ข้ามไปเนื้อหา

ไทยลีก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก ไทยพรีเมียร์ลีก)
บีวายดี ซีไลอ้อน ลีกวัน
ก่อตั้งพ.ศ. 2539 (28 ปีก่อน)
ประเทศ ไทย
สมาพันธ์เอเอฟซี
จำนวนทีม16 (ตั้งแต่ 2562)
ระดับในพีระมิด1
ตกชั้นสู่ไทยลีก 2
ถ้วยระดับประเทศไทยเอฟเอคัพ
ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ
ถ้วยระดับลีกไทยลีกคัพ
ถ้วยระดับนานาชาติเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู
ทีมชนะเลิศปัจจุบันบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (สมัยที่ 11)
(2567–68)
ชนะเลิศมากที่สุดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (11 สมัย)
ผู้ลงเล่นมากที่สุดรังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (439)
ผู้ทำประตูสูงสุดเอเบร์ชี (159)
หุ้นส่วนโทรทัศน์เอไอเอส
เว็บไซต์Thai League (T1)
ปัจจุบัน: ฤดูกาล 2568–69

ไทยลีก[a] หรือ ไทยลีก 1[b] หรือรู้จักในชื่อ บีวายดี ซีไลอ้อน ลีกวัน[c] ด้วยเหตุผลด้านผู้สนับสนุน เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในระดับสูงสุดของระบบลีกฟุตบอลไทย เริ่มต้นแข่งขันครั้งแรกในฤดูกาล 2539–40 มีสโมสรเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสร มีการเลื่อนชั้นและการตกชั้นระหว่างไทยลีก 2 ฤดูกาลเริ่มต้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงพฤษภาคม โดยแต่ละสโมสรจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 30 นัดต่อสโมสรต่อฤดูกาล รวมทั้งหมด 240 นัดต่อฤดูกาล นัดการแข่งขันส่วนใหญ่จะลงเล่นในวันเสาร์และวันอาทิตย์ตอนเย็น และบางครั้งก็ลงเล่นในวันพุธและวันศุกร์ตอนเย็น

ตั้งแต่จัดตั้งลีกขึ้นมามีทั้งหมด 55 สโมสรที่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน และมี 12 สโมสรที่ได้แชมป์ไทยลีก คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (11), เมืองทอง ยูไนเต็ด (4), โปลิศ เทโร, ทหารอากาศ และธนาคารกรุงไทย (2), ธนาคารกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, สินธนา, ชลบุรี เอฟซี, พนักงานยาสูบ, เชียงราย ยูไนเต็ด และบีจี ปทุม ยูไนเต็ด (1)

ประวัติ

[แก้]

เมื่อปี พ.ศ. 2539 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีความคิดในการที่จะปรับปรุงระบบการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ จากวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นเลิศ มาเป็นรูปแบบอาชีพ โดยเริ่มก่อตั้งฟุตบอลลีกสูงสุดขึ้น โดยเดิมที การแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสูงสุดของประเทศคือ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ก. (ถ้วยใหญ่) ซึ่งจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 จนถึงปี พ.ศ. 2538 (ในฐานะการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรระดับสูงสุดของประเทศ) โดยมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขันใน ฤดูกาลแรก ทั้งหมด 18 สโมสร ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างเป็น 10 สโมสร จนถึง ฤดูกาล 2547/48

การรวบรวมลีก

[แก้]

ในปี พ.ศ. 2549 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ เริ่มมีการให้ สิทธิสโมสรที่จบตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศใน โปรวินเชียลลีก เข้าร่วมการแข่งขันได้ ซึ่งทำให้มีการเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันเป็น 12 สโมสร ตั้งแต่ ฤดูกาล 2549 จนกระทั่งในปีถัดมา (พ.ศ. 2550) จึงมีการควบรวม โปรวินเชียลลีก โดยได้มีการจัดทำ บันทึกช่วยจำ การจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ[1] ซึ่งเป็นเอกสารข้อตกลงในการรวมลีกทั้งสองเข้าเป็นลีกเดียว โดยให้สิทธิสโมสรที่จบตำแหน่งชนะเลิศและรองชนะเลิศในการแข่งขัน โปรลีก ฤดูกาล 2549 เข้าแข่งขันใน ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ด้วย ซึ่งทำให้มีการเพิ่มจำนวนสโมสรที่เข้าแข่งขันเป็น 16 สโมสร พร้อมทั้งเพิ่มเงื่อนไขให้สโมสรซึ่งอยู่ใน 3 อันดับสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล ต้องตกชั้นไปสู่ ไทยลีกดิวิชั่น 1 โดยให้สิทธิสโมสรชนะเลิศ รองชนะเลิศ และ อันดับที่ 3 ของ ไทยลีกดิวิชั่น 1 เลื่อนชั้นมาแข่งขันเป็นการทดแทน โดยสโมสรแรกที่มาจาก โปรวินเชียลลีก แล้วสามารถชนะเลิศการแข่งขันได้คือ ชลบุรี เอฟซี ใน ฤดูกาล 2550

การปรับโครงสร้างลีกสู่ลีกอาชีพ

[แก้]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ออกระเบียบว่าด้วยความเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผลให้สมาคมฯ ต้องดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อบริหารลีกและจัดการแข่งขันแทนที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยได้มีการจัดตั้ง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ขึ้น โดยมี วิชิต แย้มบุญเรือง อดีตนัก ฟุตบอลทีมชาติไทย เป็นประธานกรรมการคนแรก และออกระเบียบให้ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพ ต้องจัดตั้งในรูปนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อดำเนินการบริหารสโมสร ส่งผลให้มีการแข่งขันเชิงรูปแบบ การบริหารจัดการให้เป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น รวมทั้งแพร่หลายออกไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จากเดิมที่สโมสรฟุตบอลต่างๆ จะกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น จึงกลับมาเป็นที่นิยมของแฟนฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยใน ฤดูกาล 2554 สมาคมฯ ประกาศเพิ่มจำนวนสโมสรที่จะทำการแข่งขัน เป็น 18 สโมสร[2]

