ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
พระอัจฉริยภาพ ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว การแก้ไขแบบเห็นภาพ |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 17: | ||
| dynasty = [[ราชวงศ์จักรี|จักรี]] |
| dynasty = [[ราชวงศ์จักรี|จักรี]] |
||
}} |
}} |
||
'''สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส'''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2453/D/2562.PDF พระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเศก สมเด็จพระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส], เล่ม 27, ตอน 0 ง , 28 มกราคม พ.ศ. 2453, หน้า 2562</ref> (11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 – 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396) พระนามเดิม '''พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี''' เป็น[[สมเด็จพระสังฆราชไทย]]พระองค์ที่ 7 แห่ง[[อาณาจักรรัตนโกสินทร์ (สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์)]] และเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่ทรงได้รับสถาปนาให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช นอกจากนี้ยังเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกที่ประสูติในสมัยรัตนโกสินทร์ ทรงสถิต ณ [[วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร]] ในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ดำรงสมณศักดิ์เมื่อปี พ.ศ. 2394 ถึงปี พ.ศ. 2396 รวม 2 ปี สิ้นพระชนม์เมื่อพระชันษาได้ {{อายุปีและวัน|2333|12|11|2396|12|9}} |
|||
== พระประวัติ == |
|||
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ใน[[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช]] ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจุ้ย (ต่อมาได้เลื่อนยศเป็น[[ท้าวทรงกันดาล]]) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 มีพระนามว่า '''พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี''' ผนวชเป็น[[สามเณร]]เมื่อพระชันษาได้ 12 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2345 ผนวชเป็นพระ[[ภิกษุ]] แล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงศึกษาหนังสือไทยและภาษาบาลีตลอดทั้งวิชาอื่น ๆ จาก[[สมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน]] จนมีพระปรีชาสามารถ ทั้งทางคดีโลก และคดีธรรม มีผลงานอันเป็นพระราชนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก |
|||
ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระองค์ทรงให้รวมวัดในแขวง[[กรุงเทพมหานคร]] ขึ้นเป็นคณะหนึ่งเรียกว่า คณะกลาง แล้วได้สถาปนากรมหมื่นนุชิตชิโนรสให้ดำรงสมณศักดิ์เสมอ[[พระราชาคณะเจ้าคณะรอง]] และทรงตั้งเป็นเจ้าคณะกลาง |
|||
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นนุชิตชิโนรส ขึ้นเป็น ''สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัตติยวงศบรมพงศาธิบดี จักรีบรมนารถ ปฐมพันธุมหาราชวรังกูร ปรเมนทรเรนทรสูริย์สัมมานาภิสักกาโรดมสถาร อริยสมศีลาจารพิเศษมหาวิมล มงคลธรรมเจดีย์ ยุตมุตวาทีสุวิรมนุญ อดุลยคุณคณาธาร มโหฬารเมตยาภิธยาศรัย ไตรปิฎกกลาโกสล เบญจปดลเศวตฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาสมณุตมาภิเศกาภิสิต ปรมุกกฤษฐสมณศักดิธำรง มหาสงฆปรินายก พุทธศาสนดิลกโลกุตตมมหาบัณฑิตย สุนทรวิจิตรปฏิภาณ ไวยัติญาณมหากระวี พุทธาทิศรีรัตนตรัยคุณารักษ เอกอรรคมหาอนาคาริยรัตน์ สยามาทิโลกปฏิพัทธพุทธบริษัทยเนตร สมณคณินทราธิเบศรสกลพุทธจักโรประการกิจ สฤษดิศุภการ มหาปาโมกษประธานวโรดม บรมนารถบพิตร''<ref name="กรมสมเด็จพระ">[http://vajirayana.org/พระราชพงศาวดาร-กรุงรัตนโกสินทร์-รัชชกาลที่-๔/๑๑-ตั้งพระราชาคณะ พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชชกาลที่ ๔:๑๑-ตั้งพระราชาคณะ]</ref> (ต่อมาในรัชกาลที่ 6 จึงโปรดให้เปลี่ยนเป็น''กรมพระ''ตามยศเจ้ากรม<ref>''ราชสกุลวงศ์'', หน้า 213</ref>) ทรงสมณศักดิ์เป็นพระมหาสังฆปริณายก ทั่วพระราชอาณาเขต ให้จัดตั้ง พระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเษก ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามมีทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ คล้ายกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของคณะสงฆ์ไทย |
