พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช
พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช [1] เป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์ในกรุงเทพ พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้ประชาชนบุคคลทั่วไปเข้าชมได้ ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญแก่นักศึกษาและผู้ที่มีความสนใจทางการแพทย์[2] ประกอบไปด้วยพิพิธภัณฑ์การแพทย์ขนาดเล็กเจ็ดแห่ง คือ:[3][4]
|
|

พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส
[แก้]พิพิธภัณฑ์แห่งแรกในศิริราช ก่อตั้งโดย แอลเลอร์ เอลลิส นักพยาธิวิทยาชาวอเมริกันและเป็นพยาธิแพทย์คนแรกของไทย ที่ริเริ่มการเก็บรวบรวมอวัยวะผู้ป่วยที่ผ่านการตรวจพิสูจน์โรคแล้วไว้สำหรับสอนในวิชาพยาธิวิทยา[5][4][6] พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดงตัวอย่างอวัยวะและโรคที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศ เช่น ตัวอย่างความผิดปกติแต่กำเนิด โรคหัวใจ โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ[6]
พิพิธภัณฑ์กายวิภาค-คองดอน
[แก้]พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดย เอ็ดการ์ เดวิดสัน คองดอน โดยมีการจัดแสดงอวัยวะมากกว่า 2,000 ชิ้นเพื่อใช้ในการเรียนรู้วิชากายวิภาคศาสตร์ ลักษณะการจัดแสดงแบ่งเป็น 2 ห้อง[7][8]
- ห้องแรก แสดงกายวิภาคทั่วไป เช่น อวัยวะรับความรู้สึกพิเศษ อย่าง หู ตา จมูก ลิ้น การจัดแสดงระบบประสาท ระบบไหลเวียน การจัดแสดงการเจริญเติบโตตามอายุ ตั้งแต่เอ็มบริโอขนาดเล็ก ทารกในครรภ์ตามอายุครรภ์ต่าง ๆ จนถึงระยะคลอด การจัดแสดงอวัยวะตามระบบต่าง ๆ อาทิระบบสืบพันธุ์ ระบบขับถ่ายปัสสาวะ ระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ การจัดแสดงร่างกายมนุษย์ตัดตามขวางตามแนวต่าง ๆ[7][8]
- ห้องที่สอง แสดงเฉพาะกระดูกและข้อต่อทุกชิ้นของร่างกาย รวมทั้งกะโหลกซึ่งแยกเป็นชิ้น ๆ แสดงส่วนประกอบของกระดูก การแสดงข้อต่อแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงโครงกระดูกของบุคคลสำคัญในวงการแพทย์[7][8]
ภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีสิ่งจัดแสดงที่สำคัญคือ เส้นประสาททั้งร่างกาย หลอดเลือดแดงทั้งร่างกาย กล้ามเนื้อและหลอดเลือดดำ ซึ่งเป็นผลงานที่หาดูได้ยาก[7][8]
พิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ สุด แสงวิเชียร
[แก้]ใน พ.ศ. 2503 สุด แสงวิเชียร แพทย์และนักกายวิภาคศาสตร์ชาวไทย ได้เข้ารวมการขุดค้นแหล่งโบราณคดีที่ ตำบลจรเข้เผือก จังหวัดกาญจนบุรี แหล่งโบราณคดีนี้เป็นแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของไทย จากการขุดค้นทำให้ได้ศึกษาเครื่องมือ เครื่องใช้ เครื่องประดับ เครื่องปั้นดินเผาที่ฝังรวมกับโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ จากนั้นจึงรวบรวมหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านั้นมาจัดตั้งขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์ และเปิดเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2515[4][9]
ภายในตัวพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเรื่องราวและหลักฐานจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เช่นกะโหลกศีรษะของโฮโมอิเร็กตัส เรียกว่า "มนุษย์ลำปาง" ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกับมนุษย์ปักกิ่ง หรือเมื่อประมาณ 1,000,000 ถึง 400,000 ปีก่อน[10] นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือหิน เครื่องปั้นดินเผา ลูกปักและอุปกรณ์ตกแต่งจาก ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง และ ยุคหินใหม่[9][11][12]
พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา
[แก้]พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งโดย วิจิตร ไชยพร ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงตัวอย่างของพยาธิที่นำออกมาจากร่างกายของผู้ป่วย การจัดแสดงจะแสดงลักษณะตัวอย่างพร้อมอธิบายวงจรชีวิตและที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ พยาธิที่นำมาจัดแสดงมีขนาดตั้งแต่ตัวที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จนถึงตัวที่ยาวเป็นเมตร นอกจากพยาธิตัวกลม พยาธิตัวแบน และโปรโตซัวทางการแพทย์แล้ว พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีการจัดแสดงตัวอย่างแมลงนำโรคและสัตว์มีพิษ พร้อมกับวิธีการป้องกันด้วย[4][13][14]
พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์สงกรานต์ นิยมเสน
[แก้]
นิติเวชศาสตร์เป็นการนำวิชาแพทย์และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อหาสาเหตุการตายผิดธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์นี้จัดแสดง กะโหลกศีรษะมนุษย์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ได้มาจากเหยื่อที่ถูกฆาตกรรม นอกจากชิ้นส่วนมนุษย์แล้วยังมีวัตถุพยานที่จากคดีด้วย ชิ้นส่วนเหล่านี้มาจากการรวบรวมของสงกรานต์ นิยมเสนในสมัยที่เขาทำงานอยู่
ภายในพิพิธภัณฑ์นี้มีการจัดแสดงศพของซีอุย ฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นที่เป็นที่รู้จักมากในประวัติศาสตร์ไทย ซีอุยเป็นชาวจีนที่เกิดใน พ.ศ. 2470 ที่ตำบลฮุนไหล จังหวัดซัวเถา ประเทศจีน ซีอุยถูกระบุว่าใช้ แซ่อึ้ง[15][16] ซีอุยเข้ามาในประเทศไทยในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเข้ามาทำงานเป็นคนสวนในเนินพระ จังหวัดระยอง
ซีอุยถูกตราหน้าว่าเป็นมนุษย์กินคนหลังถูกตั้งข้อหาว่าทำการฆาตกรรมเด็ก 7 คดี[17] ซีอุยถูกจับกุมที่จังหวัดระยองใน พ.ศ. 2501 หลังกำลังพยายามเผาทำลายเหยื่อรายสุดท้าย และออกมายอมรับว่าได้ฆ่าเหยื่อรายสุดท้ายจริง[18][19]
การพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นกินเวลา 9 วัน ก็พิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะจำเลยยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจอุทธรณ์เพราะเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอ[20] เขาจึงถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2501[17] และมีการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2502 และหลังจากถูกประหารชีวิต โรงพยาบาลศิริราชได้ขอศพเพื่อไปใช้ในศึกษากายวิภาค[3] จากนั้นจึงถูกนำไปจัดแสดงพร้อมติดป้ายอธิบายว่า ซีอุย แซ่อึ้ง (มนุษย์กินคน)[21][22]
ผู้ใหญ่มักจะนำชื่อซีอุยมาขู่ให้เด็ก ๆ กลัว ซึ่งมักจะมีประโยคขู่เด็กที่ว่า "ระวังซีอุยจะมากินตับ"[23] หลังมีกับการเรียกร้องของชาวอำเภอทับสะแก[24] ประกอบกับแคมเปญรณรงค์ให้มีการนำร่างซีอุยออกจากพิพิธภัณฑ์ศิริราชบนเว็บไซต์ Change.org ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562[17] ทำให้ทางโรงพยาบาลได้นำศพออกจากพิพิธภัณฑ์ตามคำเรียกร้องหลังจัดแสดงมานานกว่า 60 ปี[17] ชาวอำเภอทับสะแกยื่นหนังสือร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าพวกเขาต้องการฝังศพให้ซีอุยอย่างเหมาะสม[25] ครอบครัวของซีอุยไม่มีการเสนอตัวเพื่อนำศพไปดำเนินพิธีการทางศาสนา ทำให้กรมราชทัณฑ์จะเป็นธุระนำร่างซีอุยจากพิพิธภัณฑ์ไปทำการฌาปนกิจที่วัดบางแพรกใต้ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2563[25][26]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สุดระทึก!!! เจอ "ซีอุย" คนกินตับ ตัวจริง ของจริง". ผู้จัดการออนไลน์. May 29, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-18. สืบค้นเมื่อ July 10, 2016.
