30m". The Sydney Morning Herald (ภาษาอังกฤษ). 2008-07-16.
- ↑ shop, VCoins, the online coin. "Brazil, Medal, The 100 Greatest Living Players selected by Pelé, Ronaldinho". www.vcoins.com (ภาษาอังกฤษ).
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เก็บถาวร 2010-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Ronaldinho tribute site เก็บถาวร 2017-07-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Photos and Videos Ronaldinho
- Ronaldinho เก็บถาวร 2017-06-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Video and Pictures
![]() |
บทความเกี่ยวกับนักฟุตบอลนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล ดูเพิ่มที่โครงการวิกิฟุตบอล |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2523
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวบราซิล
- นักฟุตบอลทีมชาติบราซิล
- นักฟุตบอลกลูบีจีเรกาตัสดูฟลาเม็งกู
- ผู้เล่นเอซี มิลาน
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2002
- ผู้เล่นในเซเรียอา
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นในลีกเอิง
- บุคคลจากโปร์ตูอาแลกรี
- กองหน้าฟุตบอล
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2000
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008
- ฟีฟ่า 100
- ผู้ชนะเลิศบาลงดอร์
- ผู้เล่นในกังเปโอนาตูบราซีเลย์รูแซรียีอา
- บทความเกี่ยวกับ นักฟุตบอล ที่ยังไม่สมบูรณ์