ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี"
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Rameshe999 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{กล่องข้อมูล ผู้นำประเทศ |
{{กล่องข้อมูล ผู้นำประเทศ |
||
| name = อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี |
| name = อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี |
||
| image =Atthawit 2012.jpg |
|||
| image =นายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ในการประชุม หัวข้อ "อน - Flickr - Abhisit Vejjajiva (20).jpg |
|||
| imagesize = 250 px |
| imagesize = 250 px |
||
| order = |
| order = |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:13, 30 ธันวาคม 2564
อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี | |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 26 มีนาคม พ.ศ. 2521 |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | กล้า |
คู่สมรส | พิณ สุวรรณภักดี |
ชื่อเล่น | เอ๋ |
อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เป็นนัการเมืองชาวไทย เป็นเลขาธิการพรรคกล้า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร ประธานกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย กรรมการสภาสถาบันพระปกเกล้า และอดีตคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์
ประวัติ
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เกิดวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2521 ชื่อเล่น เอ๋[1] เป็นบุตรของนายสมพงศ์ สุวรรณภักดี อดีตอัยการ กับนางภคินี สุวรรณภักดี อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารมหานคร ซึ่งเคยถูกกล่าวหาในคดีทุจริตการปล่อยสินเชื่อของธนาคารมหานคร ต่อมาศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าไม่มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์[2]
นายอรรถวิชช์ สมรสกับ พิณ สุวรรณภักดี (สกุลเดิม บูรพชัยศรี) มีบุตร 2 คน
นายอรรถวิชช์ มีงานอดิเรกคือ การสะสมรถโบราณ โดยได้ดำรงตำแหน่งเป็น เลขาธิการสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย และเป็นเลขาธิการที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย[3] นอกจากนี้แล้วยังมีค่ายมวยเป็นของตัวเอง ชื่อ "ส.สุวรรณภักดี" ที่มีนักมวยในสังกัดเป็นแชมเปี้ยนของเวทีมวยลุมพินีในรุ่นแบนตั้มเวต (118 ปอนด์) คือ ขวานเพชร ส.สุวรรณภักดี[4]
การศึกษา
อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รุ่น 75 ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รุ่นรหัส 38 และปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต สาขากฎหมายการเงินการธนาคาร มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้น เขายังผ่านการศึกษาอบรมอีกหลายหลักสูตร อาทิ ประกาศนียบัตรผู้ผ่านการฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ ประกาศนียบัตรแนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการความขัดแย้งด้านนโยบายสาธารณะโดยสันติวิธี ประกาศนียบัตรชั้นสูงหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง สถาบันพระปกเกล้า ประกาศนียบัตร หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงสถาบันวิทยาการตลาดทุน ประกาศนียบัตร หลักสูตรการพัฒนากรรมการบริษัทมืออาชีพ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) DCP รุ่น107 ประกาศนียบัตร หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง มหานคร รุ่น 3 ประกาศนียบัตร หลักสูตรนักบริหารระดับสูง “ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม” นมธ.รุ่น1
นายอรรถวิชช์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคได้แนะนำให้ไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท จนสำเร็จการศึกษาในสาขากฎหมายการเงินการธนาคารจาก มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกกับพรรคประชาธิปัตย์จนได้รับการเลือกตั้งในเวลาต่อมา
การทำงาน
ส่วนนี้ไม่มีการอ้างอิงจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูล โปรดช่วยพัฒนาส่วนนี้โดยเพิ่มแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก |
นายอรรถวิชช์ เคยรับราชการสังกัดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง มีผลงานเด่นหลายเรื่อง อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ภาคประชาชน การกำกับดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลให้อยู่ในระดับร้อยละ 28 ต่อปี ซึ่งโดยมากในยุคนั้น สินเชื่อส่วนบุคคล เช่น บัตรอิออน และแคปปิตอล โอเค จะคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง และการควบรวมกิจการบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม ธนาคารทหารไทย และธนาคารดีบีเอสไทยทนุ รวมถึงงานร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน การธนาคาร หลายฉบับ
พ.ศ. 2551 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 4 คือ เขตจตุจักร, บางซื่อ, หลักสี่ ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยร่วมทีมกับนายบุญยอด สุขถิ่นไทย และนายสกลธี ภัททิยกุล สามารถชนะเลือกตั้งแบบยกทีม
พ.ศ. 2554 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ได้รับเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร เขต 9 คือ จตุจักร
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง
ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563 นายอรรถวิชช์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563 เพื่อไปร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่กับนาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรคที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาแล้วก่อนหน้านั้นโดยได้กราบลานาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นายอรรถวิชช์ให้ความเคารพนับถือเมื่อวันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563 [5]
โดยในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เวลา 9.30 น. นายอรรถวิชช์ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรณ์พร้อมผู้ร่วมก่อตั้ง 5 คนจะได้เดินทางไปยัง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อยื่นจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ [6]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2556 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[7]
- พ.ศ. 2553 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[8]
อ้างอิง
- ↑ "ข้อมูล ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-07-14. สืบค้นเมื่อ 2010-07-03.
- ↑ แม่ สส.อรรถวิชช์ เค้ารอดคดี 4100 ล้าน ยังไงบ้างครับ
- ↑ คบเด็กฯ : อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กับงานชุบชีวิตรถโบราณ[ลิงก์เสีย]
- ↑ อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี - ปชป
- ↑ 'อรรถวิชช์'ลาปชป.อีกราย!เผยตกลงกับ'กรณ์'ทำงานการเมืองแบบ'ถึงไหนถึงกัน'
- ↑ "กรณ์"ถือฤกษ์10โมงครึ่ง14ก.พ.เปิดชื่อพรรคที่มี"พยางค์เดียว"
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๖
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี 2553
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ นายอรรถวิชช์ เก็บถาวร 2019-09-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- บทสัมภาษณ์นายอรรถวิชช์ ในรายการ ThaisWatchTV
- ข้อมูลเพิ่มเติม
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2521
- ข้าราชการพลเรือนชาวไทย
- นักกฎหมายชาวไทย
- นักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร
- พรรคประชาธิปัตย์
- พรรคกล้า
- บุคคลจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- บุคคลจากมหาวิทยาลัยบอสตัน
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- นักการเมืองที่เป็นแนวร่วมกปปส.
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์