ฟาโรห์ปาดิบาสเตตที่ 3

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เซเฮอร์อูอิบเร ปาดิบาสเทต (อียิปต์โบราณ: shrw-jb-rꜥ pꜣ-dj-bꜣstt) เป็นที่รู้จักกันดีในพระนามภาษากรีกโบราณว่า เปทูบาสทิสที่ 3 (หรือ ที่ 4 โดยขึ้นอยู่กับนักวิชาการ) เป็นผู้ปกครองชาวพื้นเมืองแห่งอียิปต์โบราณ (ทรงปกครองระหว่างประมาณ 522 - 520 ปีก่อนคริสตกาล) ที่ทรงต่อต้านการปกครองของเปอร์เซีย[6]

พระราชประวัติ[แก้]

ฟาโรห์เปทูบาสทิสทรงเป็นผู้ปกครองท้องถิ่น เจ้านาย และอาจจะทรงเป็นสมาชิกของราชวงศ์แห่งซาอิสสายเก่าที่พยายามจะควบคุมอียิปต์และยึดอำนาจ[7] แม้ว่าพระองค์จะปรากฏเป็นพระราชอิสริยยศและตำแหน่งฟาโรห์ แต่พระองค์ก็ทรงเป็นบุคลที่ไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวข้องมากนักและทรงเป็นบุคคลที่คลุมเครือในประวัติศาสตร์อียิปต์[7]

การขุดค้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่อาไมดาในโอเอซิสดัคลาได้ปรากฏหลักฐานที่ว่า ฟาโรห์เปทูบาสทิสอาจจะทรงมีที่ประทับของราชวงศ์ที่นั่น ซึ่งอยู่ห่างจากที่ลุ่มแม่น้ำไนล์พอสมควร ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของเปอร์เซีย ก้อนบล็อกจากวิหารแห่งเทพธอธที่ถูกทำลายที่อาไมดาได้ปรากฏคำจารึกที่เกี่ยวข้องของพระองค์ พร้อมพระนามที่เกือบสมบูรณ์ของพระองค์[5] จากที่อาไมดา ฟาโรห์เปทูบาสทิสอาจจะทรงซุ่มโจมตีและทรงเอาชนะสิ่งที่เรียกว่า "กองทัพที่สาบสูญของแคมไบซีส" ซึ่งเฮโรโดตัสอธิบายในหลายทศวรรษต่อมาว่าเป็นคณะเดินทางทางทหารที่กษัตริย์แคมไบซีสที่ 2 ส่งไปยังสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งเซอุส-อัมมอนในโอเอซิสซีวา ซึ่งถูกพายุทรายพัดกลบไปแล้วนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน ฟาโรห์เปทูบาสทิสก็ทรงเดินทางจะไปถึงเมืองเมมฟิสเพื่อทรงขึ้นครองพระราชบัลลังก์อย่างเป็นทางการในฐานะฟาโรห์ และรับพระนามอิสริยยศที่คล้ายกับราชวงศ์แห่งซาอิสก่อนหน้านี้[5]

ฟาโรห์เปทูบาสทิสอาจจะทรงใช้โอกาสจากการหยุดชะงักที่เกิดจากการแย่งชิงพระราชบัลลังก์เปอร์เซียโดยกษัตริย์บาร์ดิยา หลังจากการสวรรคตของกษัตริย์แคมไบซีสที่ 2 เพื่อก่อการกบฏ[8] ตามคำกล่าวของนายพลชาวกรีกพอลิเอนุสในช่วงศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ผู้ซึ่งเขียนเกี่ยวกับการก่อกบฏดังกล่าวที่ว่าการเก็บภาษีอย่างกดขี่โดยอารยันดิส ซึ่งเป็นผู้ว่าการมณฑลของเปอร์เซียในขณะนั้น ซึ่งนำไปสู่การก่อกบฏ

จารึกแห่งเบฮิสตูน ซึ่งได้บันทึกข้อมูลเชิงลึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ได้กล่าวถึงการก่อกบฏในอียิปต์ ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับการก่อกบฏอื่น ๆ ในภาคตะวันออกของจักรวรรดิเปอร์เซีย กษัตริย์ดาริอุสที่ 1 ผู้ซึ่งโปรดให้บันทึกจารึกแห่งเบฮิสตูนขึ้น ซึ่งไม่ได้ลงรายละเอียดใด ๆ เกี่ยวกับวิธีการที่พระองค์ทรงจัดการกับการก่อกบฏในอียิปต์ ส่วนพอลิเอนุสได้บันทึกไว้ว่า กษัตริย์ดาริอุสทรงเดินทางไปยังอียิปต์ เพื่อปราบปรามการก่อกบฏ และเดินทางเข้าสู่เมืองเมมฟิสในช่วงไว้ทุกข์การสิ้นพระชนม์ของพระโคอาพิส โดยที่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ทรงสัญญาเล่ห์เหลี่ยมด้วยทองคำหนึ่งร้อยตะลันต์สำหรับผู้ที่สรรหาพระโคอาพิสพระองค์ใหม่ ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับชาวพื้นเมืองจนถึงจุดที่ชาวพื้นเมืองย้ายไปอยู่เคียงข้างพระองค์[9] และชี้ให้เห็นว่าการก่อกบฏยังไม่ยุติลงเมื่อกษัตริย์ดาริอุสมาถึงอียิปต์ในช่วง 518 ปีก่อนคริสตกาล[5]

ในที่สุด ฟาโรห์เปทูบาสทิสก็ทรงพ่ายแพ้ให้กับกษัตริย์ดาริอุส ซึ่งต่อมาได้ควบคุมโอเอซิสตะวันตกโดยเริ่มดำเนินการทางทหารอย่างแข็งขันที่นั่น (ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ วิหารแห่งฮิบิสที่โอเอซิสคาร์กา) ในเวลาเดียวกัน พระองค์จะทรงทำลายหลักฐานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เกี่ยวกับฟาโรห์เปทูบาสทิสและการก่อกบฏของพระองค์ รวมทั้งวิหารที่อัมไฮดาและชะตากรรมที่แท้จริงของกองทัพแคมไบซีสที่สูญหายไป[5]

หลักฐานยืนยัน[แก้]

ก่อนที่จะมีการค้นพบก้อนบล็อกหลายบล็อกที่อ้างถึงพระองค์ในโอเอซิสดัคลา[5] การมีอยู่ของผู้ปกครองกบฏที่คลุมเครือพระองค์นี้ได้รับการยืนยันโดยคำจารึกที่พบในตราประทับสองชิ้นและตราประทับสคารับหนึ่งชิ้นที่ปรากฏพระนามของพระองค์ ซึ่งเขียนในคาร์ทูช[5] รูปสลักพระองค์ของพระองค์ปรากฏบนวงกบประตู ซึ่งครั้งหนึ่งเคยปิดด้วยทองคำเปลว ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และแผ่นกระดานสี่เหลี่ยมที่กรุไม้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในโบโลญญา (เคเอส 289)[1] นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่ระบุช่วงเวลาย้อนไปถึงช่วง 522 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นปีแรกในรัชสมัยของพระองค์ด้วย[7]

ดูเพิ่ม[แก้]

  • พซัมเมติคัสที่ 4 – ผู้ปกครองอียิปต์ซึ่งก่อกบฏต่อการปกครองของจักรวรรดิอะคีเมนิดในช่วง 480 ปีก่อนคริสตกาล
  • อินารอสที่ 2 – ผู้ปกครองชาวอียิปต์อีกพระองค์ที่กบฏต่อการปกครองของจักรวรรดิอะคีเมนิดในช่วง 460 ปีก่อนคริสตกาล

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Jean Yoyotte: Pétoubastis III, Revue d'Egyptologie 24 (1972): pp. 216-223, plate 19
  2. จัดให้อยู่ในราชวงศ์นี้ด้วยเหตุผลตามลำดับเวลาเท่านั้น เนื่องจากพระองค์ทรงไม่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์อะคีเมนิด
  3. 3.0 3.1 "Ancient Egypt: History and Chronology, 27th dynasty".
  4. Hermann Ranke: Die ägyptischen Personennamen. Verlag von J. J. Augustin in Glückstadt, 1935, p.123
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 5.7 Kaper, Olaf E. (2015). "Petubastis IV in the Dakhla Oasis: New Evidence about an Early Rebellion against Persian Rule and Its Suppression in Political Memory". ใน Silverman, Jason M.; Waerzeggers, Caroline (บ.ก.). Political memory in and after the Persian empire (SLB monograph, no. 13). Society of Biblical Literature. pp. 125–149. ISBN 978-0-88414-089-4.
  6. "Ancient Egypt: History and Chronology, 27th dynasty".
  7. 7.0 7.1 7.2 Eiddon Stephen Edwards, The Cambridge Ancient History, Cambridge University Press, 2005, p 262
  8. Clayton,P, Chronicle of the Pharaohs, Thames & Hudson, 2006
  9. Polyaenus, Stratagems VII, 11 §7.