ประมุขแห่งรัฐ
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
ประมุขแห่งรัฐ (อังกฤษ: Head of state) เป็นคำที่ใช้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายระหว่างประเทศ รัฐศาสตร์และพิธีการทูตเมื่อหมายถึงข้าราชการ (official) ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในรัฐเอกราชหนึ่ง ๆ และมีอำนาจเด็ดขาดหรือจำกัดที่จะปฏิบัติเป็นผู้แทนสาธารณะสูงสุด (chief public representative) ของรัฐ[1] ประมุขแห่งรัฐในประเทศส่วนใหญ่เป็นบุคคลธรรมดาที่ดำรงตำแหน่ง หากในบางประเทศ คณะบุคคลอยู่ในตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ เช่น สภาสหพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ ประธานาธิบดีบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และผู้ครองนครร่วม (Captains Regent) ซานมารีโน
คำว่า "ประมุขแห่งรัฐ" มักใช้เพื่อแยกความแตกต่างจากคำว่า "หัวหน้ารัฐบาล" ยกตัวอย่าง ในอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ข้อ 7 และอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมที่กระทำต่อบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ รวมทั้งตัวแทนทางทูต ข้อ 1 เช่น ระบบรัฐสภาอย่างสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พระมหากษัตริย์และประธานาธิบดีได้รับการยอมรับเป็นประมุขแห่งรัฐในสองประเทศนี้ตามลำดับ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้รับการยอมรับเป็นหัวหน้ารัฐบาล อย่างไรก็ดี ในสาธารณรัฐที่มีระบบประธานาธิบดี เช่น สหรัฐอเมริกาและสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ประธานาธิบดีได้รับการยอมรับเป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งบุคคลที่เป็นทั้งประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาลยังอาจเกิดได้ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชและบางครั้งเช่นเดียวกับระบอบเผด็จการอื่น ๆ
บทบาทของประมุขแห่งรัฐโดยทั่วไป รวมทั้งการใช้อำนาจทางการเมือง และหน้าที่ ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญและกฎหมายของประเทศนั้น ๆ อนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูตปฏิบัติภายใต้ข้อสันนิษฐานว่า หัวหน้าคณะทูต (คือ เอกอัครราชทูต เอกอัครรัฐทูต หรือเอกอัครสมณทูต) ของประเทศผู้ส่งถูกถือว่าเป็นของประมุขแห่งรัฐรัฐผู้รับ มักคิดกันว่าประมุขแห่งรัฐเป็น "ผู้นำ" อย่างเป็นทางการของรัฐชาติหนึ่ง ๆ ปัจจุบัน หลายประเทศคาดหวังให้ประมุขแห่งรัฐของตนรวมค่านิยมของชาติในแบบนิยมที่คล้ายกัน
ในขณะที่กำลังพัฒนารัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศสฉบับปัจจุบัน (1958) ชาร์ล เดอ โกล อดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่าประมุขรัฐควรมี "จิตวิญญาณของชาติ" (l'esprit de la nation).[2]
รูปแบบ
[แก้]แต่ละประเทศมีรูปแบบของประมุขแห่งรัฐที่แตกต่างกัน ขึ้นกับรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศได้ระบุไว้ แบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
ระบอบรัฐสภา
[แก้]ระบอบรัฐสภามีความแตกต่างในรายละเอียดตามแต่ละประเทศ ในบางประเทศ ประมุขแห่งรัฐสามารถให้คำแนะนำ ให้กับคณะรัฐบาลได้โดยไม่ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ
ประธานาธิบดีที่ไม่มีอำนาจในการปกครอง
[แก้]ประธานาธิบดีจะไม่มีอำนาจในการปกครองต่อรัฐบาล เป็นเพียงสัญลักษณ์ทางการเมือง และศูนย์รวมจิตใจของประชาชน มีบทบาทในทางพิธีการเท่านั้น ส่วนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการปกครองประเทศ
ประเทศที่ใช้ระบอบสาธารณรัฐระบบรัฐสภาได้แก่ เยอรมนี อิตาลี อินเดีย ออสเตรีย ฮังการี อิรัก อิสราเอล ปากีสถาน สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ ฟินแลนด์ กรีซ เซอร์เบีย เช็กเกีย บัลแกเรีย เนปาล บังกลาเทศ เอธิโอเปีย ซูรินาม เป็นต้น
-
ประณัพ มุขัรชี เป็นประมุขแห่งรัฐของอินเดียในระหว่างปี 2012 ถึง 2017
พระมหากษัตริย์ที่ไม่มีอำนาจในการปกครอง
[แก้]ตามระบอบรัฐสภา พระมหากษัตริย์อาจมีบทบาทเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศเฉพาะในนาม เช่น รัฐบาลของสหราชอาณาจักร ถูกเรียกว่าเป็นรัฐบาลของสมเด็จพระราชินี ไม่ใช่รัฐสภา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผู้ใช้อำนาจเหล่านั้นคือนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลอยู่ใต้อำนาจของสภานิติบัญญัติ แทนที่จะเป็นประมุขแห่งรัฐ
ประเทศที่ใช้ระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญได้แก่ ไทย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น กัมพูชา มาเลเซีย สเปน สวีเดน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เดนมาร์ก แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลักเซมเบิร์ก ลิกเตนสไตน์ โมนาโก อันดอร์รา เป็นต้น
-
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 เป็นประมุขแห่งรัฐของสวีเดนในปัจจุบัน
-
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นประมุขแห่งรัฐของไทยในปัจจุบัน
ระบอบกึ่งประธานาธิบดี
[แก้]ระบอบกึ่งประธานาธิบดีเป็นการผสมผสานระหว่างระบอบประธานาธิบดีกับระบอบรัฐสภาเข้าด้วยกัน รัฐบาลอยู่ใต้อำนาจของทั้งประธานาธิบดีและสภานิติบัญญัติ ตัวอย่างเช่น ฝรั่งเศส (ในยุคสาธารณรัฐที่ห้า) ประธานาธิบดีมีสิทธิ์แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีเองต้องได้รับเสียงข้างมากจากสภานิติบัญญัติด้วยเช่นกัน
ประเทศที่ใช้ระบอบระบอบกึ่งประธานาธิบดีได้แก่ ฝรั่งเศส รัสเซีย อียิปต์ มองโกเลีย ศรีลังกา โรมาเนีย ยูเครน โปรตุเกส แอลจีเรีย เป็นต้น
-
ชาร์ล เดอ โกล เป็นประธานาธิบดีและประมุขแห่งรัฐของฝรั่งเศสในระหว่างปี 1959 ถึง 1969
ระบอบประธานาธิบดี
[แก้]ระบอบประธานาธิบดีคือระบอบที่ตั้งให้ประมุขแห่งรัฐมีอำนาจสูงสุดอย่างเต็มที่ คณะรัฐบาลอยู่ใต้อำนาจของประมุขแห่งรัฐ เช่น สหรัฐ ประธานาธิบดีมีอำนาจในการแต่งตั้งหรือถอดถอนคณะรัฐบาล ในรัฐธรรมนูญของบางประเทศอาจให้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีควบคู่ไปกับประธานาธิบดีได้ แต่ส่วนมากนายกรัฐมนตรีในระบอบประธานาธิบดีจะไม่มีอำนาจเท่ากับในระบอบรัฐสภา
ประเทศที่ใช้ระบอบประธานาธิบดีได้แก่ สหรัฐ บราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ ตุรกี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อาร์เจนตินา อิหร่าน ซูดาน เป็นต้น
-
จอร์จ วอชิงตัน เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐ
รัฐพรรคการเมืองเดียว
[แก้]ระบอบรัฐพรรคการเมืองเดียว ภายใต้ลัทธิมากซ์ มักใช้โดยรัฐคอมมิวนิสต์ รัฐบาลอยู่ใต้อำนาจของเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ เช่น จีน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มีอำนาจในการแต่งตั้งหรือถอดถอนคณะรัฐบาล โดยเลขาธิการพรรคมีสิทธิแต่งตั้งทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี
ประเทศที่ใช้ระบอบรัฐพรรคการเมืองเดียว (คอมมิวนิสต์) ได้แก่ จีน คิวบา เวียดนาม ลาว เป็นต้น
-
หู จิ่นเทา เป็นประธานาธิบดีและประมุขแห่งรัฐของจีนในระหว่างปี 2003 ถึง 2013
บทบาท
[แก้]บทบาทของประมุขแห่งรัฐแตกต่างกันตามแต่ละประเทศ แต่สามารถแบ่งได้เป็นประเภทใหญ่ๆ ที่พบบ่อยดังนี้
- เป็นสัญลักษณ์ ศูนย์รวมจิตใจของประเทศ งานด้านพิธีกรรม เช่น ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
- บทบาทด้านการทูต เช่น การแต่งตั้งเอกอัครราชทูต และรับทราบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตของประเทศอื่น
- อำนาจการบริหารสูงสุด
- อำนาจในการแต่งตั้งรัฐบาล รัฐสภา
- อำนาจในการออกกฎหมาย เช่น ประมุขแห่งรัฐต้องลงนามก่อน กฎหมายจึงจะมีผลบังคับใช้
- อำนาจในการให้อภัยโทษ
- เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
- อำนาจในการเรียกประชุม หรือยุบสภานิติบัญญัติ
- อื่นๆ เช่น อำนาจในการแต่งตั้งขุนนางตามบรรดาศักดิ์ เป็นต้น
ผู้สำเร็จราชการ (ราชอาณาจักรเครือจักรภพ)
[แก้]ในราชอาณาจักรเครือจักรภพซึ่งดูแลโดยสหราชอาณาจักร ผู้สำเร็จราชการได้รับการแต่งตั้งโดยพระมหากษัตริย์ โดยผู้สำเร็จราชการเป็นผู้ให้คำแนะนำต่อนายกรัฐมนตรี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บ้านพักทางราชการ
[แก้]- พระราชวังดุสิต (Dusit Palace) — พระมหากษัตริย์ไทย
- ปาแลเดอเลลีเซ (Élysée Palace) — ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
- พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace) — พระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักร
- ทำเนียบขาว (White House) — ประธานาธิบดีสหรัฐ
- จงหนานไห่ (Zhongnanhai) — ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
- พระราชวังเครมลิน (Grand Kremlin Palace) — ประธานาธิบดีรัสเซีย
- พระราชวังหลวงโตเกียว (Tokyo Imperial Palace) — จักรพรรดิญี่ปุ่น
- พระราชวังเปปูลฟ์ (Bellevue Palace) — ประธานาธิบดีเยอรมนี
- พระราชวังควีรีนัล (Quirinal Palace) — ประธานาธิบดีอิตาลี
- พระราชวังหลวงแห่งมาดริด (Royal Palace of Madrid) — พระมหากษัตริย์สเปน
- ปาลาซิโอเดออัลโวราดา (Palácio da Alvorada) — ประธานาธิบดีบราซิล
- ราษฏรปติภวัน (Rashtrapati Bhavan) — ประธานาธิบดีอินเดีย
- มาฮลัมบานโดลปฟู (Mahlamba Ndlopfu) — ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้
- ทำเนียบรัฐบาล (Government House) — ผู้สำเร็จราชการเครือรัฐออสเตรเลีย
- ทำเนียบรัฐบาล (Government House) — ผู้สำเร็จราชการนิวซีแลนด์
- ริโดฮอลล์ (Rideau Hall) — ผู้สำเร็จราชการแคนาดา
- พระราชวังโฮฟบวร์ค (Hofburg Palace) — ประธานาธิบดีออสเตรีย
- พระราชวังลาเกิน (Castle of Laeken) — พระมหากษัตริย์เบลเยียม
- ทำเนียบน้ำเงิน (Blue House) — ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
- ทำเนียบรัฐบาล (Government House) — ประธานาธิบดีฟีจี
- Los Pinos — ประธานาธิบดีเม็กซิโก
- Sándor Palace — ประธานาธิบดีฮังการี
- Istana Negara (Istana Negara) — พระมหากษัตริย์มาเลเซีย
- พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace of Amsterdam) — พระมหากษัตริย์เนเธอร์แลนด์
- พระราชวังสต็อกโฮล์ม (Stockholm Palace) — พระมหากษัตริย์สวีเดน
- พระราชวังประธานาธิบดี (Presidential Palace) — ประธานาธิบดีฟินแลนด์
- Presidential Complex — ประธานาธิบดีตุรกี
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ Foakes, pp. 110–11 "[The head of state] being an embodiment of the State itself or representatitve of its international persona."
- ↑ Kubicek, Paul (2015). European Politics. Routledge. pp. 154–56, 163. ISBN 978-1-317-34853-5.