อัยการสูงสุด (ประเทศไทย)
อัยการสูงสุด | |
---|---|
![]() ตราสำนักงานอัยการสูงสุด | |
สมาชิกของ | องค์กรอัยการ |
ผู้เสนอชื่อ | วุฒิสภาไทย |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์ไทย |
วาระ | เมื่อพ้นจากตำแหน่งตามกฎหมาย |
ผู้ประเดิมตำแหน่ง | ศาสตราจารย์ ดร.โกเมน ภัทรภิรมย์ |
สถาปนา | พ.ศ. 2436 (กรมอัยการ) พ.ศ. 2534 (สำนักงานอัยการสูงสุด) |
เว็บไซต์ | https://www.ago.go.th/ |
อัยการสูงสุด (อังกฤษ: Attorney General , ตัวย่อ : อสส.) คือตำแหน่งข้าราชการอัยการ ชั้น 8[1] และเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของพนักงานอัยการในสำนักงานอัยการสูงสุด[2] มีอำนาจในการเข้าไปดำเนินคดีได้ทุกศาลในราชอาณาจักร[2] และสามารถมอบอำนาจหน้าที่ให้แก่พนักงานอัยการผู้ใต้บังคับบัญชาได้[2] โดยพนักงานอัยการนั้นมีหน้าที่เป็นทนายแผ่นดินหรือนักกฎหมายให้แก่รัฐ เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีอาญาในนามของรัฐ
ส่วนสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจกึ่งตุลาการ[3] รับพิจารณาสั่งคดีขึ้นสู่ศาลและว่าความ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและรัฐตามหลักนิติรัฐ[1]
ในประเทศไทยแต่เดิมเรียกตำแหน่งนี้ว่า “อธิบดีกรมอัยการ”^ก เมื่อครั้งสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานระดับกรม ซึ่งกรมอัยการก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2436 สังกัดกระทรวงมหาดไทย จนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) จึงได้มีประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 47[4] และฉบับที่ 49[5] แยกกรมอัยการออกจากกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นหน่วยงานราชการอิสระไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวงใด แต่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีโดยตรง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น และเพื่อมิให้อิทธิพลทางการเมืองก้าวก่ายการดำเนินคดี ซึ่งจะทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชนโดยส่วนรวมยิ่งขึ้น มี ศ.ดร.โกเมน ภัทรภิรมย์ อธิบดีกรมอัยการขณะนั้นเป็น "อัยการสูงสุด" คนแรก
ปัจจุบัน ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ดำรงตำแหน่งเป็นอัยการสูงสุด
การได้มาซึ่งอัยการสูงสุดและการพ้นจากตำแหน่ง
[แก้]ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) จะเป็นผู้เสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด โดยคํานึงถึงอาวุโส ความรู้ความสามารถ ความรับผิดชอบ ประวัติ การปฏิบัติราชการ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลนั้น ต่อ ก.อ.[2] จากนั้น ก.อ. จะมีมติเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดต่อวุฒิสภาเพื่อขอความเห็นชอบ โดยประธานวุฒิสภาเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง[2]
ส่วนการพ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุดนั้น มีเหตุเช่นเดียวกับพนักงานอัยการ คือ[1]
- ตาย
- พ้นจากราชการเมื่ออายุครบ 65 ปี
- ได้รับอนุญาตให้ลาออก
- โอนไปรับราชการเป็นข้าราชการธุรการหรือข้าราชการฝ่ายอื่น
- ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหาร
- ถูกสั่งให้ออกจากราชการด้วยเหตุที่ไม่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่ง ขาดคุณสมบัติ หรือทุพพหภาพ
- ถูกสั่งโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก
ทั้งนี้ กรณีพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุตามข้อ 4 ข้อ 6 และข้อ 7 ต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา[1]
อำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด
[แก้]อัยการสูงสุดมีอำนาจหน้าที่ ตามที่กฎหมายต่าง ๆ กำหนดไว้ เช่น
- ฟ้องคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 28
- ให้พนักงานอัยการไปช่วยราชการในอีกท้องที่หนึ่งเป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 15
- อำนาจหน้าที่ในการบริหารสำนักงานอัยการสูงสุด ตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 27
อำนาจเฉพาะตัวของอัยการสูงสุด (พระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการฯ มาตรา 19)[2]
- สอบสวนและฟ้องคดีอาญาที่เกิดนอกราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 วรรคหก
- สั่งสอบสวนเพิ่มเติมหรือให้ส่งพยานหลักฐานมาเพิ่มเติม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143
- ชี้ขาดความเห็นแย้งสั่งไม่ฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145
- สั่งไม่ฟ้องคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 21
กรณีข้างต้นกำหนดให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเท่านั้น จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนมิได้
กรมอัยการ (พ.ศ. 2436 - พ.ศ. 2534) | |||||
ลำดับ | รูป | รายนามและยศ | ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง | หมายเหตุ | |
1 | ![]() |
ขุนหลวงพระยาไกรสี (เปล่ง เวภาระ)[7] | พ.ศ. 2436 - 2444[7] | ถึงแก่อนิจกรรมระหว่างดำรงตำแหน่ง | |
2 | ![]() |
พระยาอรรถการประสิทธิ์ (วิลเลียม แอลเฟรด คุณะดิลก) [8] | พ.ศ. 2445 - 2455 | ปฏิบัติหน้าที่ว่าที่เจ้ากรมอัยการ | |
พ.ศ. 2455 - 2460 | |||||
3 | ![]() |
พระยาอรรถการยบดี (ชุ่ม อรรถจินดา) | พ.ศ. 2461 - 2466 | ||
4 | ![]() |
พระยาเทพวิทุรพหุลศรุตบดี (บุญช่วย วณิกกุล) | พ.ศ. 2466 - 2471 | ||
5 | ![]() |
พระยามานวราชเสวี (ปลอด วิเชียร ณ สงขลา) | พ.ศ. 2471 - 2477 | ||
6 | ![]() |
พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ (สิทธิ จุณณานนท์) [9] | พ.ศ. 2477 - 2488 | ||
7 | ![]() |
พระยาอรรถกรมมณุตตี (อรรถกรม ศรียาภัย) [10] | พ.ศ. 2488 - 2489 | ||
8 | ![]() |
พระสารการประสิทธิ์ (พิณ คุณะเกษม) [11] | พ.ศ. 2489 - 1 กรกฎาคม 2491[12] | ลาออกจากราชการ | |
9 | ![]() |
หลวงอรรถปรีชาชนูปการ (ฉอรรถ แสนโกศิก) [13] [14] | พ.ศ. 2491 - 2505 | ||
10 | ![]() |
เล็ก จุณณานนท์ | 1 ตุลาคม 2505 – 30 มิถุนายน 2511 | ||
11 | ![]() |
กมล วรรณประภา | 1 กรกฎาคม 2511 – 31 มีนาคม 2512 | ||
12 | ![]() |
โชติ สุวรรณโพธิ์ศรี | 1 เมษายน 2512 – 30 กันยายน 2512 | ||
13 | ![]() |
สงวน ชูปัญญา | 1 ตุลาคม 2512 – 30 กันยายน 2515 | ||
14 | ![]() |
โปร่ง เปล่งศรีงาม | 1 ตุลาคม 2515 – 30 กันยายน 2518 | ||
15 | ![]() |
อุทัย กัปปิยบุตร | 1 ตุลาคม 2518 – 30 กันยายน 2519 | ||
16 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ ประเทือง กีรติบุตร | 1 ตุลาคม 2519 – 31 กรกฎาคม 2524 | ||
17 | ![]() |
สุจินต์ ทิมสุวรรณ | 1 สิงหาคม 2524 – 31 กรกฎาคม 2530[15] | ลาออกจากราชการก่อนครบวาระ | |
18 (1) |
![]() |
ศาสตราจารย์ ดร.โกเมน ภัทรภิรมย์ | 1 สิงหาคม 2530 – 28 กุมภาพันธ์ 2534 |
สำนักงานอัยการสูงสุด (ตั้งแต่ พ.ศ. 2534) | |||||
ลำดับ | รูป | รายนามและยศ | ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง | หมายเหตุ | |
18 (2) |
![]() |
ศาสตราจารย์ ดร.โกเมน ภัทรภิรมย์ | 1 มี.ค. 2534 - 1 ต.ค. 2536 | ||
19 | ![]() |
โอภาส อรุณินท์ | 1 ต.ค. 2536 - 30 ก.ย. 2537 | ||
20 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.คณิต ณ นคร | 1 ต.ค. 2537 - 30 ก.ย. 2540 | ||
21 | ![]() |
ศาสตราจารย์ สุชาติ ไตรประสิทธิ์ | 1 ต.ค. 2540 - 30 ก.ย. 2544 | ||
22 | ![]() |