|||
เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้ว ตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชก็ว่างตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากไม่มีพระเถระรูปใดมีคุณสมบัติอยู่ในฐานะที่จะทรงสถาปนาตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ ตามพระราชประเพณีนิยมที่มีมาแต่โบราณ พระเถระที่จะทรงตั้งเป็น สมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระราชาคณะ นั้น ก็เฉพาะผู้ทรงคุณสมบัติพิเศษ คือเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นอาจารย์เป็นที่ทรงนับถือเหมือนอย่างพระอุปัชฌาย์ หรือพระอาจารย์ หรือเป็นผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า มีอายุแก่กว่าพระชนมพรรษา |
|||
แม้ว่าจะว่างสมเด็จพระสังฆราช แต่การปกครองคณะสงฆ์ก็สามารถดำเนินไปได้ด้วยดี เนื่องจากแต่โบราณมา พระมหากษัตริย์ทรงถือเป็นพระราชภาระในการปกครองดูแลคณะสงฆ์ โดยมีเจ้านาย หรือขุนนางผู้ใหญ่ในตำแหน่ง เจ้ากรมสังฆการี เป็นผู้กำกับดูแลแทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชมิได้ทรงบัญชาการคณะสงฆ์โดยตรง ทรงดำรงฐานะปูชนียบุคคล การปกครองในลักษณะนี้ ได้มาเปลี่ยนแปลงไปในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] |
|||
ภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า การเรียกพระนามพระบรมราชวงศ์ซึ่งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลแต่เดิมนั้นเรียกตามพระอิสริยยศแห่งพระบรมราชวงศ์ ไม่ได้เรียกตามสมณศักดิ์ของพระประมุขแห่งสังฆมณฑล คือ "สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ" หรือที่เรียกอย่างย่อว่า "สมเด็จพระสังฆราช" พระองค์จึงเปลี่ยนคำนำพระนามของ[[พระบรมวงศานุวงศ์]]ซึ่งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระประมุขแห่งสังฆมณฑลว่า "สมเด็จพระมหาสมณเจ้า" เพื่อให้ปรากฏพระนามในส่วนสมณศักดิ์ด้วย ดังนั้น จึงเปลี่ยนคำนำพระนามเป็น "'''สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส'''"<ref name="สมณเจ้า">ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2464/A/10.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระมหาสมณเจ้า], เล่ม ๓๘, ตอน ๐ ก ,๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๔, หน้า ๑๐ </ref> |
|||
== พระอัจฉริยภาพ == |
|||
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน ในทาง[[อักษรศาสตร์]] ก็ได้นิพนธ์เรื่องฉันท์มาตราพฤติ และวรรณพฤติ ตำราโคลงกลบท คำกฤษฎี เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้นิพนธ์บทกวีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ล้วนมีคุณค่าเป็นเพชรน้ำเอกทางวรรณกรรมของไทยตลอดมา |
|||
สำหรับวรรณกรรมศาสนา ได้ทรงพระนิพนธ์เรื่อง[[ปฐมสมโพธิกถา]] ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก หรือ[[ร่ายยาวมหาชาติ]] ซึ่งนับเป็นวรรณกรรมชิ้นเอกทางพระพุทธศาสนาในสมัยรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ได้ทรงพระนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ ไว้มากเช่น ลิลิตตะเลงพ่าย พระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส เทศนาพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ลิลิตกระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารค และชลมารค เป็นต้น |
|||
ในทางพระพุทธศิลป์ ได้ทรงคิดแบบพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยทรงเลือกพระอิริยาบถต่าง ๆ จากพุทธประวัติเป็นจำนวน 37 ปาง เริ่มตั้งแต่ปางบำเพ็ญทุกขกิริยา จนถึงปางห้ามมาร พระพุทธรูปปางต่าง ๆ เหล่านี้ |
|||
ในปี พ.ศ. 2533 [[องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ]] (ยูเนสโก) ได้ประกาศยกย่องสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรสเป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมระดับโลก ประจำปี พ.ศ. 2533 นับเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ได้รับการถวายเกียรตินี้ |
|||
=== พระนิพนธ์ === |
|||
* สรรพสิทธิคำฉันท์ |
|||
* สมุทรโฆษคำฉันท์ตอนปลาย |
|||
* กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ |
|||
