การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
{{กล่องข้อมูล หน่วยงานของรัฐ 2 | ชื่อหน่วยงาน = การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย | ชื่อในภาษาแม่_1 = Electricity Generating Authority of Thailand | [[ชื่อในภาษาแม่_2 =พันจ่าโทวิศิษฎ์ ทองโม้ | ชื่อในภาษาแม่_ท = การไฟฟ้าภายใต้กำกับดูแล 1 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเอราวัณ 2 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเชียงคาน 3 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอหนองหิน 4 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอวังสะพุง 5 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอภูเรือ 6 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอภูหลวง 7 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอภูกระดึง 8 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอนาแห้ว 9 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอนาด้วง 10 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอท่าลี่ 11 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอด่านซ้าย 12 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัด]]เลย | ตรา = การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย.png | ตรา_กว้าง = | ตรา_บรรยาย = การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย |[[ วันก่อตั้ง = 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2512[1] | สืบทอดจาก_1 = การไฟฟ้ายันฮี | สืบทอดจาก_2 = การลิกไนท์ | สืบทอดจาก_3 = การไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ]]
| วันยุบเลิก = | สืบทอดโดย = | เขตอำนาจ = ทั่วราชอาณาจักร | กองบัญชาการ = การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเลยทุกสาขา | latd = |latm= |lats= |latNS= | longd = |longm= |longs= |longEW= | รหัสภูมิภาค =TH-42 | บุคลากร =ผู้ว่าชัยพจณ์ ชัยจรูนพงค์ | งบประมาณ =ธนาคารกรุงเทพสาขาเลย | หัวหน้า1_ชื่อ =[[ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพสาขาเลย[2] | หัวหน้า1_ตำแหน่ง = ประธานกรรมการ | หัวหน้า2_ชื่อ = เทพรัตน์ เทพพิทักษ์[3] | หัวหน้า2_ตำแหน่ง = ผู้ว่าการ | หัวหน้า3_ชื่อ = ณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง | หัวหน้า3_ตำแหน่ง = รองผู้ว่าการอาวุโส | ต้นสังกัด = กระทรวงพลังงาน | ลูกสังกัด_1 = ดูในบทความ
| ลูกสังกัด_9 = | เอกสารหลัก_1 = | เอกสารหลัก_2 =
| เว็บไซต์ = http://www.egat.co.th | หมายเหตุ = | แผนที่ = | แผนที่_กว้าง = | แผนที่_บรรยาย = }} การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. (อังกฤษ: Electricity Generating Authority of Thailand ย่อว่า EGAT) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงพลังงาน มีหน้าที่ผลิตไฟฟ้าใช้ภายในประเทศไทย
ในปี 2564 กฟผ. มีรายได้ 556,331 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงานประมาณ 59,000 ล้านบาท มีกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร 374,525 ล้านบาท[4]
ในสิ้นปี 2565 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด ลำดับที่ 9[5]
ประวัติ
[แก้]จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 โดยการรวมหน่วยงาน ด้านการผลิตและส่งพลังงานไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้ายันฮี การลิกไนท์ และการไฟฟ้าตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเป็นหน่วยงานเดียวกัน[6] มีฐานะเป็นนิติบุคคลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2512
พระราชบัญญัติฉบับนี้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2535 มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ
- ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า หรือร่วมทุนกับบุคคลอื่นเพื่อดำเนินธุรกิจดังกล่าว และให้มีอำนาจใช้สอยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสำรวจหาแหล่งพลังงาน ตลอดจนสถานที่สำหรับใช้ในการผลิตหรือพัฒนาพลังงานไฟฟ้า โดยชดใช้ค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
- ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขที่เกี่ยวกับคุณภาพไฟฟ้า เทคนิคทางวิศวกรรม และความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ในกรณีที่เอกชน ประสงค์จะเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
- กฟผ. มีสิทธิเพิ่มวงเงินในการกู้ยืมและในการจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ คณะกรรมการมีอำนาจจำหน่ายทรัพย์สินออกจากบัญชีได้ทุกกรณี โดยไม่จำกัดวงเงินโดยสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ
ส่วนสาระสำคัญที่ยังคงเดิม คือ คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการกับกรรมการ (ซึ่งต้องไม่มีตำแหน่งทางการเมือง) และคณะกรรมการเหล่านี้เป็นผู้แต่งตั้งผู้ว่าการ กฟผ. จึงเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีรัฐมนตรีคอยกำกับดูแลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
ในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในขณะนั้นให้ กฟผ. เข้าโครงการรัฐวิสาหกิจที่ดี ซึ่งทำให้ กฟผ. มีความคล่องตัวในการบริหารงานได้มากขึ้น
ในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 มีมติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้งให้นาย เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ เป็นผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยโดยให้มีผลในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่อนุมัติ
หน้าที่
[แก้]กฟผ. มีหน้าที่ในการจัดหาพลังงานไฟฟ้าแก่ประชาชน โดยผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้ใช้พลังงานไฟฟ้ารายอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งประเทศใกล้เคียง และดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านพลังงานไฟฟ้า ตลอดจนงานอื่น ๆ ที่ส่งเสริมกิจการของ กฟผ. โดยมีนโยบายหลักคือการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน มีระบบไฟฟ้าที่มั่นคงเชื่อถือได้ และราคาเหมาะสม
กฟผ. ยังทำหน้าที่บริหารกิจการและวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 7 ที่กำหนดให้ปรับปรุงโครงสร้างองค์การและการบริหารงานของรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานให้เป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2535 เรื่องแนวทางการดำเนินงานในอนาคตของ กฟผ. เริ่มจากปี พ.ศ. 2535 สิ้นสุดในปี พ.ศ. 2539 มีเป้าหมายการดำเนินงาน คือ เปลี่ยนแปลง กฟผ. เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) และกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยรัฐยังคงถือหุ้นใหญ่
กฟผ. ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีมาเป็นลำดับ ได้แก่ การจัดตั้งบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) การออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตรายเล็กและโรงไฟฟ้าเอกชน การเจรจาซื้อขายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ฯลฯ สำหรับการเปลี่ยน กฟผ. เป็นบริษัทจำกัด (มหาชน) เป็นให้ กฟผ. จัดตั้งบริษัทย่อยทยอยจดทะเบียนและกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เมื่อมีความพร้อมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นต้น ไป
กิจการในสังกัด
[แก้]- บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH)
- บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO Group)
- บริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด (DCAP)[7]
- บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGAT International Co.,Ltd.(EGATi))
- บริษัท อีแกทไดมอนด์ เซอร์วิส จำกัด (EGAT Diamond Service Co.,Ltd. (EDS))
ข้อวิจารณ์
[แก้]ในปี 2565 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ตีพิมพ์บทความวิจารณ์ว่า กฟผ. เป็นผู้ผูกขาดธุรกิจไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่สุดของประเทศและยังเป็นนายหน้าค้าไฟฟ้า ทำให้มีกำไรสูงกว่าผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอันดับรองลงมา 12 รายรวมกัน โดย กฟผ. เป็นผู้ผูกขาดสายส่งไฟฟ้า จึงมีอำนาจรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนมาขายต่อให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1 ใน 3 ของกำลังผลิต 42,000 เมกะวัตต์ อีกทั้งมีการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่อีก 2 รายจากทั้งหมด 7 ราย[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ประวัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-05-13. สืบค้นเมื่อ 2011-02-26.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา,]] ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตประเทศไทย เล่ม 141 ตอนพิเศษ 76 ง วันที่ 15 มีนาคม 2567
- ↑ ครม. มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง “นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์” เป็นผู้ว่าการ กฟผ. คนที่ 16
- ↑ 4.0 4.1 "กังขา กฟผ. นายหน้าค้าไฟฟ้า ฟันกำไรอื้อ". ฐานเศรษฐกิจ. 14 December 2022. สืบค้นเมื่อ 19 December 2022.
- ↑ ปตท.แชมป์ ส่งรายได้เข้ารัฐมากสุด 1.89 หมื่นล้านบาท
- ↑ พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-12-16. สืบค้นเมื่อ 2011-11-19.