พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา
แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บริเวณภายในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แผนที่
ก่อตั้งพ.ศ. 2497
ที่ตั้งตึกชีววิทยา 1 ชั้น 2 ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เว็บไซต์museum.stkc.go.th/cu/index.php

พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อังกฤษ: Museum of Natural History, Chulalongkorn University) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงตัวอย่างสิ่งมีชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติ อาทิเช่น โครงกระดูกของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ , ตัวอย่างเปลือกหอยต่างๆ ของไทย , ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในประเทศไทย , ชีววิทยาของผึ้ง ตัวอย่างปลาในวรรณคดี , ตัวอย่างตะพาบม่านลาย ซึ่งพบในประเทศไทยแห่งเดียวในโลก, นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร และ ปูเจ้าฟ้า โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถาน จะแสดงความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในมุมมองต่าง ๆ ทั้งเชิงวิชาการ การอนุรักษ์ ความสัมพันธ์ และการประยุกต์

ประวัติ[แก้]

เมื่อปี พ.ศ. 2415 ได้มีการก่อตั้ง "พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา" แห่งแรกของประเทศไทย โดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งดำเนินงานโดย นายเฮนรี่ อลาสบาเตอร์ แต่ด้วยการดูแลรักษาที่ยาก และยังไม่มีผู้ที่สนใจค้นคว้า วิจัย ประกอบกับ ในช่วงเวลานั้น ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์มาก จึงทำให้พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งแรกนั้นเสื่อมสลายลง

ต่อมา ได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาขึ้น ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2497 โดย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แต่ได้ยกเลิกไป และในปี พ.ศ. 2530 ได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาขึ้นมาอีกครั้ง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ และฉลองครบรอบ 70 ปีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530

อนึ่ง ตัวอย่างบางสิ่งที่หลงเหลืออยู่และยังคงเก็บรักษาไว้ จากพิพิธภัณฑ์แห่งเดิมนั้น ได้รับการบูรณะและนำมาจัดเก็บ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วย

ห้องนิทรรศการ[แก้]

พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา จุฬาฯ ได้แบ่งส่วนการจัดแสดง ดังนี้

ห้องนิทรรศการหลัก[แก้]

ห้องนิทรรศการหลัก (The main hall) ตั้งอยู่ ณ ห้อง 203 ตึกชีววิทยา 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดย

พิพิธภัณฑ์เต่าและตะพาบ[แก้]

พิพิธภัณฑ์เต่าและตะพาบ (The turtle museum) ตั้งอยู่ ณ ห้อง 231 ตึกชีววิทยา 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นพิพิธภัณฑ์เต่าและตะพาบที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจัดแสดงตัวอย่างเต่าบก เต่าทะเล เต่าน้ำจืด และ ตะพาบทุกชนิดที่พบในประเทศไทย รวมทั้ง ยังจัดแสดงตัวอย่างเต่าจากทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งตัวอย่างส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของตัวอย่างแห้ง และโครงกระดูก

พิพิธภัณฑ์แมลง[แก้]

พิพิธภัณฑ์แมลง (The insect museum) ตั้งอยู่ ณ ห้อง 228 ตึกชีววิทยา 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดยจัดแสดงตัวอย่างแมลง และไร มากกว่า 5,000 ตัวอย่าง และตัวอย่างอ้างอิงมากกว่า 30,000 นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงตัวอย่างแมลงหายาก แมลงที่เป็นอาหาร แมลงอนุรักษ์ ผึ้งและไรปรสิต อีกด้วย

พิพิธภัณฑ์หอยทากของไทย[แก้]

พิพิธภัณฑ์หอยทากของไทย (snail museum of Thailand) ตั้งอยู่ ณ ห้อง 222 ตึกชีววิทยา 1 คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เปิดให้เข้าชมครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เนื่องในโอกาสการจัดงานครบรอบ 80 ปี ชีววิทยาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเป็นพิพิธภัณฑ์หอยทากบกแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการหอยทากที่พบในประเทศไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จัก การจัดแสดงเน้นแสดงเปลือกหอยสองวงศ์ ได้แก่ หอยวงศ์หอยทากจิ๋วปากแตร , วงศ์หอยต้นไม้ (หอยทากสวยงาม,หอยนก)

ที่ตั้ง[แก้]

  • ตึกชีววิทยา 1 ชั้น 2 ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เวลาเปิด[แก้]

พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา เปิดให้เข้าชม ระหว่างเวลา 10.00 น. ถึง 15.30 น. ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการ

การเดินทาง[แก้]

การเดินทางมายังพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา จุฬาฯ สามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง ได้แก่

อ้างอิง[แก้]

  • แผ่นพับ "พิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University,Museum of Natural History)"

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]