กรณีพิพาทของลีก

[แก้]

ต่อมาได้มีกรณีข้อพิพาทในเรื่องสิทธิการบริหารสโมสรและสิทธิการแข่งขัน ระหว่าง อีสาน ยูไนเต็ด และ ศรีสะเกษ เอฟซี โดยทาง อีสาน ยูไนเต็ด ได้ยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาว่า ศรีสะเกษ เอฟซี มีสิทธิทำการแข่งขันในฤดูกาล ฤดูกาล 2556 หรือไม่ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว เป็นผลให้ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ต้องลงมติให้พักการแข่งขันของ สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ตามคำสั่งคุ้มครองฯของศาล โดยเมื่อศาลปกครองวินิจฉัยให้สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ มีสิทธิทำการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้ต่อไป สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงประชุมร่วมกับ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ และสโมสรสมาชิกทั้งหมด โดยที่ประชุมลงมติให้ ฤดูกาล 2557 เพิ่มสมาชิกเป็น 20 สโมสร และกำหนดสโมสรที่จะต้องตกชั้นลงไปแข่งขันไทยลีกดิวิชั่น 1 ต้องมีถึง 5 สโมสรคือ อันดับที่ 16-20 (ขณะเดียวกัน ทั้งสองฤดูกาลดังกล่าว ยังคงให้สโมสรชนะเลิศ, รองชนะเลิศ และอันดับที่ 3 ของไทยลีกดิวิชัน 1 ขึ้นมาแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกตามเดิม) เพื่อทำให้สโมสรสมาชิก คงเหลือเพียง 18 ทีมเท่าเดิม[3] ส่วนฤดูกาล 2556 ให้สโมสรอันดับที่ 17 ต้องตกชั้นลงไปแข่งขันในไทยลีกดิวิชัน 1 เพียงทีมเดียว[4]

การเปลื่ยนแปลงบริหาร

[แก้]

ภายหลังจากการเลือกตั้งนายก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ซึ่ง พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ซึ่งได้รับเลือกจากสโมสรสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม คนใหม่ได้ประกาศว่าได้ทำการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทน บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยใช้ชื่อว่า บริษัท พรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ จำกัด (PLT)[5] และได้มีการจัดหาตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของลีก แทนที่ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ที่ได้มีการยกเลิกสัญญาไป

การปรับโครงสร้างระบบลีก

[แก้]

ต่อมาได้มีการจัดตั้ง บริษัท ไทยลีก จำกัด ขึ้นมาแทน บจก.พรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ ตามคำแนะนำของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย และ สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ โดยได้โอนหุ้นจำนวน 99.98% ที่ทางนายกสมาคมฯ ถือไว้ให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย[6] ต่อมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มีนโยบายในการพัฒนาศักยภาพสโมสรฟุตบอลลีกอาชีพอย่างยั่งยืน และยกระดับลีกภายในประเทศให้ก้าวไปสู่ลีกชั้นนำของอาเซียนและเอเชีย เริ่มจากการตั้งและปรับเปลี่ยนชื่อลีกแต่ละระดับให้อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน เน้นความเรียบง่าย กระชับ น่าจดจำและร่วมสมัยที่สุด[7]

การแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศไทยภายใต้การจัดของ บริษัท ไทยลีก จำกัด ตั้งแต่ฤดูกาล 2560 ได้แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ต่อมาในฤดูกาล 2563 ได้มีการปรับลดเหลือเป็น 4 ระดับและในฤดูกาล 2566 ได้มีการปรับเพิ่มเป็น 5 ระดับโดยมีชื่อเรียกหลักอย่างเป็นทางการประกอบด้วย

  1. ไทยลีก (Thai League) ชื่อย่อ T1 เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพระดับสูงสุดของประเทศไทย โดยฤดูกาล 2560 สโมสรที่จบอันดับที่ 1-15 ของ ฤดูกาล 2559 และ สโมสรอันดับ 1-3 จาก ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2559 รวมเป็น 18 สโมสร และตั้งแต่ฤดูกาล 2562 เป็นต้นมา ได้มีการปรับลดจำนวนสโมสรที่ทำการแข่งขันเป็น 16 สโมสร เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดตารางแข่งขันให้ ฟุตบอลทีมชาติไทย ได้มีเวลาเตรียมทีมแข่งขันรายการต่างๆ และสามารถมีช่วงเวลาหยุดพักแข่งขันตามหลักสากล
  2. ไทยลีก 2 (Thai League 2) ชื่อย่อ T2 เป็นการแข่งขันฟุตบอลอาชีพระดับที่สองรองจาก ไทยลีก โดย ฤดูกาล 2560 สโมสรที่จบอันดับ 16-18 จาก ไทยลีก ฤดูกาล 2559, สโมสรที่จบอันดับ 4-15 จาก ฤดูกาล 2559 และ 3 สโมสรที่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้น จาก ลีกภูมิภาค ฤดูกาล 2559 รวมเป็น 18 สโมสร
  3. ไทยลีก 3 (Thai League 3) ชื่อย่อ T3 เป็นฟุตบอลลีกอาชีพระดับ 3 รวมเป็น 76 สโมสร แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน
  4. ไทยแลนด์ เซมิโปรลีก (Thailand Semi-Pro League) ชื่อย่อ TS เป็นฟุตบอลลีกกึ่งอาชีพระดับ 4 รวมเป็น 34 สโมสร แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน
  5. ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก (Thailand Amateur League) ชื่อย่อ TA เป็นฟุตบอลลีกสมัครเล่นระดับ 5 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 6 โซน

ในวันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566 นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ในฐานะรักษาการประธานบริษัท ไทยลีก จำกัด และนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้เรียกประชุมตัวแทน 16 สโมสรสมาชิกไทยลีก เพื่อหาทางออกและเสนอข้อชี้แนะหลังการประมูลซื้อลิขสิทธิ์ไทยลีกไม่เป็นไปอย่างที่คิด ซึ่งข้อเสนอแนะจากเสียงส่วนใหญ่ใน 16 ทีมคือให้ทั้ง 16 ทีมบริหารจัดการและหาสิทธิประโยชน์กันเอง (พรีเมียร์ลีกโมเดล) ซึ่งจะได้นำข้อมูลและรายละเอียดเสนอเข้าสู่การประชุมสภากรรมการบริหารสมาคมในวันจันทร์ที่ 3 กรกฎาคม[8] ต่อมาในวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม 2566 ทางสมาคมและตัวแทนสโมสรสมาชิกทั้ง 16 สโมสรได้ประชุมพูดคุยเพื่อหาข้อสรุปซึ่งข้อสรุปคือทางสมาคมไฟเขียวให้ 16 สโมสรบริหารจัดการลิขสิทธิ์ไทยลีกโดยคาดว่าจะได้บทสรุปสุดท้ายในการประชุมวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม ที่โรงแรมพูลแมน[9] ต่อมาในวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2566 ตัวแทน 16 สโมสรสมาชิกและตัวแทนจากบริษัทไทยลีก ได้ประชุมหารือเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไทยลีก พร้อมกับแต่งตั้ง ธัญญะ วงศ์นาค เป็นโฆษกบริษัทไทยลีกคนใหม่[10]

ความพยายามแยกตัวครั้งที่ 2

[แก้]

ต่อมาในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 สโมสรสมาชิกในศึกไทยลีก 1 ได้นัดประชุม Thai League Work Shop ครั้งที่ 1 เพื่อหารือเรื่องจะทำการแยกตัวจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ออกมาเปิดบริษัทจัดการแข่งขันเองเช่นเดียวกับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ จะได้บริหารจัดการสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง ทำให้สโมสรจะได้รับเงินมากกว่าที่เคยได้รับในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงเรื่องผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป การปรับเปลี่ยนตารางแข่งขันในช่วงฤดูกาล 2025–26 ไม่ให้มีการพักเบรกทีมชาติช่วงซีเกมส์ 2025 รวมถึงการปรับระเบียบการแข่งขันเสียใหม่โดยเฉพาะการจัดอันดับทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ว่าไม่ควรนับจากผลงานการเจอกันเอง (เฮดทูเฮด) แต่ให้วัดที่ผลต่างประตูได้เสียไปเลย ขณะที่การตกชั้นจะปรับให้ตกชั้นแค่ทีมเดียว แล้วนำเอาอันดับ 12-15 มาเพลย์ออฟเพื่อหาอีก 2 ทีมตกชั้น[11][12]

ในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สโมสรสมาชิกของไทยลีก 1 ได้จัดประชุม Thai League Work Shop ครั้งที่ 2 โดยมีวาระสำคัญคือการแยกบริษัทออกมาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และบริษัทไทยลีก เพื่อจัดการแข่งขันเอง โดยมีสโมสรสมาชิกเห็นด้วย 11 เสียงคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ลำพูน วอริเออร์, ราชบุรี, พลังกาญจน์, อยุธยา ยูไนเต็ด, ชลบุรี, พีที ประจวบ, อุทัยธานี และสุโขทัย ไม่เห็นด้วย 2 เสียงคือ ระยอง และการท่าเรือ งดออกเสียง 2 เสียงคือ ทรูแบงค็อกยูไนเต็ด และเมืองทองยูไนเต็ด และไม่เข้าประชุม 1 เสียงคือ นครราชสีมา โดยมีกำหนดเริ่มต้นในฤดูกาล 2025–26 โดยขั้นตอนต่อไปคือการเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภากรรมการของสมาคมกีฬาฟุตบอลเพื่อตัดสินว่าจะอนุมัติหรือไม่ หากอนุมัติทั้ง 16 สโมสรจะต้องมาประชุมกันต่อว่าจะบริหารจัดการแข่งขันอย่างไร[13]

แต่ในเวลาต่อมา ลำพูนฯ ที่เป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่วมเห็นด้วยกับการแยกลีกก็กลับลำไม่เห็นด้วยกับมตินี้เพราะตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมลงมติผิดพลาด ขณะที่ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ก็ได้ออกหนังสือชี้แจงสาเหตุที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมว่าเป็นเพราะติดธุระ และไม่เห็นด้วยกับมตินี้เพราะยังไม่ได้ศึกษาข้อดีข้อเสียที่ชัดเจน ทำให้เหลือสโมสรสมาชิกที่เห็นด้วยทั้งหมด 10 ทีม[14]

ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568 สมาคมกีฬาฟุตบอลได้จัดการประชุมสภากรรมการ ซึ่งในที่ประชุมไม่มีเรื่องการแยกลีกอยู่ในวาระการประชุมเลย[15]

รูปแบบการแข่งขัน

[แก้]

ไทยลีก มีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสร ตามปกติจะดำเนินการจัดแข่งขัน ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี โดยแต่ละสโมสรจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 30 นัดต่อสโมสรต่อฤดูกาล ซึ่งในแต่ละนัด ผู้ชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้ไม่ได้คะแนน ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล สโมสรที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะได้รับตำแหน่งชนะเลิศ และได้สิทธิไปแข่งขันรายการ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ส่วนสโมสรที่ได้รองชนะเลิศ และอันดับที่ 3 จะได้ไปแข่งในรายการเดียวกัน แต่จะแข่งขันในรอบคัดเลือกรอบสอง (กรณีสโมสรที่ชนะเลิศหรือรองชนะเลิศไทยลีก และสโมสรที่ชนะเลิศ ไทย เอฟเอคัพ ในฤดูกาลเดียวกัน เป็นสโมสรเดียวกัน สิทธิแข่งขันจะตกเป็นของสโมสรที่ได้คะแนนอันดับที่ 4 ของลีกแทน) ส่วนสโมสรที่ได้คะแนนรองลงมา จะเรียงอันดับลดหลั่นกันตามคะแนนรวมที่ได้ โดยสโมสรที่จบฤดูกาลในสามอันดับสุดท้าย จะตกชั้นสู่ไทยลีก 2 และ ทีมที่อันดับสูงที่สุดสองทีมในไทยลีก 2 จะเลื่อนชั้นไป พร้อมกับอีกหนึ่งทีมที่มาจากการชนะเลิศในการแข่งขันเพลย์ออฟระหว่างอันดับที่ 3, 4, 5 และ 6

ในกรณีที่มีสโมสรมากกว่า 1 ทีมขึ้นไป ได้คะแนนรวมเท่ากันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาเรียงลำดับดังนี้

  1. พิจารณาจากผลการแข่งขันของทีมที่มีคะแนนเท่ากันที่เคยแข่งกันมาในฤดูกาลที่เพิ่งจบการแข่งขัน (Head To Head)
  2. พิจารณาจากจำนวนครั้งที่ชนะ (Number of Wins) ของแต่ละทีมที่คะแนนเท่ากัน
  3. พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ และประตูเสีย (Goals Difference)
  4. พิจารณาเฉพาะประตูได้ (Goals For)
  5. แข่งขันกันใหม่ 1 นัด เพื่อหาทีมชนะ หากผลการแข่งขันเสมอกันในเวลาปกติให้ตัดสินด้วยการเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษ
  6. ในกรณีที่พิจารณาตามเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นตามลำดับแล้วและได้เกณฑ์ตัดสินตามข้อหนึ่งข้อใดแล้วให้ยุติการพิจารณาข้อต่อไป

ในการจัดอันดับระหว่างการแข่งขัน เพื่อแสดงลำดับในตารางคะแนนระหว่างฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาดังต่อไปนี้

  1. พิจารณาจากคะแนนรวมสูงสุด
  2. ถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ ประตูเสีย
  3. ถ้ายังเท่ากันอีกให้ดูเฉพาะประตูได้
  4. ถ้ายังเท่ากันอีกให้ทำการจับฉลาก

ผู้สนับสนุนหลัก

[แก้]

ไทยลีกมีการตั้งชื่อการแข่งขันตามชื่อผู้สนับสนุน โดยให้มีชื่อเรียกต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

ช่วงเวลา ผู้สนับสนุน ชื่อการแข่งขัน
พ.ศ. 2539–2540 จอห์นนี่ วอล์กเกอร์[16] จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ไทยแลนด์ซอกเกอร์ลีก
พ.ศ. 2541–2543 คาลเท็กซ์[16] คาลเท็กซ์ พรีเมียร์ลีก
พ.ศ. 2544–2547 จีเอสเอ็ม[16] จีเอสเอ็ม ไทยลีก
พ.ศ. 2547–2548 ไทยลีก
พ.ศ. 2549–2551 ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก
พ.ศ. 2552 ไทยพรีเมียร์ลีก
พ.ศ. 2553–2555 สปอนเซอร์[17] สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก
พ.ศ. 2556–2558 โตโยต้า[18][19][20] โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก
พ.ศ. 2559–2564 โตโยต้า ไทยลีก
พ.ศ. 2564–2568 ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก
พ.ศ. 2568–ปัจจุบัน บีวายดี[21] บีวายดีซี ไลอ้อนซิกซ์ ลีกหนึ่ง

สโมสรที่เข้าร่วมไทยลีก (ฤดูกาล 2568–69)

[แก้]
สโมสร ที่ตั้ง สนามเหย้า ความจุ อันดับฤดูกาล 2567–68
การท่าเรือ กรุงเทพมหานคร (คลองเตย) แพตสเตเดียม 8,000 5
ชลบุรี ชลบุรี ชลบุรี ไดกิ้น สเตเดียม 8,600 1 (ไทยลีก 2)
ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ปทุมธานี ทรู บีจี สเตเดียม 15,114 2
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 3
นครราชสีมา มาสด้า นครราชสีมา สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 25,000 13
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ ช้างอารีนา 32,600 1
พลังกาญจน์ กาญจนบุรี สนามกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี 18,000 4 (ไทยลีก 2)
พีที ประจวบ ประจวบคีรีขันธ์ สามอ่าวสเตเดียม 5,000 7
เมืองทอง ยูไนเต็ด นนทบุรี (ปากเกร็ด) ธันเดอร์โดมสเตเดียม 13,000 6
ระยอง ระยอง ดับบลิวเอชเอ ระยอง สเตเดียม 7,500 12
ราชบุรี ราชบุรี ราชบุรีสเตเดียม 10,000 4
ลำพูน วอริเออร์ ลำพูน ลำพูน วอริเออร์ สเตเดียม 5,400 8
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เชียงราย สิงห์ เชียงราย สเตเดียม 13,000 11
สุโขทัย สุโขทัย ทะเลหลวงสเตเดียม 8,000 10
อยุธยา ยูไนเต็ด พระนครศรีอยุธยา สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 6,000 2 (ไทยลีก 2)
อุทัยธานี อุทัยธานี สนามกีฬากลางจังหวัดอุทัยธานี 4,477 9

