ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย"
ล ย้อนการแก้ไขที่ 5996664 สร้างโดย 124.122.155.20 (พูดคุย) |
ล Bot: Replacements: fix URL prefix |
||
บรรทัด 147: | บรรทัด 147: | ||
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
== แหล่งข้อมูลอื่น == |
||
* [ |
* [http://www.thaihispeedtrain.com/chiangmai_phase2/file/doc%201_opt.pdf โบรชัวร์ประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 2 สายกรุงเทพ-เชียงใหม่] สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม |
||
* [ |
* [http://www.thaihispeedtrain.com/korat-nongkhai/file/doc58-01_opt.pdf เอกสารประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 1 สายกรุงเทพ-หนองคาย] สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม |
||
* [http://thaihispeedtrain.com/huahin/file/doc45.pdf แผ่นพับประชาสัมพันธ์ สายกรุงเทพ-หัวหิน] สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม |
* [http://thaihispeedtrain.com/huahin/file/doc45.pdf แผ่นพับประชาสัมพันธ์ สายกรุงเทพ-หัวหิน] สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม |
||
* [http |
* [http://www.youtube.com/watch?v=OsvFDYM5lkU วีดีทัศน์ สายกรุงเทพ-เชียงใหม่] |
||
*[http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1367865367 ผุดรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ เปิดโพย7สถานีเฟสแรก "กทม.-พิษณุโลก"]ประชาชาติธุรกิจ |
*[http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1367865367 ผุดรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ เปิดโพย7สถานีเฟสแรก "กทม.-พิษณุโลก"]ประชาชาติธุรกิจ |
||
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:15, 30 พฤษภาคม 2558
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
รถไฟความเร็วสูง | |
---|---|
ไฟล์:Thailand HSR Banner.jpg | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | |
ที่ตั้ง | ประเทศไทย |
ปลายทาง | สถานีกลางบางซื่อ |
เว็บไซต์ | thaihispeedtrain.com |
การดำเนินงาน | |
ระบบ | เหอเซี๋ยห้าว[ต้องการอ้างอิง] หรือ ชิงกันเซ็ง[ต้องการอ้างอิง] หรืออื่น ๆ |
เส้นทาง | 4 สาย |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
รางกว้าง | รางมาตรฐาน (1.435 เมตร) |
ระบบจ่ายไฟ | 25 kV 50/60 Hz จ่ายไฟเหนือหัว |
ความเร็ว | ~180 กิโลเมตร/ชั่วโมง |
โครงการรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย (อังกฤษ: Thailand High-speed Rail Project) เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ของประเทศไทยในการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง มีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเชื่อมโยงตลาดการค้า ระหว่างกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอินโดจีน มีเป้าหมายในการก่อสร้าง 4 สาย ได้แก่ สายเหนือ, สายตะวันออก, สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้
ประวัติ
สยามถือเป็นประเทศที่มีรถไฟใช้เป็นอันดับต้นๆของเอเชีย โดยได้มีการตั้งกรมรถไฟ ในปี พ.ศ. 2433 หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาระบบรถไฟไทยอย่างเรื่อยมา แต่การพัฒนาถือว่าเป็นไปอย่างช้ามาก และเริ่มที่จะล้าหลัง อีกทั้งอะไหล่หัวรถจักรนั้นหาซื้อได้ยาก จึงได้มีแนวคิด ที่จะพัฒนาระบบรถไฟในประเทศ เป็นระบบรถไฟความเร็วสูง โดยเริ่มมีการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535[3] ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2537 มีการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ - สนามบินหนองงูเห่า - ระยอง และคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2537[3] ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ ในสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล แต่เนื่องจากเกิดการรัฐประหาร ทำให้โครงการฯตกไป
มกราคม พ.ศ. 2551 พรรคพลังประชาชน ได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศที่จะสานต่อโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศอีกครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ จากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้โครงการมีความคืบหน้าน้อยมาก
ธันวาคม พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปัตย์ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็ได้สานต่อโครงการฯ มีการเปิดทางให้ต่างประเทศได้ศึกษาแนวเส้นทาง โดยสองประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุน คือ ประเทศจีน และ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นสนใจที่จะลงทุนในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนจีน มีความสนใจในเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งขณะนั้น จีนก็ได้กำลังเจรจากับรัฐบาลลาว เพื่อสร้างทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งในอนาคตนั้นสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางกรุงเทพ-หนองคายได้เลย เนื่องจากจีนมีแผนวางเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ไปถึงสิงคโปร์ แต่ภายหลังการเจรจาระหว่างรัฐบาลจีนและลาวมีปัญหา เนื่องจากรัฐบาลลาวเห็นว่า เงื่อนไงที่รัฐบาลจีนได้เสนอมานั้นเกินกว่าที่ลาวจะสามารถยอมรับได้ และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ส่งผลให้โครงการรถไฟความเร็วสูงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยต้องสะดุดลง
ตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน กรอบการเจรจาดังกล่าว มีสาระสำคัญในการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนากิจการรถไฟระหว่างไทย-จีน 5 ด้าน คือ 1.เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง 3. เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และ 5.เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
ธันวาคม พ.ศ. 2554 รัฐบาลไทยโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ กับรัฐบาลจีน หนึ่งในนั้นคือโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจีนมีความประสงค์ที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลไทยในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางนี้
พ.ศ. 2555 ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14-15 มกราคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณส่วนหนึ่งให้สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย
พ.ศ. 2556 รัฐบาลไทยได้ยกร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ จำนวน 2 ล้านล้านบาท สำหรับใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นหนึ่งในโครงการที่ถูกบรรจุอยู่ในเนื้อหาของพรบ. โดยมีแนวทางที่รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าของระบบรางและให้สัมปทานการดำเนินงานแก่เอกชน วางแผนให้สามารถทำการประกวดราคาได้ภายในไตรมาส 1/2557 ซึ่งพ.ร.บ. ได้ผ่านรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการออกพ.ร.บ. นี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมายในทันที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มกปปส.ทำให้รัฐบาลประกาศยุบสภาในเดือนเดียวกัน และทำให้โครงการทั้งหมดล่าช้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด
มกราคม พ.ศ. 2557 ศาลรัฐธรรมนูญ ได้ไต่สวนคำร้องพ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งระหว่างการไต่สวน ตุลาการบางคนได้แสดงทรรศนะต่อต้านโครงการนี้ อาทิ "ไม่คำนึงถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง", "รถไฟเร็วสูงยังไม่จำเป็นกับไทย" หรือ "ให้ถนนลูกรังหมดก่อน" ซึ่งทำให้ศาลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ในประเด็นที่ว่าศาลไต่สวนนอกเหนืออำนาจหน้าที่ เพราะควรไต่สวนเฉพาะประเด็นที่ขัดกฎหมาย ท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญได้ตีตกพระราชบัญญัติฉบับนี้ ในวันที่ 12 มีนาคม 2557
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้การศึกษาและการดำเนินการต่างๆที่ดำเนินอยู่ ให้ดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลทหารมุ่งเน้นสร้างเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับรัฐบาลจีน ทำให้รัฐบาลทหารได้หยิบยกโครงการนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง โดยหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่ารถไฟความเร็วสูง และหันไปเรียกว่า "รถไฟทางคู่รางมาตรฐาน" แทน โดยมุ่งเน้นในการเชื่อมต่อกับจีนในสายอีสาน ก่อสร้างโดยใช้เงินกู้จากจีนเป็นหลัก อย่างไรก้ตาม โครงการต้องมาสะดุดอีกครั้ง เมื่อจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงเกินไปและจีนขอเดินรถเอง[4]