* ฉันท์ดุษฏีสังเวยกล่อมช้างพัง |
|||
* กาพย์ขับไม้กล่อมช้างพัง |
|||
* ฉันท์มาตราพฤติ |
|||
* ฉันท์วรรณพฤติ |
|||
* [[ลิลิตตะเลงพ่าย]] |
|||
* ลิลิตกระบวนพยุหยาตราพระกฐินสถลมารคและชลมารค |
|||
* โคลงยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อปฏิสังขรวัดพระเชตุพน |
|||
* ร่ายทำขวัญนาค |
|||
* เทศน์มหาชาติ ๑๑ กัณฑ์ |
|||
* ตำราพระพุทธรูปต่าง ๆ |
|||
* ปฐมสมโพธิกถา |
|||
* พระธรรมเทศนาพงศาวดากรุงศรีอยุธยา |
|||
* ลิลิตจักรทีปนี (เป็นตำราโหราศาสตร์) |
|||
* กลอนเพลงยาวเจ้าพระ |
|||
* คำฤษฏี (หนังสือรวบรวมศัพท์) |
|||
* โคลงเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ เช่น โคลงฤษีดัดตน โคลงภาพต่างภาษา |
|||
* ฉันท์สังเวยกลองวินิจฉัยเภรี |
|||
* กุรุธรรมชาฏก ฯลฯ |
|||
== พระเกียรติยศ == |
|||
=== พระอิสริยยศ === |
|||
*พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี (11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 – 7 กันยายน พ.ศ. 2352) |
|||
*พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าพระวาสุกรี (7 กันยายน พ.ศ. 2352 – พ.ศ. 2356) |
|||
*พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนุชิตชิโนรส<ref>[http://vajirayana.org/พระราชพงษาวดาร-กรุงรัตนโกสินทร-รัชกาลที่-๒/๒๙-เรื่องตั้งกรม พระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒:๒๙-เรื่องตั้งกรม]</ref>(พ.ศ. 2356 - พ.ศ. 2394) |
|||
*พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส<ref>''จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1'', หน้า 80</ref>(พ.ศ. 2394 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396) |
|||
'''''ภายหลังการสิ้นพระชนม์''''' |
|||
*สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส (พ.ศ. 2453 - 2464) |
|||
*สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส<ref name="สมณเจ้า" />(พ.ศ. 2464) |
|||
== พงศาวลี == |
|||
{{ahnentafel top|width=100%}} |
{{ahnentafel top|width=100%}} |
||
<center>{{ahnentafel-compact5 |
<center>{{ahnentafel-compact5 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:37, 7 มิถุนายน 2564
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส | |
---|---|
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า พระองค์เจ้าชั้นเอก | |
สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 7 | |
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2394 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396 |
สมณุตตมาภิเษก | พ.ศ. 2394 |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระอริยวงษญาณ (นาค) |
ถัดไป | สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ |
ประสูติ | 11 ธันวาคม พ.ศ. 2333 พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวาสุกรี |
สิ้นพระชนม์ | 9 ธันวาคม พ.ศ. 2396 (62 ปี) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร |
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช |
พระมารดา | ท้าวทรงกันดาล (เจ้าจอมมารดาจุ้ย ในรัชกาลที่ 1) |
พงศาวลีของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
- เชิงอรรถ
- บรรณานุกรม
- จดหมายเหตุเรื่องทรงตั้งพระบรมวงศานุวงศ์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม 1. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 508 หน้า. ISBN 974-417-527-3
- สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร. ราชสกุลวงศ์. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, 2554. 296 หน้า. หน้า 68. ISBN 978-974-417-594-6
- จุลลดา ภักดีภูมินทร์ (หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ มหาวรรณ). เวียงวัง เล่ม ๑. กรุงเทพ : เพื่อนดี บริษัท อักษรโสภณ จำกัด, พิมพ์ครั้งที่ 2 มีนาคม 2551. 300 หน้า. หน้า หน้าที่ 256. ISBN 978-974-253-061-7
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ก่อนหน้า | สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระอริยวงษญาณ (นาค) | สมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2396) |
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ |