ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 10: | บรรทัด 10: | ||
}} |
}} |
||
'''คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่''' เป็นหนึ่งในสามคณะแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มเปิดการเรียนการสอน |
'''คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่''' เป็นหนึ่งในสามคณะแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มเปิดการเรียนการสอนวันที่ [[18 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2507]] ซึ่งเป็นการสอนวันแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย ปัจจุบันดำเนินการจัดการเรียนการสอน และการวิจัย โดยจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก นอกจากนี้ยังจัดการเรียนการสอนสาขาวิทยาศาสตร์พื้นฐานให้กับนักศึกษาในคณะต่างๆ อีกด้วย |
||
== ทำเนียบคณบดี == |
== ทำเนียบคณบดี == |
||
บรรทัด 261: | บรรทัด 261: | ||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
{{เริ่มอ้างอิง}} |
|||
⚫ | |||
{{จบอ้างอิง}} |
|||
== บุคคลสำคัญ == |
== บุคคลสำคัญ == |
||
บรรทัด 275: | บรรทัด 275: | ||
* [http://www.science.cmu.ac.th คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่] |
* [http://www.science.cmu.ac.th คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่] |
||
* [http://www.science.cmu.ac.th/scismo สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่] |
* [http://www.science.cmu.ac.th/scismo สโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่] |
||
⚫ | |||
{{คณะวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย}} |
{{คณะวิทยาศาสตร์ในประเทศไทย}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:00, 9 กันยายน 2556
Faculty of Science Chiang Mai University | |
สถาปนา | 18 มิถุนายน พ.ศ. 2507 |
---|---|
คณบดี | รศ.ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ |
ที่อยู่ | |
สี | สีเหลืองจำปา |
เว็บไซต์ | www.science.cmu.ac.th |
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสามคณะแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เริ่มเปิดการเรียนการสอนวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ซึ่งเป็นการสอนวันแรกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย ปัจจุบันดำเนินการจัดการเรียนการสอน และการวิจัย โดยจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก นอกจากนี้ยังจัดการเรียนการสอนสาขาวิทยาศาสตร์พื้นฐานให้กับนักศึกษาในคณะต่างๆ อีกด้วย
ทำเนียบคณบดี
ทำเนียบคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | ||
รายนามคณบดี | ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง
| |
---|---|---|
1. | พ.ศ. | |
2. | พ.ศ. | |
3. | พ.ศ. | |
4. | พ.ศ. | |
5. | พ.ศ. | |
6. | พ.ศ. | |
7. | พ.ศ. | |
8. | พ.ศ. |
การรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อ
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการรับนักศึกษาผ่านทาง 3 ช่องทาง ประกอบด้วย
- โครงการพิเศษ มีทั้งโครงการที่คณะรับเอง และรับตรงผ่านมหาวิทยาลัย
- :* โครงการรับตรงของคณะ ประกอบด้วย การรับนักศึกษาเข้าในโครงการทุน พสวท., ทุนเพชรทองกวาว, ทุน วคช. , โครงการวิทยาศาสตร์ในโรงเรียน (วทร.), และการรับเข้าโดยวิธีพิเศษ (วพ.) โดยเปิดรับสมัครนักเรียน ม.5 ในช่วงเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ของทุกปี และสอบในเดือนพฤษภาคมของทุกปี นอกจากนี้ยังมีโครงการอัจฉริยภาพ (รับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ JSTP) และโครงการพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์ (ทุนเรียนดีวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย) ซึ่งรับสมัครในเดือนกันยายน และสอบในเดือนธันวาคมของทุกปี
- :* โครงการพิเศษผ่านมหาวิทยาลัย โดยโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและชุมชน (โครงการเรียนดี ม.ช. และโครงการกีฬา)
- การรับนักศึกษาในระบบโควตาภาคเหนือ เป็นการรับนักศึกษาผ่านการสอบโควตาภาคเหนือ 17 จังหวัด ซึ่งจัดสอบในเดือนธันวาคมของทุกปี
- การรับนักศึกษาในระบบแอดมิดชันส์
หลักสูตร
หลักสูตรปริญญาตรี
ปัจจุบันใช้หลักสูตรที่ปรับปรุงในปีการศึกษา 2548 - 2549 ตามแต่ละสาขาวิชา โดยคาดว่าปีการศึกษา 2554 จะมีการใช้หลักสูตรใหม่ โดยเพิ่มกระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม การเพิ่มรายวิชาสหกิจศึกษา และหลักสูตรสำหรับนักศึกษาปรีชาชาญ (Honor Program)[1]
หลักสูตรปริญญาโท
หลักสูตรระดับปริญญาโทที่เปิดสอนในคณะวิทยาศาสตร์ มี 2 แผน เป็นหลักสูตร 2 ปี ใช้เวลาศึกษาไม่เกิน 5 ปี จำนวนหน่วยกิตรวมไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต ดังนี้
- แผน ก เป็นแผนการศึกษาที่เน้นการทำวิจัยโดยมีการทำวิทยานิพนธ์ ดังนี้
- :* แบบ ก 1 ทำเฉพาะวิทยานิพนธ์ จำนวนหน่วยกิตไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
- :* แบบ ก 2 ทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และศึกษากระบวนวิชา ในระดับบัณฑิตศึกษาอีกไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต
- แผน ข เป็นแผนการศึกษาที่เน้นงานรายวิชา โดยไม่ต้องทำวิทยานิพนธ์ แต่ต้องมีการค้นคว้าแบบอิสระ
- ทำการค้นคว้าแบบอิสระ 5-6 หน่วยกิต และศึกษากระบวนวิชาในระดับบัณฑิตศึกษาอีกไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิตหลักสูตรระดับปริญญาโท </ref>
หลักสูตรปริญญาเอก
หลักสูตรระดับปริญญาเอกที่เปิดสอนในคณะวิทยาศาสตร์มี 2 แบบ ได้แก่
- แบบ 1 เน้นการวิจัยที่ก่อให้เกิดความรู้ใหม่
- :* แบบ 1.1 สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต และใช้ระยะเวลาการศึกษาไม่เกิน 6 ปีการศึกษา
- :* แบบ 1.2 สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 72 หน่วยกิต และใช้ระยะเวลาการศึกษาไม่เกิน 8 ปีการศึกษา
นอกจากนี้หลักสูตรอาจกำหนดให้เรียนกระบวนวิชาเพิ่มเติมได้โดยไม่นับหน่วยกิต
- แบบ 2 เน้นการวิจัยและมีการทำวิทยานิพนธ์ที่มีคุณภาพสูง ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพ
- :* แบบ 2.1 สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต และศึกษากระบวนวิชาระดับบัณฑิตศึกษาไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต และใช้ระยะเวลาการศึกษาไม่เกิน 6 ปีการศึกษา
- :* แบบ 2.2 สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีต้องทำวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต และศึกษากระบวนวิชาในระดับบัณฑิตศึกษาไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต และใช้ระยะเวลาการศึกษาไม่เกิน 8 ปีการศึกษาหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา </ref>
ระดับปริญญาตรี | ระดับปริญญาโท | ระดับปริญญาเอก |
---|---|---|
วิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.)
|
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.)
|
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
|
ภาควิชาและการแบ่งส่วนงาน
ปัจจุบัน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีภาควิชาทั้งสิ้น 8 ภาควิชา ดังต่อไปนี้
โดยสำหรับสำนักงานคณะวิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคาร 40 ปี คณะวิทยาศาสตร์ โดยสำนักงานคณะวิทยาศาสตร์ได้แบ่งส่วนงานไว้ดังนี้
โครงการที่คณะวิทยาศาสตร์ดำเนินการ
การบริการวิชาการแก่ชุมชนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้บริการวิทยาศาสตร์แก่ชุมชนในหลายๆ โครงการ อาทิเช่น
สถานที่สำคัญภายในคณะ
กิจกรรมสำหรับนักศึกษาสำหรับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีกิจกรรมสำหรับนักศึกษาให้เลือกสรรอย่างหลากหลาย ภายใต้การดูแลของสโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สนว.) ซึ่งการบริหารงานปัจจุบัน ดำเนินการตามตามระเบียบการบริหารงานสโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พุทธศักราช 2551 โดยสโมสรนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคาร 40 ปีคณะวิทยาศาสตร์ กิจกรรมนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์กิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บางกิจกรรมเข้าร่วมกับสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (สมช.)
ทั้งนี้นักศึกษาสามารถสังกัดชมรมในสังกัด สนว. ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ชมรมเสริมหลักสูตร และชมรมกีฬา ประกอบด้วย ชมรมเสริมหลักสูตร
ชมรมกีฬา
อ้างอิงบุคคลสำคัญ
แหล่งข้อมูลอื่น |