กำพล วัชรพล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กำพล วัชรพล

ภาพถ่ายขนาดใหญ่ของนายกำพล วัชรพล ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพถ่ายขนาดใหญ่ของนายกำพล วัชรพล ที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
เกิด27 ธันวาคม พ.ศ. 2462
จังหวัดสมุทรสาคร ประเทศสยาม
เสียชีวิต21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 (76 ปี)
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
นามปากกาวัชรพล
อาชีพนักเขียน, นักข่าว, นักหนังสือพิมพ์, ทหารเรือ
สัญชาติไทย ไทย
ช่วงปีที่ทำงานพ.ศ. 2477 - 2539
คู่สมรสประณีตศิลป์ วัชรพล
บุตร3 คน

กำพล วัชรพล (27 ธันวาคม พ.ศ. 2462 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539) ชื่อเล่น ป๊ะ เป็นผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, เสียงอ่างทอง, ข่าวภาพ, มูลนิธิหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และผู้อำนวยการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐคนแรก

ประวัติ[แก้]

กำพล วัชรพล เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2462 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะแม ที่กระท่อมหลังคามุงจาก หลังวัดดอนไก่ดี ริมคลองภาษีเจริญ ในเขตอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรคนสุดท้องของนายหลี (บิดา) และนางทองเพียร (มารดา) มีชื่อเดิมว่า แตงกวย ยิ้มละมัย[1] และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น นิพนธ์ ตามนโยบายรัฐนิยมของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม[2] มีพี่ร่วมมารดา 3 คน คือ นกแก้ว ทรัพย์สมบูรณ์ (ญ), สยม จงใจหาญ (ช) (ชื่อเดิม บุ้นเหลียน) และวิมล ยิ้มละมัย (ช) (ชื่อเดิม บุ้นฮก)

กำพลจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดดอนไก่ดี และไม่มีโอกาสได้ศึกษาต่อ เนื่องจากมารดามีอาชีพค้าข้าวเรือเร่ จำเป็นต้องพาลูกขึ้นเรือล่องไปตามแม่น้ำสายต่าง ๆ คือแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง และใช้ชีวิตส่วนมากบนเรือ

การทำงาน[แก้]

ราวปี พ.ศ. 2477 เมื่ออายุได้ 15 ปี กำพลเริ่มต้นการทำงานของตนเอง โดยเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารเรือเมล์ปล่องเขียว วิ่งระหว่างประตูน้ำอ่างทอง ถึงประตูน้ำภาษีเจริญ ระหว่างนั้นได้คบหาเป็นเพื่อนสนิทกับวสันต์ ชูสกุล ต่อมาเมื่อกำพลสอบเป็นนายท้ายเรือได้ ก็เข้าเป็นนายท้ายเรือ “พันธุ์ทิพย์” โดยมีวสันต์เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร

เมื่อปี พ.ศ. 2483 กำพลเข้ารับราชการทหารเรือ โดยเริ่มจากเข้าศึกษาที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ จังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาบรรจุเข้าประจำเรือหลวงสีชัง นอกจากนี้ กำพลยังเข้าร่วมรบในราชการสงครามใหญ่ 2 ครั้งคือ สงครามอินโดจีนในกรณีพิพาทระหว่างเขตแดนของไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส และสงครามมหาเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่สอง) ในยุทธภูมิครั้งหลังนี้ ส่งผลให้กำพลได้รับพระราชทาน “เหรียญชัยสมรภูมิ” เหรียญกล้าหาญ และเลื่อนยศขึ้นเป็นจ่าโท จากนั้นกำพลลาออกจากราชการในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2489 เมื่ออายุ 28 ปี

กำพลได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516[3]

ตราสัญลักษณ์ของไทยรัฐ

งานหนังสือพิมพ์[แก้]

