ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 56: | บรรทัด 56: | ||
== สายเหนือ (กรุงเทพ - เชียงใหม่)== |
== สายเหนือ (กรุงเทพ - เชียงใหม่)== |
||
*ระหว่าง: [[สถานีกลางบางซื่อ]] — [[สถานีรถไฟเชียงใหม่]] (แห่งใหม่) |
*ระหว่าง: [[สถานีกลางบางซื่อ]] — [[สถานีรถไฟเชียงใหม่]] (แห่งใหม่) |
||
*ระยะทาง: |
*ระยะทาง: 669 กิโลเมตร <ref name = chatchart>[http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354866520&grpid=01&catid=&subcatid= ค่านั่งไฮสปีดเทรนกม.ละ2.5บาท เล็งปรับแผนสถานีกลางบางซื่อเชื่อมต่อ เพิ่มชานชาลารับลูกค้ารถไฟเร็วสูง-สีแดง] มติชน. บทสัมภาษณ์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม. 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555.</ref> |
||
*มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 387,821 ล้านบาท <ref name = พรบ.>[http://www.thanonline.com/images/stories/article2013/2828/402.jpg บัญชีท้ายพรบ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ พ.ศ. ...] 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 </ref> |
*มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 387,821 ล้านบาท <ref name = พรบ.>[http://www.thanonline.com/images/stories/article2013/2828/402.jpg บัญชีท้ายพรบ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ พ.ศ. ...] 15 มีนาคม พ.ศ. 2556 </ref> |
||
*คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2570 |
*คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2570 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:11, 29 เมษายน 2557
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
รถไฟความเร็วสูง | |
---|---|
ไฟล์:Thailand HSR Banner.jpg | |
ข้อมูลทั่วไป | |
สถานะ | |
เจ้าของ | รัฐบาลไทย |
ที่ตั้ง | ประเทศไทย |
ปลายทาง |
|
เว็บไซต์ | thaihispeedtrain.com |
การดำเนินงาน | |
ระบบ | เหอเซี๋ยห้าว[ต้องการอ้างอิง] หรือ ชิงกันเซ็ง[ต้องการอ้างอิง] หรือ บอมบาร์ดิเอร์[ต้องการอ้างอิง] หรืออื่น ๆ |
เส้นทาง | 4 สาย |
ข้อมูลทางเทคนิค | |
รางกว้าง | รางมาตรฐาน (1.435 เมตร) |
ระบบจ่ายไฟ | 25 kV 50/60 Hz จ่ายไฟเหนือหัว |
ความเร็ว | ~250 กิโลเมตร/ชั่วโมง |
โครงการรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย (อังกฤษ: Thailand High-speed Rail Project) เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ของประเทศไทยในการก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง มีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจ และเชื่อมโยงตลาดการค้า ระหว่างกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขง เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางของอินโดจีน มีเป้าหมายในการก่อสร้าง 4 สาย ได้แก่ สายเหนือ, สายตะวันออก, สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้
ประวัติ
สยามถือเป็นประเทศที่มีรถไฟใช้เป็นอันดับต้นๆของเอเชีย โดยได้มีการตั้งกรมรถไฟ ในปี พ.ศ. 2433 หลังจากนั้นก็มีการพัฒนาระบบรถไฟไทยอย่างเรื่อยมา แต่การพัฒนาถือว่าเป็นไปอย่างช้ามาก และเริ่มที่จะล้าหลัง อีกทั้งอะไหล่หัวรถจักรนั้นหาซื้อได้ยาก จึงได้มีแนวคิด ที่จะพัฒนาระบบรถไฟในประเทศ เป็นระบบรถไฟความเร็วสูง โดยเริ่มมีการศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535[2] ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นต้นมา ในปี พ.ศ. 2537 มีการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ - สนามบินหนองงูเห่า - ระยอง และคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2537[2] ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาความเป็นไปได้ ในสายกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล แต่เนื่องจากเกิดการรัฐประหาร ทำให้โครงการฯตกไป
มกราคม พ.ศ. 2551 พรรคพลังประชาชน ได้รับเลือกตั้งมาเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช ได้ประกาศที่จะสานต่อโครงการรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศอีกครั้ง แต่เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ จากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้โครงการมีความคืบหน้าน้อยมาก
ธันวาคม พ.ศ. 2551 พรรคประชาธิปัตย์ สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็ได้สานต่อโครงการฯ มีการเปิดทางให้ต่างประเทศได้ศึกษาแนวเส้นทาง โดยสองประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุน คือ ประเทศจีน และ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นสนใจที่จะลงทุนในเส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ส่วนจีน มีความสนใจในเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคาย ซึ่งขณะนั้น จีนก็ได้กำลังเจรจากับรัฐบาลลาว เพื่อสร้างทางรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งในอนาคตนั้นสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเส้นทางกรุงเทพ-หนองคายได้เลย เนื่องจากจีนมีแผนวางเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ไปถึงสิงคโปร์ แต่ภายหลังการเจรจาระหว่างรัฐบาลจีนและลาวมีปัญหา เนื่องจากรัฐบาลลาวเห็นว่า เงื่อนไงที่รัฐบาลจีนได้เสนอมานั้นเกินกว่าที่ลาวจะสามารถยอมรับได้ และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ส่งผลให้โครงการรถไฟความเร็วสูงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยต้องสะดุดลง
ตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้ลงมติเห็นชอบกรอบการเจรจาความร่วมมือด้านการพัฒนากิจการรถไฟระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน กรอบการเจรจาดังกล่าว มีสาระสำคัญในการสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนากิจการรถไฟระหว่างไทย-จีน 5 ด้าน คือ 1.เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองคาย 2.เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง 3. เส้นทางกรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ 4.เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และ 5.เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี
ธันวาคม พ.ศ. 2554 รัฐบาลไทยโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ กับรัฐบาลจีน หนึ่งในนั้นคือโครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลจีนมีความประสงค์ที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลไทยในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางนี้
พ.ศ. 2555 ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 14-15 มกราคม 2555 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณส่วนหนึ่งให้สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง กรุงเทพฯ-หนองคาย
พ.ศ. 2556 รัฐบาลไทยได้ยกร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ จำนวน 2 ล้านล้านบาท สำหรับใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงเป็นหนึ่งในโครงการที่ถูกบรรจุอยู่ในเนื้อหาของพรบ. โดยมีแนวทางที่รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าของระบบรางและให้สัมปทานการดำเนินงานแก่เอกชน วางแผนให้สามารถทำการประกวดราคาได้ภายในไตรมาส 1/2557 ซึ่งพ.ร.บ. ได้ผ่านรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการออกพ.ร.บ. นี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันที่ 12 มีนาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
สายเหนือ (กรุงเทพ - เชียงใหม่)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟเชียงใหม่ (แห่งใหม่)
- ระยะทาง: 669 กิโลเมตร [3]
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 387,821 ล้านบาท [4]
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2570
สายตะวันออก (กรุงเทพ - ระยอง)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟมักกะสัน — สถานีรถไฟชุมทางคลองสิบเก้า
- ระยะทาง: ประมาณ 230 กิโลเมตร (ใช้โครงสร้างร่วมกับสายสีแดงอ่อน 9 กิโลเมตร ช่วง บางซื่อ-มักกะสัน)
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 100,631 ล้านบาท [4]
ช่วง กรุงเทพ - พัทยา
- ระยะทาง: 196 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ราว 59,000 ล้านบาท
- หมายเหตุ: บางช่วงใช้โครงสร้างของ รถไฟฟ้าสายสีแดง และ รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ (กรุงเทพ - หนองคาย)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ → สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี — สถานีรถไฟหนองคาย
- ระยะทาง: 615 กิโลเมตร (ใช้เส้นทางร่วมกับสายเหนือ: 82 กิโลเมตร ในช่วง บางซื่อ → ชุมทางบ้านภาชี)
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 170,450 ล้านบาท [4]
ระยะที่ 1 (ภาชี - นครราชสีมา)
- ระยะทาง: 194 กิโลเมตร
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2570
สายใต้ (กรุงเทพ - ปาดังเบซาร์)
- ระหว่าง: สถานีกลางบางซื่อ — สถานีรถไฟปาดังเบซาร์
- ระยะทาง: 982 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุนรวม: ราว 124,327 ล้านบาท [4]
ระยะที่ 1 (กรุงเทพ - หัวหิน)
- ระยะทาง: 225 กิโลเมตร
- มูลค่าการลงทุน: ประมาณ 82,000 ล้านบาท
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ภายใน พ.ศ. 2570
อ้างอิง
- ↑ นับ1ยื่นขออีไอเอไฮสปีดเทรนกทม.-พิษณุโลก ประชาชาติธุรกิจ. 27 กันยายน 2556.
- ↑ 2.0 2.1 การศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ-สนามบินหนองงูเห่า-ระยอง พ.ศ. 2539 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ↑ ค่านั่งไฮสปีดเทรนกม.ละ2.5บาท เล็งปรับแผนสถานีกลางบางซื่อเชื่อมต่อ เพิ่มชานชาลารับลูกค้ารถไฟเร็วสูง-สีแดง มติชน. บทสัมภาษณ์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม. 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 บัญชีท้ายพรบ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมของประเทศ พ.ศ. ... 15 มีนาคม พ.ศ. 2556
แหล่งข้อมูลอื่น
- เอกสารประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 2 สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- แผ่นพับประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 1 สายกรุงเทพ-นครราชสีมา สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- แผ่นพับประชาสัมพันธ์ สายกรุงเทพ-หัวหิน สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม
- วีดีทัศน์ สายกรุงเทพ-หัวหิน
- ผุดรถไฟความเร็วสูงสายเหนือ เปิดโพย7สถานีเฟสแรก "กทม.-พิษณุโลก"ประชาชาติธุรกิจ