ข้ามไปเนื้อหา

สโมสรฟุตบอลราชบุรี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ราชบุรี
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลราชบุรี
Ratchaburi Football Club
ฉายาราชันมังกร
ก่อตั้งพ.ศ. 2547
สนามราชบุรี สเตเดียม
ความจุ13,000
เจ้าของบริษัท ราชบุรี ฟุตบอลคลับ จำกัด
ประธานธนวัชร นิติกาญจนา
ผู้จัดการโรแบร์ต พรอกูว์เรอร์
ผู้ฝึกสอนวรวุธ ศรีมะฆะ
ลีกไทยลีก
2567–68อันดับที่ 4
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม
ฤดูกาลปัจจุบัน

สโมสรฟุตบอลราชบุรี เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย โดยเป็นทีมจากจังหวัดราชบุรี ปัจจุบันเล่นในไทยลีก สโมสรมีฉายาว่า "ราชันมังกร"

ประวัติสโมสร

[แก้]

สโมสรฟุตบอลราชบุรีก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2547 และร่วมฟุตบอลโปรวินเชียลลีก ดิวิชั่น 2 สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในปี 2549 จนได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ในปี 2550 โดยได้อันดับ 12 ทำให้ในปี 2551 ทีมสโมสรราชบุรี เอฟซี มาเล่นในลีกดิวิชั่น 2 ซึ่งได้อันดับ 7 ส่วนในปี 2552 นั้น การแข่งขันได้เปลี่ยนแปลงระบบการจัดการแข่งขันซึ่งแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากมีทีมจากหลายจังหวัดทั่วทุกภาคให้ความสนใจเข้าร่วมการแข่งขัน สโมสรฟุตบอลราชบุรีนั้นอยู่ในโซนภาคกลางและตะวันออก และได้อันดับ 9 ติดต่อกัน 2 ฤดูกาล

ในปี 2553 ครอบครัวนิติกาญจนาได้เข้าเทคโอเวอร์และบริหารสโมสร ซึ่งขณะนั้นราชบุรีลงเล่นในลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ก่อนที่สโมสรจะเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1 จากการการแข่งขันเพลย์ออฟดิวิชัน 2 กลุ่มเอ ต่อมา ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2555 สโมสรได้อยู่ภายใต้การสนับสนุนโดยกลุ่มมิตรผล และเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลราชบุรี มิตรผล โดยมีสรอรรถ กลิ่นประทุม ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร และบุญยิ่ง นิติกาญจนา ทำหน้าที่รองประธาน ในขณะที่ธนวัชร นิติกาญจนาและสมชาย ไม้วิลัย รับหน้าที่ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนตามลำดับ[1] ในช่วงเวลานี้ สโมสรเริ่มยกระดับผลงานต่อเนื่อง โดยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศโตโยต้า ลีกคัพ 2555 แต่แพ้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4–1 การแข่งขันครั้งนี้เป็นที่จดจำจากกรณีที่สโมสรราชบุรีลงแข่งโดยไม่มีผู้เล่นสำรอง เนื่องจากมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งติดโทษแบนในขณะที่ผู้เล่นบางรายถูกยืมตัวมาจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงขาดคุณสมบัติที่จะลงแข่งในครั้งนี้

สโมสรชนะเลิศไทยลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2555 และเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดอย่างไทยลีก แต่ผลงานในฤดูกาลแรกก็ไม่น่าประทับใจนักโดยจบเพียงอันดับ 15 จาก 18 อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากกรณีปัญหาลิขสิทธิ์ทีมระหว่างสโมสรอีสาน ยูไนเต็ด และสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ทำให่้ไทยลีกมีมติเพิ่มจำนวนทีมลงแข่งขันเป็น 20 ทีมในฤดูกาล 2556 โดยมีสโมสรตกชั้นเพียงทีมเดียว ได้แก่ พัทยา ยูไนเต็ด (อันดับ 17) ในฤดูกาล 2557 สโมสรแต่งตั้งรีการ์โด โรดรีเกซ ชาวสเปนทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน และทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการพาราชบุรีจบอันดับ 4[2]

โรแบร์ต พรอกูว์เรอร์ ผู้อำนวยการเทคนิคคนแรกของสโมสร

หลังจากโลดแล่นในลีกสูงสุดต่อเนื่องมา 3 ฤดูกาล ผู้บริหารสโมสรจึงริเริ่มแนวคิดการสร้างสนามเหย้าของตนเอง โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2558 และเปิดใช้งานครั้งแรกในช่วงกลางปี 2559 โดยย้ายสู่สนามราชบุรีสเตเดียม พร้อมแต่งตั้งโรแบร์ต พรอกูว์เรอร์ รับตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคคนแรก ต่อมา ภายหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศยกเลิกการแข่งขันที่เหลือทุกรายการในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้ราชบุรีคว้าตำแหน่งชนะเลิศช้าง เอฟเอคัพ 2559 ร่วมกับอีก 3 สโมสรคือ สโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล, สโมสรฟุตบอลชลบุรี และสโมสรฟุตบอลสุโขทัย และราชบุรีจบอันดับ 6 ในไทยลีกปีนี้ ต่อมาในไทยลีก ฤดูกาล 2560 ราชบุรีภายใต้ผู้ผึกสอนอย่าง ปาเชตา รวมทั้งผู้เล่นสำคัญทั้ง ฟิลิป โรลเลอร์ และ เควิน ดีรมรัมย์ พาทีมจบอันดับ 6 อีกครั้งและตกรอบรองชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2560 โดยแพ้เชียงราย ยูไนเต็ด 1–0 ณ สนามศุภชลาศัย

ฟิลิป โรลเลอร์ กัปตันทีมของสโมสรตั้งแต่ พ.ศ. 2562–2564

สโมสรมีผลงานตกลงโดยจบอันดับ 12 ในฤดูกาล 2561 มีคะแนนมากกว่าพื้นที่ตกชั้นคะแนนเดียว ต่อมา สโมสรเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและผ่านเข้าชิงชนะเลิศช้าง เอฟเอคัพ 2562 ได้เป็นครั้งแรก แต่ก้แพ้การท่าเรือ 1–0 จากประตูของเซร์ฆิโอ ซัวเรซ[3] ราชบุรีผ่านเข้าสู่เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2021 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยผลงานเสมอ 2 และแพ้ 4 นัด โดยเก็บคะแนนแรกได้จากการเสมอโพฮัง สตีลเลอส์ 0–0

หลังจบฤดูกาล 2564–65 สโมสรได้รับรางวัลสโมสรสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย[4] และก่อนเปิดฤดูกาล 2565–66 สโมสรได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการที่กลุ่มมิตรผลได้ยกเลิกเป็นผู้สนับสนุนหลักให้กับทีม ทำให้ในฤดูกาลนี้ สโมสรจะใช้ชื่อทีมลงแข่งขันในนามสโมสรฟุตบอลราชบุรี เป็นการสิ้นสุดช่วงเวลา 11 ปี ในชื่อสโมสรฟุตบอลราชบุรี มิตรผล[5] สโมสรจบอันดับ 8 ในฤดูกาล 2565–66 ตามด้วยอันดับ 6 ในฤดูกาล 2566–67 ต่อมา ภายใต้การฝึกสอนโดยวรวุธ ศรีมะฆะ ราชบุรีทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2567–68 ได้สิทธิ์แข่งขันในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู 2025–26

สัญลักษณ์สโมสร

[แก้]

สนามเหย้า

[แก้]
ราชบุรี สเตเดียม

สโมสรฟุตบอลราชบุรี ใช้สนามราชบุรี สเตเดียม เป็นสนามเหย้า สนามแห่งนี้มีความจุทั้งหมด 12,000 ที่นั่ง สร้างด้วยงบประมาณสูงกว่า 300 ล้านบาท โครงสร้างประกอบด้วยเหล็กเป็นส่วนใหญ่ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2558 และเปิดใช้งานครั้งแรกในศึกไทยลีก ฤดูกาล 2559 นัดที่ราชบุรีพบกับอาร์มี่ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ผู้เล่น

[แก้]

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

[แก้]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
2 DF ประเทศฝรั่งเศส กาบรีแยล มูว์ตงโบ
3 DF ประเทศบราซิล ซิดจ์เคลย์
4 DF ประเทศไทย โจนาธาร เข็มดี
5 DF ประเทศไทย อภิสิทธิ์ โสรฎา (ยืมตัวจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
6 MF ประเทศสเปน ตานา
7 FW ประเทศบราซิล เดนิลสัน
8 MF ประเทศไทย ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร
9 FW ประเทศสิงคโปร์ อิคซัน ฟันดี (ยืมตัวจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
10 MF ประเทศไทย จักรพันธ์ แก้วพรม (กัปตันทีม)
11 FW ประเทศบราซิล เนเกบา
15 DF ประเทศไทย อดิศร พรหมรักษ์
16 MF ประเทศไทย ศิวกร จักขุประสาท
18 MF ประเทศไทย ธีระพล เยาะเย้ย
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
19 DF ประเทศไทย สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (ยืมตัวจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
27 MF ประเทศฟิลิปปินส์ เจสซี เคอร์แรน
28 MF ประเทศไทย ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร
29 MF ประเทศไทย เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม
33 DF ประเทศไทย เพทาย พรมจันทร์
37 MF ประเทศไทย กฤษณนน ศรีสุวรรณ
46 GK ประเทศไทย พีรพงษ์ วัจนพยนต์
77 MF ประเทศบรูไน ฟาอิค โบลเกียห์
88 MF ประเทศไทย โชติภัทร พุ่มแก้ว
89 MF ประเทศมาดากัสการ์ เอ็นจีวา ราโคโตฮารีมาลาลา
91 DF มาร์ตีนิก เจเรมี คอรินัส
97 GK ประเทศไทย อุกฤษณ์ วงศ์มีมา
99 GK ประเทศไทย กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล

ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว

[แก้]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
11 FW ประเทศกินี โมฮาเหม็ด มารา (ไป พลังกาญจน์ จนจบฤดูกาล)
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
MF ประเทศไทย พงศกร สังขโสภา (ไป ขอนแก่น ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาล)

ทีมสตาฟโค้ช

[แก้]
ตำแหน่ง สตาฟ
ประธานสโมสรประเทศไทย ธนวัชร นิติกาญจนา
ผู้อำนวยการสโมสรประเทศเบลเยียม โรแบร์ต พรอกูว์เรอร์
ที่ปรีกษาสโมสร & หัวหน้าผู้ฝีกสอนประเทศไทย วรวุธ ศรีมะฆะ
ผู้ช่วยผู้ฝีกสอนประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย
ผู้ฝีกสอนผู้รักษาประตูประเทศไทย ไพศาล จันทร์ประเสริฐ
ผู้ฝีกสอนฟิตเนสประเทศไทย ชัยกร ชมชื่น

รายชื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอน

[แก้]
ชื่อและสัญชาติ ช่วงปี เกียรติประวัติ / หมายเหตุ
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย พ.ศ. 2552–2553
ประเทศไทย ประพล พงษ์พานิช พ.ศ. 2553
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย พ.ศ. 2553–2556 ชนะเลิศ ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 ภาคกลางและภาคตะวันออก ฤดูกาล 2554
ชนะเลิศ ไทยลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2555
รองชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2555
ประเทศสเปน อิบัน ปาเลนโก พ.ศ. 2556 รองชนะเลิศ โตโยต้า ลีกคัพ 2556
ประเทศสเปน ริการ์โด โรดริเกซ พ.ศ. 2557
ประเทศสเปน อเล็กซ์ โกเมซ พ.ศ. 2557
ประเทศสเปน โจเซฟ เฟร์เร พ.ศ. 2558
ประเทศสเปน ปาเชตา พ.ศ. 2559–2560 ชนะเลิศร่วม ช้าง เอฟเอคัพ 2559
ประเทศเยอรมนี คริสทีอัน ซีเกอ พ.ศ. 2561
ประเทศเบลเยียม เรอเน เดอซาแยร์ พ.ศ. 2561
ประเทศตูนิเซีย ลาสซาอัด ชับบี พ.ศ. 2561
ประเทศสเปน มานูเอล มาร์เกซ โรกา พ.ศ. 2561–2562
ประเทศสเปน ฟรันเชสก์ บอช พ.ศ. 2562
ประเทศอิตาลี มาร์โก ซีโมเน พ.ศ. 2562
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย (รักษาการ) พ.ศ. 2562 รองชนะเลิศ ช้าง เอฟเอคัพ 2562
ประเทศไทย หนึ่งฤทัย สระทองเวียน พ.ศ. 2562
ประเทศไทย ชัยธัช อ่วมธรรม พ.ศ. 2563
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย (รักษาการ) พ.ศ. 2563
ประเทศเซอร์เบีย มีลอส โจซิช พ.ศ. 2563
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย พ.ศ. 2563–2564
ประเทศไทย เศกสรร ศิริพงษ์ พ.ศ. 2564 เฉพาะการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2021
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย พ.ศ. 2564–2565
ประเทศโปรตุเกส บรูนู ปึไรรา พ.ศ. 2565
ประเทศสเปน ชาบี โมโร พ.ศ. 2565–2566
ประเทศบราซิล ดักกลาส โรดริเกวซ พ.ศ. 2566
ประเทศสเปน การ์โลส เปญญา พ.ศ. 2566–2567
ประเทศไทย สุรพงษ์ คงเทพ พ.ศ. 2567
ประเทศไทย สมชาย ไม้วิลัย (รักษาการ) พ.ศ. 2567
ประเทศไทย วรวุธ ศรีมะฆะ พ.ศ. 2567–

เกียรติประวัติ

[แก้]
ชนะเลิศ (1): 2012
ชนะเลิศ (1): 2011
  • ลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 ภาคกลางและภาคตะวันออก:
ชนะเลิศ (1): 2011
รองชนะเลิศ (2): 2012, 2013
ชนะเลิศ (1): 2016 (ครองแชมป์ร่วมกับ ชลบุรี เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล และ สุโขทัย เอฟซี)
รองชนะเลิศ (1): 2019

สถิติของสโมสร

[แก้]

