การขนส่งในจังหวัดเชียงใหม่

การขนส่งในจังหวัดเชียงใหม่ ประกอบด้วยระบบขนส่งหลายรูปแบบในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งทางบก ทางรถไฟ และทางอากาศ อันเป็นระบบสาธารณูปโภคหนึ่งที่สำคัญสำหรับการตั้งถิ่นฐาน จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งหนึ่งสำหรับการคมนาคมทางบกและทางอากาศ เนื่องด้วยเป็นเมืองศูนย์กลางของภาคเหนือทั้งด้านการพาณิชย์ อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว การศึกษาและการขนส่ง เชียงใหม่ประกอบด้วยท่าอากาศยานนานาชาติ 1 แห่ง สถานีรถไฟกลาง 1 แห่ง และสถานีรถโดยสารประจำทางที่สำคัญ 3 แห่ง
ทางถนน
[แก้]
จังหวัดเชียงใหม่มีทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท และเส้นทางมาตรฐานหลายสาย ทำให้การเดินทางติดต่อภายในจังหวัด การเดินทางสู่จังหวัดใกล้เคียงและกรุงเทพมหานครเป็นไปด้วยความสะดวก
สำหรับวิธีการเดินทางภายในตัวจังหวัด จะใช้การจราจรโดยรถส่วนบุคคลหรือรถจักรยานยนต์รวมทั้งจักรยาน สำหรับระบบมวลชนจะมี รถแดง ตุ๊กตุ๊ก รถเมล์ และประมาณ พ.ศ. 2550 เริ่มมีแท็กซี่มิเตอร์ในบริการในจังหวัดเชียงใหม่ โดยรถมีสีเหลือง-น้ำเงิน เป็นแท็กซี่สหกรณ์ ส่วนสีแดง-เหลืองเป็นแท็กซี่ส่วนบุคคล มีสถานีขนส่งภายในตัวจังหวัดเชื่อมต่ออำเภอต่าง ๆ คือ "สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 1" (สถานีขนส่งช้างเผือก) และสถานีขนส่งระหว่างจังหวัดคือ "สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 2" และ "สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ แห่งที่ 3" (สถานีขนส่งอาเขต)
ถนนระหว่างจังหวัด
[แก้]การเดินทางจากกรุงเทพมหานครมายังจังหวัดเชียงใหม่โดยทางรถยนต์ เริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แล้วแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง นครสวรรค์ แล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์) ผ่านจังหวัดลำปาง แยกซ้าย ผ่านจังหวัดลำพูน จนถึงจังหวัดเชียงใหม่
เส้นทางหลักเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงมีดังนี้
- จังหวัดลำพูน
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (เชียงใหม่–ลำพูน–ลำปาง)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 (เชียงใหม่–สารภี–ลำพูน)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 116 (อำเภอสันป่าตอง–อำเภอป่าซาง)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1010 (อำเภอจอมทอง–อำเภอเวียงหนองล่อง)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1103 (อำเภอดอยเต่า–อำเภอลี้)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1147 (อำเภอสันกำแพง–อำเภอบ้านธิ)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1189 (อำเภอสันกำแพง–อำเภอบ้านธิ)
- ทางหลวงชนบท ชม. 4022 (อำเภอดอยเต่า–อำเภอลี้)
- ทางหลวงชนบท ลพ. 2031 (อำเภอแม่ออน–อำเภอแม่ทา)
- จังหวัดเชียงราย
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- จังหวัดลำปาง
สำหรับจังหวัดตากไม่มีเส้นทางหลักเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างจังหวัด
ถนนระหว่างอำเภอ
[แก้]การคมนาคมทางรถยนต์ภายในตัวจังหวัด ระหว่างอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ระยะทางระหว่างอำเภอที่ไกลที่สุดจากอำเภอเมืองคือ อำเภออมก๋อย ระยะทาง 179 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางราว 4 ชั่วโมง ส่วนอำเภอที่ใกล้ที่สุดคือ อำเภอสารภี 9 กิโลเมตร โดยระยะทางจากตัวจังหวัด (อำเภอเมืองเชียงใหม่) ไปยังอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ เรียงจากอำเภอใกล้ที่สุด ไปถึงไกลที่สุด[1] ดังนี้
|
|
|
ถนนในเมืองเชียงใหม่
[แก้]

เส้นทางหลักสำหรับการคมนาคมในตัวเมืองเชียงใหม่ประกอบด้วย ถนนในเขตคูเมืองเก่า ส่วนใหญ่วางตัวในทิศเหนือ–ใต้ และทิศตะวันออก–ตะวันตก ตัดกันเป็นตาราง ถนนรอบคูเมือง มีทั้งฝั่งในและฝั่งนอก แต่ละฝั่งจะเดินรถทางเดียว และทั้งสองฝั่งเดินรถสวนทางกัน ถนนชุมชนนอกคูเมือง และถนนที่เชื่อมต่อกับชานเมืองและอำเภอใกล้เคียง การกระจายตัวของถนนในเขตเมืองเชียงใหม่มีแนวโน้มแผ่ขยายออกทุกทิศทาง ยกเว้นทิศตะวันตกซึ่งมีดอยสุเทพขวางไว้และยังเป็นเขตอุทยานแห่งชาติทำให้ไม่สามารถขยายชุมชนและถนนไปทางทิศดังกล่าวได้ ถนนหลักสำหรับการสัญจรภายในเมืองเชียงใหม่ อาทิเช่น
- ถนนรอบและในคูเมือง
|
|
- ถนนนอกคูเมือง
|
|
|
|
- ถนนวงแหวน
ถนนหลักที่รองรับการคมนาคมระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่กับเขตชานเมือง อำเภอใกล้เคียง และจังหวัดใกล้เคียง ประกอบด้วยถนนสายหลักที่นำไปยังเขตชานเมืองหรืออำเภอใกล้เคียง และถนนวงแหวนที่เชื่อมต่อถนนสายหลักข้างต้นเข้าด้วยกัน ซึ่งถนนวงแหวนมีจำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่
- วงแหวนรอบที่หนึ่ง ประกอบด้วยถนนสองสาย ได้แก่
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์, เชียงใหม่–สารภี–จังหวัดลำพูน)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1141 (ถนนมหิดล)
- วงแหวนรอบที่สอง หรือวงแหวนรอบกลาง คือ ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี
- วงแหวนรอบที่สาม หรือวงแหวนรอบนอก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 121 (วงแหวนรอบที่สาม, วงแหวนรอบนอก–คลองชลประทาน)
ส่วนถนนสายหลักระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่กับอำเภออื่น ๆ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 (เชียงใหม่–สารภี–จังหวัดลำพูน)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107 (ถนนโชตนา, เชียงใหม่–แม่ริม–แม่แตง–เชียงใหม่ตอนเหนือ)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (เชียงใหม่–หางดง–สันป่าตอง–เชียงใหม่ตอนใต้)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 118 (เชียงใหม่–ดอยสะเก็ด–จังหวัดเชียงราย)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1001 (เชียงใหม่–แม่โจ้–พร้าว)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1006 (เชียงใหม่–สันกำแพง)
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1317 (เชียงใหม่–แม่ออน)
ทางรถไฟ
[แก้]
สถานีรถไฟหลักและเป็นสถานีปลายทางในจังหวัดเชียงใหม่ คือสถานีรถไฟเชียงใหม่ ปัจจุบันมีรถไฟสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ลำปาง และลำพูน เปิดการเดินรถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษ และรถดีเซลรางปรับอากาศ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รวมวันละ 14 ขบวน (ไป 7 กลับ 7) และนครสวรรค์-เชียงใหม่ วันละ 2 ขบวน (ไป-กลับ) ขบวนรถที่เข้า-ออกเชียงใหม่ มีดังนี้
- รถด่วนพิเศษ
- ข.9/10 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (รถด่วนพิเศษอุตราวิถี)
- ข.7/8 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ ใช้รถดีเซลรางปรับอากาศ ชั้น 2 รุ่น แดวู ทำขบวนนี้
- ข.13/14 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ มีเฉพาะรถนั่งและนอนปรับอากาศชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) และชั้นที่ 2 (บนท.ป.)
- รถด่วน
- ข.51/52 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ
- รถเร็ว
- ข.109/102 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ
- รถท้องถิ่น
- ขบวนรถในอดีต
- ขบวนรถด่วนพิเศษนครพิงค์ 1/2 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (ให้บริการถึงวันที่ 10-11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559)
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 11/12 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 11/10 กรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ
- ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9/12 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (เปลี่ยนเลขขบวนเป็น ข.7/8)
- ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 963/964 กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ (ด่วนพิเศษราชพฤกษ์) ให้บริการในช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 - 31 มกราคม พ.ศ. 2550
ทางอากาศ
[แก้]
จังหวัดเชียงใหม่มีท่าอากาศยานเชียงใหม่ ที่มีความหนาแน่นของผู้ใช้บริการเป็นอันดับ4ของประเทศรองจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ตามลำดับ โดยมีเที่ยวบินไป-กลับวันละหลายเที่ยวบิน ทั้งสายการบินภายในประเทศ และสายการบินระหว่างประเทศ โดยสายการบินระหว่างประเทศ มีสายการบินในแถบเอเชียมีเที่ยวบินโดยตรงจากเชียงใหม่ไปยังหลายประเทศ เช่น จีน เกาหลีใต้ ลาว เมียนมาร์ ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเก๊า เป็นต้น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ การเดินทางภายในเชียงใหม่ เก็บถาวร 2012-04-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สืบค้นวันที่ 7 ตุลาคม 2554