ข้ามไปเนื้อหา

กระทรวงยุติธรรม (ประเทศไทย)

พิกัด: 13°52′52.92″N 100°33′53.89″E / 13.8813667°N 100.5649694°E / 13.8813667; 100.5649694
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กระทรวงยุติธรรม
ตราพระดุลพ่าห์
ภาพรวมกระทรวง
ก่อตั้ง25 มีนาคม พ.ศ. 2434; 133 ปีก่อน (2434-03-25)
กระทรวงก่อนหน้า
  • กระทรวงยุตติธรรม
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่เลขที่ 404 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
งบประมาณต่อปี23,163.2447 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1]
รัฐมนตรี
ฝ่ายบริหารกระทรวง
ลูกสังกัดกระทรวง
เว็บไซต์MOJ.go.th

กระทรวงยุติธรรม (อังกฤษ: Ministry of Justice) เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางประเภทกระทรวงของไทย มีภารกิจเป็นหน่วยงานหลักของกระบวนการยุติธรรม ในการดำเนินการเพื่อพัฒนากฎหมาย และระบบบริหารจัดการของ กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นเอกภาพ โปร่งใส คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ช่วยเหลือและให้ความรู้แก่ประชาชนทางกฎหมาย ป้องกัน ปราบปราม แก้ไข ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งป้องกัน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมในสังคมและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การบังคับคดีแพ่ง บังคับคดีล้มละลาย บังคับคดีทางอาญา บำบัดแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด

ประวัติ

[แก้]

กระทรวงยุติธรรมก่อตั้งเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2434 เดิมใช้ชื่อว่ากระทรวงยุตติธรรม[3] และมีการเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงยุติธรรมในวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2495[4] มีพระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ (ปิ่ณฑ์ ปัทมสถาน) เป็นปลัดกระทรวงยุตติธรรมคนสุดท้ายดำรงตำแหน่งวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2492 ถึง 11 มีนาคม พ.ศ. 2495 และเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมคนแรกดำรงตำแหน่งระหว่างวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2495 ถึงวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2496[5]และในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2496[6] ได้มีการโปรดเกล้า สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงคนที่สอง

ต่อมาในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติ คุมประพฤติ พ.ศ. 2559 มีผลใช้บังคับ ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการคุมประพฤติ ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นรองประธานกรรมการคุมประพฤติ[7]

หน่วยงานในสังกัด

[แก้]

ส่วนราชการ

[แก้]
  1. สำนักงานรัฐมนตรี
  2. สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม
  3. กรมคุมประพฤติ
  4. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
  5. กรมบังคับคดี
  6. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
  7. กรมราชทัณฑ์
  8. กรมสอบสวนคดีพิเศษ
  9. สำนักงานกิจการยุติธรรม
  10. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
  11. ศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์[8]

หน่วยงานในบังคับบัญชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

[แก้]

องค์การมหาชน

[แก้]

ส่วนงานสนับสนุนพิเศษ คณะกรรมการป้องกันอาชญากรรมและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน มีสำนักกฎหมายและคดีนิติวัชญ์ เป็นส่วนงานให้บริการภาระกิจหรืองานอรรถคดีสำคัญเฉพาะเท่านั้น โดยบริหารงานในลักษณะองค์คณะบุคคล หรือรูปแบบการบริหารงานในลักษณะคณะกรรมการต่างๆ คณะหนึ่งหรือหลายคณะ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างอิสระภายใต้ความกดดัน ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดบางประการ จัดตั้งขึ้นเพื่อขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ที่ได้จัดตั้งขึ้น สนับสนุนอำนวยความยุติธรรม ซึ่งได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อเมื่อความยุติธรรมให้กับประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมของการพิจารณาอรรถคดีในศาลทั่วราชอาณาจักรต่อโดยชำนาญการในด้านอาชญาวิทยาและอื่น ๆ เกี่ยวกับการบริหารคลี่คลายคดีสำคัญต่างๆ สนับสนุนการอำนวยความยุติธรรม จัดทำเอกสารทางกฎหมายที่ใช้ทางศาลในคดีต่างๆให้กับประชาชนผู้ร้องขอและลงพื้นที่ค้นหาความจริงหรือพิสูจน์และรวบรวมจัดเตรียมหลักฐานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีต่างๆตามประสงค์ของผู้ร้องขอโดยเป็นไปตามข้อบังคับของหน่วยงานและองค์กรของตนอย่างเคร่งรัดเป็นต้น และอีกทั้ง มูลนิธิ สมาคม องค์กรอิสระ คณะบุคคล กลุ่มบุคคล และบุคคล ไม่ว่าในรูปแบบคณะกรรมการ คณะทำงาน ฯลฯ ที่เสนอโครงการเพื่อขอรับการสนับสนุนตามโครงการต่างๆที่ส่วนงานในกระทรวงยุติธรรมกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์ต่างๆ

ภาพข้าราชการกองล่ามกระทรวงยุติธรรม

วิกฤตตุลาการ พ.ศ. 2535

[แก้]

เมื่อปี พ.ศ. 2535 ได้เกิดวิกฤตตุลาการ โดย วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นตุลาการให้เป็นโฆษกฝ่ายกบฏตุลาการ[9] สืบเนื่องจากวันที่ 2 กันยายน คณะกรรมการตุลาการมีมติให้นาย ประวิทย์ ขัมภรัตน์ เป็นประธานศาลฎีกา ในการนี้ ประภาศน์ อวยชัย ได้ระงับมติดังกล่าวให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีผู้เข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุม ซึ่งนาย ประวิทย์ ขัมภรัตน์ ได้รับการสนับสนุนจาก โสภณ รัตนากร

และในวันที่ 3 ตุลาคม คณะกรรมการตุลาการ ได้มีมติ ให้ นาย ประเสริฐ บุญศรี เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม และ สวัสดิ์ โชติพานิช เป็นประธานศาลฎีกา ต่อมาวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2536 คณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีมติไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้ง ปลัดกระทรวงยุติธรรมและประธานศาลฎีกา ของ ประภาศน์ อวยชัย นำมาสู่การชุมนุมครั้งใหญ่ของผู้พิพากษาในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2534 ที่แยกราชประสงค์[10] ก่อนเลิกชุมนุมและรับมติคณะกรรมการตุลาการ

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
  2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอน 318 ง หน้า 17 วันที่ 19 ธันวาคม 2566
  3. พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทะบวง กรม พ.ศ. 2484 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 58 หน้า 1038 วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2484
  4. พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2495 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 94 ตอนที่ 16 หน้า 313 วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2495
  5. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องแต่งตั้งปลัดกระทรวงยุตติธรรม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 66 ตอน 47 หน้า 3915 วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2492
  6. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกาและปลัดกระทรวงยุตติธรรม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 70 ตอนที่ 25 หน้า 1659 วันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2496
  7. พระราชบัญญัติคุมประพฤติ พ.ศ. 2559
  8. กระทรวงยุติธรรมประสานความร่วมมือกับรัฐบาลออสเตรเลียเปิดศูนย์ความเป็นเลิศ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ณ สถาบันการสอบสวนคดีพิเศษ
  9. พลิกปูม วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" ประธานศาล รธน.กับวลีสีทนได้ค่ะ : ขยายปมร้อน โดยทีมข่าวสำนักข่าวเนชั่น
  10. กฤตตุลาการคือการขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย[ลิงก์เสีย]

13°52′52.92″N 100°33′53.89″E / 13.8813667°N 100.5649694°E / 13.8813667; 100.5649694