จังหวัดสมุทรสงคราม
จังหวัดสมุทรสงคราม | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Samut Songkhram |
(ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้าย) ตลาดน้ำบางน้อย, แม่น้ำแม่กลอง, ตลาดน้ำอัมพวา, อุทยาน ร.2, ดอนหอยหลอด, ตลาดร่มหุบ | |
คำขวัญ: เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดสมุทรสงครามเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | นิศากร วิศิษฏ์สรรรถ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 416.707 ตร.กม. (160.891 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 77 |
ประชากร (พ.ศ. 2566)[2] | |
• ทั้งหมด | 187,993 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 77 |
• ความหนาแน่น | 451.13 คน/ตร.กม. (1,168.4 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 7 |
รหัส ISO 3166 | TH-75 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | แม่กลอง |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | จิกเล |
• ดอกไม้ | จิกเล |
• สัตว์น้ำ | หอยหลอดชนิด Solen regularis |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ถนนเอกชัย ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม 75000 |
• โทรศัพท์ | 0 3471 1997 |
เว็บไซต์ | www |
สมุทรสงคราม เป็นจังหวัดในภาคกลางของประเทศไทย (หน่วยงานบางแห่งถือเป็นส่วนหนึ่งของภาคตะวันตก) มีขนาดพื้นที่เล็กที่สุดของประเทศ คือประมาณ 416.7 ตารางกิโลเมตร นับเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและมีชายฝั่งทะเลติดอ่าวไทยยาวประมาณ 23 กิโลเมตรซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์มากเพราะเป็นดินดอนปากแม่น้ำ มีภูเขา 1 ลูก (เขายี่สาร) ไม่มีเกาะ มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มโดยพื้นที่ฝั่งตะวันตกจะสูงกว่าฝั่งตะวันออกเล็กน้อย และเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562
ปลายปี พ.ศ. 2567 ผลการสำรวจดัชนีความมั่นคงของมนุษย์พบว่า สมุทรสงครามเป็นจังหวัดที่มีความมั่นคงของมนุษย์สูงที่สุดในประเทศไทย[3]
ประวัติ
[แก้]จังหวัดสมุทรสงครามหรือเมืองแม่กลอง ในอดีตคือแขวงบางช้างของเมืองราชบุรี ชื่อบางช้างอาจตั้งตามพระนามในเจ้าพลาย (ในปี พ.ศ. 2173 เจ้าพลายและเจ้าแสนซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์ที่หนึ่งและพระราชโอรสองค์ที่สองตามลำดับในสมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) ซึ่งเป็นพระอนุชาพระองค์เดียวที่เราทราบในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (องค์ดำ) ซึ่งไม่มีพระราชโอรส ได้หนีราชภัยมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่แขวงบางช้าง) แขวงบางช้างมีศูนย์กลางอยู่ที่ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม (ตามการแบ่งเขตการปกครองในปัจจุบัน) แขวงบางช้างมีอีกชื่อว่าสวนนอก (มีคำกล่าวที่ว่า "สวนในบางกอก สวนนอกบางช้าง") ต่อมาปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องกับสมัยกรุงธนบุรี แขวงบางช้างแยกออกจากจังหวัดราชบุรีเรียกว่า "เมืองแม่กลอง" สมุทรสงครามมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี พม่าส่งกองทัพผ่านเข้ามาถึงบริเวณตำบลบางกุ้ง พระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมผู้คนสร้างค่ายป้องกันทัพพม่าจนข้าศึกพ่ายแพ้ไป ณ บริเวณค่ายบางกุ้ง นับเป็นการป้องกันการรุกรานของพม่าเข้ามายังไทยครั้งสำคัญในช่วงเวลานั้น[ต้องการอ้างอิง]
ชื่อเมืองแม่กลองเปลี่ยนเป็นสมุทรสงครามในปีใดนั้นไม่ปรากฏแน่ชัด แต่สันนิษฐานไว้ว่าเปลี่ยนราวปี พ.ศ. 2295 ถึงปี พ.ศ. 2299 เพราะจากหลักฐานในหนังสือกฎหมายตราสามดวงว่าด้วยพระราชกำหนดเรื่องการเรียกสินไหมพินัยความ ได้ปรากฏชื่อเมืองแม่กลอง เมืองสาครบุรี และเมืองสมุทรปราการ อยู่ และต่อมาพบข้อความในพระราชกำหนด ซึ่งตราขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เมื่อปี พ.ศ. 2299 ความระบุว่าโปรดเกล้าฯ ให้พระยารัตนาธิเบศร์ สมุหมณเฑียรบาล เอาตัวขุนวิเศษวานิช (จีนอะปั่นเต็ก) ขุนทิพ และหมื่นรุกอักษร ที่บังอาจกราบบังคมทูลขอตั้งบ่อนเบี้ยในแขวงเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม เมืองราชบุรี และเมืองสมุทรปราการ ทั้ง ๆ ที่มีกฎหมายสั่งห้ามไว้ก่อนแล้ว มาลงโทษ[ต้องการอ้างอิง]
จังหวัดสมุทรสงครามเป็นแผ่นดินที่เกิดขึ้นใหม่จากการทับถมของโคลนตะกอนบริเวณปากแม่น้ำ เกิดเป็นที่ดอนจนกลายมาเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำขนาดใหญ่ ปรากฏชื่อครั้งแรกในนาม “แม่กลอง” นอกจากนั้นตามประวัติของราชินิกุลบางช้าง (ดูเพิ่มเติม ณ บางช้าง) สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีซึ่งเป็นพระราชินีในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและพระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระญาติวงศ์ มีพระนิวาสสถานดั้งเดิมอยู่ที่แขวงบางช้าง สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีทรงสืบเชื้อสายจากกษัตริย์ราชวงศ์สุโขทัยแห่งอาณาจักรอยุธยาและราชวงศ์พระร่วง (ราชวงศ์สุโขทัย) แห่งอาณาจักรสุโขทัยโดยที่เจ้าพลายและเจ้าแสน แห่งราชวงศ์สุโขทัยแห่งอาณาจักรอยุธยา ทรงหนีราชภัยมาตั้งถิ่นฐานที่แขวงบางช้าง จังหวัดสมุทรสงครามจึงเป็นเมืองราชินิกุลบางช้างและราชสกุลแห่งราชวงศ์สุโขทัย มีการสืบทอดนาฏศิลป์ วรรณศิลป์ และการทำอาหาร (โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารชาววัง) ของสมัยสุโขทัยเป็นต้นมา สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีซึ่งเคยประทับกับสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีที่แขวงบางช้างทรงรับถ่ายทอดการทำอาหารจากที่นี่และทรงเป็นผู้ทำอาหารในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานและว่าด้วยงานนักขัตฤกษ์[ต้องการอ้างอิง]
สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง
[แก้]หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหารหรือวัดบ้านแหลม[4] ในสมัยโบราณมีชื่อเรียกว่า วัดศรีจำปา ตั้งอยู่ในตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ซึ่งเหตุที่ว่าชื่อวัดเป็นชื่อสถานที่ในพื้นที่แห่งหนึ่งในเมืองใกล้เคียงนั้น ก็เพราะว่าในสมัย พ.ศ. 2307 พม่าได้เข้าตีเมืองตะนาวศรี เมืองทวาย เมืองมะริด และเมืองเพชรบุรี โดยเข้ามาทางด่านสิงขร ราชสำนักกรุงศรีอยุธยาได้ส่งพระยาพิพัฒน์โกสากับพระยาตากสินเข้ามาตั้งรับข้าศึกที่เมืองเพชรบุรี การสู้รบครั้งนั้นชาวบ้านแหลมในเมืองเพชรบุรี ต้องประสบชะตากรรมสงคราม อพยพไปอยู่ในลุ่มแม่น้ำแม่กลองบริเวณเหนือวัดจำปาซึ่งไม่ไกลจากทะเล อันเป็นพื้นที่สามารถประกอบอาชีพ (ประมง) จึงได้ตั้งรกรากกันในบริเวณนี้ แล้วไปมาหาสู่กันระหว่างแม่กลองกับอำเภอบ้านแหลม
มาวันหนึ่งขณะออกเรือหาปลา ชาวประมงบ้านแหลม ได้พระพุทธรูป 2 องค์ ขณะกำลังจะกลับฝั่ง ปรากฏว่ามีพายุลมแรง ชาวประมงจึงตัดสินใจนำเรือเข้าฝั่งมาทางแม่กลอง แล้วเข้ามาในแม่น้ำแม่กลองเพื่อหลบพายุ แต่เรือก็ยังโคลงเคลงอยู่จนกระทั่งมาถึงวัดศรีจำปา พระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรได้ตกลงน้ำ ทำให้ชาวประมงบ้านแหลมกลุ่มนั้นต้องลงไปในแม่น้ำเพื่องมหา แต่ก็ไม่พบ จนชาวบ้านแหลมที่มาตั้งรกรากที่แม่กลองได้งมหาเจอ จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดศรีจำปา ความทราบถึงพี่น้องชาวบ้านแหลมที่อยู่ที่เพชรบุรีเข้า ก็ยกขบวนมาทวงพระคืน พี่น้องบ้านแหลมที่มาตั้งรกรากที่แม่กลองขอพระพุทธรูปประดิษฐานไว้ที่วัดศรีจำปา โดยยินยอมที่จะเปลี่ยนชื่อวัดจากชื่อวัดศรีจำปาเป็น วัดบ้านแหลม เพื่อเป็นเกียรติไว้แก่ชาวบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ที่เป็นผู้ได้พระพุทธรูปองค์นี้ ชาวบ้านแหลมเพชรบุรี จึงได้กลับไป พระพุทธรูปยืนอุ้มบาตรขนาดเท่าคนจริง สูงประมาณ 167 เซนติเมตร ส่วนอีกองค์ (หลวงพ่อทอง) ได้ไปประดิษฐาน ณ วัดเขาตะเครา ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี
ภูมิศาสตร์
[แก้]อาณาเขตติดต่อ
[แก้]พื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามมีพื้นที่ติดกับจังหวัดอื่น ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ จรดจังหวัดราชบุรี (อำเภอดำเนินสะดวก) และจังหวัดสมุทรสาคร (อำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอเมืองสมุทรสาคร)
- ทิศตะวันออก จรด อ่าวไทยชั้นใน (พื้นที่เขตจังหวัดสมุทรสงครามทางทะเลติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดเพชรบุรี[5]
- ทิศใต้ จรดจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอเขาย้อย และอำเภอบ้านแหลม)
- ทิศตะวันตก จรดจังหวัดราชบุรี (อำเภอปากท่อ อำเภอวัดเพลง และอำเภอเมืองราชบุรี)
ทรัพยากรน้ำ
[แก้]แหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับน้ำส่วนใหญ่จากแม่น้ำแม่กลอง
- คลองสุนัขหอน เป็นคลองเชื่อมระหว่างแม่น้ำท่าจีนกับแม่น้ำแม่กลอง ไหลผ่านเริ่มจากอำเภอเมืองสมุทรสาคร ออกสู่แม่น้ำแม่กลองที่จังหวัดสมุทรสงคราม
- คลองดำเนินสะดวก ไหลผ่านอำเภอบ้านแพ้ว ผ่านอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี และผ่านอำเภอบางคนที
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
[แก้]- คำขวัญประจำจังหวัด: เมืองหอยหลอด ยอดลิ้นจี่ มีอุทยาน ร.2 แม่กลองไหลผ่าน นมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม
- ตราประจำจังหวัด: รูปกลองลอยน้ำ
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ต้นจิกเล (Barringtonia asiatica)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกจิกเล
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด: หอยหลอดชนิด Solen regularis
- ลักษณะรูปร่างของจังหวัด: ลักษณะรูปร่างของจังหวัดสมุทรสงครามมีรูปร่างคล้ายกับหัวของสมเสร็จ
-
ตราประจำจังหวัดสมุทรสงคราม
-
จิกเล ต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัด
-
หอยหลอดชนิด Solen regularis สัตว์น้ำประจำจังหวัด
การเมืองการปกครอง
[แก้]การแบ่งเขตการปกครอง
[แก้]การปกครองส่วนภูมิภาค
[แก้]การปกครองแบ่งออกเป็น 3 อำเภอ 36 ตำบล 284 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง 6 เทศบาลตำบล 28 องค์การบริหารส่วนตำบล
ลำดับ[# 1] | ชื่ออำเภอ | พื้นที่ (ตร.กม.) |
ห่างจากตัวจังหวัด (ก.ม.)[6] |
ตั้งเมื่อ (พ.ศ.) |
ตำบล [# 2][7] |
หมู่บ้าน [# 3][7] |
ประชากร (คน) [8] |
แผนที่ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 169.0 | - | - | 11 | 87 | 105,453 |
||
2 | 77.5 | 12 | - | 13 | 101 | 31,045
| ||
3 | 170.2 | 7 | - | 12 | 96 | 54,344
|
- ↑ เรียงตามรหัสเขตการปกครองของกรมการปกครอง
- ↑ รวมตำบลในเขตเทศบาลเมืองและเทศบาลนครด้วย
- ↑ เฉพาะหมู่บ้านนอกเขตเทศบาลเมืองและเทศบาลนคร (ทั้งเต็มหมู่และบางส่วน) เท่านั้น สำหรับจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด ให้ดูในบทความของแต่ละอำเภอ
การปกครองส่วนท้องถิ่น
[แก้]จังหวัดสมุทรสงครามมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 36 แห่ง ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง (องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม) เทศบาลเมือง 1 แห่ง (เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม) เทศบาลตำบล 8 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 26 แห่ง[9] โดยมีรายชื่อเทศบาลทั้งหมดในจังหวัดสมุทรสงคราม มีดังนี้
- เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม อำเภอเมืองสมุทรสงคราม
- เทศบาลตำบลบางจะเกร็ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม
- เทศบาลตำบลกระดังงา อำเภอบางคนที
- เทศบาลตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที
- เทศบาลตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที
- เทศบาลตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที
- เทศบาลตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา
- เทศบาลตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา
- เทศบาลตำบลสวนหลวง อำเภออัมพวา
ผู้ว่าราชการเมือง ข้าหลวงประจำจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด
[แก้]- ผู้ว่าราชการเมือง
- พระแม่กลอง (เสม วงศาโรจน์) สมัยกรุงธนบุรี
- พระแม่กลอง (สอน ณ บางช้าง) สมัยรัชกาลที่ 1
- พระแม่กลอง (ตู้ ณ บางช้าง) สมัยรัชกาลที่ 2
- พระแม่กลอง (ทองคำ ณ บางช้าง) สมัยรัชกาลที่ 2
- พระแม่กลอง (นุช วงศาโรจน์) สมัยรัชกาลที่ 3
- พระแม่กลอง (โนรี วงศาโรจน์) สมัยรัชกาลที่ 3
- พระราชพงษานุรักษ์ศิริศักดิ์สมบูรณ์ มนูญอัธยาศัยอภัยพิริยพาหะ (กุน ณ บางช้าง) พ.ศ. 2413 - 2419
- พระราชพงษานุรักษ์ศิริศักดิ์สมบูรณ์ มนูญอัธยาศัยอภัยพิริยพาหะ (ชม บุนนาค) พ.ศ. 2419 - 2437
- พระราชพงษานุรักษ์ศิริศักดิ์สมบูรณ์ มนูญอัธยาศัยอภัยพิริยพาหะ (แฉ่ บุนนาค) พ.ศ. 2438 - 2439
- หลวงอร่ามเรืองฤทธิ์ (ชวน บุนนาค) พ.ศ. 2439 - 2441
- พระยาวรวิไชย (ปลอด บุนนาค) พ.ศ. 2442 - 2443
- ผู้ว่าราชการจังหวัด
- พระยาราชพงษานุรักษ์ (ชาย บุนนาค) พ.ศ. 2443 - 2460
- พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (สิน เทพหัสดิน ณ อยุธยา) พ.ศ. 2460 - 2462
- พระยาบริหารราชการอาณาเขต (เจิม วิเศษรัตน์) พ.ศ. 2462 - 2466
- พระยาวิชิตภักดีศรีสุราษฎร์ธานินทร์ (รอด สาริมาน) พ.ศ. 2466 - 2471
- พระราชญาติรักษา (ประกอบ บุนนาค) พ.ศ. 2471 - 2474
- พระนิกรบดี (จอน สาลิกานนท์) พ.ศ. 2474 - 2477
- หลวงบุเรศบำรุงการ (เจริญ วงศ์ตลาดขวัญ) พ.ศ. 2477 - 2478
- พระบำรุงบุรีราช (วิง สิทธิเทศานนท์) พ.ศ. 2478 - 2479
- หลวงอรรถวิจิตรจรรยารักษ์ (กิมฮ๊อก วงษ์สกุล) พ.ศ. 2479 - 2481
- นายอุดม บุญประกอบ พ.ศ. 2481 - 2482
- หลวงอรรถวิจิตรจรรยารักษ์ (กังวาน วงษ์สกุล) พ.ศ. 2482 - 2484
- ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ (สุวงศ์ วัฏฏสิงห์) พ.ศ. 2484 - 2487
- นายจรัส ธารีสาร พ.ศ. 2487 - 2491
- นายเวศน์ เพชรรานนท์ พ.ศ. 2490 - 2491
- ขุนบริรักษ์บทวสัญช์ (ชุ่ม เธียรพงศ์) พ.ศ. 2491 - 2492
- นายแสวง รุจิรัตน์ พ.ศ. 2492 - 2492
- ขุนอารีราชการัณย์ (ชิต สุมนดิษฐ์) พ.ศ. 2492 - 2493
- นายวิฑูร จักกะพาก พ.ศ. 2493 - 2495
- นายเกษม สุขุม พ.ศ. 2495 - 2497
- นายเจริญ ภมรบุตร 10 ก.ค.2497 – 12 ก.พ.2501
- นายชาติ อภิศลย์ บุญยะรัตน์พันธ์ 17 ก.พ.2501 – 26 เม.ย.2502
- นายกาลัญ อมาตยกุล 18 มิ.ย.2502 – 24 พ.ย.2502
- นายชูสง่า ไชยพันธ์ 25 พ.ย.2502 – 18 ธ.ค.2504
- นายประสิทธิ์ อุไรรัตน์ 19 ธ.ค.2504 – 10 ต.ค.2510
- นายธวัชชัย เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา 11 ต.ค.2510 – 30 ก.ย.2515
- นายชาญ กาญจนาคพันธ์ 1 ต.ค.2515 – 30 ก.ย.2519
- นายพิบูลย์ ธุรภาคพิบูลย์ 1 ต.ค.2519 – 30 ก.ย.2521
- นายเสถียร จันทรจำนง 14 ต.ค.2521 – 23 ส.ค.2522
- นายชัยวัฒน์ หุตะเจริญ 24 ส.ค.2522 – 30 ก.ย.2523
- นายวุฒินันท์ พงศ์อารยะ 1 ต.ค.2523 – 30 ก.ย.2528
- นายบรรโลม ภุชงคกุล 1 ต.ค.2528 – 30 ก.ย.2530
- นายวิธาน สุวรรณทัต 1 ต.ค.2530 – 30 ก.ย.2535
- นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร 1 ต.ค.2535 – 30 ก.ย.2537
- นายประวิทย์ สีห์โสภณ 1 ต.ค.2537 – 30 ก.ย.2539
- นายสุรพล กาญจนะจิตรา 1 ต.ค.2539 – 19 ต.ค.2540
- นายคงศักดิ์ ลิ่วมโนมนต์ 20 ต.ค.2540 – 30 ก.ย.2543
- นายนาวิน ขันธหิรัญ 1 ต.ค.2543 – 30 ก.ย.2544
- นายอัครพงศ์ พยัคฆันตร 1 ต.ค.2544 – 30 ก.ย.2546
- นายวรเกียรติ สมสร้อย 21 เม.ย.2546 – 30 ก.ย.2547
- นายวิชชา ประสานเกลียว 1 ต.ค.2547 – 30 ก.ย.2548
- นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ 1 ต.ค.2548 – 12 พ.ย.2549
- นายวีระยุทธ เอี่ยมอำภา 13 พ.ย.2549 – 30 ก.ย.2550
- ว่าที่ร้อยตรีโอภาส เศวตมณี 1 ต.ค.2550 – 19 ต.ค.2551
- นายประภาศ บุญยินดี 20 ต.ค.2551 – 27 พ.ย.2554
- นายธนน เวชกรกานนท์ 28 พ.ย.2554 – 30 ก.ย.2556
- นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ 1 ต.ค.2556 – 30 ก.ย.2557
- นายปัญญา งานเลิศ 3 พ.ย.2557 – 30 ก.ย.2558
- นางสาวจิตรา พรหมชุติมา 1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2559
- นายคันฉัตร ตันเสถียร 1 ต.ค. 2559 – 30 ก.ย. 2561
- นางสุกานดา วรเชษฐบัญชา 1 ต.ค. 2561 – 30 ก.ย. 2562
- นายชรัส บุญณสะ 1 ต.ค. 2562 – 30 ก.ย. 2564
- นายขจร ศรีชวโนทัย 15 ธ.ค. 2564 – 30 ก.ย. 2565
- นายสมนึก พรหมเขียว 2 ธ.ค. 2565 – 30 ก.ย. 2566
- นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา 17 ธ.ค. 2566 – 30 ก.ย. 2567
- นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ 17 พ.ย. 2567 – ปัจจุบัน
เศรษฐกิจ
[แก้]ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการประมง ส่วนอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตน้ำปลา อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งมีโรงงานทั้งสิ้น 270 โรงงาน ทุนจดทะเบียนรวม 5,068,084,947 บาท จำนวนการจ้างงาน 7,099 คน สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสงครามขยายตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และการประมงเป็นสาขาการผลิตในภาคเกษตรที่ทำรายได้สูงสุดของจังหวัด รองลงมาก็คือ กสิกรรม และการแปรรูปสินค้าเกษตรอย่างง่าย
โครงสร้างพื้นฐาน
[แก้]การขนส่ง
[แก้]ในจังหวัดสมุทรสงครามมีทางหลวงแผ่นดินทั้งหมด 2 สาย ได้แก่ ถนนพระรามที่ 2 หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 สายธนบุรี–ปากท่อ โดยสามารถเดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงสมุทรสงครามโดยใช้ทางหลวงสายนี้ด้วยระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 325 สายบางแพ–สมุทรสงคราม ส่วนการขนส่งทางราง ปัจจุบันมีทางรถไฟสายแม่กลอง ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการสัญจรและขนส่งเสบียงอาหารของประชาชน
และการขนส่งทางน้ำ จังหวัดสมุทรสงครามมีแม่น้ำไหลผ่านทั้ง 3 อำเภอ เป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ออกสู่ปากอ่าวแม่กลอง มีคลองเล็ก ๆ อีกประมาณ 300 คลอง การคมนาคมในจังหวัดจึงใช้เรือเป็นสำคัญ ซึ่งโดยมากได้แก่ เรือยนต์ เรือหางยาว และเรือแจว รวมถึงมีท่าเทียบเรืออีก 7 แห่ง การติดต่อกันระหว่างจังหวัดก็มีทางเรือ คือ
- จังหวัดสมุทรสงคราม – จังหวัดราชบุรี ใช้แม่น้ำแม่กลองเป็นเส้นทางคมนาคม
- จังหวัดสมุทรสงคราม – อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ใช้เส้นทางทะเล
- จังหวัดสมุทรสงคราม – กรุงเทพมหานคร แต่เดิมใช้ลำคลอง เช่น คลองแม่กลอง คลองภาษีเจริญ ฯลฯ ปัจจุบันนิยมใช้เรือเดินทะเลขนส่งสินค้าขึ้นตามแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีเป็นประจำทุกวัน
สาธารณสุข
[แก้]โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า อำเภอเมืองสมุทรสงคราม โรงพยาบาลอัมพวา อำเภออัมพวา โรงพยาบาลนภาลัย อำเภอบางคนที และโรงพยาบาลมหาชัยแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม เป็นต้น
การศึกษา
[แก้]จังหวัดสมุทรสงครามมีสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2553[10] จัดการเรียนการสอนด้านการพัฒนาท้องถิ่น และการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับปริญญาโท นอกจากนี้ยังมี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตสมุทรสงคราม
สถาบันอาชีวศึกษา
- วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม
- วิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรสงคราม
- วิทยาลัยการอาชีพอัมพวา
บุคคลที่มีชื่อเสียง
[แก้]- พระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) – พระราชาคณะเจ้าคณะรอง เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
- พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย – พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี
- สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 1
- สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 2
- ท่านผู้หญิง ศรีรัศมิ์ สุวะดี – อดีตพระวรชายาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
- หลวงประดิษฐไพเราะ – นักดนตรีไทย
- จอมพล ผิน ชุณหะวัณ – บิดาของ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
- ครูเอื้อ สุนทรสนาน – นักแต่งเพลง นักร้อง
- ทูล ทองใจ – นักร้อง
- ศรีไพร ลูกราชบุรี – นักร้องลุกทุ่ง
- ศ.ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ – ศิษย์เอกของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ
- บุญยัง เกตุคง – ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ลิเก)
- ช่วง มูลพินิจ – ศิลปินอิสระ
- ศรคีรี ศรีประจวบ – นักร้องเพลงลูกทุ่ง