ราวเดือนมีนาคม พ.ศ. 2490 กำพลเข้าทำงานเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์หลักไทย ในสมัยที่เลิศ อัศเวศน์เป็นบรรณาธิการ อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ระหว่างนั้นก็เป็นพนักงานหาโฆษณาไปพร้อมกันด้วย ต่อมากำพลชักชวนเลิศและวสันต์ ออกหนังสือฉบับพิเศษชื่อ “นรกใต้ดินไทย” ที่เลิศเขียนขึ้นเป็นตอนๆ ลงในหนังสือพิมพ์หลักไทย โดยใช้เงินลงทุนจำนวน 2,000 บาท จากทุนส่วนตัวร่วมกับการหยิบยืม เมื่อพิมพ์จำหน่ายหักกลบลบหนี้แล้ว แบ่งเงินกันเป็นสามส่วน ยังมีเหลือไว้เป็นกองกลางอีก 6,000 บาท จากนั้นกำพลปรึกษากับเลิศและวสันต์ว่า น่าจะออกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์สักฉบับหนึ่ง จึงไปจดทะเบียนหนังสือพิมพ์กับกองบังคับการตำรวจสันติบาล ใช้ชื่อว่า “ข่าวภาพ” รายสัปดาห์ โดยใช้ตราเป็นรูปกล้องถ่ายภาพ สายฟ้าและฟันเฟืองซ้อนกันอยู่ในวงกลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหนังสือพิมพ์ที่กำพลเป็นเจ้าของตลอดมา

อุปสมบท[แก้]

ในระหว่างทำหนังสือพิมพ์ “ข่าวภาพ” รายวัน กำพลเข้าอุปสมบทที่วัดลาดบัวขาว ถนนตก กรุงเทพมหานคร โดยมอบหมายให้ประณีตศิลป์ผู้เป็นภรรยา และวสันต์ร่วมกันบริหาร โดยเมื่อลาสิกขาบทแล้ว ก็กลับมาบริหารหนังสือพิมพ์ “ข่าวภาพ” ต่อไป[4]

ต่อมาเมื่อเกิดกบฏแมนฮัตตันขึ้นในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2494 มีพิธีส่งมอบเรือขุดสันดอนแมนฮัตตันจากอุปทูตสหรัฐอเมริกา โดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีที่ท่าวรดิษฐ แต่แล้วทหารเรือกลุ่มหนึ่ง เข้าจี้นำลงเรือเร็วไปควบคุมตัวไว้ที่เรือรบหลวงศรีอยุธยา ซึ่งลอยลำอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาตอนหน้ากองทัพเรือ รุ่งขึ้นเวลา 10.00 น.เศษ กำพลและเลิศเช่าเรือสำปั้นจากท่าปากคลองตลาด โดยกำพลเป็นฝีพายเรือมุ่งหน้าไปยังเรือหลวงศรีอยุธยา หมายจะได้สัมภาษณ์จอมพล ป.และให้เลิศเป็นช่างภาพ

เกียรติยศ[แก้]

ครอบครัว[แก้]

กำพลสมรสกับคุณหญิงประณีตศิลป์ (สกุลเดิม: ทุมมานนท์) เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2493 มีบุตรธิดารวม 3 คน คือยิ่งลักษณ์, สราวุธ และอินทิรา (ญ) นอกจากนี้ กำพลยังมีบุตรธิดากับภรรยาอื่นอีก 5 คน คือฟูศักดิ์ (ช), นำพร (ญ), เกรียงศักดิ์ (ช), พีระพงษ์ (ช) และเพ็ชรากรณ์ (ญ)

อนิจกรรม[แก้]

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2538 กำพลมีอาการอึดอัดแน่นท้อง จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โดยแพทย์ตรวจพบเนื้องอกที่ไต และเข้าผ่าตัดมะเร็งนี้สองครั้ง แต่อาการกลับทรุดลงตามลำดับ จนถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบ เมื่อเวลา 01.45 น. วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 ขณะมีอายุ 76 ปี 1 เดือน 25 วัน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "ชื่อที่ไม่จารึกในอนุสาวรีย์". ไทยรัฐ. 25 December 2014. สืบค้นเมื่อ 26 December 2014.
  2. "วิชาของผู้ชนะ". ไทยรัฐ. 25 December 2015. สืบค้นเมื่อ 22 December 2015.
  3. "พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญํติแห่งชาติ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-08.
  4. หนังสือเรื่อง "ผู้นำธุรกิจ" โดย อันธิกา กองแก้ว เมษายน 2539
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๗ ตอนที่ ๒๔๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๓ ตอนที่ ๒๑๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๑๕ ข หน้า ๙๐, ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๗