จอร์จีนีโย ไวนัลดึม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จอร์จีนีโย ไวนัลดึม
ไวนัลดึมกับเนเธอร์แลนด์ในปี 2016
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม[1]
วันเกิด (1990-11-11) 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990 (33 ปี)[2]
สถานที่เกิด โรตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
ส่วนสูง 1.75 m (5 ft 9 in)[3]
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
อัลอิตติฟาก
หมายเลข 25
สโมสรเยาวชน
1997–2004 สปาร์ตาโรตเตอร์ดัม
2004–2007 ไฟเยอโนร์ด
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2007–2011 ไฟเยอโนร์ด 111 (23)
2011–2015 เปเอสเฟ 109 (41)
2015–2016 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 38 (11)
2016–2021 ลิเวอร์พูล 179 (16)
2021–2023 ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 31 (1)
2022–2023โรมา (ยืม) 14 (2)
2023– อัลอิตติฟาก 7 (4)
ทีมชาติ
2005–2007 เนเธอร์แลนด์ อายุไม่เกิน 17 ปี 15 (4)
2007–2009 เนเธอร์แลนด์ อายุไม่เกิน 19 ปี 17 (5)
2009–2013 เนเธอร์แลนด์ อายุไม่เกิน 21 ปี 24 (10)
2011– เนเธอร์แลนด์ 90 (27)
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2023
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2023

จอร์จีนีโย เกรจีโยน เอมีเลอ ไวนัลดึม (ดัตช์: Georginio Gregion Emile Wijnaldum; เกิด 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1990) เป็นนักฟุตบอลชาวดัตช์ ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้แก่สโมสรฟุตบอลอัลอิตติฟากและทีมชาติเนเธอร์แลนด์

สโมสรอาชีพ[แก้]

นิวคาสเซิลยูไนเต็ด[แก้]

ลิเวอร์พูล[แก้]

ฤดูกาล 2016-17[แก้]

ไวนัลดึมลงเล่นให้กับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2016

ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ลิเวอร์พูลทำสัญญากับไวนัลดึมจากนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 23 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี โดยไวนัลดึมได้สวมเสื้อหมายเลข 5[4] [5] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2016 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2016–17 ไวนัลดึมลงเล่นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกโดยลงสนามเป็นตัวจริงและจ่ายบอลให้ แอดัม ลัลลานา ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 4-3[6] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 6-1[7] ต่อมา ในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2016 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0[8]

ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เชลซี 1-1[9] ต่อมา ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[10] ต่อมา ในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบิร์นลีย์ 2-1[11] ต่อมา ในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2016–17 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ มิดเดิลส์เบรอ ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ไวนัลดึมทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ มิดเดิลส์เบรอ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[12] จบฤดูกาล ไวนัลดึมยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 6 ประตูจาก 36 นัด

ฤดูกาล 2017-18[แก้]

ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 3-0[13] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ไวนัลดึมทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ โรมา ที่สตาดีโอโอลิมปีโก 2-4 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โรมา 7-6 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[14]

ฤดูกาล 2018-19[แก้]

ในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2018 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ 2-1[15] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[16] ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี ที่คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม 2-0[17] ต่อมา ในวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ บาร์เซโลนา จากสเปน โดยนัดแรก ลิเวอร์พูล ไปพ่ายแพ้ 0-3 ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ 4-0 ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป โดย ไวนัลดึมยิง 2 ประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[18]

ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[19]

ฤดูกาล 2019-20[แก้]

ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ในช่วง 90 นาที ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-1 ทำให้ต้องตัดสินในการยิงจุดโทษ ไวนัลดึมยิงจุดโทษพลาดโดน เคลาดิโอ บราโว ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ซิตี เซฟเอาไว้ได้ สุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายแพ้ในการยิงจุดโทษ 4-5 ทำให้ ลิเวอร์พูลพลาดโอกาสคว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ อย่างน่าเสียดาย ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[20] ต่อมา ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด ที่บรามอลล์เลน 1-0[21] ต่อมา ในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E ไวนัลดึมทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 2-1[22] ต่อมา ในวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2[23]

ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ไวนัลดึมทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[24] ต่อมา ในวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ อัตเลติโกเดมาดริด จากสเปน โดยนัดแรก ลิเวอร์พูล ไปพ่ายแพ้ 0-1 ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ 2-0 ถึงจะผ่านเข้ารอบต่อไป โดย ไวนัลดึมยิงประตูขึ้นนำ 1-0 แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 2-3 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ 2-4 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบไปในที่สุด

ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 ไวนัลดึมทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 5-3[25] และฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 ที่แอนฟีลด์ส่งท้าย[26]

ฤดูกาล 2020-21[แก้]

ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ไวนัลดึมทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 4-0[27] ต่อมา ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2021 ไวนัลดึมทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 3-1[28]

สถิติอาชีพ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2021
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วย ถ้วยลีก ทวีป อื่น ๆ รวม
ดิวิชัน ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
ไฟเยอโนร์ด 2006–07 เอเรอดีวีซี 3 0 0 0 0 0 3 0
2007–08 เอเรอดีวีซี 10 1 2 0 0 0 12 1
2008–09 เอเรอดีวีซี 33 4 3 0 6[a] 1 3[b] 0 45 5
2009–10 เอเรอดีวีซี 31 4 7 1 38 5
2010–11 เอเรอดีวีซี 34 14 1 0 2[c] 0 37 14
รวม 111 23 13 1 8 1 3 0 135 25
เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน 2011–12 เอเรอดีวีซี 32 8 6 2 12[c] 4 50 14
2012–13 เอเรอดีวีซี 33 14 6 1 5[c] 4 1[d] 1 45 20
2013–14 เอเรอดีวีซี 11 4 0 0 4[e] 0 15 4
2014–15 เอเรอดีวีซี 33 14 3 2 8[c] 2 44 18
รวม 109 40 15 5 29 10 1 1 154 56
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2015–16 พรีเมียร์ลีก 38 11 1 0 1 0 40 11
รวม 38 11 1 0 1 0 40 11
ลิเวอร์พูล 2016–17 พรีเมียร์ลีก 36 6 1 0 5 0 42 6
2017–18 พรีเมียร์ลีก 33 1 2 0 1 0 14[e] 1 50 2
2018–19 พรีเมียร์ลีก 35 3 0 0 0 0 12[e] 2 47 5
2019–20 พรีเมียร์ลีก 37 4 0 0 0 0 8[e] 2 2[f] 0 47 6
2020–21[29] พรีเมียร์ลีก 38 2 2 1 1 0 9[e] 0 1[g] 0 51 3
รวม 179 16 5 1 7 0 43 5 3 0 237 22
รวมทั้งหมด 437 90 34 7 8 0 80 16 7 1 566 114
  1. Appearances in UEFA Cup
  2. One appearance in Johan Cruyff Shield, two in UEFA Europa League Play-offs
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Appearances in UEFA Europa League
  4. Appearance in Johan Cruyff Shield
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 Appearances in UEFA Champions League
  6. One appearance in FA Community Shield, one in UEFA Super Cup
  7. Appearance in FA Community Shield

ทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2020[30]
National team Year Apps Goals
Netherlands 2011 2 1
2012 0 0
2013 1 0
2014 13 1
2015 9 2
2016 11 3
2017 9 1
2018 8 2
2019 9 8
2020 8 3
Total 70 21

ประตูในนามทีมชาติ[แก้]

As of match played 18 พฤศจิกายน 2020.[31]
International goals by date, venue, cap, opponent, score, result and competition
No. วันที่ สถานที่ Cap คู่แข่งขัน ประตู ผล การแข่งขัน
1 2 September 2011 Philips Stadion, Eindhoven, Netherlands 1 ธงชาติซานมารีโน ซานมารีโน 11–0 11–0 UEFA Euro 2012 qualifying
2 12 July 2014 Estádio Nacional Mané Garrincha, Brasília, Brazil 12 ธงชาติบราซิล บราซิล 0–3 0–3 2014 FIFA World Cup
3 12 June 2015 Skonto Stadium, Riga, Latvia 20 ธงชาติลัตเวีย ลัตเวีย 0–1 0–2 UEFA Euro 2016 qualifying
4 10 October 2015 Astana Arena, Astana, Kazakhstan 23 ธงชาติคาซัคสถาน คาซัคสถาน 0–1 1–2 UEFA Euro 2016 qualifying
5 1 June 2016 Stadion Energa Gdańsk, Gdańsk, Poland 29 ธงชาติโปแลนด์ โปแลนด์ 1–2 1–2 Friendly
6 4 June 2016 Ernst-Happel-Stadion, Vienna, Austria 30 ธงชาติออสเตรีย ออสเตรีย 0–2 0–2 Friendly
7 1 September 2016 Philips Stadion, Eindhoven, Netherlands 31 ธงชาติกรีซ กรีซ 1–0 1–2 Friendly
8 9 June 2017 De Kuip, Rotterdam, Netherlands 40 ธงชาติลักเซมเบิร์ก ลักเซมเบิร์ก 3–0 5–0 2018 FIFA World Cup qualification
9 13 October 2018 Johan Cruyff Arena, Amsterdam, Netherlands 50 ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี 3–0 3–0 2018–19 UEFA Nations League A
10 16 November 2018 De Kuip, Rotterdam, Netherlands 52 ธงชาติฝรั่งเศส ฝรั่งเศส 1–0 2–0
11 21 March 2019 54 ธงชาติเบลารุส เบลารุส 2–0 4–0 UEFA Euro 2020 qualification
12 6 September 2019 Volksparkstadion, Hamburg, Germany 58 ธงชาติเยอรมนี เยอรมนี 4–2 4–2
13 9 September 2019 A. Le Coq Arena, Tallinn, Estonia 59 ธงชาติเอสโตเนีย เอสโตเนีย 4–0 4–0
14 13 October 2019 Dinamo Stadium, Minsk, Belarus 61 ธงชาติเบลารุส เบลารุส 1–0 2–1
15 2–0
16 19 November 2019 Johan Cruyff Arena, Amsterdam, Netherlands 62 ธงชาติเอสโตเนีย เอสโตเนีย 1–0 5–0
17 3–0
18 4–0
19 15 November 2020 69 ธงชาติบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 1–0 3–1 2020–21 UEFA Nations League A
20 2–0
21 18 November 2020 Silesian Stadium, Chorzów, Poland 70 ธงชาติโปแลนด์ โปแลนด์ 2–1 2–1

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสร[แก้]

ไฟเยอโนร์ด

  • KNVB Cup: 2007–08

เปเอสเฟ ไอนด์โฮเฟิน

  • KNVB Cup: 2011–12
  • Eredivisie: 2014–15

ลิเวอร์พูล

ทีมชาติ[แก้]

เนเธอร์แลนด์

  • FIFA World Cup Third Place: 2014
  • UEFA U-21 Championship Semi-finalist: 2013

รางวัลส่วนตัว[แก้]

  • Rotterdam talent of the year: 2007
  • Dutch Footballer of the Year: 2014–15
  • UEFA Champions League Squad of the Season: 2018–19
  • UEFA Nations League Finals Team of the Tournament: 2019
  • Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มกราคม 2017[32], มีนาคม 2017[33]
  • ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนของอีเอ สปอร์ตส์: ธันวาคม 2016[34]

อ้างอิง[แก้]

  1. "2014 FIFA World Cup Brazil: List of Players: Netherlands" (PDF). FIFA. 14 July 2014. p. 25. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 3 February 2020.
  2. "FIFA Club World Cup Qatar 2019: List of Players: Liverpool" (PDF). FIFA. 21 December 2019. p. 7. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2020-01-21. สืบค้นเมื่อ 17 January 2020.
  3. "Georginio Wijnaldum profile". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-05-29. สืบค้นเมื่อ 18 January 2016.
  4. "ลิเวอร์พูลคว้าตัว จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มาร่วมทีมแล้วเป็นที่เรียบร้อย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-27. สืบค้นเมื่อ 2016-09-07.
  5. "ไวจ์นัลดุม คว้าเบอร์เสื้อหมายเลข 5 หลังย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-07-24. สืบค้นเมื่อ 2016-09-07.
  6. "ลิเวอร์พูลกบุกไปกำชัยเหนืออาร์เซนอลในเกมเปิดฤดูกาล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-17. สืบค้นเมื่อ 2016-09-04.
  7. "ลิเวอร์พูลครองจ่าฝูง หลังถล่มวัตฟอร์ดที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-09. สืบค้นเมื่อ 2016-11-08.
  8. "ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้ม หลังเฉือนชนะแมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-02. สืบค้นเมื่อ 2017-01-02.
  9. "ลิเวอร์พูลแบ่งแต้มกับเชลซีที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-02-05. สืบค้นเมื่อ 2017-02-02.
  10. "สามประตู สามแต้มที่แอนฟิลด์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-07. สืบค้นเมื่อ 2017-03-07.
  11. "ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาเฉือนเบิร์นลีย์ 2-1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-03-16. สืบค้นเมื่อ 2017-03-14.
  12. "ลิเวอร์พูลทุบโบโร่ขาดลอย 3-0 ในเกมสุดท้ายของฤดูกาล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-23. สืบค้นเมื่อ 2017-05-23.
  13. ลิเวอร์พูลถล่มฮัดเดอร์สฟิลด์ที่แอนฟิลด์[ลิงก์เสีย]
  14. "ลิเวอร์พูลพ่ายที่โรมแต่เข้ารอบชิงชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีกที่เคียฟ!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-06. สืบค้นเมื่อ 2018-05-03.
  15. Match report: ลิเวอร์พูลบุกไปชนะสเปอร์ส พร้อมคว้า 3 แต้มจากเวมบลีย์
  16. Match Report: ลิเวอร์พูลกลับขึ้นสู่จ่าฝูงหลังเอาชนะบอร์นมัธที่แอนฟิลด์
  17. Match Report: ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มที่คาร์ดิฟฟ์พร้อมกลับสู่จ่าฝูง
  18. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มบาร์เซโลน่า 4-0 เข้าชิงแชมเปียนส์ลีก
  19. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
  20. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี
  21. Match Report: ไวจ์นัลดุมซัดให้ลิเวอร์พูลบุกเฉือนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
  22. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือเกงค์ที่แอนฟิลด์
  23. Match Report: ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ถล่มเอฟเวอร์ตัน 5-2
  24. Match Report: มาเน่ทำประตูชัยให้ลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะที่แอนฟิลด์
  25. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะเชลซีก่อนชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์
  26. อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  27. Match Report: ลิเวอร์พูลถล่มวูล์ฟส์ 4-0 ฉลองการกลับมาของแฟนบอลที่แอนฟิลด์
  28. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกชนะเวสต์แฮมก่อนขับขึ้นที่ 3
  29. "Games played by จอร์จีนีโย ไวนัลดึม in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 29 August 2020.
  30. "Netherlands - G. Wijnaldum - Profile with news, career statistics and history - Soccerway". us.soccerway.com.
  31. ข้อมูลของ จอร์จีนีโย ไวนัลดึม ที่ ซ็อกเกอร์เวย์
  32. ไวจ์นัลดุมคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนมกราคมของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด[ลิงก์เสีย]
  33. "จินี่คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมเดือนมีนาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-04-08. สืบค้นเมื่อ 2017-04-05.
  34. "ลูกโขกของไวจ์นัลดุมคว้าประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนธันวาคม". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-01-07. สืบค้นเมื่อ 2017-01-04.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]