วิเชียร วิริยะประสิทธิ์ | 1 ต.ค. 2544 - 30 ก.ย. 2546 | ||
23 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ เรวัต ฉ่ำเฉลิม | 1 ต.ค. 2546 - 30 ก.ย. 2547 | ||
24 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ คัมภีร์ แก้วเจริญ | 1 ต.ค. 2547 - 30 ก.ย. 2548 | ||
25 | ![]() |
พชร ยุติธรรมดำรง | 1 ต.ค. 2548 - 30 ก.ย. 2550[16] | ||
26 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ ชัยเกษม นิติสิริ [17] | 1 ต.ค. 2550 - 2552 | ||
27 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ จุลสิงห์ วสันตสิงห์ [18] | 1 ต.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2556 | ||
28 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ อรรถพล ใหญ่สว่าง[19] [20] | 1 ต.ค. 2556 - 26 มิ.ย. 2557 | ||
29 | ![]() |
ตระกูล วินิจนัยภาค | 27 มิ.ย.2557 - 30 ก.ย. 2558 | ||
30 | ![]() |
ร้อยตำรวจตรี พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร[21] | 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2560 | ||
31 | ![]() |
ศาสตราจารย์พิเศษ เข็มชัย ชุติวงศ์[22] | 1 ต.ค. 2560 - 30 ก.ย. 2562 | ||
32 | ![]() |
วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ [23] | 1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2564 | ||
33 | ![]() |
สิงห์ชัย ทนินซ้อน [24] | 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2565 | ||
34 | ![]() |
นารี ตัณฑเสถียร [25] | 1 ต.ค. 2565 - 30 ก.ย. 2566[26] | อัยการสูงสุดหญิงคนแรก | |
35 | ![]() |
อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ [27] | 1 ต.ค. 2566 - 30 ก.ย. 2567[28] | ||
36 | ![]() |
ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ | 1 ต.ค. 2567 - [29] |
คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.)
[แก้]เดิมพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521[30] ระบุให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็น ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) โดยตำแหน่ง ส่วนอัยการสูงสุด (ขณะนั้นเรียกว่าอธิบดีกรมอัยการ) เป็นรองประธานคณะกรรมการอัยการโดยตำแหน่ง จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2534 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (รสช.) กำหนดให้ประธาน ก.อ. มาจากการเลือกตั้งโดยข้าราชการอัยการโดยตรง [5]
ต่อมาในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553[1] ได้กำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นประธาน ก.อ. โดยตำแหน่ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 ได้มรการแก้ไขให้ประธาน ก.อ. มาจากการเลือกตั้งโดยข้าราชการอัยการโดยตรง (เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย จะไม่มีสิทธิเลือกตั้งนี้)[31] เพื่อให้การบริหารงานบุคคลข้าราชการอัยการเป็นอิสระและปลอดจากการเมืองอย่างแท้จริง[32] โดยต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้วในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีอัยการหรืออธิบดีอัยการภาค หรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า ทั้งนี้ ต้องไม่เคยเป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนได้รับเลือก
สำหรับองค์ประกอบของคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561)[1][31] ประกอบด้วย
(1) ประธาน ก.อ. ซึ่งข้าราชการอัยการเป็นผู้เลือก (เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย) จากผู้ที่มีคุณสมบัติข้างต้น[31] ซึ่งประธาน ก.อ. คนปัจจุบันคือ นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ [33]
(2) อัยการสูงสุด เป็นรองประธาน ก.อ.
