ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดอุบลราชธานี"
ล →การศึกษา: เพิ่มข้อมูลระดับการสอนของโรงเรียนจีน |
AlleborgoBot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต เพิ่ม: it:Ubon Ratchathani (provincia) |
||
บรรทัด 412: | บรรทัด 412: | ||
[[en:Ubon Ratchathani Province]] |
[[en:Ubon Ratchathani Province]] |
||
[[fr:Province d'Ubon Ratchathani]] |
[[fr:Province d'Ubon Ratchathani]] |
||
[[it:Ubon Ratchathani (provincia)]] |
|||
[[ja:ウボンラーチャターニー県]] |
[[ja:ウボンラーチャターニー県]] |
||
[[nl:Changwat Ubon Ratchathani]] |
[[nl:Changwat Ubon Ratchathani]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:14, 16 ธันวาคม 2551
จังหวัดอุบลราชธานี | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Ubon Ratchathani |
คำขวัญ: เมืองดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาย หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์ | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานีเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | นายชวน ศิรินันท์พร (ตั้งแต่ พ.ศ. 2550) |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 16,112.650 ตร.กม. (6,221.129 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 5 |
ประชากร (พ.ศ. 2550) | |
• ทั้งหมด | 1,785,709 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 3 |
• ความหนาแน่น | 113.42 คน/ตร.กม. (293.8 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 44 |
รหัส ISO 3166 | TH-34 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | อุบล |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | ยางนา |
• ดอกไม้ | บัว |
ศาลากลางจังหวัด | |
• โทรศัพท์ | 0 4525 4539, 0 4531 9700 |
เว็บไซต์ | http://www.ubonratchathani.go.th/ |
จังหวัดอุบลราชธานี เป็นจังหวัดทางตะวันออกสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและของประเทศไทย ทั้งยังเป็นตำบลที่ตั้งของเส้นเวลาหลักของประเทศ ที่เส้นแวง 105 องศาตะวันออก โดยเป็นจังหวัดแรกที่ได้เห็นดวงอาทิตย์ก่อนพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ
จังหวัดอุบลราชธานีมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีพื้นที่กว้างใหญ่ ภายหลังถูกแบ่งออกเป็นจังหวัดใหม่คือจังหวัดยโสธรในปี พ.ศ. 2515 และจังหวัดอำนาจเจริญในปี พ.ศ. 2536 และถ้ารวมพื้นที่อีกสองจังหวัดที่แยกออกไป จังหวัดอุบลราชธานีจะมีพื้นที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย
ประวัติศาสตร์
ในอดีต อุบลราชธานี คือพื้นที่ของอาณาจักรเขมร จนกระทั่งสมเด็จพระรามาธิบดีแห่งกรุงศรีอยุธยา ได้รวบรวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน หลังจากนั้นไม่นาน ปี พ.ศ. 2310 ก็ได้มีการแตกแยกเป็นหมู่เป็นเหล่าปกปักหลักฐานที่นั่น 20 ปีต่อมา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รวมก๊กหมู่เหล่า เป็นอาณาจักรสำเร็จ และได้สถาปนากรุงธนบุรี ครั้งนั้นพระวอ พระตา พร้อมด้วยท้าวคำผง (พระประทุมวรราชสุริยวงศ์) แห่งเมืองเวียงจันทน์ ได้อพยพมาจากหนองบัวลำภู มาตั้งเมืองใหม่ที่บริเวณดอนมดแดงในปี พ.ศ. 2326 บริเวณของแม่น้ำมูล และต่อมาได้เกิดน้ำท่วมเกาะนั้น แล้วได้ย้ายเมืองมาตั้งที่บริเวณตัวจังหวัดในปัจจุบัน และได้ตั้งเป็นเมืองอุบลราชธานี ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และในปี พ.ศ. 2335 ได้กลายเป็นมณฑลอุบลราชธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการบริหารของมณฑลอิสาน ต่อมามณฑลอุบลราชธานีได้ยุบ โอนมาขึ้นกับมณฑลนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2468
ในปี พ.ศ. 2476 ได้มีการยกเลิกมณฑลทั้งประเทศ และได้กลายเป็นจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งแยกออกมา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2515 จังหวัดอุบลราชธานี ได้กลายเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และในปีเดียวกัน จังหวัดอุบลราชธานีก็ได้ถูกแบ่งออก โดยอำเภอยโสธรและอำเภอใกล้เคียง เป็นจังหวัดยโสธร ในปี พ.ศ. 2515 ต่อมาปี 2536 ได้ถูกแบ่งอีกครั้ง โดยอำเภออำนาจเจริญ และอำเภอใกล้เคียงเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งตอนนี้จังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่เป็นอันดับ 5 ของไทย และมีประชากรลำดับที่ 3 ของประเทศ
อาณาเขต
- ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดอำนาจเจริญ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และบางส่วนของจังหวัดยโสธร
- ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดยโสธรและศรีสะเกษ
- ทิศใต้ติดต่อกับพรมแดนราชอาณาจักรกัมพูชา
- ทิศตะวันออกติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีพื้นที่บางส่วน มีแม่น้ำโขงไหลคั่น
แนวพรมแดน ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชาชนลาว และประเทศกัมพูชา รวมความยาวประมาณ 428 กม.
- ติดต่อกับ สปปล. 361 กม. (จากอำเภอเขมราฐ-อำเภอน้ำยืน ติดต่อกับแขวง สะหวันนะเขต แขวงสาละวัน และแขวงจำปาสัก)
- ติดต่อกับ กัมพูชา 67 กม. (อำเภอน้ำยืนติดต่อกับจังหวัดเขาพระวิหาร)
ลักษณะภูมิประเทศ
จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า แอ่งโคราช (Korat basin) โดยสูง จากระดับน้ำทะเล เฉลี่ย ประมาณ 68 เมตร (227 ฟุต) ลักษณะโดยทั่วไปเป็นที่สูงต่ำ เป็นที่ราบสูงลาดเอียงไปทางตะวันออกมีแม่น้ำโขง เป็นแนวเขตกั้นจังหวัดอุบลราชธานีกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีแม่น้ำชีไหลมาบรรจบกับ แม่น้ำมูลซึ่งไหลผ่านกลางจังหวัด จากทิศตะวันตกมายังทิศตะวันออกแล้วไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่อำเภอ โขงเจียม และมีลำน้ำใหญ่ ๆ อีกหลายสาย ได้แก่ ลำเซบก ลำโดมใหญ่ ลำโดมน้อย และมีภูเขาสลับซับซ้อนหลายแห่ง ทางบริเวณชายแดน ตอนใต้ที่สำคัญคือ เทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาพนมดงรักซึ่งกั้นอาณาเขตระหว่าง จังหวัดอุบลราชธานีกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และกัมพูชา ลักษณะภูมิสัณฐานของ จังหวัดอุบลราชธานี แบ่งออกโดยสังเขป ดังนี้
- บริเวณ ที่เป็นสันดินริมน้ำ (River levee)เกิดจากตะกอนลำน้ำที่พัดพามาทับถม สภาพพื้นที่เป็นเนิน สันดินริมฝั่งแม่น้ำโขง และบาง บริเวณสัน ดินริมฝั่งลำเซบาย
- บริเวณที่ เป็นแบบลานตะพักลำน้ำ (Terrace) ที่เกิดจากการกระทำของขบวน การของน้ำนานมาแล้ว ประกอบด้วยบริเวณที่เป็นลาน ตะพักลำน้ำระดับต่ำ ระดับกลางและระดับสูง ลักษณะพื้นที่ที่มีทั้งที่เป็นที่ราบแบบ ลูกคลื่นลอนลาดจนถึงลูกคลื่นลอนชัน จะอยู่ถัดจากบริเวณ ที่ราบลุ่ม น้ำท่วมถึงขึ้นมาพื้นที่เหล่านี้จะพบในบริเวณ ทั่วไปของจังหวัด กล่าวคือทางตอนเหนือ ทางตะวันออกและทางใต้บางแห่งใช้สำหรับทำนาและ บางแห่ง ใช้สำหรับปลูกพืชไร่
- บริเวณที่เป็นแอ่ง (Depression) หรือที่ราบต่ำหลังแม่น้ำ (Back swamp) เกิดจากการกระทำของ ขบวนการของน้ำ พบบางแห่งใน บริเวณ ริมแม่น้ำโขง แม่น้ำชี ลำเซบายและลำโดมใหญ่ จะมีน้ำแช่ขังนานในฤดูฝน
- บริเวณที่ เป็นเนินตะกอนรูปพัด (Coalescing fans) สภาพพื้นที่แบบนี้มีลักษณะเด่น คือ รูปร่างจะเป็นรูปพัด เกิดจากหินในบริเวณ เหล่านั้น ถูกทำให้แตกหักสะสมอยู่กับพวกที่มีอนุภาคละเอียดกว่าเมื่อฝนตกลงมาในปริมาณมาก กำลังของน้ำจะมีมากจนสามารถพัดพาเอาตะกอน เหล่านั้น ออกมานอกหุบเขาได้ เมื่อมาถึงนอกหุบเขาหรือเชิงเขา สภาพพื้นที่ก็จะเป็นที่ราบทางน้ำไหลกระจายออกไป ทำให้กำลังของน้ำลดลงก็จะ ตกตะกอนในบริเวณน้ำจะพบอยู่ ทางตอนใต้และทางตะวันตกของจังหวัด
- บริเวณที่ เป็นเนินที่เกิดจากการไหลของธารลาวา (Lava flow hill) เป็นเนินเขา ที่เกิดจากการไหลของธาร ลาวา ดินบริเวณนี้จะมี ศักยภาพ ทางการเกษตรสูง ซึ่งเป็นผลจากการสลายตัวผุพังของหินบะชอลท์ บริเวณนี้จะพบ อยู่ในอำเภอน้ำยืน
- บริเวณที่ ลาดเชิงเขา (Foot hill slope) เป็นที่ลาดเชิงเขาที่ตะกอนบริเวณที่เกิด จากขบวนการของน้ำ นานมาแล้วทับถมกัน บริเวณ นี้จะพบ อยู่ในอำเภอโขงเจียม อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอ ตระการพืชผล
- บริเวณที่ ลาดเชิงซ้อน (Slope complex) ลักษณะเป็นภูเขาหรือเทือกเขามีความลาดชันมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์จะพบบริเวณเทือกเขา พนมดงรักในอำเภอน้ำยืนอำเภอนาจะหลวยและอำเภอบุณฑริก อีกแห่งหนึ่ง คือ เทือกเขาภูเขา ซึ่งจะพบมากในอำเภอโขงเจียม และอำเภอ ศรีเมืองใหม่
ลักษณะภูมิอากาศและอุตุนิยมวิทยา
จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในเขตที่มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย ของจังหวัดอื่น ๆ
ฤดูฝน จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยไป จนถึงปลายเดือนตุลาคม และมักปรากฏเสมอว่าฝนทิ้งช่วง ในเดือน มิถุนายน ถึงเดือน กรกฎาคม แต่ระยะเวลาการทิ้งช่วงมักจะไม่เหมือนกันในแต่ละปี และในช่วงปลายฤดูฝน มักจะมีพายุดีเปรสชั่นฝนตกชุกบางปีอาจมีภาวะ น้ำท่วมแต่ภาวะการณ์ไม่รุนแรงนัก
ฤดูหนาว เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของประเทศ ทำให้ได้รับอิทธิพลลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ ก่อน ภูมิภาคอื่น อุณหภูมิจะเริ่มลดต่ำลงตั้งแต่เดือนตุลาคมและจะสิ้นสุดปลายเดือนมกราคม
ฤดูร้อน ถึงแม้ว่าเคยปรากฏบ่อยครั้งว่าอากาศยังคงหนาวเย็นยืดเยื้อมาจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยส่วนใหญ่แล้วอากาศจะ เริ่มอบอ้าว ในเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงประมาณต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งอาจจะมีฝน เริ่มตกอยู่บ้างในปลายเดือนเมษายน แต่ปริมาณน้ำฝนมักจะ ไม่เพียงพอ เพาะปลูก นอกจากนั้นลักษณะภูมิอากาศทั่วไป คล้ายคลึงกับจังหวัดอื่น ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ จะมีอากาศร้อนและค่อนข้าง หนาวใน ฤดูหนาว ส่วนในฤดูฝนจะมีฝนตกชุก ในช่วงเดือน มกราคมถึงเดือน พฤศจิกายน 2541 มีฝนตก ประมาณ 106 วัน ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 1,297.3 มิลลิเมตร
หน่วยการปกครอง
จังหวัดอุบลราชธานีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 25 อำเภอ 219 ตำบล 2469 หมู่บ้าน
1. | อำเภอเมืองอุบลราชธานี | |
2. | อำเภอศรีเมืองใหม่ | |
3. | อำเภอโขงเจียม | |
4. | อำเภอเขื่องใน | |
5. | อำเภอเขมราฐ | |
7. | อำเภอเดชอุดม | |
8. | อำเภอนาจะหลวย | |
9. | อำเภอน้ำยืน | |
10. | อำเภอบุณฑริก | |
11. | อำเภอตระการพืชผล | |
12. | อำเภอกุดข้าวปุ้น | |
14. | อำเภอม่วงสามสิบ | |
15. | อำเภอวารินชำราบ | |
19. | อำเภอพิบูลมังสาหาร | |
20. | อำเภอตาลสุม | |
21. | อำเภอโพธิ์ไทร | |
22. | อำเภอสำโรง | |
24. | อำเภอดอนมดแดง | |
25. | อำเภอสิรินธร | |
26. | อำเภอทุ่งศรีอุดม | |
29. | อำเภอนาเยีย | |
30. | อำเภอนาตาล | |
31. | อำเภอเหล่าเสือโก้ก | |
32. | อำเภอสว่างวีระวงศ์ | |
33. | อำเภอน้ำขุ่น |
หมายเลข 6,13,16,17,18,23,27,28 เป็นอำเภอที่อยู่ในจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดยโสธร
ทำเนียบรายนามผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี
ลำดับ | รายนาม | ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|
1 | พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) | พ.ศ. 2325-2338 |
2 | พระพรหมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวทิดพรหม) | พ.ศ. 2338-2388 |
3 | เจ้าราชบุตรสุ้ย | ถึงแก่อนิจกรรมที่กรุงเทพฯ ก่อนมาดำรงตำแหน่ง |
4 | พระพรหมราชวงศา (กุทอง สุวรรณกูฏ) | พ.ศ. 2388-2409 |
5 | เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ์ (เจ้าหน่อคำ) | พ.ศ. 2409-2425 |
6 | หลวงจินดารัตน์ | พ.ศ. 2425-2426 |
7 | พระยาศรีสิงหเทพ (ทัด ไกรฤกษ์) | พ.ศ. 2426-2430 |
8 | พระยาภักดีณรงค์ (สิน ไกรฤกษ์) | ไม่ทราบข้อมูล |
9 | พระโยธีบริรักษ์ | ไม่ทราบข้อมูล |
10 | พระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) | ไม่ทราบข้อมูล |
11 | พระอุบลการประชานิตย์ (บุญชู พรหมวงศานนท์) | ไม่ทราบข้อมูล |
12 | หม่อมอมรวงศ์วิจิตร (ม.ร.ว.ปฐม คเนจร) | ไม่ทราบข้อมูล |
13 | อำมาตย์เอกพระภิรมย์ราชา (พร้อม วาจรัต) | พ.ศ. 2456-2458 |
14 | อำมาตย์เอกพระยาปทุมเทพภักดี (อ่วม บุณยรัตพันธุ์) | พ.ศ. 2458-2465 |
15 | อำมาตย์โทพระยาปทุมเทพภักดี (ธน ณ สงขลา) | พ.ศ. 2465-2469 |
16 | อำมาตย์เอกพระยาตรังคภูมาภิบาล (เจิม ปันยารชุน) | พ.ศ. 2469-2471 |
17 | อำมาตย์โทพระยาสิงหบุทนุรักษ์ (สวาสดิ์ บุรณสมภพ) | พ.ศ. 2471-2473 |
18 | อำมาตย์โทพระยาประชาศรัยสรเดช (ถาบ ผลนิวาส) | พ.ศ. 2473-2476 |
19 | พ.ต.อ.พระขจัดทารุณกรรม (เงิน หนุนภักดี) | พ.ศ. 2476-2478 |
20 | อำมาตย์เอกพระปทุมเทวาภิบาล (เยี่ยม เอกสิทธิ์) | พ.ศ. 2478-2481 |
20 | อำมาตย์เอกพระยาอนุบาลพายัพกิจ (ปุ่น อาสนจินดา) | พ.ศ. 2481-2481 |
21 | อำมาตย์เอกพระพรหมนครานุรักษ์ (ฮกไถ่ พิศาลบุตร) | พ.ศ. 2481-2482 |
22 | อำมาตย์โทพระยาอนุมานสารกรรม (โต่ง สารักคานนท์) | พ.ศ. 2482-2483 |
23 | พ.ต.อ.พระกล้ากลางสมร (มงคล หงษ์ไกร) | พ.ศ. 2483-2484 |
24 | หลวงนครคุณูปถัมภ์ (หยวก ไพโรจน์) | พ.ศ. 2484-2487 |
25 | หลวงนรัตถรักษา (ชื่น นรัตถรักษา) | พ.ศ. 2487-2489 |
26 | นายเชื้อ พิทักษากร | พ.ศ. 2489-2490 |
27 | หลวงอรรถสิทธิ์สิทธิสุนทร (อรรถสิทธิ์ สิทธิสุนทร) | พ.ศ. 2490-2492 |
28 | นายชอบ ชัยประภา | พ.ศ. 2492-2494 |
29 | นายยุทธ จัณยานนท์ | พ.ศ. 2494-2495 |
30 | นายสง่า สุขรัตน์ | พ.ศ. 2495-2497 |
31 | นายเกียรติ ธนกุล | พ.ศ. 2497-2498 |
32 | นายสนิท วิไลจิตต์ | พ.ศ. 2498-2499 |
33 | นายประสงค์ อิศรภักดี | พ.ศ. 2499-2501 |
34 | นายกำจัด ผาติสุวัณณ์ | พ.ศ. 2501-2509 |
35 | นายพัฒน์ บุณยรัตพันธุ์ | พ.ศ. 2509-2513 |
36 | พลตำรวจตรีวิเชียร ศรีมันตร | พ.ศ. 2513-2516 |
37 | นายเจริญ ปานทอง | พ.ศ. 2516-2518 |
38 | นายเดชชาติ วงศ์โกมลเชษฐ์ | พ.ศ. 2519-2520 |
39 | นายประมูล จันทรจำนง | พ.ศ. 2520-2522 |
40 | นายบุญช่วย ศรีสารคาม | พ.ศ. 2522-2526 |
41 | นายเจริญสุข ศิลาพันธุ์ | พ.ศ. 2526-2528 |
42 | เรือตรีดนัย เกตุสิริ | พ.ศ. 2528-2532 |
43 | นายสายสิทธิ พรแก้ว | พ.ศ. 2532-2535 |
44 | นายไมตรี ไนยกูล | พ.ศ. 2535-2537 |
45 | นายนิธิศักดิ์ ราชพิธ | พ.ศ. 2537-2538 |
46 | นายยุวัฒน์ วุฒิเมธี | พ.ศ. 2538-2540 |
47 | นายชาติสง่า โมฬีชาติ | พ.ศ. 2540-2541 |
48 | นายศิวะ แสงมณี | พ.ศ. 2541-2543 |
49 | นายรุ่งฤทธิ์ มกรพงศ์ | พ.ศ. 2543-2544 |
50 | นายชัยสิทธิ์ โหตระกิตย์ | พ.ศ. 2544-2546 |
51 | นายจิรศักดิ์ เกษณียบุตร | พ.ศ. 2546-2548 |
52 | นายสุธี มากบุญ | พ.ศ. 2548-2550 |
53 | นายชวน ศิรินันท์พร | พ.ศ. 2550-ปัจจุบัน |
การศึกษา
ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา โรงเรียนรัฐบาล ในเขตอำเภอเมือง
- โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย
- โรงเรียนนารีนุกูล โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย
- โรงเรียนศรีปทุมพิทยาคาร โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย
- โรงเรียนปทุมวิทยาคาร โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย
- โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา
- โรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา
- โรงเรียนเมืองอุบล โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา
โรงเรียนเอกชนในเขตอำเภอเมือง
- โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
- โรงเรียนอาเวมารีอา โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
- โรงเรียนยุวทูตศึกษา 2 อุบลราชธานี
- โรงเรียนฮั้วเฉียวกงฮัก โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลและประถมศึกษา
- โรงเรียนฮั้วเฉียว อุบลราชธานี 2 โรงเรียนสหศึกษา เปิดสอนระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย
ระดับอุดมศึกษา
- มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์วิทยพัฒนา จังหวัดอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาอุบลราชธานี
- มหาวิทยาลัยราชธานี
- วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์
- วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี
- วิทยาลัยโปลีเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุทยานแห่งชาติทางบก
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ยางนา (Dipterocarpus alatus)
- คำขวัญประจำจังหวัด: จังหวัดอุบลราชธานี เมืองแห่งดอกบัวงาม แม่น้ำสองสี มีปลาแซบหลาบ หาดทรายแก่งหิน ถิ่นไทยนักปราชญ์ ทวยราษฎร์ใฝ่ธรรม งามล้ำเทียนพรรษา ผาแต้มก่อนประวัติศาสตร์
อุทยานทางบก
อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด
- guideubon.com เว็บไซต์ท่องเที่ยวของจังหวัด
- ubonguide.org เว็บไซต์ท่องเที่ยวของจังหวัด
15°15′N 104°50′E / 15.25°N 104.83°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดอุบลราชธานี
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย