ศุภรักษ์ ควรหา
นายศุภรักษ์ ควรหา | |
---|---|
![]() | |
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี | |
ดำรงตำแหน่ง 30 ธันวาคม พ.ศ. 2551 – 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 | |
นายกรัฐมนตรี | นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 กันยายน พ.ศ. 2502 (60 ปี) จังหวัดระยอง ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ชาติไทยพัฒนา |
คู่สมรส | นางกนกกาญจน์ ควรหา |
ศาสนา | พุทธ |
นายศุภรักษ์ ควรหา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุรินทร์ พรรคไทยรักไทย
เนื้อหา
ประวัติ[แก้]
นายศุภรักษ์ ควรหา เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2502 (60 ปี) ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เป็นบุตรคนที่ 2 ของนายปราราภ์ ควรหา และนางชื่น ควรหา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเคมี จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางเขน สมรสกับนางกนกกาญจน์ ควรหา สมาชิกวุฒิสภา ปี พ.ศ. 2549 (เป็นโมฆะ)
การทำงาน[แก้]
นายศุภรักษ์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุรินทร์ ในปี พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2548 ภายหลังการยุบพรรคไทยรักไทย จึงย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน และได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ต่อมาได้รับตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และได้ลาออกในเวลาต่อมา [1]
การลาออกจากตำแหน่ง[แก้]
นายศุภรักษ์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ภายหลังจากการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ โดยสาเหตุที่ลาออกไม่ได้มาจากเหตุผลทางการเมืองแต่อย่างใด เพียงแต่ตนต้องการใช้เวลาไปดูแลภรรยา[2] และที่ผ่านมาก็มีปัญหาในการเดินทางมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลมาก จนไม่ได้ประชุมคณะกรรมการหลายชุด
การเลือกตั้งซ่อมเดือนธันวาคม 2553[แก้]
ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. จังหวัดสุรินทร์ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2553 เพื่อแทนตำแหน่งที่ว่างหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้ ส.ส. จำนวน 6 คน พ้นสมาชิกสภาพ โดยนายศุภรักษ์ ควรหา ได้รับการคัดเลือกจากพรรคภูมิใจไทย ให้ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสุรินทร์ และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนั้น[3]
การเลือกตั้ง พ.ศ. 2557[แก้]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์ เขต 8 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2553 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม.)[4]
- พ.ศ. 2547 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[5]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้าราชการการเมืองลาออกจากราชการ
- ↑ "ศุภรักษ์ ควรหา"พรรคพผ. ลาออกรองโฆษกรัฐบาล อ้างเหตุผลไปดูแลภรรยา ยันไม่เกี่ยวการเมือง
- ↑ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งซ่อมส.ส.3จังหวัด
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2553
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยิ่งมงกุฎไทย [ในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๔๗ รวม ๗,๒๕๖ ราย]
|
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2502
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากจังหวัดระยอง
- บุคคลจากจังหวัดสุรินทร์
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุรินทร์
- พรรคไทยรักไทย
- พรรคเพื่อแผ่นดิน
- พรรคภูมิใจไทย
- พรรคชาติไทยพัฒนา
- บุคคลจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.