ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศตุรกี"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
กะบับไก่อร่อยมาก |
|||
{{Infobox country |
|||
| conventional_long_name = สาธารณรัฐตุรกี |
|||
| common_name = ตุรกี |
|||
| native_name = {{lang|tr|Türkiye Cumhuriyeti}} <small>{{tr icon}}</small> |
|||
| national_motto = |
|||
| national_anthem = {{vunblist |"[[İstiklâl Marşı]]" |{{small|"มาร์ชเอกราช"}}|<center>[[ไฟล์:Istiklâl Marsi instrumetal.ogg]]</center>}} |
|||
| image_flag = Flag of Turkey.svg |
|||
| image_coat = Emblem of Turkey.svg |
|||
| symbol_type = ตราแผ่นดิน |
|||
| image_map = Turkey (orthographic projection).svg |
|||
| capital = [[อังการา]]|latd=41|latm=1|latNS=N|longd=28|longm=57|longEW=E |
|||
| largest_city = [[อิสตันบูล]]| official_languages = [[ภาษาตุรกี]] |
|||
| government_type = [[รัฐเดี่ยว]] [[ระบบประธานาธิบดี]] [[สาธารณรัฐ]][[รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐตุรกี|รัฐธรรมนูญ]] |
|||
| leader_title1 = [[ประธานาธิบดีตุรกี|ประธานาธิบดี]] |
|||
| leader_title2 = [[รองประธานาธิบดีตุรกี|รองประธานาธิบดี]] |
|||
| leader_name1 = [[เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน]] |
|||
| leader_name2 = [[ฟ็วต ออคเตย์]] |
|||
| sovereignty_type = การสร้างชาติ |
|||
| established_event1 = [[รัฐบาลอังคารา]] |
|||
| established_event2 = [[สงครามประกาศเอกราชตุรกี|เริ่มสงครามประกาศเอกราช]] |
|||
| established_event3 = [[วันแห่งชัยชนะ (ตุรกี)|วันแห่งชัยชนะ]] |
|||
| established_event4 = [[สนธิสัญญาโลซาน]] |
|||
| established_event5 = [[การสถาปนาสาธารณรัฐตุรกี|สถาปนาสาธารณรัฐ]] |
|||
| established_date1 = [[23 เมษายน]] [[พ.ศ. 2463]] |
|||
| established_date2 = [[19 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2462]] |
|||
| established_date3 = [[30 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2465]] |
|||
| established_date4 = [[24 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2466]] |
|||
| established_date5 = [[29 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2466]] |
|||
| area_km2 = 780,580 |
|||
| area_sq_mi = 301,384 <!-- Do not remove per [[WP:MOSNUM]] --> |
|||
| area_rank = 36 |
|||
| area_magnitude = 1 E11 |
|||
| percent_water = 1.3 |
|||
| population_estimate = 82,003,882<!--UN WPP--> |
|||
| population_estimate_year = 2561 |
|||
| population_estimate_rank = 19 <sup>1</sup> |
|||
| population_census = |
|||
| population_census_year = |
|||
| population_density_km2 = 101 |
|||
| population_density_sq_mi = 262 <!-- Do not remove per [[WP:MOSNUM]] --> |
|||
| population_density_rank = 102 <sup>1</sup> |
|||
| GDP_PPP_year = 2560 |
|||
| GDP_PPP = $ 2.132 ล้านล้าน |
|||
| GDP_PPP_rank = |
|||
| GDP_PPP_per_capita = $ 26,453 |
|||
| GDP_PPP_per_capita_rank = |
|||
| GDP_nominal_year = 2560 |
|||
| GDP_nominal = $ 841.206 พันล้าน |
|||
| GDP_nominal_rank = |
|||
| GDP_nominal_per_capita = $ 10,434 |
|||
| GDP_nominal_per_capita_rank = |
|||
| Gini_year = 2557 |
|||
| Gini = 41.2<ref name="GINI">{{cite web|url=https://data.worldbank.org/indicator/SI.POV.GINI?locations=TR |title=Turkey|publisher=World Bank}}</ref> |
|||
| HDI_year = 2559 |
|||
| HDI = {{increase}} 0.767 |
|||
| HDI_rank = 71st |
|||
| HDI_category = <font color="green">สูง</font> |
|||
| currency = [[ลีราใหม่ตุรกี]] |
|||
| currency_code = TRY |
|||
| time_zone = [[EET]] |
|||
| utc_offset = +2 |
|||
