ฟาโรห์นุบเนเฟอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

นุบเนเฟอร์ เป็นพระนามประสูติของกษัตริย์ (ฟาโรห์) ที่อาจจะทรงปกครองในช่วงราชวงศ์ที่สองแห่งอียิปต์โบราณ ไม่ทราบระยะเวลาที่แน่นอนในการครองราชย์ของพระองค์และตำแหน่งตามลำดับเวลาของพระองค์ก็ยังไม่ชัดเจน

ที่มาของพระนาม[แก้]

พระนาม "นุบเนเฟอร์" ปรากฏอยู่เศษภาชนะหินสีดำสองชิ้นที่พบในห้องชุดใต้ในสุสานของฟาโรห์ดโจเซอร์ (ราชวงศ์ที่สาม) ที่ซักกอเราะฮ์ โดยกล่าวถึงโครงสร้างอาคารที่มีนามว่า "เมนติ-อังค์" ("ชีวิตอาจจะยืนยง") ซึ่งก่อสร้างขึ้นในรัชสมัยของฟาโรห์นิเนทเจอร์ ดังนั้น นักไอยคุปต์วิทยา เช่น ปีเตอร์ คาพลอนี, โจเชม คาห์ล และฟรานเซสโก ทิราดริตติ จึงเชื่อว่ารัชสมัยของฟาโรห์นุบเนเฟอร์ ควรจะเรียงตามลำดับเวลาให้ใกล้เคียงกับรัชสมัยของฟาโรห์นิเนทเจอร์ พระนามของนุบเนเฟอร์ไม่ปรากฏในเอกสารร่วมสมัยหรือเอกสารหลังจากการสวรรคตของพระองค์ใดอีก[1][2]

การระบุตัวตน[แก้]

นักไอยคุปต์วิทยา เช่น แบตทิสคอมเบ กันน์ และไอ. อี. เอส. เอ็ดเวิร์ดส์ เชื่อว่าพระนาม "นุบเนเฟอร์" อาจจะเป็นพระนามประสูติของฟาโรห์ราเนบ แต่ในทางตรงกันข้าม นักไอยคุปต์วิทยาอย่างว็อล์ฟกัง เฮ็ลท์ค และโทบี วิลกินสัน คิดว่า ฟาโรห์นุบเนเฟอร์ ทรงเป็นผู้สืบทอดพระราชบัลลังก์โดยตรงของฟาโรห์นิเนทเจอร์ ส่วนปีเตอร์ คาพลอนี ได้ระบุว่า ฟาโรห์นุบเนเฟอร์ทรงเป็นฟาโรห์ที่ทรงปกครองระหว่างรัชสมัยของฟาโรห์วัดจ์เนสและรัชสมัยของฟาโรห์เซเนดจ์[1][3][4][5]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Peter Kaplony: A building named Menti-Ankh. In: Mitteilungen des Deutschen Archäologischen Instituts Kairo, vol. 20. Deutsches Archäologisches Institut, Orient-Abteilung (Hrsg.). de Gruyter, Berlin 1965, page 41–46.
  2. Pierre Lacau & Jan-Phillip Lauer: La Pyramide à Degrés IV. – Inscriptions gravées sur les Vases: Fouilles à Saqqarah. Service des antiquités de l’Égypte, Cairo 1936, Table IV.
  3. I. E. S. Edwards: The early dynastic period in Egypt; Cambridge University Press, Cambridge 1964; page 25.
  4. And egyptologist Wolfgang Helck: Datierungen der Gefäßaufschriften aus der Djoser-Pyramide. In: Zeitschrift für ägyptische Sprache und Altertum, vol. 106. Akademie-Verlag, Berlin 1979, page 120–132.
  5. Toby Wilkinson: Early Dynastic Egypt: Strategy, Society and Security. Routledge, London 1999, ISBN 0-415-18633-1, page 89.