ไปรษณียาคาร
ไปรษณียาคาร | |
---|---|
Bangkok Postal Headquarters | |
มุมไปรษณียาคารหันสู่แม่น้ำเจ้าพระยา | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | ถูกรื้อถอน |
ประเภท | พิพิธภัณฑ์ |
สถาปัตยกรรม | นีโอคลาสสิก |
เมือง | แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร |
ประเทศ | ประเทศไทย |
เริ่มสร้าง |
|
รื้อถอน | พ.ศ. 2525 |
ผู้สร้าง | กรมไปรษณีย์โทรเลข |
การออกแบบและการก่อสร้าง | |
สถาปนิก | ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา (อาคารใหม่)[2] |
ชื่อที่ขึ้นทะเบียน | ตึกที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข |
เป็นส่วนหนึ่งของ | โบราณสถานในเขตกรุงเทพมหานคร |
เลขอ้างอิง | 0005583 |
อาคารแห่งนี้ถูกสร้างเลียนแบบอาคารหลังเก่า ที่ถูกทุบทิ้งไปเมื่อปี พ.ศ. 2525 |
ไปรษณียาคาร เดิมสะกดว่า ไปรสนียาคาร เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับไปรษณีย์ไทยและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวด้านการไปรษณีย์ไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ปากคลองโอ่งอ่าง ฝั่งพระนคร อยู่ทางทิศใต้ของสะพานพุทธ เดิมที่ตั้งแห่งนี้เป็นของกรมไปรษณีย์โทรเลขและถือเป็นที่ทำการไปรษณีย์แห่งแรกของประเทศไทย อาคารก่อสร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2414 ก่อนจะถูกทุบทิ้ง แล้วได้ทำการก่อสร้างคัดลอกแบบเดิมใหม่ โดย ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (สถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย) เมื่อปี พ.ศ. 2546 แล้วได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน
ตึกไปรสนียาคาร[3] เดิมเป็นบ้านของพระปรีชากลการ (สำอางค์ อมาตยกุล) อดีตเจ้าเมืองปราจีนบุรี ซึ่งต้องคดีข้อหา ฆ่าคนตายและทารุณกรรม แก่คนไทยที่เมืองกบินทร์บุรี พระยาปรีชากลการถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2422 และถูกยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกิจการไปรษณีย์ไทย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2426 โดยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ ทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้สำเร็จราชการไปรษณีย์และโทรเลขพระองค์แรก ได้ใช้บ้านเดิมของพระปรีชากลการ เป็นที่ทำการ ใช้ชื่อเรียกว่า "ไปรสนียาคาร"
ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 อาคารไปรษณีย์ยาคารเป็นสถานที่แห่งแรกที่ทางคณะราษฎรจะต้องทำการบุกยึด เนื่องจากเป็นชุมทางการสื่อสาร คือ โทรเลขและโทรศัพท์ เพื่อตัดระบบการสื่อสาร โดยกลุ่มคณะราษฎรสายพลเรือนที่นำโดย หลวงโกวิทอภัยวงศ์ (ควง อภัยวงศ์) และนายประยูร ภมรมนตรี เหตุเพราะรับราชการที่นี่ จึงรู้ถึงระบบการทำงานดี โดยที่มีคณะราษฎรสายทหารเรือคุ้มกันเพียงไม่กี่คน ซึ่งต้องทำการยึดและตัดการสื่อสารให้ได้ภายในเวลา 04.00 น. และต้องทำให้เสร็จก่อนเวลา 05.00 น. เพื่อมิให้ผู้คนสงสัย แม้คณะราษฎรสามารถกระทำการได้สำเร็จ แต่ทว่าก็มีเจ้าพนักงานคนหนึ่งหนีไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ทางตำรวจโดย พระยาอธิกรณ์ประกาศ (หลุย จาติกวณิช) อธิบดีกรมตำรวจจึงทราบเรื่องจากเหตุนี้เอง จึงรุดเข้าวังบางขุนพรหมเพื่อถวายรายงานแด่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ผู้สำเร็จราชการ[4]
อาคารไปรษณียาคาร ถูกทุบทิ้งเมื่อ พ.ศ. 2525[3] เพื่อเปิดทางให้กับการก่อสร้างสะพานพระปกเกล้า ซึ่งเป็นสะพานคู่ขนานอยู่ทางทิศใต้ของสะพานพระพุทธยอดฟ้า ปัจจุบันอาคารถูกสร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิม ในตำแหน่งใกล้เคียงกับที่ตั้งเดิม เพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์กิจการไปรษณีย์ไทย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ กว่าจะมาเป็น “ไปรสนียาคาร” ในวันนี้, เว็บไซด์:www.ryt9.com/ .สืบค้นเมื่อ 28/01/2562
- ↑ พิธีเปิดไปรสนียาคาร แห่งความทรงจำ, เว็บไซด์:oknation.nationtv.tv/ .สืบค้นเมื่อ 28/01/2562
- ↑ 3.0 3.1 พิพัฒน์ ชูวรเวช, พ.ต.อ. นายแพทย์. ตำนานแสตมป์ไทยสำหรับนักสะสม. กรุงเทพ : อรุณการพิมพ์, พ.ศ. 2546. 264 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 974-91019-9-5
- ↑ นายหนหวย. ทหารเรือปฏิวัติ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, พฤศจิกายน 2555 (พิมพ์ครั้งที่ 3). 124 หน้า. หน้า 46, 70-72. ISBN 9789740210252
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ ไปรษณียาคาร
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์