ชีปอน
ชีปอน | |
---|---|
กษัตริย์แห่งเมาะตะมะ | |
ครองราชย์ | ป. เมษายน ค.ศ. 1330 (7 วัน) |
ก่อนหน้า | พระเจ้ารามมะไตย |
ต่อไป | พระยาอายกำกอง |
ประสูติ | 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1295 วันพฤหัสบดี ขึ้น 12 ค่ำ เดือนนะโยน 657 ME Atawgana อาณาจักรเมาะตะมะ |
สวรรคต | ป. เมษายน ค.ศ. 1330 (34 พรรษา) ป. เดือนกะโซน 692 ME เมาะตะมะ อาณาจักรเมาะตะมะ |
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
ชีปอน (พม่า: ဇိတ်ပွန်, ออกเสียง: [zeɪ̯ʔ pʊ̀ɰ̃] เซะปูน; 1295 – 1330) เป็นพระเจ้าเมาะตะมะรัชกาลที่ 5 ครองสิริราชสมบัติได้เพียง 7 วันใน ค.ศ. 1330 พระองค์มีชาติกำเนิดเป็นสามัญชน ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจโดยเริ่มจากการเป็นข้าหลวงและได้เป็นผู้บัญชาการทหารที่มีอำนาจและอิทธิพลในรัชสมัยพระเจ้ารามมะไตย (စောဇိတ် ซอเซะ) กษัตริย์รัชกาลที่ 4
กระทั่งได้ก่อการยึดอำนาจและลวงพระเจ้ารามมะไตยมาปลงพระชนม์ที่เรือนของตนเอง พร้อมกับตั้งตนเป็นกษัตริย์ แต่เป็นอยู่ได้เพียง 7 วันก็ถูกเจตสงครามยึดอำนาจและจับประหารชีวิต[1] เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 1330 โดยเหล่าทหารภายใต้การนำของพระนางจันทะมังคะละ (စန္ဒာမင်းလှ ซานดามี่นละ) พระราชธิดาของพระเจ้ารามประเดิด กษัตริย์รัชกาลที่ 2 และเป็นพระมเหสีของพระเจ้ารามมะไตย โดยมีพระยาอายกำกอง (စောအဲကံ ซอแอกาน) พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของพระเจ้าแสนเมือง (စောအို ซอโอ) กษัตริย์รัชกาลที่ 3 ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมา
พระประวัติ
[แก้]ชีปอนเกิดในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1295 จากบิดามารดาสามัญชน[note 1] ตอนวัยหนุ่ม ชีปอนเดินทางออกจากหมู่บ้าน Atawgana (အတောဂန) อันเป็นบ้านเกิด และเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านของผู้ว่าราชการสมิงมังละกับเจ้าหญิงนางอุ่นเรือน[2] เขาเป็นผู้ดูแลส่วนหนึ่งที่ดูแลเจ้าชายสอเซนตั้งแต่ทรงพระเยาว์[2]
การงานของชีปอนรุ่งเรืองเมื่อสอเซนขึ้นครองราชย์ใน ค.ศ. 1323 กษัตริย์องค์ใหม่ผู้เผชิญกับการกบฏหลายครั้งตั้งแต่แรกเริ่ม ต้องพึ่งพากลุ่มคนเพียงไม่กี่คนที่ไว้วางใจได้ ในปีต่อ ๆ มา กษัตริย์ได้ปราบปรามการกบฏในภูมิภาคที่พูดภาษามอญในพม่าตอนล่าง แม้ว่าพระองค์ไม่สามารถยึดชายฝั่งตะนาวศรีคืนได้[2] ชีปอนพิสูจน์ตัวเอง กษัตริย์ทรงมอบหมายให้เขาเป็นผู้บัญชาการกองทหารพิเศษที่ประกอบด้วยนักรบชาวไทใหญ่จำนวน 500 นาย[2]
ใน ค.ศ. 1330 ชีปอนกลายเป็บบุคคลที่มีอำนาจ โดยสร้างที่ประทับขนาดใหญ่ของตนเอง ซึ่งล้อมรอบด้วยสวนและมีคูน้ำล้อมรอบ และมีกองพันชาวไทใหญ่ป้องกันไว้[3] ชีปอนเริ่มจับจ้องไปที่บัลลังก์สำหรับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพระเจ้ารามมะไตยพ่ายแพ้ในสนามรบเมื่อไม่นานนี้ที่แปรทางเหนือ และทวายทางใต้ ในเดือนเมษายน/พฤษภาคม ค.ศ. 1330 พระองค์เชิญพระมหากษัตริย์มาที่ประทับของตนที่อยู่นอกเมืองหลวง เพื่อร่วมพิธีขึ้นบ้านใหม่ เมื่อพระราชาผู้ไม่ทันระวังตัวเข้าไปในที่ประทับ เหล่าบริวารของชีปอนก็ซุ่มโจมตีและปลงพระชนม์พระองค์[3]
จากนั้นชีปอนประกาศตนเองเป็นกษัตริย์ภายใต้บรรดาศักดิ์ Deibban Min[4] ราชวงศ์เมาะตะมะตกใจในตอนแรกแต่ภายหลังโต้กลับ นางจันทะมังคะละ อัครมเหสี สามารถหนีจากการรัฐประการได้ และจัดการรัฐประหารย้อนกลับใน 7 วันต่อมา ในวันนั้น นางจันทะมังคะละและข้าราชบริพารที่นำโดยขุนพล Sit Thingyan ไปที่พระราชวัง แสร้งทำเป็นว่ายอมจำนนต่อกษัตริย์องค์ใหม่ ภายในพระราชวัง เหล่าบริวารของ Sit Thingyan สามารถเอาชนะกองทัพของชีปอนได้ ชีปอนถูกประหารชีวิตทันทีตอนพระชนมายุ 34 พรรษา[3]
นางจันทะมังคะละจึงแต่งตั้งพระยาอายกำกอง พระราชนัดดา ขึ้นครองราชย์ และให้ตัวพระนางเป็นอัครมเหสีของพระราชนัดดา[5]
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ (Pan Hla 2005: 41) : วันพฤหัสบดี ขึ้น 12 ค่ำ เดือนนะโยน 657 ME = วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1295 เนื่องจากเขาเกิดในวันพฤหัสบดี เขาน่าจะเกิดในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1295
อ้างอิง
[แก้]บรรณานุกรม
[แก้]- Pan Hla, Nai (2005) [1968]. Razadarit Ayedawbon (ภาษาพม่า) (8th printing ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.
- Phayre, Lt. Gen. Sir Arthur P. (1967) [1883]. History of Burma. London: Susil Gupta.
- เจ้าพระยาพระคลัง (หน). วรรณกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ หมวดบันเทิงคดี เรื่อง ราชาธิราช. กรุงเทพฯ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์, 2546. 500 หน้า. หน้า 17-47.
- ประชุมพงศาวดารเล่ม 2 (ประชุมพงศาวดารภาค 1 ตอนปลาย และภาค 2). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2506. 336 หน้า. หน้า 25.