คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร
Faculty of Science, Silpakorn University
สถาปนา27 ธันวาคม พ.ศ. 2514 (52 ปี)
คณบดีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นรงค์ ฉิมพาลี
ที่อยู่
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เลขที่ 6 ถนนราชมรรคาใน ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 73000
วารสารวารสารคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
สี██ สีจำปา[1]
มาสคอต
พระคเณศ ภายใน อะตอม
เว็บไซต์www.sc.su.ac.th

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (อังกฤษ: Faculty of Science, Silpakorn University) เป็นคณะวิชาลำดับที่ 7 ของ มหาวิทยาลัยศิลปากร และเป็นคณะวิชาแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่เปิดสอนด้านวิทยาศาสตร์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2514

ประวัติ[แก้]

"คณะวิทยาศาสตร์" ได้ก่อตั้งขึ้นในวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2514 เป็นคณะที่ 7 ของ มหาวิทยาลัยศิลปากร โดยเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศที่เกี่ยวข้องกับงานการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่เนื่องจากในปีการศึกษา 2515 ซึ่งเป็นปีการศึกษาแรก อาคารเรียนของคณะวิทยาศาสตร์ ณ วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ยังสร้างไม่เสร็จ จึงจำเป็นต้องฝากนักศึกษารุ่นแรกเรียนที่แผนกพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี จนในปีการศึกษา 2516 จึงได้ย้ายมาดำเนินการต่อที่อาคารหลังแรกของคณะวิทยาศาสตร์ และได้จัดสร้างอาคารประกอบอื่น ๆ เช่น โรงเลี้ยงสัตว์ทดลองและเรือนต้นไม้ของภาควิชาชีววิทยา

คณะวิทยาศาสตร์เปิดสอนหลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต แก่นักศึกษารุ่นแรก จำนวน 48 คน แบ่งเป็น 3 สาขาใน 2 ภาควิชาคือ สาขาวิชาคณิตศาสตร์และสาขาวิชาสถิติในภาควิชาคณิตศาสตร์ และสาขาวิชาชีววิทยาในภาควิชาชีววิทยา จากนั้นในปีการศึกษา 2519 คณะวิทยาศาสตร์ได้เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาฟิสิกส์เพิ่มอีก 2 สาขาวิชาเอก ทางคณะวิทยาศาสตร์มีนโยบายการพัฒนาการศึกษาในด้านคุณภาพการศึกษาและการจัดตั้งสาขาวิชาใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งมีผลกระทบกับจำนวนนักศึกษาที่ต้องเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้นตั้งแต่ปีการศึกษา 2520 เป็นต้นมาคณะวิทยาศาสตร์จึงรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพิ่มขึ้นทุกปี

ปีการศึกษา 2522 คณะวิทยาศาสตร์เปิดรับนักศึกษาในเขตภูมิภาคตะวันตกให้เข้าศึกษาในคณะวิทยาศาสตร์โดยการสอบคัดเลือกแบบโควตาพิเศษเป็นครั้งแรก ในขณะนั้น คณะวิทยาศาสตร์ผลิตบัณฑิต 6 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิชาสถิติ สาขาวิชาเคมี สาขาวิชาชีววิทยา สาขาวิชาฟิสิกส์ และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป ซึ่งมีสาขาย่อยดังนี้ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวฟิสิกส์ สาขาวิชาเคมีชีววิทยา และสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวสถิติ

ในปีงบประมาณ 2525 คณะวิทยาศาสตร์ได้รับงบประมาณเพื่อก่อสร้างโรงเลี้ยงแมลงเพื่องานวิจัยของภาควิชาชีววิทยาอีก 1 หลัง โดยสร้างต่อเชื่อมกับเรือนกระจกสำหรับปลูกพืชทดลอง

หลังจากเปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์ทั่วไปเป็นเวลาพอสมควร คณะวิทยาศาสตร์ประสบปัญหาการจัดการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก จึงมีดำริที่จะหยุดผลิตบัณฑิตสาขาวิชานี้ แต่เล็งเห็นถึงความสำคัญของสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ดังนั้นนับแต่ปีการศึกษา 2528 เป็นต้นมาคณะวิทยาศาสตร์จึงรับนักศึกษาเข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์ทั่วไปเพียงสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพียงสาขาเดียว

ต่อมาปีการศึกษา 2532 คณะวิทยาศาสตร์ได้รับการอนุมัติจัดตั้งภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจาก ทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นคณะวิชาแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในระดับปริญญาตรี

การเรียนการสอนในอีกสาขาหนึ่งที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในคณะวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกับการเติบโตของศูนย์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย คือสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งได้รับความเห็นชอบผ่านการอนุมัติจากทบวงมหาวิทยาลัยใน พ.ศ. 2531

จากการขยายตัวทางการศึกษาซึ่งมีการเปิดสอนสาขาวิชาใหม่ทำให้จำนวนนักศึกษาเพิ่มขึ้น จำนวนอาจารย์และบุคลากรทุกด้านก็เพิ่มมากขึ้นด้วย อาคารที่ทำการหลังแรกจึงดูคับแคบไปอย่างถนัด คณะวิทยาศาสตร์มีความจำเป็นต้องสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นอีก 1 หลัง เพื่อใช้เป็นสถานที่ทำการของภาควิชาเคมี ภาควิชาฟิสิกส์ ห้องปฏิบัติการและห้องวิจัยของสาขาวิชาเคมีและสาขาวิชาฟิสิกส์ ตลอดจนห้องบรรยายต่าง ๆ

นอกจากห้องเรียนดังกล่าวแล้ว ทางคณะวิทยาศาสตร์ยังเล็งเห็นความจำเป็นในการใช้ห้องบรรยายรวมสำหรับใช้บรรยายวิชาพื้นฐานของคณะวิทยาศาสตร์ จึงดำริสร้างอาคารเรียนรวมขึ้นอีกหนึ่งหลัง พร้อมกับอาคารวิทยาศาสตร์หลังที่ 3 โดยอาคารเรียนรวมวิทยาศาสตร์ (ร.วท.) นี้ประกอบด้วย ห้องบรรยายขนาดจุห้องละ 232 ที่นั่ง จำนวน 2 ห้อง ส่วนอาคารเรียนวิทยาศาสตร์หลังที่ 3 ประกอบด้วยห้องบรรยาย ห้องสัมมนา สำนักงานภาควิชาเคมี สำนักงานภาควิชาฟิสิกส์ ห้องปฏิบัติงาน ห้องวิจัยทางเคมีและฟิสิกส์

เนื่องจากคณะวิทยาศาสตร์ต้องรับภาระสอนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ให้กับคณะวิชาต่าง ๆ รวมถึง คณะเภสัชศาสตร์ และ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม จึงจำเป็นต้องขยายพื้นที่อาคารวิทยาศาสตร์ให้เพียงพอกับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้น คณะวิทยาศาสตร์จึงของบประมาณสร้างอาคารเพิ่มเติมเพื่อเป็นห้องปฏิบัติวิชาพื้นฐานทั้งหมด ซึ่งในระยะนี้มหาวิทยาลัยมีนโยบายจัดตั้งศูนย์เครื่องมือวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วย แต่เนื่องจากโครงการจัดตั้งศูนย์เครื่องมือวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ จึงไม่ได้รับงบประมาณก่อสร้าง โครงการมหาวิทยาลัยจึงให้ที่ทำการศูนย์เครื่องมือวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอยู่ในความดูแลของคณะวิทยาศาสตร์ และให้ใช้อาคารวิทยาศาสตร์หลังที่ 4 ส่วนหนึ่งเป็นที่ทำการของศูนย์ด้วย อาคารหลังนี้จึงเรียกชื่อว่า อาคารปฏิบัติการรวมและศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ (อาคารวิทยาศาสตร์ 4)

ต่อมาในปีการศึกษา 2535 – 2538 คณะวิทยาศาสตร์พิจารณารับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 จาก 20 คน เป็น 260 คน ถึงแม้ว่าคณะวิทยาศาสตร์จะพิจารณารับนักศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบทุกปีแล้วก็ตาม เมื่อมีการวิเคราะห์จำนวนความต้องการนักวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศแล้ว พบว่าประเทศไทยยังขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์อีกถึงปีละ 10,000 คน ทบวงมหาวิทยาลัยจึงขอความร่วมมือจากคณะวิทยาศาสตร์ทุกมหาวิทยาลัยของรัฐทั่วประเทศ ให้พิจารณาผลิตบัณฑิตทางวิทยาศาสตร์เพิ่มให้เพียงพอต่อความต้องการของประเทศ ฉะนั้นคณะวิทยาศาสตร์จึงจำเป็นต้องรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีการศึกษา 2539 อีก 180 คน และเนื่องจากสาขาวิชาคณิตศาสตร์เป็นอีกสาขาวิชาหนึ่งที่ขาดแคลนอย่างยิ่ง ซึ่งทางทบวงมหาวิทยาลัยขอให้รับเพิ่มอีกปีละ 10 คน ดังนั้นในปีการศึกษา 2539 คณะวิทยาศาสตร์จึงรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพิ่มอีก 190 คนรวมจากเดิม 260 คนเป็น 450 คน ต่อมาสาขาวิชาคณิตศาสตร์พิจารณาเพิ่มอีก 10 คน ฉะนั้นในปีการศึกษา 2540 คณะวิทยาศาสตร์รับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 รวมทั้งสิ้น 460 คน

ดังนั้นอาคารปฏิบัติงานฟิสิกส์และอาคารเก็บสารเคมีซึ่งเดิมเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชั้นเดียว แบ่งเป็นส่วนที่ฝึกปฏิบัติการทางฟิสิกส์ และเก็บสารเคมีของภาควิชาเคมีอย่างละครึ่ง ภายหลังเมื่อคณะวิทยาศาสตร์รับนักศึกษาเพิ่มขึ้นจาก 260 คน เป็น 460 คน จึงจำเป็นต้องสร้างอาคารปฏิบัติการฟิสิกส์และอาคารเก็บสารเคมีใหม่ และเพื่อความปลอดภัยจึงแยกออกเป็น 2 อาคาร นอกจากนั้นคณะวิทยาศาสตร์ยังตัดสินใจเข้าร่วมโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (พสวท.) และโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (พสวท.ครู)

การขยายตัวทางการศึกษาอย่างกะทันหันทำให้คณะวิทยาศาสตร์มีปัญหาเรื่องสถานที่เรียนมาก คณะวิทยาศาสตร์จึงได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารอีก 1 หลัง พื้นที่ประมาณ 16,000 ตารางเมตร โดยปลูกสร้างในพื้นที่เดิมของอาคารหลังที่ 1 ซึ่งเสื่อมสภาพมากแล้วจากอาคารเดิมสูง 3 ชั้น เป็นอาคารใหญ่สูง 8 ชั้น อาคารหลังนี้ยังคงเรียกว่า อาคารวิทยาศาสตร์หลังที่ 1 เหมือนเดิม

หน่วยงาน[แก้]

อาคารวิทยา 1
  • สำนักงานคณบดี
  • ภาควิชาคณิตศาสตร์
  • ภาควิชาเคมี
  • ภาควิชาชีววิทยา
  • ภาควิชาฟิสิกส์
  • ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  • ภาควิชาสถิติ
  • ภาควิชาคอมพิวเตอร์
  • ภาควิชาจุลชีววิทยา
  • ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์

หลักสูตร[แก้]

ปริญญาตรี
ปริญญาโท
ปริญญาเอก

หลักสูตร วิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.)

  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์
  • สาขาวิชาชีววิทยา
  • สาขาวิชาเคมี
  • สาขาวิชาฟิสิกส์
  • สาขาวิชาสถิติ
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  • สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
  • สาขาวิชาจุลชีววิทยา
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์ประยุกต์
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • สาขาวิชาวิทยาการข้อมูล

หลักสูตร ศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.)

หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.)

  • สาขาวิชาเคมีศึกษา
  • สาขาวิชาเคมี
  • สาขาวิชาฟิสิกส์
  • สาขาวิชาชีววิทยา
  • สาขาวิชาจุลชีววิทยา
  • สาขาวิชาสถิติประยุกต์
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมดิจิทัล
  • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
  • สาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์ (ร่วมกับ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ)

หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)

  • สาขาวิชาเคมี
  • สาขาวิชาฟิสิกส์
  • สาขาวิชาคณิตศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ)
  • สาขาวิชาชีววิทยา
  • สาขาวิชาจุลชีววิทยา
  • สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมดิจิทัล
  • สาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์และงานยุติธรรม (หลักสูตรพหุวิทยาการ)

ทำเนียบคณบดี[แก้]

รายนามคณบดีคณะวิทยาศาสตร์
ลำดับ คณบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
1
รองศาสตราจารย์ ดร. ไววิทย์ พุทธารี 30 สิงหาคม พ.ศ. 2515 – 11 กันยายน พ.ศ. 2517
12 กันยายน พ.ศ. 2517 – 1 มิถุนายน พ.ศ. 2519[2]
2
ศาสตราจารย์ ดร. อดุล วิเชียรเจริญ รักษาราชการแทนคณบดี 2 มิถุนายน พ.ศ. 2519 – 17 มีนาคม พ.ศ. 2520[3]
3
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ทวี หอมชง 18 มีนาคม พ.ศ. 2520 – 31 มกราคม พ.ศ. 2521[4]
4
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุรชัย นิมจิรวัฒน์ รักษาราชการแทนคณบดี 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 – 30 กันยายน พ.ศ. 2521
1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2525 – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2529[5]
5
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ประดน จาติกวนิช 1 ตุลาคม พ.ศ. 2521 – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2525[6]
6
อาจารย์ ดร. สมเกียรติ ธาดานิติ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 – 31 ตุลาคม พ.ศ. 2533[7]
7
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พินิติ รตะนานุกูล 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2533 – 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 (ลาออก)[8]
8
อาจารย์ ดร. ดลฤดี ฉิมพาลี รักษาราชการแทนคณบดี 1 มีนาคม พ.ศ. 2537 – 5 เมษายน พ.ศ. 2537[9]
9
อาจารย์ ดร. จรุงแสง ลักษณบุญส่ง 6 เมษายน พ.ศ. 2537 – 5 เมษายน พ.ศ. 2541[10]
6 เมษายน พ.ศ. 2541 – 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 (ลาออก)[11]
รักษาราชการแทนคณบดี 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 – 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544[12]
1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 – 30 กันยายน พ.ศ. 2553[13]
1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 – 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555[14]
รักษาราชการ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555 – 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556[15]
10
รองศาสตราจารย์ วัฒนา เกาศัลย์ รักษาราชการแทนคณบดี 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 7 มีนาคม พ.ศ. 2544[16]
11
อาจารย์ ดร. ชาคร วิภูษณวนิช 8 มีนาคม พ.ศ. 2544 – 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 (ลาออก)[17]
รักษาราชการแทนคณบดี 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 – 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2546[18]
12
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปราณี นิลกรณ์ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 – 30 กันยายน พ.ศ. 2549 (ลาออก)[19]
13
รองศาสตราจารย์ ดร. สืบสกุล อยู่ยืนยง 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556 – 12 มิถุนายน พ.ศ. 2560[20]
14
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นรงค์ ฉิมพาลี 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 – ปัจจุบัน[21]
  • หมายเหตุ ตำแหน่งทางวิชาการในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น

อ้างอิง[แก้]

  1. สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยศิลปากร ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560
  2. คำสั่ง มศก. ที่ 292/2517 ลงวันที่ 20 กันยายน 2517
  3. คำสั่ง มศก. ที่ 202/2519 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2519
  4. คำสั่ง มศก. ที่ 137/2520 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2520
  5. คำสั่ง มศก. ที่ 711/2525 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2525
  6. คำสั่ง มศก. ที่ 420/2521 ลงวันที่ 15 กันยายน 2521
  7. คำสั่ง มศก. ที่ 687/2529 ลงวันที่ 14 กันยายน 2529
  8. คำสั่ง มศก. ที่ 767/2533 ลงวันที่ 5 กันยายน 2533
  9. คำสั่ง มศก. ที่ 179/2537 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2537
  10. คำสั่ง มศก. ที่ 336/2537 ลงวันที่ 5 เมษายน 2537
  11. คำสั่ง มศก. ที่ 193/2541 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2541
  12. คำสั่ง มศก. ที่ 1201/2543 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2543
  13. คำสั่ง มศก.ที่ 1487/2549 ลงวันที่ 14 กันยายน 2549
  14. คำสั่ง มศก. ที่ 1290/2553 ลงวันที่ 13 กันยายน 2553
  15. คำสั่ง มศก. ที่ 1851/2555 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2555
  16. คำสั่ง มศก.ที่ 181/2544 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2544
  17. คำสั่ง มศก.ที่ 206/2544 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2544
  18. คำสั่ง มศก.ที่ 450/2546 ลงวันที่ 28 เมษายน 2546
  19. คำสั่ง มศก.ที่ 522/2546 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2546
  20. คำสั่ง มศก. ที่ 917/2556 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2556
  21. คำสั่ง มศก. ที่ 974/2560 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2560

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]