สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
![]() ตราสัญลักษณ์สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | |
พื้นที่กระจายเสียง | กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และอีก 16 จังหวัดใกล้เคียง |
---|---|
ความถี่ | 101.5 MHz (เมกะเฮิรตซ์) |
การเป็นเจ้าของ | |
เจ้าของ | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ |
ผู้ประกอบธุรกิจ | นายตรีเทพ ไทยคุรุพันธ์ (กรรมการผู้อำนวยการ) |
ประวัติ | |
เริ่มกระจายเสียง | พ.ศ. 2501 |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
พิกัดสถานีส่ง | เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร |
ลิงก์ | |
เว็บไซต์ | www |
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียกโดยย่อว่า "วิทยุจุฬาฯ" เป็นสถานีวิทยุกระจายเสียงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกอากาศด้วยคลื่นความถี่ 101.5 เมกะเฮิรตซ์ ในระยะแรกสถานีวิทยุแห่งนี้ป็นสถานที่ทดลองส่งคลื่นวิทยุกระจายเสียงที่นิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพัฒนาขึ้น โดยทดลองทำเครื่องส่งสัญญาณขึ้นเองจนสามารถใช้งานได้จริง[1] ในปัจจุบันวิทยุจุฬาฯ ทำหน้าที่เป็นสถานีวิทยุฯ ทางวิชาการ มีเนื้อหาของรายการที่ให้ความรู้แก่สาธารณะชน เพื่อให้ประชาชนมีช่องทางในการเข้าถึงความรู้อีกช่องทางหนึ่งนอกเหนือจากสื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุโทรทัศน์ สถานีกระจายเสียงของวิทยุจุฬาฯ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 7 อาคารวิทยพัฒนา ซอยจุฬาลงกรณ์ 12 ในบริเวณพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฝั่งตะวันตกของถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร[2]
ประวัติ[แก้]
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเกิดจากการทดลองทำเครื่องส่งคลื่นวิทยุกระจายเสียงของนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์จนสำเร็จ สามารถส่งสัญญาณได้ จนกระทั่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของชมรมแสงและเสียงสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินงานภายใต้องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(อบจ.) มีสถานะเป็น “สถานีวิทยุทดลอง” ของนิสิต เป็นสถานีวิทยุที่ไม่ได้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498[3] มีสถานที่ทำการอยู่ที่ตึกจักรพงษ์ชั้น 2 หรือหอประวัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน
ในยุคสงครามเวียดนามสถานีวิทยุจุฬาฯ ทำหน้าที่เป็นพื้นที่แสดงจุดยืนทางการเมืองของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวคือให้การสนับสนุนสหรัฐอเมริกาในสงคราม ทำให้สามารถขอรับการสนับสนุนอุปกรณ์ในการประกอบกิจการวิทยุจากองค์การบริหารวิเทศกิจแห่งสหรัฐอเมริกา(United States Operation Mission) ได้สำเร็จ โดยหน่วยงานของสหรัฐฯ ที่ให้เช่าอุปกรณ์คือ United States Information Service (USIS)[1] ปัจจุบันรู้จักกันในนาม United States Information Agency (USIA) อุปกรณ์ที่ได้จากหน่วยงานสหรัฐฯ คือ เครื่องส่ง Medium Wave ระบบ AM (Amplitude Modulation) แบบ BC-610 กำลังส่ง 250 วัตต์ ความถี่ 1080 กิโลไซเคิล มาใช้งาน เป็นแบบเดียวกับกองทัพอากาศไทย[4] ด้วยสัญญาเช่าที่มีกำหนดเวลา 99 ปี และค่าเช่าเครื่องปีละ 1 เหรียญสหรัฐ[1] แต่เมื่อวิทยุจุฬาฯ ได้รับความสนใจ มีผู้ฟังมากขึ้นจนเป็นผลต่อการเคลื่อนไหวและความคิดเห็นของสังคมผู้บริหารมหาวิทยาลัยจึงควบคุมให้จำกัดเวลาออกอากาศ จนกระทั่งปิดสถานีในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2505[1]
3 ปีให้หลังการยุติการกระจายเสียง สถานีวิทยุจุฬาฯ กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 และเปลี่ยนสถานะจากการเป็นสถานีวิทยุของนิสิตเป็นของมหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาและกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ตลอดจนความบันเทิง เริ่มมีโครงสร้างการบริหารงานอย่างเป็นทางการ และได้รับการอนุมัติให้ใช้คลื่นความถี่ด้วยความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ในระบบ FM (Frequency Modulation) Stereo Multiplex ความถี่ 101.5 MHz. กำลังส่ง 1 กิโลวัตต์ (Kilowatt) เสาอากาศสูง 48 เมตร ตั้งอยู่ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปี พ.ศ. 2520 เริ่มได้รับรายได้จากการกระจายเสียงโฆษณาและการให้บริการธุรกิจและมีบทบาทเป็นสถานีวิทยุสถาบันการศึกษาที่ให้ความรู้ มีการจัดหาเครื่องส่งใหม่ที่มีกำลังส่ง 5 กิโลวัตต์ (Kilowatts) และปรับปรุงเสาให้สูง 120 เมตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายเสียง ย้ายสถานที่ตั้งมาที่อาคาร วิทยพัฒนา ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีในปัจจุบัน
ปี พ.ศ. 2535 ภายหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ วิทยุจุฬาฯ เป็นสื่อนำเสนอข่าวการเมืองอย่างสม่ำเสมอจนได้รับรางวัลสื่อดีเด่นประเภทรายการวิทยุ จากมูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ ในยุคนี้วิทยุจุฬาฯ มีความร่วมมือกับสถานีวิทยุต่างประเทศคือ Voice of America (VOA) และปรับปรุงเสาส่งกระจายเสียงให้มีความสูงเพิ่มขึ้นจาก 120 เมตร เป็น 150 เมตร
ปี พ.ศ. 2547 วิทยุจุฬาฯ ได้เพิ่มช่องทางการรับฟังผ่านทางเว็บไซต์ www.curadio.chula.ac.th สถานีวิทยุจุฬาฯ ยังได้ร่วมมือกับ “สถานีวิทยุ CRI ปักกิ่ง ประเทศจีน” ผลิตรายการ “สานสัมพันธ์ไทยจีน” ทำให้สถานีวิทยุจุฬาฯ เป็นสถานีวิทยุการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่มีการผลิตและออกอากาศรายการวิทยุร่วมกับสถานีวิทยุแห่งชาติของประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีน
ปี พ.ศ. 2552 วิทยุจุฬาฯ พัฒนาจนผ่านการตรวจรับรองการประยุกต์ใช้มาตรฐาน ISO 9001: 2008 อีกมาตรฐานหนึ่ง ภายหลังจากได้รับมาตราฐานจาก Bureau Veritas หรือ BVQI ประเทศฝรั่งเศสมาแล้วเมื่อ พ.ศ. 2543 และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
รูปแบบรายการ[แก้]
ปัจจุบันสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงออกอากาศผ่านทางคลื่นวิทยุเช่นในอดีต แต่ได้พัฒนาองค์กรให้สามารถผลิตสื่อความรู้สู่สังคมผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต เช่น การถ่ายทอดรายการวิทยุสดผ่านทางอินเทอร์เน็ต และยังผลิตรายการโทรทัศน์เพื่อออกอากาศผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงองค์ความรู้ให้แก่ประชาชน
รายการ[แก้]
มีรายการที่ออกอากาศคู่ขนานระหว่างสื่ออินเทอร์เน็ต เช่น ยูทูบ ช่อง CU Radio Channel กับวิทยุกระจายเสียงดังนี้
- รายการ Innovative Wisdom เป็นรายการที่นำเสนอความรู้ทางการเงิน การวางแผนการลงทุนและการออม โดยมีแขกรับเชิญเป็นคณาจารย์จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รายการ ไทยศึกษา เป็นรายการที่นำเสนอความรู้ทางมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ประชากรศาสตร์ของประเทศไทย โดยจะยกประเด็นนำเสนอจากเรื่องพื้นฐานของคนไทย เช่น อาหาร ศิลปกรรมท้องถิ่น และวิถีชีวิตชุมชน จัดโดยสถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รายการ พูดจาประสาช่าง เป็นรายการที่นำเสนอความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ใกล้ตัว แนะนำศาสตร์ใหม่ ๆ ทางด้านวิศวกรรมในประเทศไทย และนำเสนอนวัตกรรมจากวิศวกรชาวไทยให้ประชาชนไทยได้รับรู้ด้วย จัดโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รายการ รัฐศาสตร์สู่สังคม เป็นรายการที่นำเสนอความรู้ทางรัฐศาสตร์ที่ผ่านการเล่าเรื่องและปรับเนื้อหาให้เข้าใจได้ง่าย เพื่อสร้างการตระหนักถึงความสำคัญของวิชารัฐศาสตร์ให้กับประชาชน จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รายการ รอบตัวเรา นำเสนอความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ีผู้เชี่ยวชาญทั้งจากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- รายการ So เชี่ยว เป็นรายการที่ตอบข้อสงสัย ให้ความกระจ่างกับกระแสข่าวที่ประชาชนส่งต่อกันในสื่อสังคมออนไลน์ ทางอินเทอร์เน็ต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจึงสร้างความร่วมมือผลิตรายการนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักฐานทางวิชาการ
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เฟซบุ๊ก
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ทวิตเตอร์
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่อินสตาแกรม
- สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ยูทูบ
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Radio) FM 101.5 MHz. "กว่าจะเป็น...วิทยุจุฬาฯ (History of CU Radio) - สถานีวิทยุจุฬาฯ (CU Radio) FM 101.5 MHz." สถานีวิทยุจุฬาฯ (CU Radio) FM 101.5 MHz คลื่นความรู้สู่ประชาชน - Digital Media Center - Live Radio - Radio On Demand - New Media - News - Knowledge - Education - Music. Accessed May 19, 2017. http://www.curadio.chula.ac.th/History.php เก็บถาวร 2017-05-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ↑ สถานีวิทยุแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Radio) FM 101.5 MHz. "ติดต่อเรา (Contact Us) - สถานีวิทยุจุฬาฯ (CU Radio) FM 101.5 MHz." สถานีวิทยุจุฬาฯ (CU Radio) FM 101.5 MHz คลื่นความรู้สู่ประชาชน - Digital Media Center - Live Radio - Radio On Demand - New Media - News - Knowledge - Education - Music. Accessed May 19, 2017. http://www.curadio.chula.ac.th/Contact-Us.php เก็บถาวร 2017-05-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา. (8 กุมภาพันธ์ 2498). พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ พ.ศ. 2498. เรียกใช้เมื่อ 20 พฤศภาคม 2560 จาก เว็บไซต์ ratchakitcha.soc.go.th: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2498/A/011/237.PDF
- ↑ "ประวัติความเป็นมา." สำนักงานคณะกรรมการบริการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์กองทัพอากาศ. Accessed May 20, 2017. http://119.46.201.173/rtafbc/?page_id=65[ลิงก์เสีย].
![]() |
บทความเกี่ยวกับการสื่อสาร และโทรคมนาคมนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |