พญาทะละ
พญาทะละ ဗညားဒလ | |||||
---|---|---|---|---|---|
กษัตริย์แห่งหงสาวดีฟื้นฟูใหม่ | |||||
ครองราชย์ | มกราคม ค.ศ. 1747 – 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1757 | ||||
ก่อนหน้า | สมิงทอพุทธกิตติ | ||||
ต่อไป | ไม่มี | ||||
ประสูติ | เชียงใหม่[1] | ||||
สวรรคต | ธันวาคม ค.ศ. 1774 | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | หงสาวดี | ||||
ศาสนา | พุทธเถรวาท |
พญาทะละ (พม่า: ဗညားဒလ, ออกเสียง: [bəɲá dəla̰] บะญาดะละ; ? – ธันวาคม ค.ศ. 1774) เป็นพระเจ้าหงสาวดีพระองค์ที่ 2 และพระองค์สุดท้ายในช่วงฟื้นฟูอาณาจักร ครองราชย์ระหว่าง ค.ศ. 1747 ถึง 1757 พระองค์เป็นหนึ่งในผู้นำที่รวบรวมชาวมอญขึ้นโค่นล้มราชวงศ์ตองอูที่ปกครองพม่าตอนล่างได้สำเร็จเมื่อ ค.ศ. 1740
พระราชประวัติ
[แก้]พญาทะละ มีเชื้อสายไทใหญ่จากเมืองเชียงใหม่ มีพระนามเดิมว่าธอระแซงมู[2] และมีพระนามเดิมในภาษาพม่าว่า อองละ (အောင်လှ, [àʊ̯ɰ̃ l̥a̰] เอ่าง์ละ) เดิมมีตำแหน่งเป็นนายกองช้าง เมื่อยึดอำนาจจากมองซวยเยนะระทาเจ้าเมืองหงสาวดีแล้ว จึงถวายราชสมบัติแก่สมิงทอพุทธกิตติ ส่วนพระองค์ได้รับแต่งตั้งเป็นพญาทะละ ต่อมาพระองค์ยึดอำนาจจากสมิงทอพุทธกิตติเมื่อ ค.ศ. 1747 แล้วสืบราชบัลลังก์ต่อมา[3] ทรงพระนามว่าพระเจ้าปรมินทราชานราธิบดี[4]
พระองค์สามารถบุกขึ้นไปยึดอังวะ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ตองอูได้สำเร็จเมื่อ ค.ศ. 1750 ทำให้ราชวงศ์ตองอูล่มสลายลง แต่ความผิดพลาดของพระองค์คือทิ้งกองทัพเล็ก ๆ ไว้ 2 – 3 กองทัพดูแลกรุงอังวะ เป็นโอกาสให้ผู้ใหญ่บ้านมุกโชโบชื่อ มังอองไชยะ สามารถรวบรวมกำลังผู้คนบริเวณเหนืออังวะทั้งหมดพร้อมกับสถาปนาราชวงศ์โกนบอง ใน ค.ศ. 1752 ซึ่งต่อมาได้มีการเถลิงพระนามเป็นพระเจ้าอลองพญา และขับไล่กองทัพหงสาวดีออกจากพม่าตอนบน ได้ทั้งหมดเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1753
พญาทะละได้เริ่มเปิดฉากการโจมตีพม่าตอนบนเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 1754 แต่ก็ถูกกองทัพโกนบองโจมตีแตกพ่ายกลับมา ทำให้พระองค์สั่งสำเร็จโทษพระเจ้ามหาธรรมราชาธิบดี กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ตองอูและเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด พร้อมกับบังคับให้ชาวพม่าตอนล่างตัดผมและแต่งตัวแบบชาวมอญเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี[5]
การบุกขึ้นเหนือที่ล้มเหลวของพระองค์ทำให้จากที่เป็นฝ่ายรุก ต้องตกเป็นฝ่ายป้องกันการรุกรานจากกองทัพโกนบอง กระทั่งต่อมาพระเจ้าอลองพญาสามารถเข้ายึดดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดีได้สำเร็จ เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1755 และยึดท่าเรือของฝรั่งเศส ที่เมืองตานลยีน ได้ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1756 และสุดท้ายยึดหงสาวดีได้ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1757 พญาทะละและเชื้อพระวงศ์ถูกจับคุมขังที่มุกโชโบ[6] พระองค์ถูกคุมขังนานถึง 17 ปี จนในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1774 พระเจ้ามังระพระราชโอรสพระองค์ที่สองของพระเจ้าอลองพญา รับสั่งประหารชีวิตพญาทะละต่อหน้าสาธารณชนหลังเกิดเหตุการณ์กบฏมอญในปี ค.ศ. 1773 เนื่องจากเข้าใจว่าพระองค์สนับสนุนให้มีการเกิดกบฏ[7]
เจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง คชเสนี) ต้นตระกูลคชเสนี สืบเชื้อสายเดียวกับพญาทะละ โดยพญาเจ่งเป็นโอรสของเจ้าเมืองเมียวดีผู้ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระยาทะละ โดยพญาเจ่งอพยพเข้ามารับราชการในสยามสมัยกรุงธนบุรี[8][9][10]
อ้างอิง
[แก้]- เชิงอรรถ
- ↑ Hmannen 1829, p. 382.
- ↑ ประชุมพงศาวดารเล่ม 2, หน้า 60
- ↑ Phayre 1967, p. 144.
- ↑ พระราชพงศาวดารพม่า, หน้า 241
- ↑ Lieberman 2003, pp. 202–206.
- ↑ ประชุมพงศาวดารเล่ม 2, หน้า 115
- ↑ Phayre 1967, p. 207.
- ↑ [1] ๘๐ ปี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สุเอ็ด คชเสนี
- ↑ ประชาไท สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดการสัมมนาทางวิชาการนานาชาติ เรื่องรามัญ
- ↑ หอบรรณสารสนเทศ สำนักงานหอสมุดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
- บรรณานุกรม
- ประชุมพงศาวดารเล่ม 2 (ประชุมพงศาวดารภาค 1 ตอนปลาย และภาค 2). กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2506. 336 หน้า. หน้า 60-123.
- พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์. พระราชพงศาวดารพม่า. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2550. 1136 หน้า. หน้า 240-267. ISBN 978-974-7088-10-6
- พระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) และเอกสารอื่น. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2553. 800 หน้า. หน้า 364. ISBN 978-616-7146-08-9
- Hall, D.G.E (1955). A History of South-East Asia. New York: St Martin's Press Inc.
- Hall, D.G.E (1960). Burma. London: Hutchinson & Co (Ltd). ISBN 978-1-4067-3503-1.
- Hmannan Yazawin (ภาษาพม่า). Vol. 3 (2003 ed.). Yangon: Ministry of Information, Myanmar. 1829. p. 382.
- Victor B Lieberman (2003). Strange Parallels: Southeast Asia in Global Context, c. 800-1830, volume 1, Integration on the Mainland. Cambridge University Press. pp. 202–206. ISBN 978-0-521-80496-7.
- Myint-U, Thant (2006). The River of Lost Footsteps-Histories of Burna. New York: Farrar, Straus and Giroux. ISBN 978-0-374-16342-6.
- Lt. Gen. Sir Arthur P. Phayre (1883). History of Burma (1967 ed.). London: Susil Gupta. pp. 145–148.
- Symes, Michael (Spring 2006). "An Account of an Embassy to the Kingdom of Burma, sent by the Governor-General of India, in the year 1795". SOAS Bulletin of Burma Research. issue 1. 4.
ก่อนหน้า | พญาทะละ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมิงทอพุทธกิตติ | พระเจ้าหงสาวดี (ค.ศ. 1747 - 1757) |
ยกเลิกตำแหน่ง |