- แฝดสยาม อิน-จัน – ฝาแฝดตัวติดกัน
- ยอดกมล เรืองเดช (อาจารย์ยอด) (ชื่อเดิม:ปรีชา) – อดีตนักจัดรายการวิทยุ นักเล่านิทานธรรมะ ทางช่องยูทูบ:อาจารย์ยอด
- อภิเดช ศิษย์หิรัญ – นักมวยไทย
- เปลว สีเงิน – นักหนังสือพิมพ์
- ศรัณยู วงษ์กระจ่าง – นักแสดง พิธีกร ผู้กำกับ
- อุดม ชวนชื่น – ดารา นักแสดง ตลก
- อารีย์ นักดนตรี จันเกษม – ดารา นักแสดง พิธีกร นักร้อง
- วัลลี บุญเส็ง – ดาราภาพยนตร์เพื่อชีวิต
- แคล้ว ธนิกุล – โปรโมเตอร์มวย
- ช.อ้น ณ บางช้าง – นักดนตรีเฮฟวีเมทัล
- อนุสรณ์ คล้ายวิเชียร – นักดนตรี
- จิรากร สมพิทักษ์ – นักดนตรี
- ทองคำ กิ่งมณี – นักกีฬาแบดมินตัน
- ดร.ชำนาญ บัวทวน – ผู้ฝึกสอนแบดมินตันเยาวชนโลก 2 เหรียญทอง
- อรวรรณ นวมศิริ – นักร้องเพลงลูกทุ่ง
- ณัฏฐกันย์ อัมพรพงษ์ – ดารา นักแสดง
- ครรชิต ขวัญประชา – นักแสดง
- ยุคลฉัตร เกษภาษา – นักร้อง นักดนตรี
- บิชอปซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี-ประมุขมิสซังคาทอลิกราชบุรี
สถานที่ท่องเที่ยว
[แก้]- อุทยาน ร.2
- ค่ายบางกุ้ง
- ดอนหอยหลอด
- ตลาดน้ำท่าคา
- วัดบางกะพ้อม
- วัดจุฬามณี[11]
- ตลาดน้ำอัมพวา
- ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนคลองโคน
- พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (วัดอัมพวันเจติยาราม)
- โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ (มูลนิธิชัยพัฒนา)
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_64.pdf[ลิงก์เสีย] 2564. สืบค้น 9 มีนาคม 2565.
- ↑ พม. เผยภาคอีสานครองแชมป์ภาพรวมค่าดัชนีความมั่นคงของมนุษย์สูงสุด 0.7290 ในขณะที่ค่าดัชนีภาพรวมของประเทศ เท่ากับ 0.6924 เก็บถาวร 2011-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
- ↑ http://www.charoenpron.com/banleam_2.htm เก็บถาวร 2010-08-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ประวัติวัดเพชรสมุทรวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
- ↑ 2549, 6 กรกฎาคม). พระราชบัญญัติกำหนดเขตจังหวัดในอ่าวไทยตอนใน พ.ศ. 2502. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <1 เก็บถาวร 2004-05-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน>. (เข้าถึงเมื่อ: 11 มกราคม 2552).
- ↑ กรมทางหลวง. "สอบถามระยะทางระหว่างจังหวัดหรืออำเภอ. เก็บถาวร 2014-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน"
- ↑ 7.0 7.1 ฐานข้อมูลสารสนเทศ ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนนทบุรี. "รายชื่อหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ/กิ่งอำเภอ เทศบาล อบต. และขนาดพื้นที่อำเภอ เทศบาล อบต. ในแต่ละอำเภอ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://203.151.46.31/Chocolate/Program45/A090101.php?id_topic=A0901 เก็บถาวร 2008-09-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 2551. สืบค้น 13 มกราคม 2552.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน รายจังหวัด รายอำเภอ และรายตำบล ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/xstat/p5575_02.html 2555. สืบค้น 23 เมษายน 2556.
- ↑ ข้อมูลจำนวน อปท. แยกรายจังหวัด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
- ↑ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การจัดตั้งสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-03-06. สืบค้นเมื่อ 2021-11-14.