- ↑ Limited, Bangkok Post Public Company. "Grisly guidance". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-11-16.
- ↑ 3.0 3.1 Chaiyong, Suwitcha (17 June 2019). "Grisly guidance". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 18 June 2019.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 "พิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช. (2 มิถุนายน 2563)". museumthailand. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ https://theculturetrip.com/asia/thailand/articles/everything-you-need-to-know-about-the-death-museum/
- ↑ 6.0 6.1 พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยา..ศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 ตะลึง!! คนเป็นขโมยคนตาย ที่ "พพ.กายวิภาค ศิริราช". (2555)"หนุ่มลูกทุ่ง". MGR Online. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน (2556) เก็บถาวร 2019-04-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน"ทีมงานทรูปลูกปัญญา". trueplookpanya. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564
- ↑ 9.0 9.1 "พิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ สุด แสงวิเชียร. (2 กุมภาพันธ์2562)". มหาวิทยาลัยมหิดล. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ PCL, Post Publishing. "Early Man Of Our Land". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-05.
- ↑ PCL, Post Publishing. "Early Man Of Our Land". Bangkok Post (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-12-05.
- ↑ "พิพิธภัณฑ์และห้องปฏิบัติการเรื่องราวก่อนประวัติศาสตร์ สุด แสงวิเชียร. (27 กรกฎาคม 2561)". museumthailand. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
- ↑ "พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา. (1 สิงหาคม 2560)". museumthailand. สืบค้นเมื่อ 13 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ somsaktam, Author (2018-03-13). "แซ่ของคนจีน". มรดกวัฒนธรรมจีน Chinese cultural heritage (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2019-05-23.
{{cite web}}
:|first=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ "โรงเรียนภาษาและภูมิปัญญาตะวันออก OKLS : เรียนภาษาจีน เรียนภาษาญี่ปุ่น เรียนรู้ภาษาตะวันออก เรียนรู้ภาษาโลก - หลักในการเดาแซ่". www.okls.net. สืบค้นเมื่อ 2019-05-23.
- ↑ 17.0 17.1 17.2 17.3 "ซีอุย : ความพยายามทวงคืนศักดิ์ศรีผู้ถูกศาลตัดสินและสังคมตราหน้าเป็น "มนุษย์กินคน"". บีบีซี ไทย. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ RND (27 May 2019). "Mörder im Glaskasten: Thailand streitet über Leichnam im Museum". Hannoversche Allgemeine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-03-05. สืบค้นเมื่อ 18 June 2019.
- ↑ ย้อนชีวิต "ซีอุย" ถูกรังแก กินตับเพื่อน เจอรุมสกรัม ฆาตกรรมโหด ฉบับตำนานไทย
- ↑ HE ATE CHILDREN: THE SERIAL KILLER WHO STILL TERRORIZES THAILAND TODAY
- ↑ "Hospital removes 'cannibal' sign from Si Quey corpse display". The Nation. 31 May 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-08. สืบค้นเมื่อ 18 June 2019.
- ↑ Dillon, Conor (7 March 2012). "Dead Baby Watching at Bangkok's Medical Museum". Vice. สืบค้นเมื่อ 18 June 2019.
- ↑ ปิดตำนาน “ซีอุย” “60 ปี” คดีกินตับเด็กสืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม 2564
- ↑ RND (27 May 2019). "Mörder im Glaskasten: Thailand streitet über Leichnam im Museum". Hannoversche Allgemeine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-03-05. สืบค้นเมื่อ 18 June 2019.
- ↑ 25.0 25.1 Limited, Bangkok Post Public Company. "Serial killer Si Quey to be cremated, 6 decades after execution". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 2020-12-05.
- ↑ "ชาวทับสะแกเตรียมร่วมงานเผา'ซีอุย' ไว้อาลัยครั้งสุดท้าย". เดลินิวส์. สืบค้นเมื่อ 19 มีนาคม 2564.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help)