สำนักงานสถิติแห่งชาติ
National Statistical Office | |
ตราเครื่องหมายราชการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ | |
ภาพรวมสำนักงาน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 1 เมษายน พ.ศ. 2458 |
สำนักงานก่อนหน้า |
|
ประเภท | ส่วนราชการ |
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักร |
สำนักงานใหญ่ | ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 |
บุคลากร | 2,588 (พ.ศ. 2566)[1] |
งบประมาณต่อปี | 1,323,556,900 บาท (พ.ศ. 2568)[2] |
ฝ่ายบริหารสำนักงาน |
|
ต้นสังกัดสำนักงาน | กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของสำนักงาน |
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (อังกฤษ: National Statistical Office) เป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทย ระดับกรม สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีภารกิจในฐานะเป็นหน่วยงานกลางของรัฐ ในการดำเนินการเกี่ยวกับสถิติตามหลักวิชาการ และจัดทำสถิติเพื่อติดตามประเมินผลและสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายและแผนงานของรัฐ
ประวัติ
[แก้]ราชการสถิติของประเทศไทย ได้กำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2458 โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้ง กรมสถิติพยากรณ์ ขึ้นในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 31 วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2457[3] โดยมีพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ทรงดำรงตำแหน่งอธิบดี ทำหน้าที่รวบรวมหัวข้อทะเบียน และรายงานของกระทรวง ทบวง กรม เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์และพยากรณ์ภาวการณ์ล่วงหน้า โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเป็นที่ปรึกษา หลังจากนั้น กรมสถิติพยากรณ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถานภาพ และสังกัดอีกหลายครั้ง แต่การปฏิบัติราชการสถิติก็มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยมิได้หยุดยั้ง เรื่องราวต่างๆ ได้ถูกลำดับตามช่วงเวลาและขั้นตอนที่สำคัญๆ ซึ่งควรแก่การจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ของหน่วยงานดังนี้คือ
เดือนกันยายน พ.ศ. 2458 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงพระราชดำริ เห็นสมควรขยายขอบเขตหน้าที่ การปฏิบัติงาน ของกรมสถิติพยากรณ์ไปทางด้านพาณิชย์ด้วย จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น กรมพาณิชย์และสถิติพยากรณ์ แต่ยังคงสังกัดอยู่ใน กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ โดยมีการขยายงานเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติสาขาต่างๆ และได้จัดพิมพ์หนังสือสถิติรายงาน ประจำปี พ.ศ. 2459 (Statistical Yearbook) ออกเผยแพร่ เป็นเล่มแรกของประเทศไทย ซึ่งจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2463 ได้มีการยกฐานะ กรมพาณิชย์และสถิติพยากรณ์ ขึ้นเป็น กระทรวงพาณิชย์ งานสถิติที่สังกัดอยู่ในกระทรวงนี้มีฐานะเป็นกรม และมีชื่อว่า กรมสถิติพยากรณ์สาธารณะ ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2463[4] ได้โอนกรมสถิติพยากรณ์สาธารณะ มาสังกัดกรมบัญชาการ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ มีชาวต่างประเทศเป็นหัวหน้าหน่วยงาน โดยมีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ และพิมพ์รายงานประจำปีออกเผยแพร่ ในปี พ.ศ. 2470 หัวหน้าหน่วยงานซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ได้เดินทางกลับไป หม่อมเจ้าอธิพรพงศ์ เกษมศรี ทรงเข้ารับหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานแทน และเมื่อทรงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกรม ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 ได้มีการโอน กรมสถิติพยากรณ์สาธารณะ ไปสังกัดอยู่กับกรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ และลดฐานะเป็น กองสถิติพยากรณ์ โดยมีหม่อมเจ้าอธิพรพงศ์ เกษมศรี ทรงดำรงตำแหน่งหัวหน้ากอง และได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองประมวลสถิติพยากรณ์ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2478 จากนั้น ได้ย้ายมาสังกัดกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยหม่อมเจ้าอธิพรพงศ์ เกษมศรี ทรงดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองเช่นเดิม โดยทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลาง สำหรับการให้บริการข้อมูลสถิติ
ในปี พ.ศ. 2479 ได้มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการสถิติ ออกใช้ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เรียกว่า พระราชบัญญัติการสถิติพยากรณ์ พุทธศักราช ๒๔๗๙ ซึ่งได้กำหนดหน้าที่ในการบริหารราชการสถิติของประเทศ และหน้าที่ของประชาชน ที่พึงปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2485 ได้โอนกองประมวลสถิติพยากรณ์ ไปสังกัดกรมการสนเทศ กระทรวงพาณิชย์ และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2486 ได้โอนกองประมวลสถิติพยากรณ์ กลับมาสังกัดกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรีตามเดิม ในระยะนี้มีผู้ต้องการใช้ข้อมูลสถิติเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีความต้องการใช้สถิติใหม่ ๆ ด้วย จึงมีการพิจารณาปรับปรุงจัดวางมาตรฐานในการบริหารงานสถิติ รวมทั้งมีการบัญญัติศัพท์สถิติขึ้นใช้เป็นครั้งแรก เพื่อให้ส่วนราชการที่มีงานสถิติใช้ร่วมกัน ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 มีการโอนกองประมวลสถิติพยากรณ์ ไปสังกัดสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งในขณะนั้นเป็นทบวงการเมืองอิสระ มีฐานะเทียบเท่ากรม กองประมวลสถิติพยากรณ์ภายใต้สังกัดใหม่ ได้ขยายงาน และ ได้จัดทำงานสถิติที่สำคัญร่วมกับกระทรวงเกษตราธิการ คือ จัดทำสำมะโนเกษตรทั่วราชอาณาจักรขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2493
ต่อมาได้มีการจัดตั้ง สำนักงานสถิติกลาง (Central Statistical Office) ขึ้นใน สภาเศรษฐกิจแห่งชาติ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2493 โดยมีหม่อมเจ้าอธิพรพงศ์ เกษมศรี เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสถิติกลางคนแรก ในช่วงนี้ได้พัฒนาและขยายงานสถิติออกไปอย่างกว้างขวางยิ่งกว่าเดิมและได้นำเครื่องจักรกล มาใช้ในการประมวลผลข้อมูลสถิติ ในปี พ.ศ. 2494 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลงานสำมะโนเกษตร หลังจากนั้นมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2495 ซึ่งทำให้สำนักงานสถิติกลาง มีอำนาจหน้าที่อย่างสมบูรณ์ ทั้งในด้านการบริหารกิจการสถิติของรัฐ การส่งเสริม และประสานงานสถิติ การทำสำมะโน สำรวจ การศึกษาอบรมวิชาสถิติ ตลอดจนการวิจัยในด้านวิชาการสถิติ
เมื่อรัฐบาล ได้จัดตั้งสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติขึ้นใน สำนักนายกรัฐมนตรี ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2502 เป็นผลให้สำนักงานสถิติกลางได้รับการปรับปรุง และขยายงานเพิ่มขึ้น ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวนี้ สำนักงานสถิติกลาง ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติหลายโครงการ ที่สำคัญๆ คือ โครงการสำมะโนประชากร พ.ศ. 2503 (เป็นสำมะโนประชากรครั้งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นสำมะโนประชากรครั้งแรกของสำนักงานสถิติกลาง) และโครงการสำรวจการใช้จ่ายของครอบครัว
สำนักงานสถิติกลาง ได้แยกส่วนราชการออกจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ และได้ยกฐานะเป็น สำนักงานสถิติแห่งชาติ มีฐานะเป็นกรม สังกัดอยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 ซึ่งถือว่าเป็นวันก่อตั้งสำนักงาน โดยมีบัณฑิต กันตะบุตร เป็นเลขาธิการสถิติแห่งชาติคนแรก ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 80 ตอนที่ 50 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 และเป็นหน่วยราชการแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้มีการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ประมวลผลงานสำมะโนและสำรวจ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2506 นอกจากนี้มีการขยายงานสถิติไปยังส่วนภูมิภาค โดยได้จัดตั้งสำนักงานสถิติจังหวัดขึ้นทุกจังหวัด ในปี พ.ศ. 2508 แต่ยังเป็นราชการบริหารส่วนกลาง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้มีการพัฒนางานสถิติมาตามลำดับ โดยดำเนินงานโครงการสถิติที่สำคัญๆ หลายโครงการ และมีบทบาทในการประสานงานสถิติของรัฐ ซึ่งเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การจัดทำผังรวมงานสถิติของประเทศ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2508 ได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 แทนพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2495 โดยปรับปรุงในบางมาตรา และกำหนดอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับการดำเนินงานสถิติของประเทศให้สมบูรณ์มากขึ้น
ในปี พ.ศ. 2535 ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี พ.ศ. 2535 โดยแบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็น 9 กอง ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนที่ 91 ลงวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2535
ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้มีการปรับปรุงแบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติอีกครั้ง โดยกำหนดให้มีสำนักงานสถิติจังหวัด เป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 110 ตอนที่ 207 ลงวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2536
จากการปฏิรูประบบราชการ ในปี พ.ศ. 2545 ตาม พรบ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม มีผลให้สำนักงานสถิติแห่งชาติเข้ามาอยู่ในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยได้แบ่งส่วนราชการออกเป็น 3 สำนัก 1 ศูนย์ 3 กอง ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 119 ตอนที่ 10 ก ลงวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2545
ในปี พ.ศ. 2550 สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2550 แทนพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2508 ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนที่ 53 ก ลงวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2550 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ หลังมีความชัดเจนในการดำเนินการในฐานะหน่วยงานกลางด้านงานสถิติของรัฐ ตลอดจนมีความคล่องตัวในการผลิตสถิติให้ทันสถานการณ์เป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในการบริหารงานของรัฐมากขึ้น นอกจากนี้ ตาม พรบ.สถิติ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดให้มีคณะกรรมการสถิติแห่งชาติ ทำให้สำนักงานสถิติแห่งชาติไม่มีสถานะเป็นหน่วยงานเลขานุการ ของคณะกรรมการสถิติแห่งชาติต่อไป ดังนั้น ชื่อตำแหน่ง หัวหน้าหน่วยงาน จึงได้เปลี่ยนจากเดิม เลขาธิการสถิติแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยมีสถานะและระดับตำแหน่งเท่าเดิม
จากกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. 2551 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 125 ตอนที่ 114 ก ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551 สำนักงานสถิติแห่งชาติจึงได้แบ่งส่วนราชการออกเป็นราชการบริหารส่วนกลางมี 6 สำนัก 2 ศูนย์ ส่วนสำนักงานสถิติจังหวัดเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาค
ตราสัญลักษณ์
[แก้] จากการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดโครงการประกวดตราสัญลักษณ์ (โลโก้) สำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อนำผลงานที่ชนะเลิศใช้เป็นตัวแทนและเป็นสื่อประชาสัมพันธ์สำนักงานฯ นั้น คณะกรรมการฯ ได้ทำการคัดเลือกและตัดสินเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553 [5]ซึ่งรางวัลชนะเลิศ เป็นผลงานของ วีระศักดิ์ พุทธรักษา ตราสัญลักษณ์สื่อถึงหน้าที่ วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์ และพันธกิจ ของสำนักงานฯ เพื่อให้ตราสัญลักษณ์เป็นเสมือนของตัวแทนองค์กร ที่จะสื่อสารออกไปสู่สังคมไทย ถึงความสำคัญของข้อมูลสถิติ และสารสนเทศที่มีสำนักงานสถิติแห่งชาติเป็นองค์กรหลักที่รับผิดชอบดูแล
- เส้นโค้ง 3 เส้นสื่อถึงยุทธศาสตร์ และพันธกิจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทั้ง 3 ข้อ ที่รวมเป็นหลักของการพัฒนาสถิติและสารสนเทศของประเทศ
- วงกลม สื่อถึงการก้าวทันกระแสโลกในปัจจุบันของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
- เส้นกราฟชี้ขึ้น สื่อถึงความก้าวหน้าของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และเสมือนเข็มทิศที่นำทางประเทศโดยมีสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักที่ผลิตสถิติและสารสนเทศเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ ความหมายนัยยะที่ 2 ของเส้นกราฟสื่อถึงตัวอักษร N ที่แสดงถึงความเป็นองค์กรแห่งชาติที่จะเป็นแรงผลักดันประเทศด้วยสถิติและสารสนเทศ
- เส้นแกน x และ y สื่อถึงสถิติและสื่อถึงเป้าหมายของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ชัดเจนและมีมาตรฐาน
- สีฟ้าและสีเขียว สื่อถึงสีประจำสำนักงานสถิติแห่งชาติ และสีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยผสม การออกแบบตัวอักษรตราสัญลักษณ์ที่ทันสมัยและชัดเจนเพื่อง่ายต่อการประชาสัมพันธ์องค์กร
อำนาจหน้าที่
[แก้]สำนักงานสถิติแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2550 ดังต่อไปนี้
- จัดทำแผนแม่บทเกี่ยวกับการดำเนินงานทางสถิติของรัฐ
- จัดทำมาตรฐานสถิติเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
- ส่งเสริมและพัฒนางานสถิติของรัฐและเอกชน
- จัดทำสำมะโนหรือการสำรวจตัวอย่าง หรืออำนวยการให้มีการสำรวจด้านต่างๆ ของประเทศ
- ประสานงานและหารือร่วมกับหน่วยงาน เพื่อจัดทำแผนกำหนดความรับผิดชอบในการดำเนินงานทางสถิติตามแผนแม่บทตาม (1.)
- แนะนำ ให้คำปรึกษา หรือความช่วยเหลือแก่หน่วยงานเกี่ยวกับการจัดทำแผนงาน และระเบียบวิธีในการจัดทเก็บข้อมูล ตลอดจนการประมวลผล และการวิเคราะห์ผลสถิติ
- ประสานกับหน่วยงานในการสร้างเครือข่ายสถิติ เพื่อให้ได้มาซึ่งฐานข้อมูลสถิติที่สำคัญและเป็นปัจจุบันของประเทศ
- ให้บริการสถิติแก่หน่วยงาน องค์กรเอกชน และบุคคลทั่วไป
- เผยแพร่สถิติและจัดให้มีการศึกษาอบรมวิชาความรู้เกี่ยวกับสถิติ
- ร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศในงานเกี่ยวกับสถิติ
- ปฏิบัติการอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนด และตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
การแบ่งส่วนราชการ
[แก้]จากกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. 2551[6] สำนักงานสถิติแห่งชาติ แบ่งส่วนราชการดังนี้
ราชการบริหารส่วนกลาง
[แก้]- สำนักบริหารกลาง
- ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- ศูนย์สารสนเทศยุทธศาสตร์ภาครัฐ
- สำนักนโยบายและวิชาการสถิติ
- สำนักบริหารจัดเก็บข้อมูลสถิติ
- สำนักสถิติพยากรณ์
- สำนักสถิติเศรษฐกิจและสังคม
- สำนักสถิติสาธารณมติ
ราชการบริหารส่วนภูมิภาค
[แก้]- สำนักงานสถิติจังหวัด 76 จังหวัด
ทำเนียบเลขาธิการและผู้อำนวยการ
[แก้]เลขาธิการสถิติแห่งชาติ | |||||
ลำดับ (สมัย) |
รูป | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ |
1 | บัณฑิต กันตะบุตร | 9 สิงหาคม พ.ศ. 2506 | 15 กันยายน พ.ศ. 2513 | รักษาการเลขาธิการ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 – 8 สิงหาคม พ.ศ. 2506 | |
2 | พลโท บุญเรือน บัวจรูญ | 16 กันยายน พ.ศ. 2513 | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 | ||
3 | นาวาเอก ขจิต บัวจิตติ | 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2514 | 5 ธันวาคม พ.ศ. 2519 | ||
4 | เอกตริตรา ค้อคงคา | 25 มกราคม พ.ศ. 2520 | 30 กันยายน พ.ศ. 2522 | รักษาการเลขาธิการ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2519 – 24 มกราคม พ.ศ. 2520 และดำรงตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการ | |
5 | อัมพร อรุณรังษี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522 | 30 กันยายน พ.ศ. 2527 | ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี | |
6 | นิยม ปุราคำ | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2527 | 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 | ลาออกจากราชการ | |
7 | เพ็ญศรี สุวรรณสิงห์ | 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 | 30 กันยายน พ.ศ. 2537 | ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี | |
8 | ดวงใจ พุ่มชูศรี | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2537 | 30 กันยายน พ.ศ. 2540 | เกษียณอายุราชการ | |
9 | เอี่ยมจันทร์ เปรมโยธิน | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2540 | 30 กันยายน พ.ศ. 2544 | เกษียณอายุราชการ | |
10 | สือ ล้ออุทัย | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 | 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 | ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | |
11 (1) |
ธนนุช ตรีทิพยบุตร | 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 | 12 กันยายน พ.ศ. 2550 | มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งจากเลขาธิการสถิติแห่งชาติ เป็น ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ | |
ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ | |||||
ลำดับ (สมัย) |
รูป | รายนาม | เริ่มวาระ | สิ้นสุดวาระ | หมายเหตุ |
11 (2) |
ธนนุช ตรีทิพยบุตร | 13 กันยายน พ.ศ. 2550 | 30 กันยายน พ.ศ. 2552 | เกษียณอายุราชการ | |
12 | จีราวรรณ บุญเพิ่ม | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552 | 30 กันยายน พ.ศ. 2553 | ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร | |
13 | วิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ | 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 | 30 กันยายน พ.ศ. 2558 | รักษาการผู้อำนวยการ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 และดำรงตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการ | |
14 | วิไลลักษณ์ ชุลีวัฒนกุล | 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558 | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 | รักษาการผู้อำนวยการ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 – 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | |
- | นวลนภา ธนศักดิ์ | 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 | 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 | รักษาการผู้อำนวยการ | |
15 (1) |
ภุชพงค์ โนดไธสง | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 | 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 | ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | |
16 | วันเพ็ญ พูลวงษ์ | 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 | 30 กันยายน พ.ศ. 2564 | รักษาการผู้อำนวยการ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 – 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 และดำรงตำแหน่งจนเกษียณอายุราชการ | |
17 | ปิยนุช วุฒิสอน | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 | 17 ตุลาคม พ.ศ. 2567 | ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม | |
15 (2) |
ภุชพงค์ โนดไธสง | 18 ตุลาคม พ.ศ. 2567 | ปัจจุบัน | รักษาการผู้อำนวยการ |
หมายเหตุ
[แก้]จาก พระราชบัญญัติสถิติ พ.ศ. 2550 มีผลให้ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม เลขาธิการสถิติแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ รายงานประจำปี 2566 สำนักงานสถิติแห่งชาติ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๕๒, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งกรมสถิติพยากรณ์, เล่ม ๓๑ ตอนที่ ๐ ก หน้า ๕๕๘, ๑๔ มีนาคม ๒๔๕๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งกรมสถิติพยากรณ์มาขึ้นในกรมบัญชาการ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ, เล่ม ๓๘ ตอนที่ ๐ ก หน้า ๑๑๑, ๓๑ กรกฎาคม ๒๔๖๔
- ↑ สำนักงานสถิติแห่งชาติ. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. "ผลการประกวดตราสัญลักษณ์ (Logo) สำนักงานสถิติแห่งชาติ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/news/LogoPrize/LogoPrize.html 2553. สืบค้น 17 พฤษภาคม 2555.
- ↑ กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พ.ศ. 2551 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนที่ 114ก วันที่ 24 ตุลาคม 2551