ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดยะลา"
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 109: | บรรทัด 109: | ||
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 กระทรวงมหาดไทยประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอลำใหม่แยกจากอำเภอเมืองยะลา และอำเภอโกตาบารูแยกจากอำเภอรามันเป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างความจำเป็นพิเศษด้านความมั่นคง และหากมีการจัดตั้งแล้ว อำเภอโกตาบารูจะมีการขอพระราชทานชื่อใหม่<ref>{{cite web |url= http://www.law.moi.go.th/pdf/2558_1_19_2m.pdf |title= รายงานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ 2 ครั้งที่ 2/2558 วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุมสำนักกฎหมาย สป. ชั้น 6 อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย |author=|date=|work= สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย |publisher=|accessdate= 13 กรกฎาคม 2562 }}</ref> |
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 กระทรวงมหาดไทยประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอลำใหม่แยกจากอำเภอเมืองยะลา และอำเภอโกตาบารูแยกจากอำเภอรามันเป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างความจำเป็นพิเศษด้านความมั่นคง และหากมีการจัดตั้งแล้ว อำเภอโกตาบารูจะมีการขอพระราชทานชื่อใหม่<ref>{{cite web |url= http://www.law.moi.go.th/pdf/2558_1_19_2m.pdf |title= รายงานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ 2 ครั้งที่ 2/2558 วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุมสำนักกฎหมาย สป. ชั้น 6 อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย |author=|date=|work= สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย |publisher=|accessdate= 13 กรกฎาคม 2562 }}</ref> |
||
=== การปกครองส่วนท้องถิ่น === |
|||
{{col-begin}} |
|||
{{col-3}} |
|||
; อำเภอเมืองยะลา |
|||
* [[เทศบาลนครยะลา]] |
|||
* [[เทศบาลเมืองสะเตงนอก]] |
|||
* [[เทศบาลตำบลลำใหม่]] |
|||
; อำเภอเบตง |
|||
* [[เทศบาลเมืองเบตง]] |
|||
{{col-3}} |
|||
; อำเภอบันนังสตา |
|||
* [[เทศบาลตำบลเขื่อนบางลาง]] |
|||
* [[เทศบาลตำบลบันนังสตา]] |
|||
; อำเภอธารโต |
|||
* [[เทศบาลตำบลคอกช้าง]] |
|||
; อำเภอยะหา |
|||
* [[เทศบาลตำบลยะหา]] |
|||
{{col-3}} |
|||
; อำเภอรามัน |
|||
* [[เทศบาลตำบลโกตาบารู]] |
|||
* [[เทศบาลตำบลเมืองรามันห์]] |
|||
; อำเภอกาบัง |
|||
* ''ไม่มีเทศบาล'' |
|||
; อำเภอกรงปินัง |
|||
* ''ไม่มีเทศบาล'' |
|||
{{col-end}} |
|||
== ประชากร == |
== ประชากร == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:12, 16 กรกฎาคม 2562
จังหวัดยะลา | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Yala |
คำขวัญ: ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดยะลาเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | อนุชิต ตระกูลมุทุตา (ตั้งแต่ พ.ศ. 2560) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 4,521.078 ตร.กม.[1] ตร.กม. (Formatting error: invalid input when rounding ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 47 |
ประชากร (พ.ศ. 2561) | |
• ทั้งหมด | 532,326 คน[2] คน |
• อันดับ | อันดับที่ 49 |
รหัส ISO 3166 | TH-95 |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | อโศกเหลือง |
• ดอกไม้ | พิกุล |
• สัตว์น้ำ | ปลาพลวงชมพู |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ถนนสุขยางค์ ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 95000 |
• โทรศัพท์ | 0 7322 1014 |
• โทรสาร | 0 7321 1586 |
เว็บไซต์ | http://www.yala.go.th |
ยะลา เป็นจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศมาเลเซีย ยะลาเป็นจังหวัดที่เทศบาลมีการจัดวางผังเมืองแบบใยแมงมุมที่สวยที่สุดของประเทศไทย และได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดความสะอาด 3 ปีซ้อนระหว่าง พ.ศ. 2528-2530 และได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครยะลาในปี พ.ศ. 2538 ในปี พ.ศ. 2540 ได้รับการคัดเลือกจากองค์การอนามัยโลกให้เป็นเป็น 1 ใน 5 ของไทย
ศัพทมูลวิทยา
เหตุที่เรียกชื่อว่ายะลานั้นเพราะพระยาเมืองคนแรกได้ตั้งที่ทำการขึ้นที่บ้านยะลา คำว่า ยะลา (มลายู: Jala, جالا) หรือสำเนียงภาษามลายูพื้นเมืองเรียกว่า ยาลอ (มลายู: Jalor, جالور) แปลว่า "แห" ซึ่งเป็นคำยืมมาจากภาษาบาลี-สันสกฤตว่า ชาละ หรือ ชาลี หมายถึง "แห" หรือ "ตาข่าย"[3] มีภูเขาลูกหนึ่งในเขตอำเภอเมืองยะลามีลักษณะเหมือนแหจับปลา โดยผูกจอมแหแล้วถ่างตีนแหไปโดยรอบ ผู้คนจึงเรียกภูเขานี้ว่า ยะลา หรือ ยาลอ แล้วนำมาตั้งนามเมือง[3]
แต่ตามประวัติศาสตร์ซึ่งได้เขียนไว้ในสมัยเจ็ดหัวเมือง โดยเจ้าผู้ครองเมืองเดิมได้เขียนไว้เป็นประวัติศาสตร์เป็นภาษามลายูว่า “เมืองยะลา” เป็นสำเนียงภาษาอาหรับ โดยชาวอินโดนีเซียที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาอิสลามในบริเวณเจ็ดหัวเมืองซึ่งอยู่ในแหลมมลายูเป็นผู้ตั้งชื่อเมืองไว้
เมืองยะลาเดิมตั้งอยู่ใกล้ภูเขายาลอ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองยะลาปัจจุบันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร ต่อมาเมืองยะลาได้ยกฐานะเป็นเมือง ๆ หนึ่งของบริเวณเจ็ดหัวเมือง คำว่าเมืองยะลาหรือยาลอ ยังคงเรียกกันจนถึงปัจจุบันนี้
ประวัติ
ยะลาเดิมเป็นท้องที่หนึ่งของเมืองปัตตานี ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ได้มีการปรับปรุงการปกครองใหม่เป็นการปกครองแบบเทศาภิบาลและได้ออกประกาศข้อบังคับสำหรับปกครอง 7 หัวเมือง รัตนโกสินทรศก 120 ซึ่งประกอบด้วยเมืองปัตตานี หนองจิก ยะหริ่ง สายบุรี ยะลา ระแงะ และรามัน ในแต่ละเมืองจะแบ่งเขตการปกครองเป็นอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2447 ประกาศจัดตั้งมณฑลปัตตานีขึ้นดูแลหัวเมืองทั้ง 7 แทนมณฑลนครศรีธรรมราช และยุบเมืองเหลือ 4 เมือง ได้แก่ ปัตตานี ยะลา สายบุรี และระแงะ ต่อมา พ.ศ. 2450 เมืองยะลาแบ่งเขตการปกครองเป็น 2 อำเภอ ได้แก่อำเภอเมืองยะลาและอำเภอยะหา ต่อมา พ.ศ. 2475 ได้มีการยกเลิกมณฑลปัตตานี และในปี พ.ศ. 2476 เมืองยะลาได้รับการเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นจังหวัดยะลาตามพระราชบัญญัติราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 เรื่อง การจัดระเบียบราชการบริหารส่วนภูมิภาค ออกเป็นจังหวัด เป็นอำเภอ และให้มีข้าหลวงประจำจังหวัด และกรมการจังหวัดเป็นผู้บริหารราชการ
หน่วยการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
การปกครองแบ่งออกเป็น 8 อำเภอ 56 ตำบล 341 หมู่บ้าน มีรายชื่อดังนี้
|
วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 กระทรวงมหาดไทยประชุมเพื่อพิจารณาร่างกฤษฎีกาจัดตั้งอำเภอลำใหม่แยกจากอำเภอเมืองยะลา และอำเภอโกตาบารูแยกจากอำเภอรามันเป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างความจำเป็นพิเศษด้านความมั่นคง และหากมีการจัดตั้งแล้ว อำเภอโกตาบารูจะมีการขอพระราชทานชื่อใหม่[5]
การปกครองส่วนท้องถิ่น
|
|
|
ประชากร
ชาติพันธุ์
ประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดยะลาเป็นชาวไทยเชื้อสายมลายูเป็นพื้น ในอดีตจะถูกเรียกอย่างรวม ๆ กับชาวชวา-มลายูทั่วไปว่าคนยาวี (Orang Jawi)[6] แต่จะเรียกตัวเองว่าออแฆนายู และพึงใจที่ผู้อื่นเรียกว่าคนนายูมากกว่าคนยาวี[7] เมื่อ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2482 ในสมัยหลวงพิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรัฐนิยมฉบับที่ 3 เรื่องการเรียกชื่อชาวไทยโดยให้เรียกชาวมลายูมุสลิมว่าไทยอิสลาม[8] และปัจจุบันทางราชการของไทยยังคงเรียกคนเชื้อสายมลายูว่าคนไทยหรือไทยมุสลิมอยู่[9] นอกจากนั้นก็จะมีชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นชนกลุ่มน้อย อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะอำเภอเบตงถือเป็นชุมชนชาวจีนที่มีขนาดใหญ่และเข้มแข็ง สามารถคงอัตลักษณ์ความเป็นจีนไว้อย่างเหนียวแน่น[10] โดยมากเป็นชาวจีนกวางไส บรรพบุรุษอพยพจากเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง[11] ส่วนชาวไทยพุทธมีอยู่หนาแน่นในเขตเทศบาลนครยะลา[12] แต่ระยะหลังเมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยพุทธอพยพออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก[13][14][15] เช่นชุมชนชาวจีนที่บ้านเนียง อำเภอเมืองยะลา และชุมชนจีนบ้านแบหอ อำเภอรามัน ที่ลูกหลานโยกย้ายออกจากถิ่นฐานเดิมจนสิ้น[16][17]
ขณะที่ชาวซาไกเผ่ากันซิวและจำนวนน้อยเป็นเผ่ากินตัก[18] ซึ่งเคยตั้งถิ่นฐานในเขตหมู่ 3 ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่อพยพไปประเทศมาเลเซีย ด้วยเหตุผลด้านที่ทำกินและวิถีชีวิตที่ดีกว่า ประกอบกับเหตุผลด้านความไม่สงบ[19] นอกจากนี้ยังมีชาวพม่า ลาว และกัมพูชา เข้าเป็นแรงงานในยะลาเป็นจำนวนมากในเขตอำเภอเมืองยะลาและอำเภอเบตง โดยใน พ.ศ. 2552 มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 5,000 คน[20] และมีชาวเขาจากภาคเหนืออพยพมาลงหลักปักฐานที่ยะลาหลายเผ่าเพื่อเป็นแรงงาน เช่น เผ่าม้งเข้ามาอาศัยในอำเภอเบตงและอำเภอธารโตจำนวนหนึ่ง และพบว่าม้งส่วนหนึ่งอาศัยอยู่ร่วมนิคมกับเผ่าซาไกที่บ้านซาไก[21] ส่วนชุมชนมูเซอบ้านบ่อน้ำร้อนในอำเภอเบตง[22][23][24] มีประชากรมากถึงขั้นก่อตั้งโบสถ์คริสต์ในชุมชนของตัวเอง[25]
ภาษา
จังหวัดยะลาเป็นหนึ่งในสามจังหวัดของประเทศไทยที่ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษามลายูปัตตานีในการสื่อสาร เป็นสำเนียงที่ใช้ในจังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส และทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดสงขลา ภาษานี้มีการใช้อักษรยาวีซึ่งได้รับอิทธิพลจากอักษรอาหรับสำหรับการเขียน[6][26] สำหรับการเผยแผ่ศาสนาโดยเฉพาะ[27] ทว่าในยุคหลังมานี้มีการยืมคำไทยเข้าปะปนมากขึ้น[28] โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่พูดมลายูปนไทย[27] ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้ติดป้ายประกาศของสถานที่ราชการเป็นภาษามลายูปัตตานีและอักษรยาวีทั่วไปในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้[29] ทั้งนี้ชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีนบางส่วนสามารถพูดภาษามลายูเพื่อสื่อสารกับคนมลายูซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่[30][31][32]
ขณะที่ชาวไทยพุทธจะใช้ภาษาไทยถิ่นใต้ มีสำเนียงใกล้เคียงกับสำเนียงสงขลา[33] มีลักษณะเช่นเดียวกับภาษาใต้ถิ่นอื่นที่มีการรวบคำให้สั้นกระชับ ทว่ามีลักษณะเด่นคือการออกเสียงที่นุ่มนวลไม่หยาบกระด้างต่างจากภาคใต้ถิ่นอื่น[34] และมีการยืมคำมลายูมาก โดยมีความหนาแน่นของคำยืมจากมลายูมากถึงร้อยละ 75.75[35]
ส่วนชาวไทยเชื้อสายจีน โดยเฉพาะอำเภอเบตงที่มีคนเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาธำรงอัตลักษณ์ความเป็นจีนคือการใช้ภาษาจีน[10] ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่มได้แก่ ภาษาจีนกลาง ภาษาจีนกวางไส ภาษาจีนฮกเกี้ยน ภาษาจีนแต้จิ๋ว และภาษาจีนแคะ[36][37] เช่นประชาชนในชุมชนวัดปิยมิตรที่สามารถสื่อสารภาษาจีนกลางได้[38] ปัจจุบันคนยุคหลังใช้ภาษาจีนน้อยลง[39] และลูกหลานจีนหลายคนนิยมใช้ภาษาไทยมาตรฐาน แต่บุคคลเชื้อสายจีนในเทศบาลนครยะลาที่อายุต่ำกว่า 50 ปีจะพูดจีนไม่ได้แต่พอฟังรู้ความ[32]
