พระธรรมมุนี (แพ เขมงฺกโร)
พระธรรมมุนี (แพ เขมงฺกโร) | |
---|---|
คำนำหน้าชื่อ | พระเดชพระคุณ |
ชื่ออื่น | หลวงพ่อแพ |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 1 มกราคม พ.ศ. 2448 (94 ปี 40 วัน ปี) |
มรณภาพ | 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | เปรียญธรรม 4 ประโยค |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี |
บรรพชา | 15 เมษายน พ.ศ. 2463 |
อุปสมบท | 21 เมษายน พ.ศ. 2469 |
พรรษา | 73 |
ตำแหน่ง | เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี |
พระธรรมมุนี นามเดิม แพ ใจมั่นคง ฉายา เขมงฺกโร เป็นเกจิอาจารย์และพระราชาคณะชั้นธรรมฝ่ายมหานิกาย อดีตเจ้าอาวาสวัดพิกุลทองและเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี
ประวัติ[แก้]
หลวงพ่อแพ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2448 ณ บ้านสวนกล้วย ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบุตรของนายเทียนและนางหน่าย ใจมั่นคง เมื่ออายุได้ 8 เดือน มารดาถึงแก่กรรม นายบุญและนางเพียร ขำวิบูลย์ จึงรับไปเป็นบุตรบุญธรรม เมื่ออายุได้ 11 ปี ท่านมาศึกษาอักษรขอมกับพระอาจารย์สมที่วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร จนอายุ 16 ปีจึงกลับสิงห์บุรีเพื่อบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพิกุลทอง แล้วกลับมาศึกษาพระปริยัติธรรมต่อที่วัดชนะสงคราม จนสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค แต่ตาอักเสบเนื่องจากหักโหมดูหนังสือ จึงหันไปศึกษากรรมฐานที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร แล้วอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2469 โดยมีพระมงคลทิพมุนี (มุ้ย ปณฑิโต) เจ้าอาวาสวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสิทธิเดช วัดชนะสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และเจ้าอธิการอ่อน วัดจำปาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "เขมงฺกโร" แล้วกลับไปจำพรรษาที่วัดชนะสงคราม[1]
พ.ศ. 2474 ท่านรับนิมนต์จากชาวบ้านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทองแทนเจ้าอาวาสรูปเดิมที่ลาสิกขา ระหว่างดำรงตำแหน่งท่านมีชื่อเสียงจากการสร้างพระเครื่องหลายรุ่น และได้พัฒนาวัดและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์หลายประการ เช่น สร้างโรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีอนามัย โรงเรียน สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นต้น[2]
หลวงพ่อแพมรณภาพเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 สิริอายุได้ 94 ปี 40 วัน
สมณศักดิ์[แก้]
- พ.ศ. 2484 เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูศรีพรหมโสภิต[3]
- พ.ศ. 2515 เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
- พ.ศ. 2521 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุนทรธรรมภาณี[4]
- พ.ศ. 2530 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสิงหคณาจารย์ พิศาลมงคลกิจ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]
- 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โปรดตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพสิงหบุราจารย์ ไพศาลสิทธิมงคล วิมลศาสนกิจจาทร ธรรมิกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[6]
- 10 มิถุนายน พ.ศ. 2539 ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 โปรดตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมมุนี สุทธศีลาจาร ไพศาลประชานารถ โอภาสศาสนกิจจาทร มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[7]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ราม วัชรประดิษฐ์ (14 มกราคม 2562). "หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง : พันธ์ุแท้พระเครื่อง". ข่าวสด. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
- ↑ ราม วัชรประดิษฐ์ (15 เมษายน 2563). "หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย อริยสงฆ์ผู้เปี่ยมเมตตาแห่งสิงห์บุรี". สยามรัฐ. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
- ↑ "แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 58 (0 ง): 501. 11 มีนาคม 2484. สืบค้นเมื่อ 2021-01-18.
- ↑ "แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 97 (60 ง ฉบับพิเศษ): 11. 16 เมษายน 2523. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
- ↑ "ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 104 (253 ง ฉบับพิเศษ): 8. 5 ธันวาคม 2530. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
- ↑ "ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 109 (101 ง ฉบับพิเศษ): 4. 12 สิงหาคม 2535. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
- ↑ "ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 113 (10 ข): 6. 7 มิถุนายน 2539. สืบค้นเมื่อ 2020-11-13.
ก่อนหน้า | พระธรรมมุนี (แพ เขมงฺกโร) | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระพรหมโมลี (ทองสุข สุนฺทราจาโร) | เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี |
พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) |