ทำเนียบสโมสรชนะเลิศ

[แก้]
# ปี ทีมชนะเลิศ ทีมรองชนะเลิศ
1 2539/40 ธนาคารกรุงเทพ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
2 2540 ทหารอากาศ สินธนา
3 2541 สินธนา ทหารอากาศ
4 2542 ทหารอากาศ การท่าเรือฯ
5 2543 บีอีซี เทโรศาสน ทหารอากาศ
6 2544/45 บีอีซี เทโรศาสน โอสถสภา
7 2545/46 ธนาคารกรุงไทย บีอีซี เทโรศาสน
8 2546/47 ธนาคารกรุงไทย บีอีซี เทโรศาสน
9 2547/48 พนักงานยาสูบ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
10 2549 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โอสถสภา เอ็ม-150
11 2550 ชลบุรี ธนาคารกรุงไทย
12 2551 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชลบุรี
13 2552 เมืองทอง ยูไนเต็ด ชลบุรี
14 2553 เมืองทอง ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ พีอีเอ
15 2554 บุรีรัมย์ พีอีเอ ชลบุรี
16 2555 เมืองทอง ยูไนเต็ด ชลบุรี
17 2556 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด
18 2557 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชลบุรี
19 2558 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด
20 2559 เมืองทอง ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด
21 2560 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมืองทอง ยูไนเต็ด
22 2561 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด
23 2562 เชียงราย ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
24 2563–64 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
25 2564–65 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
26 2565–66 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด
27 2566–67 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด
28 2567–68 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบงค็อก ยูไนเต็ด

จำนวนครั้งที่ชนะเลิศ

[แก้]
สโมสร ชนะเลิศ รองชนะเลิศ ฤดูกาลที่ชนะเลิศ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 11 4 2551, 2554, 2556, 2557, 2558, 2560, 2561, 2564–65, 2565–66, 2566–67, 2567–68
เมืองทอง ยูไนเต็ด 4 3 2552, 2553, 2555, 2559
ทหารอากาศ 2 2 2540, 2542
บีอีซี เทโร ศาสน 2 2 2543, 2544/45
ธนาคารกรุงไทย 2 1 2545/46, 2546/47
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 1 5 2549
ชลบุรี 1 5 2550
สินธนา 1 1 2541
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1 1 2563–64
ธนาคารกรุงเทพ 1 0 2539
พนักงานยาสูบ 1 0 2547/48
เชียงราย ยูไนเต็ด 1 0 2562

ตัวอักษรเอียง หมายถึงอดีตแชมป์ไทยลีกที่ปัจจุบันไม่ได้แข่งขันในไทยลีก

ผู้ลงเล่นสูงสุด

[แก้]
ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2568
อันดับ ผู้เล่น ตำแหน่ง ลงเล่น ประตู
1 ประเทศไทย รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค MF 439 49
2 ประเทศไทย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน GK 403 0
3 ประเทศไทย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล GK 397 1
4 ประเทศไทย ธีรศิลป์ แดงดา FW 351 146
5 ประเทศไทย ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ DF 335 19
6 ประเทศไทย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว MF 322 62
7 ประเทศไทย ธีรเทพ วิโนทัย FW 319 96
8 ประเทศไทย นริศ ทวีกุล GK 313 1
9 ประเทศไทย พิภพ อ่อนโม้ FW 265 88
10 ประเทศไทย อภิเชษฐ์ พุฒตาล DF 261 7

ตัวหนา หมายถึง นักเตะที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่ในไทยลีก

ผู้ทำประตูสูงสุด

[แก้]
ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2568
อันดับ ผู้เล่น ปี ประตู ลงเล่น
1 ประเทศบราซิล เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส 2014–2016, 2017–2023 159 284
2 ประเทศไทย ธีรศิลป์ แดงดา 2009–2014, 2015–2017, 2019– 148 352
3 ประเทศบราซิล คลีตัน ซิลวา 2010–2014, 2015–2017, 2018–2019 144 179
4 ประเทศมอนเตเนโกร ดราแกน บอสโควิช 2013–2021 118 182
ประเทศบราซิล ดิโอโก้ หลุยซ์ ซานโต 2015–2018, 2020–2022 118 132
6 ประเทศบราซิล ลีอังดรู อัสซัมเซา[22] 2011–2021 116 203
7 ประเทศไทย พิภพ อ่อนโม้ 2006–2018 108 404
8 ประเทศไทย ศรายุทธ ชัยคำดี 2001–2004, 2007–2012, 2013–2014 101 233
9 ประเทศไทย ธีรเทพ วิโนทัย 2006–2008, 2009–2014, 2016–2022 96 319
10 ประเทศมาซิโดเนียเหนือ มารีโอ ยูโรฟสกี 2012–2019 93 197

ตัวหนา หมายถึง ผู้เล่นที่ยังลงเล่นอยู่ในไทยลีก[23][24]

สถิติผู้เล่น

[แก้]

สถิติของการแข่งขัน

[แก้]

เครือข่ายถ่ายทอดโทรทัศน์

[แก้]

รางวัล

[แก้]

เงินรางวัล

[แก้]
  • ชนะเลิศ: 10,000,000 บาท
  • รองชนะเลิศ: 2,000,000 บาท
  • อันดับสาม: 1,500,000 บาท
  • อันดับสี่: 800,000 บาท

โดยทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล สำหรับสโมสรฟุตบอลซึ่งได้คะแนนรวมในอันดับต่างๆ เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

นอกจากนี้ ยังมีเงินบำรุงสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน สโมสรละ 1,000,000 บาท โล่พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท สำหรับผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม และผู้ทำประตูสูงสุด, โล่พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท สำหรับสโมสรที่มีมารยาทยอดเยี่ยม, นักฟุตบอลเยาวชนผู้มีผลงานโดดเด่น และผู้เล่นยอดเยี่ยมตำแหน่งต่างๆ คือผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง และกองหน้า[32]