ปัจจุบันชาวไทยพุทธและชาวไทยเชื้อสายจีนในเทศบาลนครยะลาเกินครึ่งพูดภาษาไทยถิ่นใต้ไม่ได้ ส่วนชาวไทยเชื้อสายมลายูนอกเขตเทศบาลจะพูดภาษาไทยไม่ชัดเจน และหากมีอายุ 70 ปีขึ้นไปจะไม่ได้สามารถพูดภาษาไทยได้เลย[32]
ศาสนา
จังหวัดยะลาเป็นหนึ่งในสี่จังหวัดของไทยที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธมากที่สุดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้[41] มีชุมชนชาวคริสต์ขนาดย่อมทั้งนิกายโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ในเขตเทศบาลนครยะลาและเทศบาลเมืองเบตง[42] นอกจากนี้ยังมีชุมชนของผู้นับถือศาสนาซิกข์ขนาดน้อย อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครยะลา[43] ส่วนชาวซาไกหันมานับถือศาสนาพุทธโดยให้เหตุผลว่านับถือตามสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี แต่ปัจจุบันยังปะปนไปด้วยความเชื่อพื้นเมือง[44] และแรงงานต่างด้าวชาวพม่าในยะลาก็นับถือศาสนาพุทธและร่วมปฏิบัติศาสนกิจร่วมกับชาวพุทธในท้องถิ่น[45][46]
จากการสำรวจใน พ.ศ. 2550 พบว่า มีผู้นับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 75.42 รองลงมาคือศาสนาพุทธร้อยละ 24.25 และศาสนาอื่น ๆ ร้อยละ 0.33 [47] พ.ศ. 2553 พบว่า ประชากรนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 76.59 ผู้นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 22.74[48] ส่วนการสำรวจใน พ.ศ. 2557 พบว่า ประชากรนับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 79.60 ผู้นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 20.13 และผู้นับถือศาสนาคริสต์และอื่น ๆ ร้อยละ 0.27[49] และการสำรวจเมื่อ พ.ศ. 2559 พบว่า ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามร้อยละ 74.06 ผู้นับถือศาสนาพุทธร้อยละ 21.16 และผู้นับถือศาสนาคริสต์และอื่น ๆ ร้อยละ 4.78[40] หลังการก่อวินาศกรรมด้วยการวางระเบิดถนนสายหลักในปัตตานีเมื่อ พ.ศ. 2555 ส่งผลให้ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยพุทธจำนวนมากอพยพออกจากยะลา ประชากรที่นับถือศาสนาพุทธจึงหดตัวอย่างเฉียบพลัน[13][14][15]
สำนักงานสถิติจังหวัดยะลารายงานว่า ใน พ.ศ. 2560 จังหวัดยะลามีมัสยิด 508 แห่ง วัดพุทธ 52 แห่ง สำนักสงฆ์ 13 แห่ง โบสถ์คริสต์ 9 แห่ง[50] และคุรุดวารา 1 แห่ง [51]
วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562 กลุ่มสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดยะลา จำนวน 60 คน เรียกร้องให้โรงพยาบาลในจังหวัดยะลาและในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดทำห้องครัวสำหรับไทยพุทธและอาคารสำหรับพระสงฆ์อาพาธ[52]
อุทยาน
สถานที่ท่องเที่ยว
- อำเภอเบตง
- วัดคูหาภิมุข
- พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ
- ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
- อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
- น้ำตกคอกช้าง
- น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9
- น้ำตกธารโต
- น้ำตกบูเก๊ะปิโล หรือ น้ำตกตะวันรัศมี
- น้ำตกผาแดง(จังหวัดยะลา)
- น้ำตกละอองรุ้ง
- น้ำตกวันวิสาข์
- น้ำตกสองขา
- น้ำตกสุขทาลัย หรือ น้ำตกกือลอง
- น้ำตกอินทรศร
- น้ำตกฮาลาซะ
การศึกษา
ระดับอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
- วิทยาลัยชุมชนยะลา
- ศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จังหวัดยะลา
- มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
- สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตยะลา
- วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดยะลา
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ยะลา
- วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา ยะลา
- วิทยาลัยเทคนิคยะลา ยะลา
- วิทยาลัยสารพัดช่าง ยะลา
- วิทยาลัยการอาชีพรามัน ยะลา
- วิทยาลัยการอาชีพเบตง ยะลา
