ไม้ม้วน
อักษรไทย | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ใ | |||||||
รูปพยัญชนะ | |||||||
ก | ข | ฃ | ค | ฅ | ฆ | ง | จ |
ฉ | ช | ซ | ฌ | ญ | ฎ | ฏ | ฐ |
ฑ | ฒ | ณ | ด | ต | ถ | ท | ธ |
น | บ | ป | ผ | ฝ | พ | ฟ | ภ |
ม | ย | ร | ล | ว | ศ | ษ | ส |
ห | ฬ | อ | ฮ | ||||
รูปสระ | |||||||
ะ | –ั | า | –ํ | –ิ | ' | " | |
–ุ | –ู | เ | โ | ใ | ไ | –็ | |
อ | ว | ย | ฤ | ฤๅ | ฦ | ฦๅ | |
รูปวรรณยุกต์ | |||||||
–่ | –้ | –๊ | –๋ | ||||
เครื่องหมายอื่น ๆ | |||||||
–์ | –๎ | –ฺ | |||||
เครื่องหมายวรรคตอน | |||||||
ฯ | ฯลฯ | ๆ | |||||
๏ | ๚ | ๛ | ┼ |
ไม้ม้วน (ใ) ใช้เป็นสระ ใอ เมื่ออยู่หน้าพยัญชนะต้น
การประสมรูป
[แก้]การประสมรูป | ปรากฏ | ใช้เป็นสระ | สัทอักษรสากล |
---|---|---|---|
ไม้ม้วน + (พยัญชนะต้น) | ใ– | ใอ | /aj/, /aːj/ |
ประวัติ
[แก้]ไม้ม้วนมีปรากฏในภาษาเขียนของไทย มาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ในศิลาจารึกหลักที่หนึ่ง ของพ่อขุนรามคำแหง ในคำว่า ใคร ใคร่ ใด ใส ใหญ่ ใน ให้ ใช้ ใต้ ใศ่ ใว้ เป็นต้น เสียงสระของไม้ม้วนเดิมเป็นเสียงสระผสม อะ+อึ (/aɰ/) [1] ซึ่งหายไปจากภาษามาตรฐาน แต่ก็ยังมีร่องรอยให้เห็นในภาษาไทยถิ่นและภาษาไทกลุ่มต่าง ๆ นอกประเทศไทย ภาษาไทยปัจจุบันออกเสียง อะ+ย เหมือนไม้มลาย (ไ) นอกจากภาษาไทยมาตรฐานแล้วยังมีภาษาไทกลุ่มอื่นเช่น ภาษาลาว และภาษาไทใหญ่ ที่ปรากฏไม้ม้วนในภาษาเขียน
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีตำราเรียนระบุการใช้ไม้ม้วน ในคำศัพท์จำนวน 20 คำ โดยมีคำกลอนแต่งไว้ในหนังสือจินดามณีดังนี้
ใฝ่ใจแลให้ทาน | ทังนอกในแลใหม่ใส |
ใครใคร่แลยองใย | อันใดใช้แลใหลหลง |
ใส่กลสใพ้ใบ้ | ทังใต้เหนือแลใหญ่ยง |
ใกล้ใบแลใช้จง | ญี่สิบม้วนคือวาจา |
ส่วนในหนังสือหนังสือประถมมาลา แต่งโดยพระเทพโมลี (ผึ้ง) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ได้ให้หลักการใช้ไม้ม้วน โดยที่สองบทท้ายเป็นคำกลอนจากตำราจินดามณีนั่นเอง ดังนี้
หนึ่งไซร้หมู่ไม้ม้วน | ปราชประมวลแต่บูราณ |
จักลอกจำลองสาร | ตามอาจารย์บังคับไข |
ใฝ่ใจให้ทานนี้ | นอกในมีแลใหม่ใส |
ใครใคร่แลยองใย | อันใดใช้อย่าใหลหลง |
ใส่กลสะใภ้ใบ้ | ทั้งต่ำใต้และใหญ่ยง |
ใกล้ใบแลใช่จง | ใช้ให้คงคำบังคับ |
หลังจากนั้น ยังมีบทกลอน (กาพย์ยานี) ที่สอนการใช้ไม้ม้วน ที่รู้จักกันดีจนปัจจุบัน ดังนี้
ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ | ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ |
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ | มิหลงใหลใครขอดู |
จักใคร่ลงเรือใบ | ดูน้ำใสและปลาปู |
สิ่งใดอยู่ในตู้ | มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง |
บ้าใบ้ถือใยบัว | หูตามัวมาใกล้เคียง |
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง | ยี่สิบม้วนจำจงดี |
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสยามนั้นการใช้ไม้ม้วนจำกัดอยู่ที่คำศัพท์ 20 คำ มาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นอย่างน้อย และคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น จะใช้ไม้มลายทั้งสิ้น (เว้นแต่ลูกคำที่แตกจากแม่คำ ซึ่งใช้ไม้ม้วนอยู่แล้ว) แม้คำศัพท์เฉพาะ ที่เป็นชื่อต่างๆ ก็ไม่นิยมที่จะใช้ไม้ม้วนนอกเหนือจาก 20 คำดังกล่าว
คำที่ใช้ไม้ม้วนในปัจจุบัน
[แก้]
|
|
|
|
ในภาษาไท-ไตอื่น
[แก้]ในภาษาไทอื่นนั้น ยังมีการใช้เสียง ใ เดิมอยู่ (/aɰ/) ซึ่งเป็นเสียง อะ-อึ โดยเป็นเสียงที่ไม่เหมือน ไ ซึ่งเป็นเสียง อะ-อิ หรือ อะ-ย (/aj/) ภาษาไท-ไตเหล่านี้คือ ภาษาลาวสำเนียงหลวงพระบาง ภาษาไทใหญ่ ภาษาไทดำ และ ภาษาไทขาว เป็นต้น การเปรียบเทียบเสียงศัพท์รากเดียวกันที่ปรากฏต่อไปนี้ เป็นการเปรียบเทียบระหว่างภาษาไทยกับภาษาไทใหญ่
ไทย | สัทอักษรสากล | ไทใหญ่ | สัทอักษรสากล | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
ใคร่ | kʰrâj | ၶႂ်ႈ | kʰaɯ ใข้ | คฺร ในไทยมักตรงกับเสียง ค หรือ ข ของไทใหญ่ (ไม่มีเสียง ร เรือควบกล้ำ) |
ใจ | tɕaj | ၸႂ် | tsǎɯ ใจ๋ | |
ใช่ | tɕʰâj | ၸႂ်ႈ | tsaɯ ใจ้ | ช ในไทยมักตรงกับเสียง จ ในไทใหญ่ (ไม่มีเสียง ช ช้าง) |
ใช้ | tɕʰáj | ၸႂ်ႉ | tsâɯ ใจ้ (โทสั้น) | |
ใด | daj | လႂ် | lǎɯ ใหล | ด ในไทยมักตรงกับเสียง ล หรือ หล ในไทใหญ่ (ไม่มีเสียง ด เด็ก) |
ใต้ | tâaj | တႂ်ႈ | taɯ ใต้ | |
ใน | naj | ၼႂ်း | náɯ ใน้ | |
ใบ | baj | မႂ် | mǎɯ ใหม | บ ในไทยมักตรงกับเสียง ม หรือ หม ในไทใหญ่ (ไม่มีเสียง บ ใบไม้) |
ใบ้ | bâj | မႂ်ႈ | maɯ ใม่/ใหม้ | "ใบ้" แปลว่า โง่ ในไทใหญ่ อันเหมือนลาว (ໃບ້) และไทอื่น ๆ |
ใฝ่ | fàj | ၾႂ်ႇ | fàɯ ใฝ่ | |
ใย | jaj | ယႂ်း | jáɯ ใย้ | |
ใส | sǎj | သႂ် | sʰǎɯ ใส | |
ใส่ | sàj | သႂ်ႇ | sʰàɯ ใส่ | |
ใหม่ | màj | မႂ်ႇ | màɯ ใหม่ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พื้นฐานภาษาไทยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน[ลิงก์เสีย], ศูนย์ให้คำปรึกษาปัญหาภาษาไทย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.