ผลงานแบ่งตามฤดูกาล

[แก้]
ฤดูกาล ลีก[6] เอฟเอคัพ ลีกคัพ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกอีลิท/
เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู
ผู้ทำประตูสูงสุด
ระดับ แข่ง ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย คะแนน อันดับ ชื่อ ประตู
2550 ดิวิชัน 1 22 5 4 13 31 40 19 อันดับที่ 12  
2551 ดิวิชัน 2 20 7 9 4 32 26 30 อันดับที่ 7  
2552 ดิวิชัน 2 กลาง-ตะวันออก 22 4 9 9 31 33 21 อันดับที่ 9  
2553 ดิวิชัน 2 กลาง-ตะวันออก 30 12 9 9 45 39 45 อันดับที่ 9  
2554 ดิวิชัน 2 กลาง-ตะวันออก 30 20 8 2 67 19 68 อันดับที่ 1 รอบที่สอง รอบแรก   พรชัย อาจจินดา 18+(5)
2555 ดิวิชัน 1 34 24 6 4 85 31 78 อันดับที่ 1 รอบที่สี่ รองชนะเลิศ   ดักกลาส 19
2556 ไทยพรีเมียร์ลีก 32 6 12 14 31 39 30 อันดับที่ 15 รอบที่สาม รองชนะเลิศ   ดักกลาส 10
2557 ไทยพรีเมียร์ลีก 38 17 14 7 62 42 65 อันดับที่ 4 รอบที่สี่ รอบรองชนะเลิศ   เอเบร์ชี 26
2558 ไทยพรีเมียร์ลีก 34 17 4 13 48 50 55 อันดับที่ 7 รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบที่สาม   เอเบร์ชี 19
2559 ไทยลีก 30 14 7 9 52 35 49 อันดับที่ 6 ชนะเลิศ* รอบแรก   เอเบร์ชี 20
2560 ไทยลีก 34 16 7 11 63 49 55 อันดับที่ 6 รอบแรก รอบรองชนะเลิศ   Marcel Essombé 20
2561 ไทยลีก 34 12 7 15 50 50 43 อันดับที่ 12 รอบรองชนะเลิศ รอบแรก   คัง ซู-อิล 13
2562 ไทยลีก 30 10 8 12 48 48 38 อันดับที่ 8 รองชนะเลิศ รอบ 16 ทีมสุดท้าย   อียานิก บอลี 12
2563–64 ไทยลีก 30 13 7 10 48 41 46 อันดับที่ 8 รอบ 8 ทีมสุดท้าย     ฟิลิป โรลเลอร์ 14
2564–65 ไทยลีก 30 9 9 12 32 36 36 อันดับที่ 12 รอบ 32 ทีมสุดท้าย รอบ 8 ทีมสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม แดร์เลย์ 13
2565–66 ไทยลีก 30 10 11 9 32 39 41 อันดับที่ 8 รอบ 32 ทีมสุดท้าย รอบรองชนะเลิศ   แดร์เลย์ 8
2566–67 ไทยลีก 30 11 6 13 39 35 39 อันดับที่ 6 รอบ 32 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ เอ็นจีวา ราโคโตฮารีมาลาลา 9
2567–68 ไทยลีก 30 15 7 8 65 47 52 อันดับที่ 4 รอบรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ   เกลม็อง เดอเพรซ 18
2568–69 ไทยลีก
ชนะเลิศ รองชนะเลิศ อันดับที่สาม เลื่อนชั้น ตกชั้น

ผลงานระดับทวีป

[แก้]
ฤดูกาล การแข่งขัน รอบ คู่แข่ง เหย้า เยือน รวม
2564 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก กลุ่มจี ประเทศเกาหลีใต้ โปฮัง สตีลเลอร์ส 0–0 0–2 อันดับที่ 4
ประเทศมาเลเซีย โจโฮร์ดารุลตักซิม 0–1 0–0
ประเทศญี่ปุ่น นาโงยะ แกรมปัส 0–4 0–3
2568–69 เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกทู กลุ่ม เอฟ ประเทศญี่ปุ่น กัมบะ โอซากะ 0–2
ประเทศเวียดนาม นามดิ่ญ 1–3
ฮ่องกง อีสเทิร์น 5–1

สโมสรพันธมิตร

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "ธนวัชร นิติกาญจนา ต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด อ่านแนวคิดผู้นำราชันมังกร". TODAY. 2020-07-07. สืบค้นเมื่อ 2025-09-11.
  2. ""บีจี" ตั้ง "โรดริเกวซ" คุมทัพลุย ACL". mgronline.com. 2014-11-13. สืบค้นเมื่อ 2025-09-11.
  3. www.khaosod.co.th https://www.khaosod.co.th/sports/news_3025462. สืบค้นเมื่อ 2025-09-11. {{cite web}}: |title= ไม่มีหรือว่างเปล่า (help)
  4. "ผลการประกาศรางวัล 27 สาขา FA Thailand Awards 2021/22". 24 กรกฎาคม 2022. สืบค้นเมื่อ 12 สิงหาคม 2022.
  5. แยกทางมิตรผล! ฟลุค คอนเฟิร์มใช้ชื่อ "ราชบุรี เอฟซี" - เตรียมเปิดตัวผู้สนับสนุนใหม่
  6. King, Ian; Schöggl, Hans & Stokkermans, Karel (20 March 2014). "Thailand – List of Champions". RSSSF. สืบค้นเมื่อ 29 October 2014. Select link to season required from chronological list.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]