ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล Fix URL prefix |
||
บรรทัด 28: | บรรทัด 28: | ||
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาเป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]และ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] ประสูติเมื่อวันที่ [[12 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2432]] เมื่อทรงพระเยาว์สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงออกทรงพระนามว่า "'''เอียดเล็ก'''" ชางวังออกพระนามว่า "'''ทูลกระหม่อมเอียดเล็ก'''"<ref>[[จุลลดา ภักดีภูมินทร์]], [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stauthorid=13&stcolcatid=2&stcolumnid=176&stissueid=2388 พระโอรสและพระธิดาในรัชการที่ ๕], สกุลไทย, ฉบับที่ 2388, ปีที่ 46, ประจำวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2543</ref> |
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาเป็นพระราชโอรสใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]และ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] ประสูติเมื่อวันที่ [[12 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2432]] เมื่อทรงพระเยาว์สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงออกทรงพระนามว่า "'''เอียดเล็ก'''" ชางวังออกพระนามว่า "'''ทูลกระหม่อมเอียดเล็ก'''"<ref>[[จุลลดา ภักดีภูมินทร์]], [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stauthorid=13&stcolcatid=2&stcolumnid=176&stissueid=2388 พระโอรสและพระธิดาในรัชการที่ ๕], สกุลไทย, ฉบับที่ 2388, ปีที่ 46, ประจำวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2543</ref> |
||
พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย|โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ]] ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2446 ได้ทรงผนวชเป็น[[สามเณร]] ณ พระอุโบสถ [[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] โดยมี[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส|พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส]] เป็นพระอุปัชฌาย์ [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า|หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต]] ประทานสรณคมน์และสิกขาบท ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศวิหาร]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [ |
พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่[[โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย|โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ]] ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2446 ได้ทรงผนวชเป็น[[สามเณร]] ณ พระอุโบสถ [[วัดพระศรีรัตนศาสดาราม]] โดยมี[[สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส|พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส]] เป็นพระอุปัชฌาย์ [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า|หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต]] ประทานสรณคมน์และสิกขาบท ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ [[วัดบวรนิเวศวิหาร]]<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2446/015/226.PDF ข่าวสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครราชสีมา ทรงผนวชเป็นสามเณร], เล่ม ๒๐, ตอน ๑๘, ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๖, หน้า ๒๒๖-๙</ref> |
||
หลังจากลาผนวช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเดินทางไปศึกษาต่อที่[[ประเทศอังกฤษ]] พร้อมกับ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย|เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก]]และ[[สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก|เจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช]] เมื่อ พ.ศ. 2448 ทรงศึกษาวิชาทหารเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจึงเสด็จกลับ[[ประเทศไทย]]มาศึกษาใน[[โรงเรียนนายร้อยทหารบก]] พระองค์ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล ยศพลตรี แล้วจึงไปดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ ยศพลเรือเอก |
หลังจากลาผนวช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเดินทางไปศึกษาต่อที่[[ประเทศอังกฤษ]] พร้อมกับ[[สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย|เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก]]และ[[สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก|เจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช]] เมื่อ พ.ศ. 2448 ทรงศึกษาวิชาทหารเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจึงเสด็จกลับ[[ประเทศไทย]]มาศึกษาใน[[โรงเรียนนายร้อยทหารบก]] พระองค์ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล ยศพลตรี แล้วจึงไปดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ ยศพลเรือเอก |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:39, 23 พฤศจิกายน 2557
สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา | |||||
ประสูติ | 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2432 | ||||
สิ้นพระชนม์ | 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 | ||||
หม่อม | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์จักรี | ||||
พระบิดา | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว | ||||
พระมารดา | สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง |
พลเรือเอก สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประสูติเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2432
