เตียวเลี้ยว
เตียวเลี้ยว | |
---|---|
張遼 | |
ภาพวาดเตียวเลี้ยวในสมัยราชวงศ์ชิง | |
ขุนพลฝ่ายหน้า (前將軍) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 220 – ค.ศ. 222 | |
กษัตริย์ | โจผี |
ขุนพลโจมตีภาคตะวันออก (征東將軍) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 215 – ค.ศ. 220 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ |
ขุนพลปราบโจร (盪寇將軍) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 205 – ค.ศ. 215 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
หัวหน้ารัฐบาล | โจโฉ (ตั้งแต่ ค.ศ. 208) |
นายกองทหารม้า (騎都尉) (ภายใต้ลิโป้) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. 192 – ค.ศ. 198 | |
กษัตริย์ | พระเจ้าเหี้ยนเต้ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ค.ศ. 169[a] Shuocheng District Shuozhou มณฑลส่านซี |
เสียชีวิต | ปลาย ค.ศ. 222 (53 ปี)[a] อำเภอเจียงตู หยางโจว มณฑลเจียงซู |
บุตร |
|
อาชีพ | ขุนพล |
ชื่อรอง | เหวินยฺเหวียน (文遠) |
ชื่อหลังเสียชีวิต | กังโหว (剛侯) |
ตำแหน่ง | จิ้นหยางโหว (晉陽侯) |
เตียวเลี้ยว (ค.ศ. 169 – ปลาย ค.ศ. 222)[a][6] ชื่อรอง เหวินยฺเหวียน เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก ขุนพลคนสำคัญของโจโฉ เดิมอยู่รับใช้ลิโป้ ต่อมาลิโป้ถูกจับได้ที่เมืองแห้ฝือถูกประหาร ส่วนเตียวเลี้ยวโจโฉเกลี้ยกล่อมให้มาร่วมงานด้วย และเป็นบุคคลที่กวนอูให้ความเคารพนับถือ เพราะนับถือในความซื่อสัตย์และฝีมือ ทั้ง ๆ ที่อยู่คนละฝ่ายกัน ซึ่งเตียวเลี้ยวเป็นคนที่อาสาโจโฉไปเกลี้ยกล่อมกวนอูขณะที่แตกทัพให้มาอาศัยอยู่ชั่วคราวกับโจโฉนั่นเอง
ตันซิ่ว ผู้เขียนจดหมายเหตุสามก๊ก จัดให้เตียวเลี้ยวเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือแห่งวุยก๊ก ร่วมกับอิกิ๋ม เตียวคับ งักจิ้น และซิหลง[7]
ประวัติ
[แก้]เตียวเลี้ยวเป็นขุนพลที่มีความชำนาญทั้งในพิชัยสงคราม กลศึก การรบบนหลังม้า จึงมักได้รับหน้าที่ภาระสำคัญจากโจโฉเสมอ ๆ แม้จะเป็นขุนพลผู้มาสวามิภักดิ์ภายหลัง เช่นการรักษาเมืองหับป๋า ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการรบกับซุนกวน ซึ่งเตียวเลี้ยวก็สามารถทำหน้าที่ได้ดี นอกจากจะรักษาฐานที่มั่นไว้ได้โดยตลอดแล้ว ยังสามารถเป็นฝ่ายรุก รบชนะทัพง่อหลายครั้ง จนเกือบจะจับเป็นซุนกวนได้ จึงเป็นขุนพลที่ทางง่อก๊กขยาดในฝีมือ ถึงกับมีคำกล่าวว่า
เด็ก ๆ เมืองง่อนั้นหากกำลังร้องไห้ แม้เพียงได้ยินชื่อเตียวเลี้ยวเป็นต้องหยุดร้อง
เตียวเลี้ยวมีตำแหน่งเป็นหนึ่งในห้าทหารเสือของวุยก๊ก (เตียวเลี้ยว, เตียวคับ, งักจิ้น, ซิหลง และอิกิ๋ม) เตียวเลี้ยวเสียชีวิตลงเพราะโดนลูกธนูยิงเมื่อโจผีบุกง่อก๊ก หลังจากโจผีทราบถึงการเสียชีวิตของเตียวเลี้ยวก็จัดพิธีศพอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ
ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์แตกต่างจากวรรณกรรมอยู่พอสมควร จดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่วระบุว่า หลังจากพระเจ้าโจผีขึ้นครองราชย์แล้ว ซุนกวนเป็นฝ่ายยกทัพมารุกรานวุยก๊ก (ไม่ใช่โจผียกไป) เตียวเลี้ยวจึงถูกส่งตัวมาประจำการ ณ หับป๋าอีกครั้ง และเขาก็เอาชนะทัพง่อได้เป็นครั้งที่สอง ทำให้โจผีชื่นชมมาก จึงได้เพิ่มบรรดาศักดิ์และมอบเกียรติยศให้มากมาย ถึงขนาดได้กล่าวเปรียบเทียบเขากับ “ซ่าวหู่” ยอดนักรบในสมัยราชวงศ์โจว
จากนั้นไม่นานเตียวเลี้ยวก็ล้มป่วย พระเจ้าโจผีจึงส่งแพทย์หลวงประจำราชสำนักไปรักษาอาการ ทั้งยังเสด็จไปเยี่ยมเตียวเลี้ยวเป็นการส่วนตัวและเสวยอาหารร่วมกับเขาอย่างไม่ถือตัว จนอาการของเตียวเลี้ยวดีขึ้น แต่เมื่อผ่านไปไม่นานนักซุนกวนก็ตั้งทัพหมายจะรุกรานวุยก๊กอีกครั้ง พระเจ้าโจผีจึงให้เตียวเลี้ยวไปรับศึกร่วมกับโจฮิว เมื่อครั้นสองฝ่ายประจันหน้ากันที่แม่น้ำแยงซี ซุนกวนซึ่งเคยแพ้เตียวเลี้ยวมาหลายครั้งหลายหนถึงกับกล่าวว่า
“แม้แต่อาการป่วย ยังไม่สามารถหยุดยั้งเตียวเลี้ยวได้ พวกเราต้องระวังให้ดี”
และแม้จะไม่ได้รบกับซุนกวนอีก แต่เตียวเลี้ยวก็สามารถนำทัพเอาชนะลิห้อมแห่งกังตั๋งได้ในปีเดียวกันนั้นซึ่งถือเป็นชัยชนะเหนือง่อก๊กรอบที่สาม อย่างไรก็ตาม เตียวเลี้ยวก็ล้มป่วยลงอีกครั้งและเสียชีวิตอันแตกต่างจากในวรรณกรรมสามก๊ก
ทั้งนี้ เตียวเลี้ยวถือเป็นหนึ่งในยอดนายทหารยุคสามก๊กที่นับได้ว่ามีความเก่งกาจและมีสติปัญญา เขาได้รับการยกย่องจากเฉินโซ่ว ผู้บันทึกจดหมายเหตุสามก๊กให้เป็น “ขุนพลอันดับหนึ่ง” ในบรรดาห้าทหารเอกแห่งวุยก๊ก อันประกอบด้วย เตียวเลี้ยว เตียวคับ ซิหลง งักจิ้น และอิกิ๋ม
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 ชีวประวัติของเตียวเลี้ยวใน ซันกั๋วจื้อ บันทึกว่า ตอนที่ได้รับแต่งตั้งเป็นหลู่กั๋วเซียง (魯國相) หลังตามลิโป้ไปที่ชีจิ๋ว เขามีอายุ 28 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก)[1] แม้ว่าตามเทคนิคเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของลิโป้ เตียวเลี้ยวเป็นอิสระจากลิโป้อย่างเป็นทางการ เนื่องจากในเวลานั้นเขาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองในเป่ย์ตี๋[2][3] เนื่องจากรัฐหลู่เป็นรัฐระดับจฺวิ้นในชีจิ๋ว ลิโป้ต้องมีอำนาจในมณฑลนี้ก่อนที่เขาจะแต่งตั้งใครสักคนเป็นข้อราชการในพื้นที่มณฑล ลิโป้ยึดครองมณฑลชีจิ๋วจากเล่าปี่ใน ค.ศ. 196[4] ดังนั้น เตียวเลี้ยวน่าจะได้รับแต่งตั้งในปีนั้นมากที่สุด เมื่อนำมาคำนวณแล้ว ถ้าเตียวเลี้ยวอีกอายุ 28 ปี (ตามการนับอายุแบบเอเชียตะวันออก) ใน ค.ศ. 196 ปีเกิดของเขาจึงอยู่ในช่วง ค.ศ. 169 ชีวประวัติของเตียวเลี้ยวใน ซานกั๋วจื้อ บันทึกว่าเขาเสียชีวิตในปีเดียวกันหลังกองทัพพ่ายแพ้ต่อลิห้อม ขุนศึกง่อก๊ก ในยุทธการที่ต๋งเค้าช่วงปลาย ค.ศ. 222[5] เนื่องจากเตียวเลี้ยวเสียชีวิตใน ค.ศ. 222 และเกิดใน ค.ศ. 169 เขาจึงมีอายุประมาณ 53 ปีในตอนที่เสียชีวิต
อ้างอิง
[แก้]- ↑ (布為李傕所敗,從布東奔徐州,領魯相,時年二十八。) Sanguozhi vol. 17.
- ↑ "方詩銘《三國人物散論》:從史籍留下的記載,至少可以知道,在擺脱涼州軍控制後逐漸形成的幷州軍事集團,包括了呂布、張遼、張楊等三支武裝力量。".
{{cite web}}
:|url=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ "三國人物散論:上海古籍出版社".
{{cite web}}
:|url=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ Sima (1084), vol. 62.
- ↑ (是歲,遼與諸將破權將呂範。遼病篤,遂薨於江都。) Sanguozhi vol. 17.
- ↑ de Crespigny (2007), p. 1063.
- ↑ (評曰:太祖建茲武功,而時之良將,五子為先。于禁最號毅重,然弗克其終。張郃以巧變為稱,樂進以驍果顯名,而鑒其行事,未副所聞。或注記有遺漏,未如張遼、徐晃之備詳也。) Sanguozhi vol. 17.
- ตันซิ่ว (คริสต์ศตวรรษที่ 3). จดหมายเหตุสามก๊ก (ซันกั๋วจื้อ).
- de Crespigny, Rafe (2007). A Biographical Dictionary of Later Han to the Three Kingdoms 23-220 AD. Leiden: Brill. ISBN 9789004156050.
- ล่อกวนตง (คริสต์ศตวรรษที่ 14). สามก๊ก (Sanguo Yanyi).
- เผย์ ซงจือ (คริสต์ศตวรรษที่ 5). อรรถาธิบายจดหมายเหตุสามก๊ก (ซันกั๋วจื้อจู้).
- Sima, Guang (1084). จือจื้อทงเจี้ยน.