ข้ามไปเนื้อหา

อักษรไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อักษรกลาง)
อักษรไทย
ชนิด
ผู้ประดิษฐ์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ช่วงยุค
พ.ศ. 1826 (ค.ศ. 1283) – ปัจจุบัน
ทิศทางซ้ายไปขวา Edit this on Wikidata
ภาษาพูดมาตรฐาน:
ภาษาไทย, ภาษาไทยใต้
ไม่เป็นมาตรฐาน:
คำเมือง, อีสาน,
มลายูปัตตานี, และอื่นๆ
อักษรที่เกี่ยวข้อง
ระบบแม่
ระบบลูก
อักษรไทเวียด
ระบบพี่น้อง
อักษรฝักขาม
อักษรลาว
ISO 15924
ISO 15924Thai (352), ​Thai
ยูนิโคด
ยูนิโคดแฝง
Thai
ช่วงยูนิโคด
U+0E00–U+0E7F
 บทความนี้ประกอบด้วยสัญกรณ์การออกเสียงในสัทอักษรสากล (IPA) สำหรับคำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับสัญลักษณ์ IPA โปรดดู วิธีใช้:สัทอักษรสากล สำหรับความแตกต่างระหว่าง [ ], / / และ ⟨ ⟩ ดูที่ สัทอักษรสากล § วงเล็บเหลี่ยมและทับ

อักษรไทย เป็นอักษรที่ใช้เขียนภาษาไทยและภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น คำเมือง, อีสาน, ภาษาไทยใต้, มลายูปัตตานี เป็นต้น ในประเทศไทย มีพยัญชนะ 44 รูป สระ 21 รูป วรรณยุกต์ 4 รูป และเครื่องหมายอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง พยัญชนะไทยจะเรียงตัวไปตามแนวนอน จากซ้ายไปขวา ส่วนสระจะอยู่หน้า บน ล่าง และหลังพยัญชนะประกอบคำแล้วแต่ชนิดของสระ

อักษรไทยไม่มีการแยกอักษรตัวใหญ่หรืออักษรตัวเล็กอย่างอักษรโรมัน และไม่มีการเว้นวรรคระหว่างคำ เมื่อจบหนึ่งประโยคจะลงท้ายด้วยการเว้นวรรค กับมีเครื่องหมายวรรคตอนจำนวนหนึ่ง

ภาษาไทยมีเลขไทยเป็นของตัวเอง แต่นิยมใช้ตัวเลขอาหรับเป็นส่วนใหญ่ในชีวิตประจำวัน

ประวัติและวิวัฒนาการ

[แก้]
จารึกพ่อขุนรามคำแหง จารึกที่เก่าแห่ที่สุดที่ใช้อักษรไทยดั้งเดิม (พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)
วิวัฒนาการอักษรไทย

อักษรไทยมีที่มาจากอักษรสุโขทัย ซึ่งพัฒนามาจากอักษรเขมรเก่า ซึ่งเป็นรูปเขียนแบบอักษรพราหมีใต้ที่มาจากอักษรปัลลวะ ตามธรรมเนียมระบุว่าราว พ.ศ. 1826 พ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น[1] อักษรไทยที่เก่าแก่ที่สุดที่รับรองได้มาจากจารึกพ่อขุนรามคำแหงที่สลักขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1835 อย่างไรก็ตาม มีนักวิชาการบางส่วนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของสิ่งนี้[2] อักษรนี้มีที่มาจากอักษรเขมรเก่ารูปหวัดในขณะนั้น[1] โดยปรับเปลี่ยนและทำให้ตัวอักษรเขมรเก่าบางตัวเรียบง่ายขึ้น และได้ประดิษฐ์ตัวอักษรใหม่เข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับระบบเสียงของภาษาไทย และยังเพิ่มเครื่องหมายวรรณยุกต์ด้วย

อักษรไทยถือเป็นอักษรแรกบนโลกที่ประดิษฐ์เครื่องหมายวรรณยุกต์เพื่อระบุวรรณยุกต์เฉพาะที่ไม่ปรากฏในกลุ่มภาษามอญ-เขมร (ตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก), ตระกูลภาษาดราวิเดียน และกลุ่มภาษาอินโด-อารยันที่อักษรนี้สืบมาหรือได้รับอิทธิพลบางส่วน แม้ว่าภาษาจีนและภาษาในตระกูลภาษาจีน-ทิเบตต่างมีวรรณยุกต์เฉพาะในระบบเสียงตนเอง แต่ไม่มีเครื่องหมายวรรณยุกต์ในอักขรวิธีของตนเอง ทำให้เครื่องหมายวรรณยุกต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ในภาษาไทยที่ภายหลังส่งอิทธิพลต่อกลุ่มภาษาไทอื่น ๆ และตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่าบางส่วนในอินโดจีน[2] นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกลุ่มพยัญชนะ (consonant clusters) ที่เขียนในแนวนอนและต่อเนื่อง แทนที่จะเขียนพยัญชนะตัวที่สองไว้ด้านล่างพยัญชนะตัวแรก[2] ท้ายที่สุด อักษรไทยเคยเขียนเครื่องหมายสระทุกแบบบนบรรทัดหลัก แต่หลังจากนั้นไม่นานสิ่งนี้ไม่เป็นที่นิยมอีก[1]

อักษรไทยมีการปรับปรุงอยู่เรื่อย ๆ ในสมัยพญาฦๅไทราว พ.ศ. 1900 มีการแก้ไขตัวอักษรให้ผิดเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะการเพิ่มเชิงที่ตัว ญ ซึ่งใช้ติดต่อเรื่อยมาจนทุกวันนี้ คาดว่าน่าจะเอาอย่างมาจากเขมร ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ราว พ.ศ. 2223 ตัวอักษรเริ่มมีทรวดทรงดีขึ้นแต่ก็ไม่ทิ้งเค้าเดิม มีบางตัวเท่านั้นที่แก้ไขผิดไปจากเดิม คือตัว ฎ และ ธ ซึ่งเหมือนกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นักวิชาการจำนวนหนึ่งเชื่อว่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตัวอักษรและการใช้งานมีความคล้ายคลึงกับในปัจจุบันมากที่สุด

อักษรไทย

[แก้]
อักษรไทย
รูปพยัญชนะ
รูปสระ
–ั –ํ –ิ ' "
–ุ –ู –็
ฤๅ ฦๅ
รูปวรรณยุกต์
–่ –้ –๊ –๋
เครื่องหมายอื่น ๆ
–์ –๎ –ฺ
เครื่องหมายวรรคตอน
ฯลฯ

พยัญชนะ

[แก้]

พยัญชนะไทยมี 44 รูป แต่ละตัวมีชื่อเรียกโดยเฉพาะ สามารถแบ่งตามฐานที่ใช้ในการออกเสียงเป็นวรรค เสียงอ่านที่กำกับไว้คือเสียงเมื่อเป็นพยัญชนะต้น

วรรค ฐานกรณ์ กักสิถิล กักธนิตหรือเสียดแทรก นาสิก
วรรค กะ เพดานอ่อน ไก่
[k~g]
ไข่
[kʰ~x]
ขวด¹
[kʰ~x]
ควาย
[kʰ~x]
คน¹
[kʰ~x]
ระฆัง
[kʰ~x]
งู
[ŋ]
วรรค จะ เพดานแข็ง จาน
[t͡ɕ]
ฉิ่ง
[t͡ɕʰ]
ช้าง
[t͡ɕʰ]
โซ่
[s~z~ɕ]
เฌอ
[t͡ɕʰ]
หญิง
[ɲ]²
วรรค ฏะ ปุ่มเหงือก ชฎา
[d̪]
ปฏัก
[t̪]
ฐาน
[tʰ]
มณโฑ
[tʰ]/[d̪]
ผู้เฒ่า
[tʰ]
เณร
[n]
วรรค ตะ เด็ก
[d̪]
เต่า
[t̪]
ถุง
[tʰ]
ทหาร
[tʰ]
ธง
[tʰ]
หนู
[n]
วรรค ปะ ริมฝีปาก ใบไม้
[b]
ปลา
[p]
ผึ้ง
[pʰ]
ฝา
[f]
พาน
[pʰ]
ฟัน
[f]
สำเภา
[pʰ]
ม้า
[m]
ไตรยางศ์ กลาง สูง ต่ำ
วรรค เปิดหรือรัว เสียดแทรก เปิดข้างลิ้น
ปุ่มเหงือก
กัก
เส้นเสียง
เสียดแทรก
เส้นเสียง
เศษวรรค ยักษ์
[j]
เรือ
[r~ɹ]
ลิง
[l]
แหวน
[ʋ~w]
ศาลา
[s~z~ɕ]
ฤๅษี
[s~z~ɕ]
เสือ
[s~z~ɕ]
หีบ
[h]
จุฬา
[l]
อ่าง³
[ʔ]
นกฮูก
[h]
ไตรยางศ์ ต่ำ สูง ต่ำ กลาง ต่ำ
  1. ฃ และ ฅ เป็นอักษรที่ในปัจจุบันเลิกใช้แล้ว
  2. ในปัจจุบันเสียงนี้ถูกแทนที่ด้วย /j/ ในภาษาไทยกลาง แต่ยังคงพบได้ในภาษาไทยถิ่นอื่นๆ เช่น ภาษาไทยอีสาน เป็นต้น
  3. อ ถือว่าเป็นเสียงว่างให้รูปสระมาเกาะได้

พยัญชนะไทยยังแบ่งออกเป็น 3 หมู่ เรียกว่า ไตรยางศ์ ประกอบด้วย

ความถี่ของพยัญชนะไทย พยัญชนะไทยที่ใช้บ่อยที่สุดคือ น และที่ใช้น้อยที่สุดคือ ฅ ความถี่ที่แสดงในตารางอาจแตกต่างกันในทางปฏิบัติตามประเภทของข้อความ (ผู้อ่านสามารถทดลองเปิดหน้าข่าว หรือเปิดหนังสือ ebook สักเล่มแล้วลอง ค้นหา(search) อักษรโดดๆ เช่น ก ข ค ... จะพบว่าพยัญชนะไทยที่ใช้มากที่สุดในเอกสารนั้นคือ น (นอ หนู) หรืออาจจะเป็นตัวพยัญชนะ ร อ บ้างในบางเอกสารเท่านั้น)

จุดรหัส ชื่อตัวอักษร พยัญชนะ
ไทย
TNC v.1 LEXiTRON Data 2.0 พจนานุกรมราชบัณฑิตฯ 2554
ยูนิโคด ความถี่
U+0E19 NO NU 9.68% 8.61% 8.29%
U+0E23 RO RUA 7.47% 9.17% 9.04%
U+0E2D O ANG 7.44% 6.61% 6.42%
U+0E01 KO KAI 7.35% 7.54% 7.79%
U+0E07 NGO NGU 6.90% 6.26% 5.66%
U+0E21 MO MA 6.24% 5.77% 5.78%
U+0E22 YO YAK 4.90% 4.90% 5.18%
U+0E27 WO WAEN 4.80% 4.71% 4.56%
U+0E25 LO LING 3.97% 4.26% 4.85%
U+0E14 DO DEK 3.96% 3.89% 3.60%
U+0E17 THO THAHAN 3.75% 2.89% 2.73%
U+0E2B HO HIP 3.59% 3.26% 3.67%
U+0E15 TO TAO 3.31% 3.81% 3.93%
U+0E04 KHO KHWAI 3.09% 3.35% 2.47%
U+0E2A SO SUA 3.07% 3.84% 4.13%
U+0E1B PO PLA 2.90% 2.60% 2.76%
U+0E1A BO BAIMAI 2.88% 3.06% 3.06%
U+0E08 CHO CHAN 2.69% 2.05% 1.98%
U+0E02 KHO KHAI 2.13% 1.78% 1.88%
U+0E1E PHO PHAN 1.95% 2.27% 2.43%
U+0E0A CHO CHANG 1.56% 1.73% 1.75%
U+0E1C PHO PHUNG 0.86% 0.87% 0.72%
U+0E16 THO THUNG 0.79% 0.79% 0.73%
U+0E13 NO NEN 0.64% 0.65% 0.80%
U+0E28 SO SALA 0.60% 0.89% 0.90%
U+0E18 THO THONG 0.56% 0.63% 0.78%
U+0E29 SO RUSI 0.47% 0.56% 0.60%
U+0E0D YO YING 0.46% 0.57% 0.57%
U+0E20 PHO SAMPHAO 0.44% 0.61% 0.70%
U+0E0B SO SO 0.42% 0.45% 0.43%
U+0E09 CHO CHING 0.25% 0.29% 0.36%
U+0E10 THO THAN 0.20% 0.15% 0.20%
U+0E1F FO FAN 0.18% 0.44% 0.33%
U+0E1D FO FA 0.13% 0.24% 0.20%
U+0E0F TO PATAK 0.08% 0.08% 0.14%
U+0E0E DO CHADA 0.08% 0.08% 0.08%
U+0E12 THO PHUTHAO 0.07% 0.04% 0.04%
U+0E2E HO NOKHUK 0.06% 0.10% 0.12%
U+0E11 THO NANGMONTHO 0.03% 0.11% 0.14%
U+0E06 KHO RAKHANG 0.03% 0.07% 0.12%
U+0E2C LO CHULA 0.02% 0.03% 0.07%
U+0E0C CHO CHOE 0.003% 0.01% 0.03%
U+0E03 KHO KHUAT 0.001% 0% 0%
U+0E05 KHO KHON 0.0003% 0% 0%

1: นับความถี่จาก Thai National Corpus (1st version on CQPweb) จำนวน 34,782,267 โทเค็น
2: นับความถี่ จากฐานข้อมูล LEXiTRON Data 2.0 จำนวนคำศัพท์ในพจนานุกรม 32,365 คำ เก็บถาวร 2017-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
3: นับความถี่จากฐานข้อมูล พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ จำนวนคำศัพท์ในพจนานุกรม 39,191 คำ (db.version 2018.07.24)

สระ

[แก้]

สระในภาษาไทยมี 21 รูป ซึ่งรูปสระเหล่านี้จะนำไปประกอบเป็นรูปสระที่ใช้จริงอีกต่อหนึ่ง (ดูที่ ภาษาไทย)

วรรณยุกต์

[แก้]

วรรณยุกต์ในภาษาไทยมี 4 รูป 5 เสียง

เสียงวรรณยุกต์ไทยตามหลักภาษาศาสตร์ แบ่งได้ดังนี้

  • เสียงสามัญ (ระดับเสียงกึ่งสูง-กลาง)
  • เสียงเอก (ระดับเสียงกึ่งต่ำ-ต่ำ)
  • เสียงโท (ระดับเสียงสูง-ต่ำ)
  • เสียงตรี (ระดับเสียงกึ่งสูง-สูง)
  • เสียงจัตวา (ระดับเสียงต่ำ-กึ่งสูง)

รูปวรรณยุกต์

[แก้]

เครื่องหมายวรรณยุกต์ในภาษาไทย มี 4 รูป ดังนี้

ไม้เอก (-่) ไม้โท (-้) ไม้ตรี (-๊) และ ไม้จัตวา (-๋)

อย่างไรก็ตาม ในจารึกสมัยโบราณ เช่น ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง มีเครื่องหมายวรรณยุกต์เพียง 2 รูป คือ ไม้เอก (-่) และไม้โท (-๋)[ต้องการอ้างอิง] เช่น น๋อง (น้อง), ห๋า (ห้า)

การผันเสียงวรรณยุกต์

[แก้]

โดยทั่วไปเสียงพยางค์หนึ่งในภาษาไทย สามารถผันได้ ๕ เสียงวรรณยุกต์ แต่ในภาษาเขียน จะมีกฎเกณฑ์การผันที่ตายตัว ดังนี้

หมู่อักษร-คำเป็นคำตาย เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี เสียงจัตวา
อักษรกลาง คำเป็น กา ก่า ก้า ก๊า ก๋า
อักษรกลาง คำตาย สระสั้น - กะ ก้ะ ก๊ะ ก๋ะ
อักษรกลาง คำตาย สระยาว - กาบ ก้าบ ก๊าบ ก๋าบ
อักษรสูง คำเป็น - ข่า ข้า - ขา
อักษรสูง คำตาย สระสั้น - ขะ ข้ะ - -
อักษรสูง คำตาย สระยาว - ขาบ ข้าบ - -
อักษรต่ำ คำเป็น คา - ค่า ค้า -
อักษรต่ำ คำตาย สระสั้น - - ค่ะ คะ ค๋ะ
อักษรต่ำ คำตาย สระยาว - - คาบ ค้าบ ค๋าบ

คำตายของอักษรกลางและอักษรสูง ไม่ว่าสระจะเป็นเสียงสั้นหรือเสียงยาวก็ผันวรรณยุกต์ตามรูปแบบเดียวกัน เว้นแต่คำตายของอักษรต่ำ เมื่อเป็นสระเสียงสั้นหรือเสียงยาวจะผันคนละแบบ

อักษรต่ำและอักษรสูงไม่สามารถผันให้ครบ ๕ เสียงได้ จึงมักจะใช้อักษรเสียงเดียวกันจากอีกหมู่หนึ่งมาใช้เป็นอักษรนำ โดยมีอักษรสูงนำ (ยกเว้นอักษร อ ซึ่งเป็นอักษรกลาง สามารถนำ อักษร ย ได้) เช่น นา หน่า น่า น้า หนา, มี หมี่ มี่ มี้ หมี

ตัวเลข

[แก้]

ตัวเลขที่เป็นอักษรไทย เรียกว่าเลขไทย มีลักษณะดังนี้

๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙

วิธีการบอกจำนวนใช้ระบบประจำหลักเหมือนกับตระกูลตัวเลขอาหรับอื่น ๆ

เครื่องหมายวรรคตอน

[แก้]

รหัสยูนิโคดสำหรับอักษรไทย

[แก้]

ช่วงรหัสยูนิโคด (Unicode) ของอักษรไทย คือ U+0E00 ถึง U+0E7F

ไทย
Unicode.org chart (PDF)
  0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 A B C D E F
U+0E0x  
U+0E1x
U+0E2x
U+0E3x         ฿
U+0E4x
U+0E5x        
U+0E6x                                
U+0E7x                                


ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 Hartmann, John F. (1986), The spread of South Indic scripts in Southeast Asia, p. 8
  2. 2.0 2.1 2.2 Diller, Anthony V.N. (1996). "Thai orthography and the history of marking tone" (PDF). Oriens Extremus: 228–248. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ Oct 3, 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]