พระประวัติ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมาเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประสูติเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2432 เมื่อทรงพระเยาว์สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนีทรงออกทรงพระนามว่า "เอียดเล็ก" ชางวังออกพระนามว่า "ทูลกระหม่อมเอียดเล็ก"[1]
พระองค์ทรงเข้ารับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ต่อมาในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2446 ได้ทรงผนวชเป็นสามเณร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริยพรต ประทานสรณคมน์และสิกขาบท ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร[2]
หลังจากลาผนวช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกและเจ้าฟ้ามหิดลอดุยเดช เมื่อ พ.ศ. 2448 ทรงศึกษาวิชาทหารเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจึงเสด็จกลับประเทศไทยมาศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหารบก พระองค์ทรงเข้ารับราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล ยศพลตรี แล้วจึงไปดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ ยศพลเรือเอก
ในปี พ.ศ. 2441 พระองค์ได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมที่ "กรมขุนนครราชสีมา"[3] และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้รับการเลื่อนกรมที่ "กรมหลวงนครราชสีมา" เมื่อปี พ.ศ. 2459[4]
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา มีพระกรณียกิจที่สำคัญในกองทัพเรือ คือ ทรงดำรงตำแหน่งผู้กำกับราชการกระทรวงทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ต่อจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2467 ทรงเปลี่ยนระเบียบการปกครองบังคับบัญชาเรือหลวงใหม่ แต่เดิมนั้นการบังคับบัญชาในเรือหลวง แบ่งออกเป็น 2 กระบวนเรือ แต่ละกระบวนเรือต่างก็เป็นอิสระแก่กัน ขึ้นตรงต่อกระทรวงทหารเรือ พระองค์ทรงเห็นว่าไม่เหมาะสม ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ไม่เป็นแบบฉบับเดียวกัน จึงให้รวมกระบวนเรือทั้งสองเป็นหนึ่งเดียว แล้วตั้งชื่อใหม่ว่า กองทัพเรือ มีผู้บังคับบัญชากองทัพเรือเป็นผู้บังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อกระทรวงทหารเรือ และให้แบ่งแยกกองทัพเรือออกเป็น 3 กองเรือ คือ กองเรือปืน กองเรือใช้ตอร์ปิโด และกองเรือช่วยรบ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ ทรงอภิเษกสมรสกับแผ้ว สุทธิบูรณ์ ไม่มีพระโอรสและพระธิดา พระองค์ประชวรด้วยพระโรคพระวักกะอักเสบ (โรคไต) และสิ้นพระชนม์ที่พระตำหนักวังสวนกุหลาบ พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467 สิริพระชนมายุได้ 36 พรรษา
พระองค์มีพระนามอย่างเต็มว่า สมเด็จเจ้าฟ้าชายอัษฎางค์เดชาวุธ วิสิฏฐวิสุทธิลักษณโสภณ อุบัติดลกาลนิยม ปฐมปริวัตรรัตนโกสินทรศก ศตสาธกอัษโฎดดร สถาพรมงคลสมัย นราธิปไตยบรมนาถ จุฬาลงกรณ์ราชวโรรส อดุลยยศอุกฤษฐศักดิ์ อุภโตปักษ์วิสุทธิกษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้น ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นมหาวชิรมงกุฎ[5]
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4 ชั้นที่ 2 (ม.ป.ร.2)[6]
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 5 ชั้นที่ 1 (จ.ป.ร.1)[7]
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1 (ว.ป.ร.1)[8]
ราชตระกูล
อ้างอิง
- ↑ จุลลดา ภักดีภูมินทร์, พระโอรสและพระธิดาในรัชการที่ ๕, สกุลไทย, ฉบับที่ 2388, ปีที่ 46, ประจำวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม 2543
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนครราชสีมา ทรงผนวชเป็นสามเณร, เล่ม ๒๐, ตอน ๑๘, ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๖, หน้า ๒๒๖-๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ในการประราชทานพระสุพรรณบัตร, เล่ม ๑๕, ตอน ๔๒, ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๑๘๙๙, หน้า ๔๔๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาเลื่อนกรม พระพุททธศักราช ๒๔๕๙, เล่ม ๓๓, ตอน ๐ก, ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๙, หน้า ๒๑๘
- ↑ "พระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 20 (41): 710. 10 มกราคม พ.ศ. 2446.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 4" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 (32): 564. 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2447.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ ฝ่ายหน้าและฝ่ายใน
- ↑ "พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 27 (0ง): 2409. 11 มกราคม พ.ศ. 2453.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help)
แหล่งข้อมูลอื่น
ก่อนหน้า | สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช |
ผู้กำกับราชการกระทรวงทหารเรือ (1 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2466) |
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ | ||
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ |
ผู้สำเร็จราชการกระทรวงทหารเรือ (1 เมษายน พ.ศ. 2467 - 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2467) |
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2432
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2467
- เจ้าฟ้า
- กรมหลวง
- พระราชโอรสในรัชกาลที่ 5
- ทหารเรือชาวไทย
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ น.ร.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ.ว.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ร.ว.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ ม.ป.ร.2
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ จ.ป.ร.1
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ ว.ป.ร.1
- บุคคลจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- เสียชีวิตจากโรคไต