โอมาร์ ซิโบริ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โอมาร์ ซิโบริ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เอนรีเก โอมาร์ ซีโบรี
วันเกิด 2 ตุลาคม ค.ศ. 1935(1935-10-02)
สถานที่เกิด ซันนิโกลัส ประเทศอาร์เจนตินา
วันเสียชีวิต 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005(2005-02-17) (69 ปี)
สถานที่เสียชีวิต ซันนิโกลัส ประเทศอาร์เจนตินา
ส่วนสูง 1.63 เมตร (5 ฟุต 4 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองหน้า
สโมสรเยาวชน
0000–1957 River Plate
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
1954–1957 River Plate 63 (29)
1957–1965 ยูเวนตุส 215 (135)
1965–1969 นาโปลี 63 (12)
รวม 341 (176)
ทีมชาติ
1956–1957 อาร์เจนตินา 19 (9)
1961–1962 อิตาลี 9 (8)
จัดการทีม
1969–1970 Rosario Central
1972 Estudiantes de La Plata
1972–1973 อาร์เจนตินา
1979 Racing Club de Avellaneda
1983 Toronto Italia
เกียรติประวัติ
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

เอนรีเก โอมาร์ ซีโบรี (สเปน: Enrique Omar Sívori; 2 ตุลาคม ค.ศ. 1935 - 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2005) เป็นกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ แฟนบอลเรียนเขาว่า "El Cabezón" หรือเจ้าหัวโต เมื่ออายุ 17 ปี ซิวอรี่ได้กลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพแล้ว โดยเขาเล่นให้กับทีมริเวอร์ เพลทเป็นทีมแรก [1] เขาได้แชมป์ฟุตบอลลีกของอาร์เจนติน่าร่วมกับริเวอร์ เพลทในปี 1955 และ 1956ด้วย

ทีมชาติอาร์เจนติน่า[แก้]

ซิวอรี่ติดทีมชาติอาร์เจนติน่า 18 ครั้ง ทำได้ทั้งหมด 9 ประตู[2] เขาช่วยให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ อเมริกาใต้ในปี 1957 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลิม่า เมื่อหลวงของประเทศเปรู ทีมชุดนั้นมีกองหน้าฝีเท้าดีหาตัวจับยากมากมาย นอกจากซิวอรี่แล้วยังมี คอร์แบตต้า, มาสโช่, อังเจลิลโล่ และครูซ พวกเขาได้รับฉายาว่า "caras sucias" ซึ่งถ้าแปลตรงๆตามตัวอักษรในภาษาสเปนจะแปลว่า พวกหน้าสกปรก (dirty faces) แต่ที่จริงนั้นแฟนบอลตั้งในให้มีความหมายล้อเลียนตลกๆ เพราะตอนที่พวกเขาลงเล่นนั้นน่าตลก เลอะเทอะเหมือนเด็กซนๆ

ประวัติอาชีพ[แก้]

ยูเวนตุสยอมจ่ายเงิน 10 ล้านเปโซ (อาร์เจนติน่า) แลกกับตัวซิวอรี่มาอยู่กับทีมในปี 1957 ระหว่างเล่นให้กับยูเวนตุส เขาพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย โดยได้แชมป์ลีกสูงสุดของอิตาลีที่เรียกว่า ลีก แชมเปี้ยนชิพ (หรือกัลโช่ เซเรีย อาปัจจุบัน) 3 ครั้ง คือในปี 1958, 1960 และ 1961 นอกจากนี้ยังได้แชมป์อิตาเลียน คัพอีก 2 ครั้งในปี 1959 และ 1960 ซิวอรี่เล่นให้กับยูเวนตุสจนถึงปี 1965 รวมแล้วเขาลงเล่นให้ยูเวนตุสทั้งสิ้น 253 นัด ยิงได้ถึง 167 ประตู มากเป็นอันดับ 4 ตลอดกาลของสโมสรอีกด้วย[2] หลังจากเล่นให้กับยูเวนตุสเกือบ 10 ปี เขาก็เซ็นสัญญาย้ายไปอยู่กับนาโปลี และช่วยนาโปลีได้อันดับสองในลีกถึง 2 ครั้งอีกด้วย เขาอำลาสนามในปี 1969 และเดินทางกลับบ้านเกิด จากนั้นหวนคืนสนามอีกครั้งในฐานะโค้ชทีมริเวอร์ เพลท, โรซาริโอ เซ็นทรัล, เอสตูดิอันเตส เดอ ลา พลาต้า, เบเลซ ซาร์สฟิลลด์ และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งโค้ชทีมชาติอาร์เจนติน่าในปี 1974

ทีมชาติอิตาลี[แก้]

หลังจากได้ย้ายมาค้าแข้งในอิตาลีแล้ว ซิวอรี่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเล่นให้ทีมชาติอาร์เจนตินาจากรัฐบาลของอาร์เจนติน่าเอง เขาเปลี่ยนมาเล่นให้กับทีมชาติอิตาลีแทน โดยลงสนามในนามทีมชาติอิตาลีนัดแรกในเดือนเมษายน 1961 รวมแล้วเข้ายิงให้ทีมชาติอิตาลี 8 ลูก จากการลงเล่นเพียง 9 นัด[2]

รางวัล[แก้]

ซิวอรี่ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป (Ballon d'or) ในปี 1961 นอกจากนี้ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 125นักเตะที่ดีที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่นเดียวกับนักเตะอย่างเปเล่เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ของฟีฟ่าในเดือนมีนาคม 2004 อีกด้วย น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตลงเมื่อปี 2005 ด้วยโรคมะเร็งตับในวัย 69 ปี

อ้างอิง[แก้]

  1. "Omar Sivori entry on RedArgentina.com (in Spanish)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2003-09-22. สืบค้นเมื่อ 2006-11-25.
  2. 2.0 2.1 2.2 ""Omar Sivori". The Telegraph, 19 February 2005. Accessed online 23 October 2006". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-03-11. สืบค้นเมื่อ 2021-08-12. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "omar sivori" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน

บรรณานุกรม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]