ถ้วยรางวัล

[แก้]
ถ้วยรางวัลไทยลีกตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ถึง 2559
ถ้วยรางวัลไทยลีกตั้งแต่ พ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน

ผู้ทำประตูสูงสุดของฤดูกาล

[แก้]
ปี ผู้เล่น สโมสร ประตู
2567–68 ประเทศบราซิล กิลแยร์มี บิสซูลี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 25
2566–67 ประเทศไทย ศุภชัย ใจเด็ด2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 21
2565–66 ประเทศไทย ศุภชัย ใจเด็ด1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 19
2564–65 ประเทศบราซิล ฮามิลตง ซูวาริส หนองบัว พิชญ 19
2563–64 ประเทศบราซิล บาร์รอส ทาร์เดลี สมุทรปราการ ซิตี้ 25
2562 ประเทศกินี ลอนซานา ดูมบูยา ตราด 20
2561 ประเทศบราซิล ดิโอโก หลุยส์ ซานโต2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 34
2560 ประเทศมอนเตเนโกร ดราแกน บอสโควิช แบงค็อก ยูไนเต็ด 38
2559 ประเทศบราซิล เคลย์ตง ซิลวา2 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 27
2558 ประเทศบราซิล ดิโอโก หลุยส์ ซานโต1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 33
2557 ประเทศบราซิล เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 26
2556 ประเทศสเปน คาร์เมโล กอนซาเลซ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 23
2555 ประเทศไทย ธีรศิลป์ แดงดา
ประเทศบราซิล เคลย์ตง ซิลวา1
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
บีอีซี เทโรศาสน
24
2554 ประเทศแคเมอรูน แฟรงค์ โอฮานด์ซา บุรีรัมย์ พีอีเอ 19
2553 ประเทศแคเมอรูน ลูโดวิด ทาคาม พัทยา ยูไนเต็ด 17
2552 ประเทศไทย อานนท์ สังข์สระน้อย2 บีอีซี เทโรศาสน 18
2551 ประเทศไทย อานนท์ สังข์สระน้อย1 บีอีซี เทโรศาสน 20
2550 ประเทศบราซิล เนย์ ฟาเบียโน พนักงานยาสูบ 18
2549 ประเทศไทย พิพัฒน์ ต้นกันยา บีอีซี เทโรศาสน 12
2547/48 ประเทศไทย ศุภกิจ จินะใจ
ประเทศไทย ศรายุทธ ชัยคำดี2
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
การท่าเรือฯ
10
2546/47 ประเทศไทย วิมล จันทร์คำ โอสถสภา 14
2545/46 ประเทศไทย ศรายุทธ ชัยคำดี1 การท่าเรือฯ 12
2544/45 ประเทศไทย วรวุฒิ ศรีมะฆะ2
ประเทศไทย ปิติพงษ์ กุลดิลก
บีอีซี เทโรศาสน
การท่าเรือฯ
12
2543 ประเทศไทย สุธี สุขสมกิจ2 ธ.กสิกรไทย 16
2542 ประเทศไทย สุธี สุขสมกิจ1 ธ.กสิกรไทย 13
2541 ประเทศไทย รณชัย สยมชัย การท่าเรือฯ 23
2540 ประเทศไทย วรวุฒิ ศรีมะฆะ1 บีอีซี เทโรศาสน 17
2539 ประเทศไทย อัมพร อำพันสุวรรณ องค์การโทรศัพท์ 21

ผู้เล่นยอดเยี่ยม

[แก้]
ปี ผู้เล่น สโมสร
2567–68
2566–67 ประเทศไทย ศุภชัย ใจเด็ด2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2565–66 ประเทศไทย ศุภชัย ใจเด็ด1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2564–65 ประเทศไทย ธีราทร บุญมาทัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2563–64[34] ประเทศไทย สุมัญญา ปุริสาย2 บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
2562[35] ประเทศไทย พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล เชียงราย ยูไนเต็ด
2561[36] ประเทศไทย สุมัญญา ปุริสาย1 แบงค็อก ยูไนเต็ด
2560 ประเทศไทย จักรพันธ์ แก้วพรม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2558 ประเทศบราซิล ดิโอโก หลุยส์ ซานโต บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2557 ประเทศไทย สุเชาว์ นุชนุ่ม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2556 ประเทศไทย ธีราทร บุญมาทัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2555 ประเทศไทย ธีรศิลป์ แดงดา เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
2554 ประเทศไทย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ชลบุรี เอฟซี
2553 ประเทศไทย ดัสกร ทองเหลา เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
2552 ประเทศไทย เจษฎา จิตสวัสดิ์ (กองหลัง)
ประเทศไทย กิตติพล ปาภูงา (กองกลาง)
ประเทศไทย พิพัฒน์ ต้นกันยา (กองหน้า)
เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
บีอีซี เทโรศาสน
การท่าเรือไทย
2551 ประเทศไทย ณรงค์ชัย วชิรบาล การไฟฟ้าฯ
2550 ประเทศไทย พิภพ อ่อนโม้ ชลบุรี เอฟซี
2549 ประเทศไทย ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
2547/48 ประเทศบราซิล โชเซ่ คาร์ลอส ดาซิลวา พนักงานยาสูบ
2546/47 ประเทศไทย พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ธ.กรุงไทย
2545/46 ประเทศไทย คัมภีร์ ปิ่นฑะกุล ธ.กรุงเทพ
2544/45 ประเทศไทย อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ ธ.กรุงเทพ
2543 ประเทศไทย อนุรักษ์ ศรีเกิด บีอีซี เทโรศาสน
2541 ประเทศไทย นิเวส ศิริวงศ์ สินธนา
2540 ประเทศไทย เศกสรรค์ ปิตุรัตน์ สินธนา
2539 ประเทศไทย อัมพร อำพันสุวรรณ องค์การโทรศัพท์ฯ

ดาวรุ่งยอดเยี่ยม

[แก้]
ปี ผู้เล่น สโมสร
2567–68
2566–67 ประเทศไทย ธีรศักดิ์ เผยพิมาย การท่าเรือ
2565–66
2564–65 ประเทศไทย กฤษดา กาแมน ชลบุรี เอฟซี
2563–64 ประเทศไทย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ สมุทรปราการ ซิตี้
2562 ประเทศไทย เอกนิษฐ์ ปัญญา เชียงราย ยูไนเต็ด
2561 ประเทศไทย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ชลบุรี เอฟซี
2560 ประเทศไทย สุภโชค สารชาติ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2559 ประเทศไทย วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ พัทยา ยูไนเต็ด
2558 ประเทศไทย ชนาธิป สรงกระสินธ์2 บีอีซี เทโรศาสน
2556 ประเทศไทย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
2555 ประเทศไทย ชนาธิป สรงกระสินธ์1 บีอีซี เทโรศาสน
2554 ประเทศไทย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
2553 ประเทศไทย จักรพันธ์ แก้วพรม เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
2552 ประเทศไทย คัพฟ้า บุญมาตุ่น โอสถสภา

ผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม

[แก้]
ปี รายชื่อผู้ฝึกสอน สโมสร
2567–68 ประเทศบราซิล ออสมาร์ ลอส บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2566–67 ประเทศไทย ธชตวัน ศรีปาน ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด
2565–66 ประเทศญี่ปุ่น มาซาตาดะ อิชิอิ2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2564–65 ประเทศญี่ปุ่น มาซาตาดะ อิชิอิ1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2563–64 ประเทศไทย สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
2562 ประเทศไทย อลงกรณ์ ทองอ่ำ เชียงราย ยูไนเต็ด
2561 ประเทศมอนเตเนโกร โบซีดาร์ บันโดวิช บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2560 ประเทศไทย ธชตวัน ศรีปาน เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
2558 ประเทศบราซิล อาเลชังดรี กามา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2557 ประเทศญี่ปุ่น มะซะฮิโระ วะดะ ชลบุรี เอฟซี
2556 ประเทศไทย อรรถพล บุษปาคม4 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,

บางกอกกล๊าส

2555 ประเทศเซอร์เบีย สลาวีชา ยอคานอวิช เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด
2554 ประเทศไทย อรรถพล บุษปาคม3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
2553 ประเทศเบลเยียม เรอเน เดอซาแยร์ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
2552 ประเทศไทย อรรถพล บุษปาคม2 เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด
2551 ประเทศไทย ประพล พงษ์พานิช การไฟฟ้าฯ
2550 ประเทศไทย จเด็จ มีลาภ ชลบุรี เอฟซี
2549 ประเทศไทย สมชาย ทรัพย์เพิ่ม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
2547/48 ประเทศบราซิล โฌแซ อัลวิส บอร์ฌิส พนักงานยาสูบ
2546/47 ประเทศไทย วรวุฒิ แดงเสมอ ธ.กรุงไทย
2545/46 ประเทศไทย ณรงค์ สุวรรณโชติ ธ.กรุงไทย
2544/45 ประเทศไทย อรรถพล บุษปาคม1 บีอีซี เทโรศาสน
2543 ประเทศไทย พิชัย ปิตุวงษ์ บีอีซี เทโรศาสน
2542 ประเทศไทย ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน2 ทหารอากาศ
2541 ประเทศไทย การุณ นาคสวัสดิ์ สินธนา
2540 ประเทศไทย ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน1 ทหารอากาศ
2539 ประเทศไทย วิทยา เลาหกุล ธ.กรุงเทพ

ลีกเยาวชน

[แก้]

ลีกเยาวชนก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2559 โดยความร่วมมือของการกีฬาแห่งประเทศไทย ใช้ชื่อการแข่งขันว่า ไทยแลนด์ยูธลีก มีรูปแบบการแข่งขันคล้ายกับ ไทยลีก 4 และมีการแข่งขันทั้งหมด 4 รุ่นได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี, 15 ปี, 17 ปี และ 19 ปี

ดูเพิ่ม

[แก้]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. อังกฤษ: Thai League
  2. อังกฤษ: Thai League 1; T1
  3. อังกฤษ: BYD Sealion 6 League I

อ้างอิง

[แก้]
  1. https://web.archive.org/web/20070202012321if_/http://www.fat.or.th:80/Download/SATMemo.doc บันทึกช่วยจำ การจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย กับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัปภ์ - เว็บไซต์เก่า ส.ฟ.ท.
  2. "แถลงแล้ว ไทยลีก-ด.1 เพิ่ม 18 ทีม เพลย์อ๊อฟเริ่มหวด ธ.ค." SMM Sport. SMM Sport. 9 พฤศจิกายน 2553. สืบค้นเมื่อ 5 มกราคม 2560. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)[ลิงก์เสีย]
  3. "ไทยลีก 1". สยามกีฬารายวัน. 8 August 2023. สืบค้นเมื่อ 8 August 2023.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  4. "ไทยลีกเพิ่ม 20 ทีมถาวร "กูปรี" รอด! ร่วงทีมเดียว". ผู้จัดการออนไลน์. 30 August 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-31. สืบค้นเมื่อ 10 September 2016.
  5. "โฉมใหม่! ส.บอลตั้งบริษัทพรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ (PLT)"". โกล ไทยแลนด์. 15 กุมภาพันธ์ 2559. สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. "ตั้งบริษัทไทยลีกใหม่! 'บิ๊กอ๊อด' โอนหุ้น 99.98% เข้าสมาคมฟุตบอลฯ". ไทยรัฐ. 20 กันยายน 2559. สืบค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "สรุปการแถลงข่าว "FA THAILAND ROADMAP 2017-2019"". สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ. 15 ธันวาคม 2559. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-26. สืบค้นเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  8. หัวจะปวด “ทีมไทยลีก 1” ตกลง “แยกตัว" จัดแข่งเอง เหตุค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดได้น้อยน่าใจหาย
  9. สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไฟเขียว 16 สโมสรบริหารลิขสิทธิ์ไทยลีก 2023
  10. เซฟไทยลีก! เคาะราคา ดูบอล “ไทยลีก 2023-24” แบ่ง 2 แพ็กเกจ แพงกว่าฤดูกาล 2022-23
  11. "ไทยลีก รื้อแผนตั้งบริษัทของตัวเองบริหารสิทธิ์ - ทบทวนเบรกทีมชาติช่วงซีเกมส์". ข่าวสด. 6 พฤษภาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2025.
  12. "ไทยลีกถกเครียด! เล็งแยกตัวจากส.บอล ตั้งบริษัทใหม่ดูแล-หารายได้ด้วยตัวเอง". มติชน. 6 พฤษภาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 6 พฤษภาคม 2025.
  13. "11 สโมสรไทยลีก เห็นชอบแยกบริษัทจัดแข่งเอง เตรียมเสนอสมาคมพิจารณา". ประชาชาติธุรกิจ. 2 มิถุนายน 2025. สืบค้นเมื่อ 3 มิถุนายน 2025.
  14. ""ลำพูน" กลับลำ - "โคราช" ไม่เอาด้วย! เหลือ 10 สโมสรหนุนแยกลีก". ผู้จัดการออนไลน์. 2 มิถุนายน 2025. สืบค้นเมื่อ 4 มิถุนายน 2025.
  15. "ไม่มีวาระแยกไทยลีกในที่ประชุม มาดามแป้ง ยัน สมาคม มีเงินจ่ายทุกทีม". ประชาชาติธุรกิจ. 6 มิถุนายน 2025. สืบค้นเมื่อ 6 มิถุนายน 2025.
  16. 1 2 3 "ปรากฏการณ์ไทยพรีเมียร์ ลีก ฟุตบอลไทยมาตรฐานเอเอฟซี". mgronline.com. 2009-10-09. สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  17. "สปอนเซอร์หนุนไทยลีก 2 ปี 140 ล้านบ". mgronline.com. 2011-02-07. สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  18. ""โตโยต้า" หนุนไทยลีก 3 ปี แจกรถเพียบ!!". mgronline.com. 2013-01-28. สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  19. ""โตโยต้า" ควัก 700 ล้าน อุ้ม "ไทยลีก" 4 ปี". mgronline.com. 2017-01-17. สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  20. "สักที "ไทยลีก" ได้ผู้สนับสนุนหลักแล้ว หลังฟาดแข้งแบบไร้แววสปอนเซอร์ร่วม 8 นัด". www.thairath.co.th (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  21. "BYD หนุนบอลไทยเต็มสูบ! เปิดตัวสปอนเซอร์ทีมชาติ-ไทยลีก ครบ 3 ลีก". www.siamsport.co.th (ภาษาอังกฤษ). 2025-07-18. สืบค้นเมื่อ 2025-07-18.
  22. รายที่ 8! "อัสซัมเซา"จารึกประวัติศาสตร์ ยิงครบ 100 ประตูในไทยลีก
  23. 10 อันดับดาวยิงสูงสุดตลอดกาลไทยลีก ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2565
  24. ไทยรัฐ: วันนี้ที่รอคอย “เฮเบอร์ตี” ยิง 1 ประตูใส่ เทโร รั้งดาวซัลโวตลอดกาลไทยลีก
  25. สุดเก๋า!! คาตาโนะ ทำลายสถิติ เทิดศักดิ์ ยิงประตูไทยลีก ในวัย 42 ปี
  26. ""บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" คว้าแชมป์ไทยลีกเร็วสุดในประวัติศาสตร์". สำนักข่าวไทย. สืบค้นเมื่อ 5 March 2021.
  27. 'เมืองทอง' ทำสถิติชนะ 14 นัดติด ทาบ 'บุรีรัมย์' หลังเฉือนชนะบีจี 2-1
  28. Finally a win for Super Power - Bangkok Post
  29. สถิติตลอดกาลไทยลีก! "ฉลามชล" ถลกหนัง เชียงใหม่ สุดมันส์ 7-5
  30. 'เอไอเอสเพลย์' ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2021
  31. สมาคม - ไทยลีก ผนึก AIS "แพลตฟอร์มฟุตบอลไทย" รับชมฟุตบอลไทยได้หลากหลายช่องทาง
  32. "ประกาศรางวัล และโล่ห์เกีรยติยศ ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก และลีกดิวิชั่น 1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-27. สืบค้นเมื่อ 2016-03-03.
  33. http://www.goal.com/th/ข่าว/official-จากชางระดบโลก-สบอลเปดตว-5-ถวยแชมปไทยลกเอฟเอ-คพ/syw96erimw051a2aih1lqwd11 ส.บอล ทำการเปิดตัวถ้วยชนะเลิศไทยลีก ทั้ง 4 ดิวิชั่น และถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ซีซั่น ฝีมือจากช่างระดับโลก
  34. สมาคมบอลฯประกาศเกียรติคุณบุคลากรฟุตบอล FA Thailand Awards 2020
  35. "สมาคมฯ จัดงานประกาศเกียรติคุณ "FA Thailand Awards 2019 "". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-20. สืบค้นเมื่อ 2019-12-20.
  36. "สมาคมฯ จัดงานประกาศเกียรติคุณ "FA Thailand Awards 2018 "". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-16. สืบค้นเมื่อ 2019-12-20.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]