ระดับมัธมยมศึกษา
- โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา
- โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง 2
- โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง 3
- โรงเรียนสตรียะลา
- โรงเรียนกาบังพิทยาคม
- โรงเรียนอาลาวียะห์วิทยา
- โรงเรียนพัฒนาวิทยา
- โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง
- โรงเรียนจันทร์ประภัสสร์อนุสรณ์
- โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ยะลา
- โรงเรียนธารโตวัฑฒนวิทย์
- โรงเรียนนิคมพัฒนวิทย์
- โรงเรียนบันนังสตาวิทยา
- โรงเรียนเบตง (วีระราษฎร์ประสาน)
- โรงเรียนยะหาศิรยานุกูล
- โรงเรียนรามันห์ศิริวิทย์
- โรงเรียนยะลาวิทยาลัย
- โรงเรียนรังสีอนุสรณ์
- โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ยะลา
- โรงเรียนสตรีอิสลามวิทยามูลนิธิ ยะลา
- โรงเรียนสุขสวัสดิ์วิทยา
- โรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์
- โรงเรียนธรรมอิสลามศึกษา
- โรงเรียนคุรุชนพัฒนา
อ้างอิง
- ↑ สำนักงานสถิติจังหวัดยะลา. "สภาพทั่วไปของจังหวัดยะลา." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://yala.nso.go.th/yala/yala.html [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ 2.0 2.1 "รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2561". กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 3.0 3.1 ประพนธ์ เรืองณรงค์. "บทผนวกเกียรติยศ". ใน รัฐปัตตานีใน "ศรีวิชัย" เก่าแก่กว่ารัฐสุโขทัยในประวัติศาสตร์. สุจิตต์ วงษ์เทศ (บรรณาธิการ). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มติชน. 2547, หน้า 346
- ↑ ประพนธ์ เรืองณรงค์. "ชื่อบ้านนามเมืองภาษามลายูในคาบสมุทรภาคใต้ของไทย" (PDF). ดำรงวิชาการ. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "รายงานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย คณะที่ 2 ครั้งที่ 2/2558 วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุมสำนักกฎหมาย สป. ชั้น 6 อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย" (PDF). สำนักกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 6.0 6.1 กัณหา แสงรายา (14 มกราคม 2555). "มลายู-ยาวี เรียกอย่างไรดี?". อิศรา. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วลัยลักษณ์ ทรงศิริ (26 พฤษภาคม 2559). "คนตานี
มลายูมุสลิมที่ถูกลืม". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: C1 control character ใน|title=
ที่ตำแหน่ง 8 (help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ อัฮหมัด สมบูรณ์ บัวหลวง (27 กุมภาพันธ์ 2560). "แขกตานี". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ กัณหา แสงรายา (3 สิงหาคม 2554). "คำเรียก มลายู มลายูมุสลิม ไทย ไทยมุสลิม ไทยมลายู และ 'แขก' ในสังคมไทย (1)". อิศรา. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 10.0 10.1 ณัฐธิดา เย็นบำรุง. "เมืองเบตง : คนไทยเชื้อสายจีนที่เข้มแข็ง". ศูนย์ศึกษามหานครและเมือง. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ (14 ธันวาคม 2561). "ตามรอยจีนกวางไสในเบตง (1)". สยามรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ยะลา-คุมเข้มทุกพื้นที่หลังคนร้ายก่อเหตุยิงคนไทย-พุทธ". .timenews2017. 7 กรกฎาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 13.0 13.1 "ไทยพุทธที่ชายแดนภาคใต้ (ตอน 1) : การตื่นตัวที่สายเกิน?". ประชาไท. 4 เมษายน 2557. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 14.0 14.1 "ฟิต! มทภ.4 ลงพบชาวไทยพุทธยะลา รับปากพร้อมแก้ปัญหา จชต". ไทยรัฐออนไลน์. 2 ตุลาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 15.0 15.1 "ชุมชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้". ไทยพีบีเอส. 29 ธันวาคม 2556. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ทรัยนุง มะเด็ง และอื่น ๆ. "ในท้องถิ่นยาลอ". ยาลอเป็นยะลา ความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองและคนรุ่นใหม่ในเมืองและปริมณฑลเมืองยะลา, หน้า 204