(3) รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโสจำนวนห้าคน เป็นกรรมการอัยการ
(4) กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนหกคน ซึ่งข้าราชการอัยการเป็นผู้เลือก (เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย) จาก
(ก) ข้าราชการอัยการชั้น 5 ขึ้นไป ซึ่งมิได้เป็นกรรมการอัยการโดยตำแหน่งอยู่แล้วจำนวนสี่คน
(ข) ผู้รับบำเหน็จหรือบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ซึ่งเคยรับราชการเป็นข้าราชการอัยการมาแล้วจำนวนสองคน
(5) กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสองคน ซึ่งข้าราชการอัยการเป็นผู้เลือก (เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งอัยการผู้ช่วย) จากผู้ซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการอัยการมาก่อน และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ ด้านการพัฒนาองค์กร หรือด้านการบริหารจัดการ
สำนักงานอัยการสูงสุดของไทย
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 พระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553
- ↑ อายุธ สมานเดชา. อำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด : ศึกษาเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น (นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) 2534
- ↑ ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 47
- ↑ 5.0 5.1 ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 (soc.go.th)
- ↑ "พิพิธภัณฑ์อัยการไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-22. สืบค้นเมื่อ 2009-05-17.
- ↑ 7.0 7.1 ขุนหลวงพระยาไกรสี จัดงานฌาปนกิจศพ หลังตาย ไป 80 กว่าปี (silpa-mag.com)
- ↑ แจ้งความกระทรวงยุติธรรม เรื่อง ให้พระยาอรรถการประสิทธิ์เป็นอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศ ตั้งอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ตั้งผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อนุญาตให้อธิบดีกรมอัยการลาออกจากราชการ
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาการในตำแหน่งอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิบดีกรมอัยการ
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง อนุญาตให้ข้าราชการอัยการลาออกจากราชการ อนุญาตให้นายสุจินต์ ทิมสุวรรณ อธิบดีกรมอัยการลาออกจากราชการ
- ↑ ประกาศสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง ข้าราชการอัยการพ้นจากราชการ (นายพชร ยุติธรรมดำรง)
- ↑ ประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ (นายชัยเกษม นิติสิริ)
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ (นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์)
- ↑ ประวัติ อรรถพล ใหญ่สว่าง
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [นายอรรถพล ใหญ่สว่าง]
- ↑ ประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [ร้อยตำรวจตรี พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร]
- ↑ ประกาศสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [นายเข็มชัย ชุติวงศ์]
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์]
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน]
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ [นางสาวนารี ตัณฑเสถียร]
- ↑ "มติ ก.อ.เอกฉันท์เห็นชอบ "นารี ตัณฑเสถียร" นั่ง อสส.หญิง คนแรกของไทย". bangkokbiznews. 2022-06-08.
- ↑ ประกาศวุฒิสภา เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการอัยการ
- ↑ ก.อ.มติเอกฉันท์ ตั้ง 'อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์' เป็น 'อัยการสูงสุด' คนที่ 18
- ↑ "เปิดประวัติ ว่าที่อัยการสูงสุดคนที่ 19 "ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ" ครบเครื่องบู๊บุ๋น". pptvhd36.com. 2024-04-18.
- ↑ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521 (soc.go.th)
- ↑ 31.0 31.1 31.2 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
- ↑ เกี่ยวกับองค์กร[ลิงก์เสีย] - สำนักงานอัยการสูงสุด (ago.go.th)
- ↑ ไทยโพสต์ (2023-05-23). "อัยการทั่วประเทศ เทคะแนนเลือก 'เรวัตร จันทร์ประเสริฐ' เป็นประธาน ก.อ."
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์)