| time_zone_DST = [[EEST]] |
|||
| utc_offset_DST = |
|||
| cctld = [[.tr]] |
|||
| calling_code = 90 |
|||
| footnotes = |
|||
|การขับรถ=ขับรถด้านซ้าย}} |
|||
'''ประเทศตุรกี''' ({{lang-en|Turkey}}; {{lang-tr|Türkiye}} ''ทุรคีเย'') มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า '''สาธารณรัฐตุรกี''' ({{lang-en|Republic of Turkey}}; {{lang-tr|Türkiye Cumhuriyeti}}) เป็นสาธารณรัฐระบบรัฐสภาใน[[ยูเรเซีย]] พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน[[เอเชียตะวันตก]] โดยมีพื้นที่ส่วนน้อยใน[[East Thrace|อีสเทรซ]]ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศตุรกีมีพรมแดนติดต่อกับ 8 ประเทศ ได้แก่ [[ประเทศซีเรีย]]และ[[อิรัก]]ทางใต้ [[ประเทศอิหร่าน]] [[อาร์มีเนีย]]และดินแดนส่วนแยก[[นาคีชีวัน]]ของ[[อาเซอร์ไบจาน]]ทางตะวันออก [[ประเทศจอร์เจีย]]ทางตะวันออกเฉียงเหนือ [[ประเทศบัลแกเรีย]]ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และ[[ประเทศกรีซ]]ทางตะวันตก [[ทะเลดำ]]อยู่ทางเหนือ [[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]]ทางใต้ และ[[ทะเลอีเจียน]]ทางตะวันตก [[ช่องแคบบอสฟอรัส]] [[ทะเลมาร์มะรา]]และ[[ดาร์ดะเนลส์]] (รวมกันเป็น[[ช่องแคบตุรกี]]) แบ่งเขตแดนระหว่างเทรซและ[[อานาโตเลีย]] และยังแยก[[ทวีปยุโรป]]กับ[[ทวีปเอเชีย]] ที่ตั้งของตุรกี ณ ทางแพร่งของยุโรปและเอเชียทำให้ตุรกีมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างยิ่ง |
|||
ประเทศตุรกีมีผู้อยู่อาศัยมาตั้งแต่[[ยุคหินเก่า]] มีอารยธรรมอานาโตเลียโบราณต่าง ๆ เอโอเลีย โดเรียและกรีกไอโอเนีย เทรซ อาร์มีเนียและ[[จักรวรรดิอะคีเมนิด|เปอร์เซีย]] หลังการพิชิตของ[[พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช]] ดินแดนนี้ถูกทำให้เป็นกรีก เป็นกระบวนการซึ่งสืบต่อมาภายใต้[[จักรวรรดิโรมัน]]และการเปลี่ยนผ่านสู่[[จักรวรรดิไบแซนไทน์]] [[ราชวงศ์เซลจุค|เติร์กเซลจุค]]เริ่มย้ายถิ่นเข้ามาในพื้นที่ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 เริ่มต้นกระบวนการทำให้เป็นเติร์ก ซึ่งเร่งขึ้นมากหลังเซลจุคชนะไบแซนไทน์ที่[[ยุทธการที่มันซิเคิร์ต]] ค.ศ. 1071 [[รัฐสุลต่านรูม]]เซลจุคปกครองอานาโตเลียจนมองโกลบุกครองใน ค.ศ. 1243 ซึ่งสลายเป็น[[เบย์ลิก]] (beylik) เติร์กเล็ก ๆ หลายแห่ง |
|||
ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 13 [[ออตโตมัน]]รวม[[อานาโตเลีย]]และสร้างจักรวรรดิซึ่งกินพื้นที่กว้างใหญ่ของยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ กลายเป็นมหาอำนาจในยูเรเซียและทวีปแอฟริการะหว่างสมัยใหม่ตอนต้น จักรวรรดิเรืองอำนาจถึงขีดสุดระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 15 ถึง 17 โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างรัชกาล[[สุลต่านสุลัยมานแห่งจักรวรรดิออตโตมัน|สุลต่านสุลัยมานผู้เกรียงไกร]] หลังการล้อมเวียนนาครั้งที่สองของออตโตมันใน ค.ศ. 1683 และการสิ้นสุดมหาสงครามเติร์กใน ค.ศ. 1699 จักรวรรดิออตโตมันเข้าสู่ระยะเสื่อมอันยาวนาน การปฏิรูป[[แทนซิมัต]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งมุ่งทำให้รัฐออตโตมันทันสมัย ไม่เพียงพอในหลายสาขาและไม่อาจหยุดยั้งการสลายของจักวรรดิได้ จักรวรรดิออตโตมันเข้าร่วม[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]โดยเข้ากับ[[ฝ่ายมหาอำนาจกลาง]]และแพ้ในที่สุด ระหว่างสงคราม รัฐบาลออตโตมันก่อความป่าเถื่อนใหญ่หลวง กรณีการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ต่อพลเมืองอาร์มีเนีย อัสซีเรียและกรีกพอนทัส หลังสงคราม ดินแดนและประชาชนกลุ่มใหญ่ซึ่งเดิมประกอบเป็นจักรวรรดิออตโตมันถูกแบ่งเป็นหลายรัฐใหม่ [[สงครามประกาศอิสรภาพตุรกี]] (ค.ศ. 1919–22) ซึ่ง[[มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก]]และเพื่อนร่วมงานของเขาในอานาโตเลียเป็นผู้เริ่ม ส่งผลให้มีการสถาปนาสาธารณรัฐตุรกีสมัยใหม่ใน ค.ศ. 1923 โดยอตาเติร์กเป็นประธานาธิบดีคนแรก |
|||
== ภูมิศาสตร์ == |
== ภูมิศาสตร์ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:22, 26 สิงหาคม 2563
กะบับไก่อร่อยมาก
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
ตุรกีเป็นประเทศสองทวีปที่มีดินแดนอยู่ทั้งในทวีปเอเชียและทวีปยุโรป[1] ตุรกีในฝั่งเอเชียซึ่งครอบคลุมบริเวณส่วนใหญ่ของคาบสมุทรอานาโตเลีย นับเป็นพื้นที่ร้อยละ 97 ของประเทศ และถูกแยกจากตุรกีฝั่งยุโรปด้วยช่องแคบบอสพอรัส ทะเลมาร์มะรา และช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (ซึ่งรวมกันเป็นพื้นน้ำที่เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ตุรกีในฝั่งยุโรปซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่านมีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 3 ของทั้งประเทศ[2] ดินแดนของตุรกีมีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความยาวมากกว่า 1,600 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 800 กิโลเมตร [3] ตุรกีมีพื้นที่ (รวมทะเลสาบ) ประมาณ 783,562 ตารางกิโลเมตร[4]
ตุรกีถูกล้อมรอบด้วยทะเลสามด้าน ได้แก่ทะเลอีเจียนทางตะวันตก ทะเลดำทางเหนือ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้ นอกจากนี้ ยังมีทะเลมาร์มะราในเขตตะวันตกเฉียงเหนือ[5]
ตุรกีฝั่งเอเชียที่มักเรียกว่าอานาโตเลียหรือเอเชียไมเนอร์ประกอบด้วยที่ราบสูงในตอนกลางของประเทศ อยู่ระหว่างเทือกเขาทะเลดำตะวันออกและเกอรอลูทางตอนเหนือกับเทือกเขาเทารัสทางตอนใต้ และมีที่ราบแคบ ๆ บริเวณชายฝั่ง ทางตะวันออกของตุรกีมีลักษณะเป็นภูเขาและเป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสายเช่น แม่น้ำยูเฟรติส แม่น้ำไทกริส และแม่น้ำอารัส นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบวัน และยอดเขาอารารัด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของตุรกีที่ 5,165 เมตร[5]
สภาพภูมิประเทศที่หลากหลายนั้นเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวของเปลือกโลกที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายพันปี และยังคงปรากฏให้เห็นในปัจจุบันในรูปของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ และภูเขาไฟระเบิดในบางครั้ง ช่องแคบบอสฟอรัสและช่องแคบดาร์ดะเนลส์ก็เกิดจากแนวแยกของเปลือกโลกที่วางตัวผ่านตุรกีทำให้เกิดทะเลดำขึ้น ทางตอนเหนือของประเทศมีแนวแยกแผ่นดินไหววางตัวในแนวตะวันตกไปยังตะวันออก ซึ่งเป็นสาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปีพ.ศ. 2542[6]
ภูมิอากาศ
ชายฝั่งด้านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน กล่าวคือหน้าร้อนอากาศร้อนและแห้งแล้ง ส่วนหน้าหนาวอากาศอบอุ่นและมีฝนตก เทือกเขาที่ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งเป็นตัวกั้นทำให้ภูมิอากาศตอนกลางของประเทศเป็นแบบภาคพื้นทวีป ซึ่งมีความแตกต่างระหว่างฤดูอย่างเห็นได้ชัด ฤดูหนาวบริเวณที่ราบสูงตอนกลางหนาวมาก อุณหภูมิลดลงถึง -30 ถึง -40℃ อาจมีหิมะปกคลุมนานถึง 4 เดือนต่อปี
ฝั่งตะวันตกมีอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวต่ำกว่า 1℃ ฤดูร้อนร้อนและแห้งแล้ง ในตอนกลางวันมีอุณหภูมิสูงกว่า 30℃ ปริมาณหยาดน้ำฟ้าเฉลี่ยต่อปีประมาณ 400 มิลลิเมตร ซึ่งปริมาณจริงแตกต่างกันไปตามระดับความสูง บริเวณที่แห้งแล้งที่สุดคือที่ราบกอนยาและที่ราบมาลาตยาซึ่งมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยนต่อปีต่ำกว่า 300 มิลลิเมตร เดือนที่มีฝนมากที่สุดคือเดือนพฤษภาคม และเดือนที่แล้งที่สุดคือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม[7]
ประวัติศาสตร์
ก่อนสมัยเติร์ก
คาบสมุทรอานาโตเลีย (หรือที่เรียกว่าเอเชียไมเนอร์) ซึ่งเป็นที่ตั้งของพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศตุรกี เป็นดินแดนที่มีการตั้งถิ่นฐานอย่างต่อเนื่องมายาวนานเพราะอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป ร่องรอยการตั้งถิ่นฐานในตอนต้นของยุคหินใหม่ เช่น ชาตัลเฮอยืค (Çatalhöyük), ชาเยอนู (Çayönü), เนวาลี โจลี (Nevali Cori), ฮาจิลาร์ (Hacilar), เกอเบกลี เทเป (Göbekli Tepe) และ เมร์ซิน (Mersin) นับได้ว่าเป็นการตั้งถิ่นฐานที่เก่าแก่ที่สุดในโลก[8] การตั้งถิ่นฐานในเมืองทรอยเริ่มต้นในยุคหินใหม่และต่อเนื่องไปถึงยุคเหล็ก ในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้ ชาวอานาโตเลียใช้ภาษาอินโดยูโรเปียน, ภาษาเซมิติก และภาษาคาร์ตเวเลียน และยังมีภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา นักวิชาการบางคนเสนอว่าอานาโตเลียเป็นศูนย์กลางที่ภาษากลุ่มอินโดยูโรเปียนนั้นกระจากออกไป[9]
จักรวรรดิแห่งแรกของบริเวณอานาโตเลียคือจักรวรรดิของชาวอิไตต์ ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นประมาณศตวรรษที่ 18 ถึง 13 ก่อนคริสตกาล หลังจากนั้น อาณาจักรฟรีเจียซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ที่เมืองกอร์ตีอุมมีอำนาจขึ้นมาแทนจนกระทั่งถูกทำลายโดยชาวคิมเมอเรียในศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล[10] แต่ชาวคิมเมอเรียก็พ่ายแพ้ต่ออาณาจักรลีเดียซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองซาร์ดีสในเวลาต่อมา ลีเดียเป็นอาณาจักรที่ร่ำรวยและเป็นผู้คิดค้นเหรียญกษาปณ์
ประมาณ 1200 ปีก่อนคริสตกาล ชายฝั่งตะวันตกของอานาโตเลียถูกครอบครองโดยชาวกรีกไอโอเลียนและอีโอเนียน ชาวเปอร์เซียแห่งจักรวรรดิอาเคเมนิดสามารถพิชิตพื้นที่ทั้งหมดได้ในศตวรรษที่ 6 ถึง 5 ก่อนคริสตกาล แต่หลังจากนั้นดินแดนแห่งนี้ก็ตกเป็นของอเล็กซานเดอร์มหาราช ในปี 334 ก่อนคริสตกาล[11] อานาโตเลียจึงถูกแบ่งออกเป็นดินแดนเฮลเลนิสติกขนาดเล็กหลายแห่ง (รวมทั้ง บิทูเนีย คัปปาโดเกีย แพร์กามอน และพอนตุส) ซึ่งดินแดนเหล่านี้ตกเป็นของจักรวรรดิโรมันในกลางศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล[12] ในปี ค.ศ. 324 จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 เลือกเมืองไบแซนเทียมให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของจักรวรรดิโรมัน และตั้งชื่อให้ว่า โรมใหม่ (ภายหลังกลายเป็นคอนสแตนติโนเปิล และอิสตันบูล) หลังจากที่จักรวรรดิโรมันตะวันตกเสื่อมลง เมืองนี้ก็กลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์[13]
สมัยเติร์กและจักรวรรดิออตโตมัน
ตระกูลเซลจุกเป็นสาขาหนึ่งของโอกุสเติร์ก ซึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 9 อาศัยอยู่บริเวณตอนเหนือของทะเลแคสเปียนและทะเลอารัล[14] ในคริสต์วรรษที่ 10 พวกเซลจุกเริ่มอพยพออกจากบ้านเกิดมาทางตะวันออกของอานาโตเลีย ซึ่งในที่สุดกลายเป็นดินแดนแห่งใหม่ของเผ่าโอกุสเติร์ก หลังจากสงครามแมนซิเกิร์ตในปี 1071 ชัยชนะของเซลจุกในครั้งนี้ทำให้เกิดสุลต่านเซลจุกในอานาโตเลีย ซึ่งเป็นเสมือนอาณาจักรย่อยของอาณาจักรเซลจุกซึ่งปกครองบางส่วนของเอเชียกลาง อิหร่าน อานาโตเลีย และตะวันออกกลาง[15]
การเมืองการปกครอง
บริหาร
ตุรกีปกครองในรูปแบบสาธารณรัฐประชาธิปไตยแบบประธานาธิบดี นับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐในปี พ.ศ. 2466 การเป็นรัฐโลกวิสัยเป็นส่วนสำคัญของการเมืองตุรกี ประมุขแห่งรัฐของตุรกีคือประธานาธิบดี ได้รับการเลือกตั้งโดยตรง ดำรงตำแหน่งเป็นเวลาห้าปี
นิติบัญญัติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ตุลาการ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สถานการณ์การเมือง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สิทธิมนุษยชน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การแบ่งเขตการปกครอง
ตุรกีแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 81 จังหวัด (provinces - iller) ได้แก่
|
|
|
ต่างประเทศ
กองทัพ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศรษฐกิจ
โครงสร้าง
นับตั้งแต่การเป็นสาธารณรัฐ ตุรกีได้มีแนวทางเข้าหาการนิยมอำนาจรัฐ โดยมีการควบคุมจากรัฐบาลในด้านการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน การค้าต่างประเทศ และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังปี 2526 ตุรกีเริ่มมีการปฏิรูป นำโดยนายกรัฐมนตรีตุรกุต เออซัล ตั้งใจปรับจากเศรษฐกิจแบบอำนาจรัฐเป็นแบบของตลาดและภาคเอกชนมากขึ้น[16] การปฏิรูปนี้ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็สะดุดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤติทางการเงินในปี 2537 2542[17] และ 2544[18] เป็นผลให้มีการเจริญเติบโตของจีดีพีเฉลี่ยต่อปีตั้งแต่ปี 2524 ถึง 2546 อยู่ที่ 4 เปอร์เซนต์[19] การขาดหายของการปฏิรูปเพิ่มเติม กอปรกับการขาดดุลงบประมาณของภาครัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและคอร์รัปชัน ทำให้เกิดเงินเฟ้อสูง ภาคการธนาคารที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่เพิ่มขึ้น[20]
สถานการณ์สำคัญ
นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจปี 2544 และการปฏิรูปที่เริ่มโดยรัฐมนตรีคลังในขณะนั้น เกมัล เดร์วึช อัตราเงินเฟ้อได้ลดลงเหลือเป็นเลขหลักเดียว ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และการว่างงานลดลง ไอเอ็มเอฟพยากรณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2551 ของตุรกีไว้ที่ 6 เปอร์เซนต์[21] ตุรกีได้พยายามเปิดกว้างระบบตลาดมากขึ้นผ่านการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยลดการควบคุมจากรัฐบาลด้านการค้าต่างประเทศและการลงทุน และการแปรรูปอุตสาหกรรมของรัฐ การเปิดเสรีในหลายด้านไปสู่ภาคเอกชนและต่างประเทศได้ดำเนินต่อไปท่ามกลางการโต้เถียงทางการเมือง[22]
โครงสร้างพื้นฐาน
คมนาคม และ โทรคมนาคม
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พลังงาน
การสาธารณสุข
การศึกษา
การศึกษาในประเทศตุรกีเป็นแบบภาคบังคับ และไม่เก็บค่าเล่าเรียนสำหรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 6 ถึง 15 ปี อัตราการรู้หนังสือคือร้อยละ 95.3 ในผู้ชาย ร้อยละ 79.6 ในผู้หญิง และเฉลี่ยรวมร้อยละ 87.4 [23] การที่อัตราการรู้หนังสือของผู้หญิงต่ำกว่าชายป็นเพราะในเขตชนบทยังคงมีแนวความคิดแบบเก่าที่ไม่นิยมให้ผู้หญิงเรียนหนังสือ[24]
ประชากรศาสตร์
เมืองใหญ่สุด 20 อันดับแรก
เชื้อชาติ
ในปี พ.ศ. 2550 ตุรกีมีประชากร 70.5 ล้านคน และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 1.04 ต่อปี ความหนาแน่นของประชากรเฉลี่ย 92 คนตารางกิโลเมตร ความหนาแน่นของประชากรในแต่ละจังหวัดแตกต่างกันตั้งแต่ 11 คนต่อตารางกิโลเมตร (ในตุนเจลี) จนถึง 2,420 คนต่อตารางกิโลเมตร (ในอิสตันบูล) ค่ามัธยฐานของอายุประชากรคือ 28.3 [26] จากข้อมูลของทางการในปี พ.ศ. 2548 อายุคาดหมายเฉลี่ยของประชากรทั้งหมดคือ 71.3 ปี[27]
ประชากรส่วนใหญ่ของตุรกีมีเชื้อสายตุรกี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50 ถึง 55 ล้านคน[28] ชนชาติอื่น ๆ ที่สำคัญได้แก่ชาวเคิร์ด, เซอร์ซาสเซียน, ซาซา บอสเนีย, จอร์เจีย, อัลเบเนีย, โรมา (ยิปซี), อาหรับ และอีก 3 ชนชาติที่ได้รับการยอมรับจากทางการได้แก่พวกกรีก, อาร์มีเนีย และยิว ในบรรดาชนชาติเหล่านี้ กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือชาวเคิร์ด (ประมาณ 12.5 ล้านคน[28]) ซึ่งมักจะอาศัยอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวตุรกีจำนวนมากอพยพไปยังยุโรปตะวันตก (โดยเฉพาะเยอรมนีตะวันตก) เนื่องจากความต้องการแรงงานในยุโรปเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดชุมชนชาวตุรกีนอกประเทศขึ้น แต่ในระยะหลังตุรกีกลับกลายเป็นจุดหมายของผู้อพยพจากประเทศข้างเคียง ซึ่งมีทั้งผู้อพยพที่ปักหลักอยู่ในประเทศตุรกี และผู้ที่ใช้ตุรกีเป็นทางผ่านต่อไปยังประเทศกลุ่มยุโรป[29] [30]
ภาษา
ประเทศตุรกีมีภาษาทางการเพียงภาษาเดียวคือภาษาตุรกี [31] ซึ่งภาษาตุรกียังเป็นภาษาที่พูดในหลายพื้นที่ในยุโรป เช่นไซปรัส ทางตอนใต้ของคอซอวอ มาเซโดเนีย และพื้นที่ในคาบสมุทรบอลข่านที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน เช่น แอลเบเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา บัลแกเรีย กรีซ โรมาเนีย และเซอร์เบีย[32] นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ใช้ภาษาตุรกีมากกว่า 2 ล้านคนอาศัยอยู่ในเยอรมนี และมีกลุ่มผู้ใช้ภาษาตุรกีในประเทศออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร[33]
ศาสนา
ร้อยละ 99 นับถือศาสนาอิสลาม (31,129,845 คน) ที่เหลือเป็นคริสต์ นิกายอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ (143,251) คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (25,833 คน) คริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ (22,983 คน) และยิว (38,267 คน)
กีฬา
การแข่งขันระดับนานาชาติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ฟุตบอล
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วอลเลย์บอล
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรม
รากฐานทางสังคมของตุรกีมีมีลักษณะเป็นครอบครัวแบบขยายที่มีความสัมพันธ์กันทั้งสายเลือดและแต่งงาน โดยยึดถือการสืบทอดทางฝ่ายชาย สมาชิกทุกคนยึดถือปฏิบัติตามหลักศาสนา ผู้ชายทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ในปัจจุบันมีความพยายามส่งเสริมเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย โดยผู้หญิงสามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ ทั้งในส่วนของรัฐบาลและภาคเอกชน แต่ผู้ชายก็ยังมีความคิดว่าผู้หญิงด้อยกว่าทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์
ศิลปกรรม
โดยทั่วไปในความคิดแบบตะวันตก เป็นที่ยอมรับกันว่าจิตรกรรมแบบตุรกีเริ่มเฟื่องฟูในกลางคริสต์ศตวรรศที่ 19 สถาบันจิตรกรรมแห่งแรกของตุรกีคือมหาวิทยาลัยเทคนิคตุรกี (ในขณะนั้นคือ สถาบันวิศวกรรมศาสตร์กองทัพอิมพีเรียล) ซึ่งเปิดสอนในปี 1793 เพื่อจุดมุ่งหมายเชิงการใช้งานมากกว่า[34] ปลายคริสตืศตวรรษที่ 19 การวาดมนุษย์ตามอย่างตะวันตกเริ่มแพร่หลายโดยเฉพาะกับ Osman Hamdi Bey ลัทธิประทับใจ รวมทั้งศิลปะยุคใหม่เริ่มเข้ามากับ Halil Pasha ศิลปินตุรกียุคใหม่ที่ถูกส่งไปเล่าเรียนในยูโรปเมื่อปี 1926 กลับมาพร้อมกับแนวศิลปะร่วมสมัยทั้ง ฟอวิสซึม คิวบิซึม และ เอ็กซ์เพรชชั่นนิสซึม ต่อมาศิลปินได้รวมกันจัดตั้ง "Group D" ซึ่งประกอบด้วยจิตรกรที่นำโดย Abidin Dino, Cemal Tollu, Fikret Mualla, Fahrünnisa Zeid, Bedri Rahmi Eyüboğlu, Adnan Çoker และ Burhan Doğançay ผู้นำเสนอเทรนด์ใหม่ที่จะคงอยู่ในจิตรกรรมตะวันตกไปอีกสามทศวรรศ นอกจาก Group D แล้วยังมีการเคลื่อนไหวอื่น ๆ อีก เช่น "Yeniler Grubu" (ผู้มาใหม่) ราวปลายทศวรรศ 1930s, "On'lar Grubu" (กลุ่มสิบคน) ในทศวรรศ 1940s, "Yeni Dal Grubu" (กลุ่มสาขาใหม่) ในทศวรรศ 1950s และ "Siyah Kalem Grubu" (กลุ่มปากกาดำ) ในทศวรรศ 1960s[35]
พรมตุรกี เป็นศิลปกรรมท้องถิ่นที่มีมาตั้งแต่ตุรกียุคก่อนอิสลาม ยิ่งผ่านกาลเวลามาเท่าไร พรมตุรกีก็ยิ่งมีการผสมผสานวัฒนธรรมใหม่ ๆ มากขึ้นเท่านั้น สังเกตได้จากกลิ่นอายและงานออกแบบที่มีความเป็นไบแซนไทน์ อนาโตเลีย อาร์เมเนีย ฯลฯ ล้วนทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละถิ่น จนกระทั่งหลังศาสนาอิสลามเข้ามาเผยแผ่ พรมตุรกีจึงได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศิลปะอิสลาม[36]
จุลจิตรกรรมแบบตุรกี (Turkish miniature) เป็นงานศิลป์ชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากธรรมเนียมจุลจิตรกรรมแบบเปอร์เชีย การวาดลวดลายขนาดจิ๋วซึ่งเรียกว่า taswir หรือ nakish พบในวัฒนธรรมออตโตมัน และเรียกสตูดิโอที่ทำชิ้นงานว่า Nakkashanes[37]โดยทั่วไปแล้วจุลจิตรกรรมหนึ่งภาพอาจต้องใช้จิตรกรมากกว่าหนึ่งคน เพื่อร่างโครงสร้าง จัดองค์ประกอบ ลงสี ตกต่งและเก็บรายละเอียด ยังรวมไปถึงขั้นตอนการเขียนคัลลิกราฟี ก่อนที่จะรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือหรือเอกสารหนึ่งหน้า[38]
การสร้างลวดลายหินอ่อนบนกระดาษแบบตุรกี (Turkish paper marbling) ก็เป็นอีกจิตรกรรมที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จัก มักพบใช้ในการตกแต่งขอบกระดาษในหนังสือหรือเอกสาร หรือใช้สร้างแม่ลาย (mortif) "Hartif"[39]
ดนตรี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อาหาร
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สถาปัตยกรรม
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สื่อสารมวลชน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วันหยุด
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- ↑ Sabancı University (2005). "Geography of Turkey". Sabancı University. สืบค้นเมื่อ 2006-12-13.
- ↑ Turkish Odyssey: Turkey
- ↑ "Geography of Turkey". US Library of Congress. สืบค้นเมื่อ 2006-12-13.
- ↑ UN Demographic Yearbook, accessed April 16, 2007
- ↑ 5.0 5.1 Turkish Ministry of Tourism (2005). "Geography of Turkey". Turkish Ministry of Tourism. สืบค้นเมื่อ 2006-12-13.
- ↑ "Brief Seismic History of Turkey". University of South California, Department of Civil Engineering. สืบค้นเมื่อ 2006-12-26.
- ↑ "Climate of Turkey". Turkish State Meteorological Service. 2006. สืบค้นเมื่อ 2008-8-14.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ Thissen, Laurens (2001-11-23). "Time trajectories for the Neolithic of Central Anatolia" (PDF). CANeW - Central Anatolian Neolithic e-Workshop. สืบค้นเมื่อ 2006-12-21.
{{cite journal}}
: Cite journal ต้องการ|journal=
(help) - ↑ Balter, Michael (2004-02-27). "Search for the Indo-Europeans: Were Kurgan horsemen or Anatolian farmers responsible for creating and spreading the world's most far-flung language family?". Science. 303 (5662): 1323.
- ↑ The Metropolitan Museum of Art, New York (October 2000). "Anatolia and the Caucasus (Asia Minor), 2000 – 1000 B.C. in Timeline of Art History.". New York: The Metropolitan Museum of Art. สืบค้นเมื่อ 2006-12-21.
- ↑ Hooker, Richard (1999-06-06). "Ancient Greece: The Persian Wars". Washington State University, WA, United States. สืบค้นเมื่อ 2006-12-22.
- ↑ The Metropolitan Museum of Art, New York (October 2000). "Anatolia and the Caucasus (Asia Minor), 1000 B.C. - 1 A.D. in Timeline of Art History.". New York: The Metropolitan Museum of Art. สืบค้นเมื่อ 2006-12-21.
- ↑ Daniel C. Waugh (2004). "Constantinople/Istanbul". University of Washington, Seattle, WA. สืบค้นเมื่อ 2006-12-26.
- ↑ Wink, Andre (1990). Al Hind: The Making of the Indo Islamic World, Vol. 1, Early Medieval India and the Expansion of Islam, 7th-11th Centuries. Brill Academic Publishers. ISBN 90-04-09249-8.
- ↑ Mango, Cyril (2002). The Oxford History of Byzantium. Oxford University Press, USA. ISBN 0-19-814098-3.
- ↑ Nas, Tevfik F. (1992). Economics and Politics of Turkish Liberalization. Lehigh University Press. ISBN 0-934223-19-X. (อังกฤษ)
- ↑ "Turkish quake hits shaky economy". British Broadcasting Corporation. 1999-08-17. สืบค้นเมื่อ 2006-12-12. (อังกฤษ)
- ↑ "'Worst over' for Turkey". British Broadcasting Corporation. 2002-02-04. สืบค้นเมื่อ 2006-12-12. (อังกฤษ)
- ↑ World Bank (2005). "Turkey Labor Market Study" (PDF). World Bank. สืบค้นเมื่อ 2006-12-10. (อังกฤษ)
- ↑ OECD Reviews of Regulatory Reform - Turkey: crucial support for economic recovery : 2002. Organisation for Economic Co-operation and Development. 2002. ISBN 92-64-19808-3.
{{cite book}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help) (อังกฤษ) - ↑ IMF: World Economic Outlook Database, April 2008. Inflation, end of period consumer prices. Data for 2006, 2007 and 2008. (อังกฤษ)
- ↑ Jorn Madslien (2006-11-02). "Robust economy raises Turkey's hopes". British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 2006-12-12. (อังกฤษ)
- ↑ "Population and Development Indicators - Population and education". Turkish Statistical Institute. 2004-10-18. สืบค้นเมื่อ 2006-12-11.
- ↑ Jonny Dymond (2004-10-18). "Turkish girls in literacy battle". British Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ 2006-12-11.
- ↑ http://www.citypopulation.de/Turkey-RBC20.html December 2012 address-based calculation of the Turkish Statistical Institute as presented by citypopulation.de
- ↑ "2007 Census,population statistics in 2007". Turkish Statistical Institute. 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-08-15.
- ↑ "Life expectancy has increased in 2005 in Turkey". Hürriyet. 2006-12-03. สืบค้นเมื่อ 2006-12-09.
- ↑ 28.0 28.1 "Türkiyedeki Kürtlerin Sayısı! (Number of Kurds in Turkey!)" (ภาษาTurkish). Milliyet. 2008-06-06. สืบค้นเมื่อ 2008-08-18.
{{cite news}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ Kirişçi, Kemal (November 2003). "Turkey: A Transformation from Emigration to Immigration". Center for European Studies, Bogaziçi University. สืบค้นเมื่อ 2006-12-26.
- ↑ "http://www.economist.com/world/international/displaystory.cfm?story_id=11921822". The Economist. November 2008. สืบค้นเมื่อ 2008-9-3.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help); แหล่งข้อมูลอื่นใน
(help)|title=
- ↑ "Turkish language" in The Columbia Encyclopedia, Sixth Edition | Date: 2008
- ↑ "Ethnologue: Languages of the World, Fifteenth edition. Report for language code:tur (Turkish)". 2005. สืบค้นเมื่อ 2007-03-18.Gordon, Raymond G., Jr.
- ↑ "The European Turks: Gross Domestic Product, Working Population, Entrepreneurs and Household Data" (PDF). Turkish Industrialists' and Businessmen's Association. 2003. สืบค้นเมื่อ 2007-01-06.
- ↑ Antoinette Harri; Allison Ohta (1999). 10th International Congress of Turkish Art. Fondation Max Van Berchem. ISBN 978-2-05-101763-3.
The first military training institutions were the Imperial Army Engineering School (Mühendishane-i Berr-i Hümâyun, 1793) and the Imperial School of Military Sciences (Mekteb-i Ulûm-ı Harbiye-i Şahane, 1834). Both schools taught painting to enable cadets to produce topographic layouts and technical drawings to illustrate landscapes ...
- ↑ ""10'Lar' Grubu", "Yenı Dal Grubu", "Sıyah Kalem Grubu"". turkresmi.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 September 2006. สืบค้นเมื่อ 11 August 2014.
{{cite web}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|dead-url=
ถูกละเว้น แนะนำ (|url-status=
) (help) - ↑ Brueggemann, Werner; Boehmer, Harald (1982). Teppiche der Bauern und Nomaden in Anatolien = Carpets of the Peasants and Nomads in Anatolia (1st ed.). Munich: Verlag Kunst und Antiquitäten. pp. 34–39. ISBN 3-921811-20-1.
- ↑ Barry, Michael (2004). Figurative art in medieval Islam and the riddle of Bihzâd of Herât (1465–1535). p. 27. ISBN 978-2-08-030421-6. สืบค้นเมื่อ 11 February 2017.
- ↑ "Turkish Miniatures". www.turkishculture.org. สืบค้นเมื่อ 11 February 2017.
- ↑ "The Turkish Art of Marbling (EBRU)". turkishculture.org. สืบค้นเมื่อ 11 February 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Official website of the Presidency of the Republic of Turkey
- Turkey entry at The World Factbook
- Turkey from UCB Libraries GovPubs
- ประเทศตุรกี ที่เว็บไซต์ Curlie
- Turkey profile from the BBC News
- Turkey at Encyclopædia Britannica
- Wikimedia Atlas of Turkey
- Turkey's Official Tourism Portal
- ประเทศตุรกี ที่เว็บไซต์ Curlie
ดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศตุรกี ที่โอเพินสตรีตแมป
- Key Development Forecasts for Turkey from International Futures
- รูปภาพเกี่ยวกับประเทศตุรกี ที่ฟลิคเกอร์