- ↑ "ยะลาเปิดงานสมโภช แห่พระลุยไฟศาลเจ้าแม่มาผ่อ สร้างความสัมพันธ์พหุวัฒนธรรมไทยจีนไทยพุทธและมุสลิม". SPM Online. 16 เมษายน 2562. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วันเฉลิม จันทรากุล (2544). "เงาะป่า-ซาไก นิเชาเมืองไทย ชนป่าที่กำลังสูญสลาย". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "รอวันปิดตำนาน 'ซาไก' แห่ง 'ศรีธารโต'" (Press release). สำนักข่าวอามาน. 3 มกราคม พ.ศ. 2553. สืบค้นเมื่อ 5 สิงหาคม 2555.
{{cite press release}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ยะลาเปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว". ไทยรัฐออนไลน์. 25 กรกฎาคม 2552. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วัชรินทร์ ดำรงกูล และปัตติกาญจน์ บรรดาศักดิ์. แนวทางการจัดการคืนถิ่นชนเผ่าซาไก : กรณีศึกษา ซาไกตระกูลศรีธารโต (PDF). งานวิจัย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม. p. 33, 43.
- ↑ "ตชด.445 ยะลา รวบ 2 พ่อค้ายาบ้าชาวเขาเผาลาหู่ ได้ของกลางกว่า 9 พันเม็ด". MGR Online. 23 สิงหาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "การปราบปรามยาเสพติด". สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เบตง. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชาวบ้านหาของป่า หลงป่าในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา นาน 9 วัน เจ้าหน้าที่ ตชด. นปพ. กู้ภัย กว่า 30 คน เร่งตามหา แต่ยังไม่พบตัว". SPM News. 19 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ กินเลน ประลองเชิง (10 พฤศจิกายน 2557). "สุดใต้ที่เบตง". ไทยรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วนิดา เต๊ะหลง. "ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษามลายู" (PDF). สารรอบรั้วศิลปศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 27.0 27.1 Arifin bin Chik (1 เมษายน 2550). "ปัญหา สตูล ปัตตานี กับวัฒนธรรมที่กำลังถูกทำลาย". มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. สืบค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "พจนานุกรมภาษามลายูถิ่นปัตตานี อีกความหวังลดดีกรีร้อนจังหวัดใต้". ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. 13 สิงหาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน (24 สิงหาคม 2556). "ภาษามลายูอักขระยาวี : จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโลกมลายู". Nusantara Studies Center. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ทวี แทนหนู (2521). "ปัญหาการสอนชั้นเด็กเล็กในสามจังหวัดภาคใต้ของไทย" (PDF). Chulalongkorn University Intellectual Repository. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ทวีพร คุ้มเมธา (3 ตุลาคม 2558). "ชนกลุ่มน้อยในชนกลุ่มน้อย ส่งเสียงต่อการแก้ปัญหา 3 จว. ชายแดนใต้". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 32.0 32.1 32.2 แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง (2546). "ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมลายูมุสลิมและจีนในย่านสายกลาง จังหวัดยะลา". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ภาษาสงขลา". ฐานข้อมูลท้องถิ่นภาคใต้-มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 24 เมษายน 2561. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ภาษาและวรรณกรรม จังหวัดยะลา". หอมรดกไทย. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ สุภา วัชรสุขุม. "คำยืมภาษามลายูท้องถิ่นปัตตานีในภาษาไทยถิ่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้". ฐานข้อมูลวิจัยจังหวัดชายแดนใต้. สืบค้นเมื่อ 13 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Ma Guitong (8 มกราคม 2561). "ชาวจีนฮากกาในเมืองเบตง". MGR Online. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สภาพและข้อมูลพื้นฐาน". องค์การบริหารส่วนตำบลยะรม. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ปั้น "เบตง" เจาะนักท่องเที่ยวจีน ผุด "สกายวอล์ก" ทะเลหมอก". ประชาชาติธุรกิจ. 8 มิถุนายน 2561. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ (28 ธันวาคม 2561). "ตามรอยจีนกวางไสในเบตง (3)". สยามรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ 40.0 40.1 "ข้อมูลทั่วไป จังหวัดยะลา" (PDF). สำนักงายกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดยะลา. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "การสำรวจข้อมูลสำมะโนประชากรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้". 3 สิงหาคม 2547. สืบค้นเมื่อ 16 เมษายน 2556.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ นูรยา เก็บบุญเกิด (21 พฤศจิกายน 2555). "เสียงที่ไม่ค่อยได้ยิน ชาวคริสต์ในชายแดนใต้". โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ชุมศักดิ์ นรารัตน์วงศ์ (30 มิถุนายน 2560). ""ซิงค์ ลันดาเว" และชาวซิกข์ในยะลา". สยามรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ วีรวัฒน์ สุขวราห์ (2539). "พฤติกรรมสุขภาพของชาวซาไก : กรณีศึกษาบ้านซาไก หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา". ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน). สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชาวพม่าจัดหมฺรับแห่ "ส่งเปรต" ร่วมกับชาวพุทธยะลา สร้างสีสันบุญสารทเดือนสิบชายแดนใต้". MGR Online. 15 ตุลาคม 2555. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ชาวไทยพุทธยะลาร่วมทำบุญสารทเดือนสิบคึกคัก". กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. 6 กันยายน 2560. สืบค้นเมื่อ 16 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ จ ำนวนศาสนิกชนและศาสนสถานรายอำเภอ / เทศบาลปี พ.ศ. 2550
- ↑ ชลัท ประเทืองรัตนา (1 พฤศจิกายน 2553). "โครงการวงดนตรีออร์เคสตร้า เทศบาลนครยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา" (PDF). สถาบันพระปกเกล้า. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "บทที่ 1 สภาพทั่วไป จังหวัดยะลา" (PDF). กระทรวงวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "สถิติศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม" (PDF). สำนักงานสถิติจังหวัดยะลา. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ สมาคมไทยซิกข์แห่งประเทศไทย. พระศาสนสถานคุรุดวารา - วัดซิกข์
- ↑ "สทพ.จ.ยล.รวมตัวเรียกร้อง รพ.ยะลา ดำเนินการครัวไทยสากล-ที่พักสงฆ์ สร้างความเสมอภาค". ผู้จัดการออนไลน์. 18 มกราคม 2562. สืบค้นเมื่อ 10 กรกฎาคม 2562.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help)
ดูเพิ่ม
- รายชื่อวัดในจังหวัดยะลา
- รายชื่อมัสยิดในจังหวัดยะลา
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดยะลา
- รายชื่อสาขาของธนาคารในจังหวัดยะลา
- รายชื่อห้างสรรพสินค้าในจังหวัดยะลา
- ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด
- แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดยะลา
- สำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา
- แผนที่ท่องเที่ยวจังหวัดยะลา
6°33′N 101°17′E / 6.55°N 101.29°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดยะลา
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย