ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ล ย้อนการแก้ไขที่อาจเป็นการทดลอง หรือก่อกวนด้วยบอต ไม่ควรย้อน? แจ้งที่นี่ ป้ายระบุ: ย้อนด้วยมือ |
||
บรรทัด 29: | บรรทัด 29: | ||
|รหัสภูมิภาค = |
|รหัสภูมิภาค = |
||
|บุคลากร = |
|บุคลากร = |
||
|งบประมาณ = 66.4922 ล้านบาท <small>([[พ.ศ. 2559]])</small><ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2558/A/091/17.PDF พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559] เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558</ref> |
|||
|งบประมาณ = |
|||
|หัวหน้า1_ชื่อ = [[ |
|หัวหน้า1_ชื่อ = [[สุพันธุ์ มงคลสุธี]] |
||
|หัวหน้า1_ตำแหน่ง = ประธานกรรมการ |
|หัวหน้า1_ตำแหน่ง = ประธานกรรมการ |
||
|หัวหน้า2_ชื่อ = ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร |
|หัวหน้า2_ชื่อ = ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร |
||
บรรทัด 78: | บรรทัด 78: | ||
== การดำเนินงาน == |
== การดำเนินงาน == |
||
ธสน. มีขอบเขตอำนาจในการทำธุรกิจไว้อย่างกว้างขวาง ธสน. จึงสามารถให้[[สินเชื่อ]]ได้ทุกรูปแบบ เช่น สินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อระยะยาว สินเชื่อในประเทศและสินเชื่อต่างประเทศ โดยสามารถทำธุรกิจได้ทั้งที่เป็น[[สกุลเงิน]]บาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศและออกตราสารการเงินระยะสั้นและระยะยาวขายแก่สถาบันการเงินและประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ กล่าวโดยสรุป ธสน. สามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่[[ธนาคารพาณิชย์]]ทำได้ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไปเท่านั้น สำหรับนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ สนับสนุนการลงทุนในรูปของการให้บริการทางการเงินทั้งสินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ยังพร้อมที่จะร่วมลงทุนถือหุ้นในกิจการอีกด้วย การรับประกันความเสี่ยงในการเรียกเก็บเงินจากการส่งออก |
ธสน. มีขอบเขตอำนาจในการทำธุรกิจไว้อย่างกว้างขวาง ธสน. จึงสามารถให้[[สินเชื่อ]]ได้ทุกรูปแบบ เช่น สินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อระยะยาว สินเชื่อในประเทศและสินเชื่อต่างประเทศ โดยสามารถทำธุรกิจได้ทั้งที่เป็น[[สกุลเงิน]]บาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศและออกตราสารการเงินระยะสั้นและระยะยาวขายแก่สถาบันการเงินและประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ กล่าวโดยสรุป ธสน. สามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่[[ธนาคารพาณิชย์]]ทำได้ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไปเท่านั้น สำหรับนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ สนับสนุนการลงทุนในรูปของการให้บริการทางการเงินทั้งสินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ยังพร้อมที่จะร่วมลงทุนถือหุ้นในกิจการอีกด้วย การรับประกันความเสี่ยงในการเรียกเก็บเงินจากการส่งออก |
||
ในปี พ.ศ. 2553 ธสน. มีผลกำไรสุทธิ 144.73 ล้านบาท ลดลงจากปี พ.ศ. 2552 ที่มีผลกำไรสุทธิ 346.148 ล้านบาท<ref>[http://www.sepo.go.th/2553-sfis-annual-reviews-2010/1004-sfis-annual-reviews-2010/209/category.htm รายงานผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจประจำปี 2553]</ref> |
|||
== สาขา == |
== สาขา == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:03, 14 มิถุนายน 2564
Export-Import Bank of Thailand | |
ภาพรวมหน่วยงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 7 กันยายน พ.ศ. 2536 |
สำนักงานใหญ่ | 1193 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 |
งบประมาณประจำปี | 66.4922 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1] |
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน |
|
ต้นสังกัดหน่วยงาน | กระทรวงการคลัง |
เว็บไซต์ | www.exim.go.th |
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) (Export-Import Bank of Thailand หรือ EXIM Bank) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2536[2] เพื่อประกอบธุรกิจอันเป็นการส่งเสริม และสนับสนุนการส่งออก การนำเข้า และการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
การดำเนินงาน
ธสน. มีขอบเขตอำนาจในการทำธุรกิจไว้อย่างกว้างขวาง ธสน. จึงสามารถให้สินเชื่อได้ทุกรูปแบบ เช่น สินเชื่อระยะสั้นและสินเชื่อระยะยาว สินเชื่อในประเทศและสินเชื่อต่างประเทศ โดยสามารถทำธุรกิจได้ทั้งที่เป็นสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินทุกประเภททั้งในประเทศและต่างประเทศและออกตราสารการเงินระยะสั้นและระยะยาวขายแก่สถาบันการเงินและประชาชนทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ กล่าวโดยสรุป ธสน. สามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไปเท่านั้น สำหรับนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ สนับสนุนการลงทุนในรูปของการให้บริการทางการเงินทั้งสินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุน ยังพร้อมที่จะร่วมลงทุนถือหุ้นในกิจการอีกด้วย การรับประกันความเสี่ยงในการเรียกเก็บเงินจากการส่งออก
ในปี พ.ศ. 2553 ธสน. มีผลกำไรสุทธิ 144.73 ล้านบาท ลดลงจากปี พ.ศ. 2552 ที่มีผลกำไรสุทธิ 346.148 ล้านบาท[3]
สาขา
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีจำนวนสาขาทั่วประเทศไทยทั้งสิ้น 9 สาขา[4]
สาขา
- สาขาบางนา-ตราด กม.3
- สาขาพระราม 2
- สาขาพระราม 4
- สาขารังสิต
- สาขาเสรีไทย
- สาขาขอนแก่น
- สาขาเชียงใหม่
- สาขาหาดใหญ่
- สาขาแหลมฉบัง
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
- ↑ พระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๓๖
- ↑ รายงานผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจประจำปี 2553
- ↑ รายงานประจำปี พ.ศ. 2552
แหล่งข้อมูลอื่น
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
- นำเข้า ส่งออก ติดต่องานราชการ ติดต่อกรมศุลกากร ขอรับการส่งเสริม boi