ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
ศิวรักษ์ขณะเล่นให้กับทีมชาติไทยใน พ.ศ. 2562
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน
วันเกิด 20 เมษายน พ.ศ. 2527 (39 ปี)
สถานที่เกิด จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
ส่วนสูง 1.85 เมตร (6 ฟุต 1 นิ้ว)[1]
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
หมายเลข 1
สโมสรเยาวชน
2539–2545 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
2545 นครราชสีมา
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2546–2550 ธนาคารกรุงเทพ 76 (0)
2551–2552 บีอีซี เทโรศาสน 29 (0)
2553 ทีโอที 0 (0)
2553– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 420 (0)
ทีมชาติ
2550 ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี 1 (0)
2547– ไทย 33 (0)
เกียรติประวัติ
ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี
ซีเกมส์
เหรียญทอง - ชนะเลิศ ซีเกมส์ 2007 ฟุตบอล
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ชื่อเล่น แชมป์; 20 เมษายน พ.ศ. 2527 —) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทย เกิดที่จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในไทยลีก โดยเขาสวมเสื้อหมายเลข 1

สโมสรอาชีพ[แก้]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด[แก้]

ศิวรักษ์ทำผลงานได้ดีในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2556 รอบเพลย์ออฟ โดยการเซฟลูกยิงของโทมัส บรอยเซอร์, เบสาร์ท เบริซา และเจอมส์ เมเยอร์ ซึ่งเป็นผู้เล่นบริสเบนโรอาห์ ทีมจากเอ-ลีกของออสเตรเลีย และการเซฟลูกจุดโทษ 3 ลูกติด ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะบริสเบนโรอาห์ 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม และยังได้รางวัลแมนออฟเดอะแมตช์อีกด้วย และทำให้ชื่อของศิวรักษ์ติดอันดับที่ 5 ของเอเชียในการเซฟลูกจุดโทษที่มากที่สุด

ในเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก 2561 ศิวรักษ์ทำผลงานได้ดีอีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่มจนทำให้บุรีรัมย์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนที่จะตกรอบในนัดที่บุกแพ้ช็อนบุกฮุนไดมอเตอส์ 0–2 แต่ในนัดนั้น ศิวรักษ์เซฟถึง 11 ครั้งในเกมเดียว ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับสองในเอซีแอล เป็นรองเพียงมุฮัมมัด รอชิด มาซอเฮรี ที่เซฟ 31 ครั้ง[2][3]

ฤดูกาล 2562[แก้]

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2561 เจอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2561 ที่สนามกีฬากองทัพบกในกรุงเทพมหานคร ศิวรักษ์ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดนั้น สุดท้าย บุรีรัมย์ แซงเอาชนะ สิงห์ เชียงราย 3–1 ช่วยให้บุรีรัมย์คว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ สมัยแรก ได้สำเร็จ[4] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ผลจบลงด้วยการเสมอ 1–1 ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศิวรักษ์ เซฟลูกยิงของ สมภพ นิลวงศ์ คนยิงคนแรกของประจวบ และศิวรักษ์ก็เป็นคนยิงคนที่ 6 เขายิงเข้าไปได้ แต่สุดท้าย บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[5] จบฤดูกาล ศิวรักษ์ลงเล่นในลีกครบ 30 นัด เก็บคลีนชีตส์ได้ 14 นัด ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูที่เก็บคลีนชีตส์ได้มากที่สุดในไทยลีก ฤดูกาล 2562

ฤดูกาล 2563–64[แก้]

ในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 การแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 นัดแรกของสโมสรหลังจากหยุดพักลีกช่วงโควิด ศิวรักษ์เซฟลูกโทษของเฟลิเป ดาซิลวา แม้ว่ารัชนาท อรัญไพโรจน์จะตามซ้ำเป็นประตูเข้าไปได้ แต่เมื่อตรวจสอบวีเออาร์ พบว่าประตูนี้ล้ำหน้า ทำให้ต้องยกเลิกประตูคืน สุดท้ายบุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสุพรรณบุรีไปได้ 1–0[6] ต่อมาในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2563–64 รอบ 16 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์บุกไปเสมอกับการท่าเรือแบบไร้ประตูในเวลา 120 นาที ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งศิวรักษ์สามารถเซฟลูกยิงของธนาสิทธิ์ ศิริผลา และธนบูรณ์ เกษารัตน์ ช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะการยิงลูกโทษไปได้ 9–8 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ[7] ต่อมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ การแข่งขันไทยลีกนัดที่ 17 เขาเซฟลูกโทษของฟิลิป โรลเลอร์ ช่วยให้บุรีรัมย์เก็บคลีนชีตส์และเปิดบ้านเอาชนะราชบุรี มิตรผลไปได้ 3–0[8]

ทีมชาติไทย[แก้]

ศิวรักษ์เคยเป็นผู้รักษาประตูสำรองของทีมชาติไทยต่อจากกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ โดยยึดเป็นมือหนึ่งของทีมชาติไทยในช่วงที่กวินทร์เจ็บหัวเข่า ในช่วงที่ วินเฟรด เชเฟอร์ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้น ศิวรักษ์ได้ลงสนามแค่นัดเดียว คือ นัดอุ่นเครื่องกับพม่าครั้งที่สอง โดยศิวรักษ์ถูกส่งตัวลงมาแทน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล จบการแข่งขันเสมอกันไป 1–1

ศิวรักษ์ได้กลับมาลงเล่นเกมทีมชาติอย่างเป็นทางการอีกครั้งในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2561 โดยเขาได้ลงเล่นสองนัด ในนัดที่ไทยเปิดบ้านเอาชนะติมอร์-เลสเต 7–0 และอินโดนีเซีย 4–2 ตามลำดับ ต่อมาในการแข่งขันเอเชียนคัพ 2562 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ศิวรักษ์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 3 นัด ได้แก่ นัดที่ไทยเอาชนะบาห์เรน 1–0 และเสมอยูเออี 1–1 ในรอบแบ่งกลุ่ม อีกนัดก็คือนัดที่ไทยพ่ายแพ้จีน 1–2 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ศิวรักษ์ มีชื่อติดทีมชาติไทยเบื้องต้น 33 คน[9] และในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562 ศิวรักษ์ ยังคงมีชื่อติดทีมชาติไทยในรอบที่ตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับเวียดนามและออกไปเยือนอินโดนีเซีย[10] ต่อมาในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562 ศิวรักษ์ ได้รับการแต่งตั้งจาก อากิระ นิชิโนะ ให้เป็นกัปตันของทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เขาถือเป็นกัปตันคนแรกของทีมชาติไทยในการคุมทีมของนิชิโนะ และเป็นครั้งแรกที่เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติ[11]

สถิติอาชีพ[แก้]

สโมสร[แก้]

ณ วันที่ 20 พฤษภาคม 2566
สโมสร ฤดูกาล ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ เอเชีย อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2560 ไทยลีก 34 0 3 0 3 0 2[a] 0 42 0
2561 ไทยลีก 34 0 4 0 2 0 8 0 1[b] 0 49 0
2562 ไทยลีก 30 0 4 0 3 0 6 0 1[b] 0 44 0
2563–64 ไทยลีก 30 0 4 0 2 0 36 0
2564–65 ไทยลีก 29 0 4 0 4 0 1[c] 0 38 0
2565–66 ไทยลีก 16 0 2 0 4 0 0 0 1[b] 0 23 0

ทีมชาติ[แก้]

ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2562[12]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
ไทย 2547 1 0
2550 2 0
2551 4 0
2556 2 0
2557 1 0
2561 3 0
2562 8 0
ทั้งหมด 21 0

เกียรติประวัติ[แก้]

สโมสร[แก้]

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ทีมชาติ[แก้]

ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี
ไทย

อ้างอิง[แก้]

  1. "ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-30. สืบค้นเมื่อ 2017-12-10.
  2. "ศิวรักษ์ผงาดขึ้นอันดับ2เซฟมาสุดในACL". สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. ""ศิวรักษ์"ติดทีมยอดเยี่ยมแม้บุรีรัมย์ร่วงACL". สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. "บุรีรัมย์พลิกแซงเชียงราย 3-1 คว้าแชมป์ ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ". สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พ่ายจุดโทษ ประจวบ เอฟซี 8-9 ชิงดำ ลีกคัพ". สืบค้นเมื่อ 28 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. โกล.คอม. "VAR ให้จุดโทษก่อนริบประตู! บุรีรัมย์เฉือนสุพรรณบุรี 1-0". สืบค้นเมื่อ October 5, 2020.
  7. สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด. "ปราสาทสายฟ้า แม่นโทษ บุกดับ สิงห์เจ้าท่า ฉลุยรอบ 8 ทีม ช้าง เอฟเอ คัพ 2020". สืบค้นเมื่อ February 5, 2020.
  8. "ปราสาทสายฟ้า ไล่ต้อนชนะ ราชันมงกร 3-0 แซงขึ้นอันดับที่ 3 ไทยลีก". สืบค้นเมื่อ February 7, 2020.
  9. "นิชิโนะประกาศรายชื่อ 33 แข้งช้างศึกเตรียมคัดบอลโลก". สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  10. "กุนซือชาวญี่ปุ่น ประกาศตัดตัวผู้เล่นให้เหลือ 23 ราย เป็นที่เรียบร้อย". สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  11. ""นิชิโนะ" ตั้ง "ศิวรักษ์" ทำหน้าที่กัปตันช้างศึก". สืบค้นเมื่อ 4 กันยายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  12. "Siwarak Tedsungnoen". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ 14 October 2018.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]