เมษายน พ.ศ. 2558 ทำให้รัฐบาลต้องหันไปพิจารณาแหล่งทุนจากแหล่งอื่นๆ อาทิ ไจก้า ที่เสนออัตราดอกเบี้ยถูกกว่า และยังทาบทามนายธนินท์ เจียรวนนท์ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ มาร่วมลงทุน[5]
สายเหนือ (กรุงเทพ - เชียงใหม่)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟเชียงใหม่ (แห่งใหม่)
- ระยะทาง: 669 กิโลเมตร [6]
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 400,000 ล้านบาท [7]
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2563
สายตะวันออก (กรุงเทพ - ระยอง)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟมักกะสัน — สถานีรถไฟชุมทางคลองสิบเก้า
- ระยะทาง: ประมาณ 193.5 กิโลเมตร (ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 27.5 กิโลเมตร ช่วง บางซื่อ-สุวรรณภูมิ)
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 152,000 ล้านบาท [7]
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2563
ช่วง แก่งคอย - มาบตาพุด
- ระยะทาง: 246.5 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ราว 59,000 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2562
สายตะวันออกเฉียงเหนือ - ตะวันออก (กรุงเทพ - หนองคาย - มาบตาพุด)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ → สถานีรถไฟหนองคาย — สถานีรถไฟมาบตาพุด
- ระยะทาง: 873 กิโลเมตร (ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อน 36 กิโลเมตร ช่วง บางซื่อ - รังสิต
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 392,570 ล้านบาท [7]
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2561
ช่วง แก่งคอย - กรุงเทพ
- ระยะทาง: 133 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ราว 170,450 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2562
ช่วง แก่งคอย - นครราชสีมา
- ระยะทาง: 138.5 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ราว 170,450 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2562
ช่วง นครราชสีมา - หนองคาย
- ระยะทาง: 355 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ราว 108,855 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2562
สายใต้ (กรุงเทพ - ปาดังเบซาร์)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟปาดังเบซาร์
- ระยะทาง: 970 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 124,327 ล้านบาท [7]
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: แผนลงทุนในอนาคต
ช่วง (หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์)
- ระยะทาง: 225 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ประมาณ 48 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: แผนลงทุนในอนาคต
อ้างอิง
- ↑ นับ1ยื่นขออีไอเอไฮสปีดเทรนกทม.-พิษณุโลก ประชาชาติธุรกิจ. 27 กันยายน 2556.
- ↑ เดินหน้าไฮสปีดเทรน เดลินิวส์. 30 พฤษภาคม 2557.
- ↑ 3.0 3.1 การศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ-สนามบินหนองงูเห่า-ระยอง พ.ศ. 2539 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ↑ ไทยเหวอต้องถอย! สร้างรถไฟทางคู่ชะงัก จีนให้กู้รีดดอกเบี้ยสูง แถมขอสร้าง-เดินรถเองอีก มติชน. 6 กุมภาพันธ์ 2558
- ↑ "ซีพี" สนใจสร้างไฮสปีดเทรน ควงจีน-ฮ่องกงโชว์ความพร้อม มติชน. 24 เมษายน. 2558
- ↑ ค่านั่งไฮสปีดเทรนกม.ละ2.5บาท เล็งปรับแผนสถานีกลางบางซื่อเชื่อมต่อ เพิ่มชานชาลารับลูกค้ารถไฟเร็วสูง-สีแดง มติชน. บทสัมภาษณ์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม. 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 บัญชีท้ายพรบ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ พ.ศ. ... 15 มีนาคม พ.ศ. 2556
แหล่งข้อมูลอื่น
- โบรชัวร์ประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 2 สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- เอกสารประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 1 สายกรุงเทพ-หนองคาย สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- แผ่นพับประชาสัมพันธ์ สายกรุงเทพ-หัวหิน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- วีดีทัศน์ สายกรุงเทพ-เชียงใหม่
- ผุดรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ เปิดโพย7สถานีเฟสแรก "กทม.-พิษณุโลก"ประชาชาติธุรกิจ