โจยอย

โจยอย หรือ พระเจ้าโจยอย (Cao Rui, 曹叡, พินอิน, Cáo Rùi) ผู้ครองวุยก๊กรุ่นที่ 3 เป็นบุตรชายของโจผี หลานชายของโจโฉ ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 226 ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าโจผี พระราชบิดา ด้วยวัยเพียง 21 พรรษา ออกพระนามว่า พระเจ้าหยวงซง (元仲)

เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าโจยอยนับได้ว่า เป็นผู้นำที่เข้มแข็งทีเดียว เนื่องด้วยขงเบ้งเมื่อทราบข่าวว่า โจผีสิ้นแล้ว โจยอย ราชบุตรขึ้นครองราชย์ด้วยพระชนมายุน้อย จึงยกทัพบุกขึ้นเหนือมา พระองค์ทรงส่งสุมาอี้เป็นแม่ทัพใหญ่ไปรบกับขงเบ้ง อันเป็นการเปิดโอกาสให้สุมาอี้ได้แสดงฝีมือประชันกับขงเบ้งด้วย ซึ่งต่อมาทั้งคู่เป็นคู่ปรับที่ปรับมือกันมาตลอด ต่อมา ขงเบ้งได้ใช้แผนปล่อยข่าวลือในราชธานีลกเอี๋ยงว่า สุมาอี้คิดเป็นกบฏ เพราะต้องการให้พระเจ้าโจยอยปลดสุมาอี้ออกจากตำแหน่ง ซึ่งที่สุดก็เป็นไปตามแผนของขงเบ้ง

จนกระทั่ง ขงเบ้งยกทัพบุกวุยก๊กอีกครั้ง พระเจ้าโจยอยคิดไม่ตกว่า ใครจะรับมือกับขงเบ้งได้ ที่สุดมีผู้เสนอว่า ควรคืนตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ให้สุมาอี้ จึงทรงคืนตำแหน่งให้สุมาอี้โดยไม่วิตกกังวลใด ๆ อีก สุมาอี้ซึ่งอยู่นอกเมืองทราบข่าวนี้ซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ถึงกับกราบแผ่นดินคาราวะและเอ่ยปากว่า ทรงเป็นกษัตริย์ที่ปรีชาจริง ๆ

นอกจากนี้แล้ว พระเจ้าโจยอยยังออกนำทัพเอง ในการศึกครั้งนี้ ด้วยเกรงว่าสุมาอี้เพียงคนเดียวไม่อาจรับมือไหว และเมื่อครั้งสุมาอี้และขงเบ้งตั้งทัพอยู่ตรงข้ามกัน สุมาอี้ไม่ออกรบแม้ขงเบ้งยั่วยุต่าง ๆ นานา แม่ทัพนายกองหลายคนของวุยก๊กอยากออกรบ สุมาอี้สั่งเด็ดขาดห้ามออกไป นานวันเข้าคำสั่งชักไม่ได้ผล สุมาอี้จึงมีหนังสือกราบทูลไปยังพระเจ้าโจยอย พร้อมอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่ออกรบ ด้วยต้องการให้พระองค์มีพระราชโองการมาสั่งห้ามออกรบ เมื่อพระราชโองการมาถึง บรรดานายทหารที่อยากรบทั้งหมดนั้นก็ต้องปฏิบัติตามโดยดุสดี ซึ่งการที่สุมาอี้ตั้งทัพไม่ออกรบนี้ เป็นอุบายของสุมาอี้ที่ต้องการเอาชนะขงเบ้ง ท้ายที่สุดขงเบ้งก็สิ้นชีวิตกลางสนามรบในเวลาต่อมาจริง ๆ

พระเจ้าโจยอย สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 239 ด้วยพระชนมายุ 36 พรรษา รวมระยะเวลาครองราชย์ 13 ปี ด้วยพระโรคที่รุมเร้าและสติวิปลาส เนื่องจากติดพระสนมองค์ใหม่และสั่งประหารพระมเหสีองค์เก่าสิ้น และเป็นโจฮอง ราชบุตรเพียงคนเดียวขึ้นครองราชย์แทน ซึ่งราชสกุลวุยจะตกต่ำต่อไปเรื่อย ๆ

อ้างอิง

• โจยอย ผู้พิชิตที่แพ้ตนเอง