ข้ามไปเนื้อหา

กรมประชาสัมพันธ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กรมประชาสัมพันธ์
The Government Public Relations Department
เครื่องหมายราชการ
ตราพระอินทร์เป่าสังข์

ที่ทำการกรมประชาสัมพันธ์
ภาพรวมกรม
ก่อตั้ง3 พฤษภาคม พ.ศ. 2476; 91 ปีก่อน (2476-05-03)
ผู้ก่อตั้งครม.3
กรมก่อนหน้า
  • กองโฆษณาการ (พ.ศ. 2476)
  • สำนักงานโฆษณาการ (พ.ศ. 2476 – พ.ศ. 2483)
  • กรมโฆษณาการ (พ.ศ. 2483 – พ.ศ. 2495)
ประเภทส่วนราชการ
เขตอำนาจทั่วราชอาณาจักร
สำนักงานใหญ่เลขที่ 9 ซอยพระรามที่ 6 ซอย 30 ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
บุคลากร3,274 คน (พ.ศ. 2557)[1]
งบประมาณต่อปี2,419,730,200 บาท
(พ.ศ. 2568)[2]
ฝ่ายบริหารกรม
  • สุดฤทัย เลิศเกษม[3], อธิบดี
  • คเชนทร์ กรรณิกา[4], รองอธิบดี
  • อรัญญา เกตุแก้ว[5], รองอธิบดี
  • ว่าง, รองอธิบดี
ต้นสังกัดกรมสำนักนายกรัฐมนตรี
เว็บไซต์เว็บไซต์ของกรมประชาสัมพันธ์

กรมประชาสัมพันธ์ (อังกฤษ: The Government Public Relations Department) เป็นหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลไทย ในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่เสริมสร้างความเข้าใจ ระหว่างหน่วยงานรัฐกับประชาชน

ประวัติ

[แก้]

กรมประชาสัมพันธ์ มีวิวัฒนาการมาจาก “กองโฆษณาการ” หลังจากการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 โดยก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ปีเดียวกัน[6]พัฒนาเป็น “สำนักงานโฆษณาการ” เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 พัฒนาขึ้นเป็น “กรมโฆษณาการ” และเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2495 พัฒนามาเป็น “กรมประชาสัมพันธ์” ดังเช่นปัจจุบัน

ที่ตั้งสำนักงาน

[แก้]
อาคารที่ทำการแรกของกรมประชาสัมพันธ์ เดิมเคยเป็นอาคารของห้างแบดแมน

สำนักงานกรมประชาสัมพันธ์ เดิมตั้งอยู่ที่ อาคารหัวมุมถนนราชดำเนิน ติดกับกรมสรรพากร และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นสถานที่เกี่ยวข้องในประวัติศาสตร์ทางการเมืองหลายครั้ง ในการรัฐประหารทุกครั้ง จะเป็นสถานที่แรก ๆ ที่ถูกกำลังทหารเข้ายึด รวมทั้งใน เหตุการณ์ 14 ตุลา และ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ก็ถูกประชาชนเข้ายึด [7] หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ อาคารกรมประชาสัมพันธ์ ถูกเพลิงไหม้เสียหายอย่างหนัก จึงย้ายไปตั้ง ณ อาคารเลขที่ 9 ซอยพระรามที่ 6 ซอย 30 (อารีย์สัมพันธ์) ถนนพระรามที่ 6 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบัน

ตราสัญลักษณ์

[แก้]

ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ 7 เล่มที่ 64 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2490 กำหนดเครื่องหมายราชการ "กรมโฆษณาการ" ให้เป็นรูปพระอินทร์เป่าสังข์ เหาะลอยอยู่เหนือเมฆ มีวงกลมล้อมรอบ[8] โดยอิงตามคติในวรรณคดีโบราณว่า พระอินทร์มีหน้าที่เป่าสังข์ชื่อ "ปาญจนันท์" ปลุกพระนารายณ์ให้ตื่นจากบรรทมสินธุ์ในสะดือทะเล เพื่อขึ้นมาปราบเหตุร้ายต่าง ๆ ในโลก และโดยความเชื่อในศาสนาฮินดู สังข์ถือเป็นมงคลสามประการคือ ถือกำเนิดจากพระพรหม ท้องสังข์เคยเป็นที่ซ่อนคัมภีร์พระเวท และตัวสังข์มีรอยนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ ในพิธีทางศาสนาพราหมณ์ จึงมีการเป่าสังข์เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย สอดคล้องกับหลักการประชาสัมพันธ์ ที่เป็นการเผยแพร่ชี้แจงประชาชนให้เข้าใจอย่างกว้างขวาง และสร้างความเข้าใจอันดี จึงเปรียบได้กับการเป่าสังข์เพื่อเรียกประชุมของเทวดา ตราสัญลักษณ์นี้ใช้สีม่วงเป็นสีหลักของตรา ซึ่งเป็นสีของงานประชาสัมพันธ์ และใช้มาจนกระทั่งเป็นกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน[9]

ส่วนราชการในสังกัด

[แก้]
อาคารที่ทําการปัจจุบันของกรมประชาสัมพันธ์

ตามพระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับล่าสุด เมื่อปี พ.ศ. 2540[10] มีส่วนราชการในสังกัด ดังต่อไปนี้

จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน

[แก้]
จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน
ประเภทหนังสือพิมพ์ รายปักษ์
รูปแบบข่าว รัฐบาล
เจ้าของกรมประชาสัมพันธ์
ผู้เผยแพร่บริษัท ยูโทเปีย จำกัด
หัวหน้าบรรณาธิการพลเอก วิลาศ อรุณศรี
บรรณาธิการนวพรรณ รุ่งสาโรจน์
บรรณาธิการบริหารคณิศร์ สุวรรณเดช
คอลัมนิสต์พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก่อตั้งเมื่อ28 เมษายน 2558 (2558-04-28)
นโยบายทางการเมืองครม.61
ภาษาภาษาไทย
ฉบับสุดท้าย15 กรกฎาคม 2559 (2559-07-15)

จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน เป็น หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ รายปักษ์ภาษาไทยที่ดำเนินการโดย กรมประชาสัมพันธ์ ตามดำริของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ประวัติ

[แก้]

โดยมติ คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 ให้ กรมประชาสัมพันธ์ ออกหนังสือพิมพ์แทบลอยด์แบบรายปักษ์ 4 สี 8 หน้าชื่อ จดหมายข่าวรัฐบาลเพื่อประชาชน เริ่มออกฉบับปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และรายงานผลงานของรัฐบาล โดยหนึ่งฉบับมี 8 หน้า จัดพิมพ์ทั้งสิ้น 60,000 เล่ม โดยแบ่งเป็นการแจกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 30,000 เล่ม และพื้นที่ต่างจังหวัด 30,000 เล่ม[11]

โดยที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดี กรมประชาสัมพันธ์ เป็นบรรณาธิการบริหารในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนให้นายคณิศร์ สุวรรณเดชเป็นบรรณาธิการบริหารแทนและพลเอก วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นบรรณาธิการอำนวยการ

ในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นคอลัมนิสต์รับเชิญในคอลัมน์ จากใจนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้สื่อสารความในใจของท่านไปสู่ประชาชนนอกจากนี้ยังมีคอลัมน์จากรัฐมนตรีบางท่านที่ใช้รายงานผลงานที่ผ่านมา

แต่ด้วยผลไม่เป็นตามเป้าที่วางไว้จึงได้ยุติหนังสือพิมพ์ฉบับนี้โดยออกฉบับสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

อ้างอิง

[แก้]
  1. รายงานประจำปี 2557 ของกรมประชาสัมพันธ์
  2. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๓, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
  3. ครม.ไฟเขียว ตั้ง 'สุดฤทัย เลิศเกษม' นั่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
  4. [1]
  5. [2]
  6. "พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทะบวง กรม พุทธศักราช 2476" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-11-15. สืบค้นเมื่อ 2011-09-01.
  7. 9แหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์เดือนตุลาคม ในบล็อก รีเบล เอกซ์ ที่บล็อกแก๊งค์
  8. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 17) เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 จากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
  9. ความเป็นมาของตราสัญลักษณ์กรมประชาสัมพันธ์ เก็บถาวร 2008-12-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เว็บไซต์สำนักประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
  10. พระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2540 จากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา
  11. "สลน.แจก "จม.ข่าว รบ.เพื่อประชาชน" ให้สื่อฯ ใช้เผยแพร่ผลงาน รบ". ไทยรัฐ. 28 เมษายน 2558.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]