แกงขี้เหล็ก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แกงขี้เหล็ก
แกงขี้เหล็ก
ประเภทแกง
มื้ออาหารจานหลัก
แหล่งกำเนิดไทย
ส่วนผสมหลักเนื้อสัตว์ (เช่น ปลาย่าง หมูย่าง) ใบและดอกขี้เหล็ก กะทิ (ยกเว้นภาคอีสาน) เครื่องแกง เครื่องปรุงรส (น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา)

แกงขี้เหล็ก เป็นอาหารไทยชนิดหนึ่งประเภทแกงกะทิ ที่แพร่หลายในทุกภาคของประเทศไทย มีส่วนผสมที่สำคัญคือใบขี้เหล็ก หรือดอก หรือทั้งใบและดอก เนื้อสัตว์ที่ใส่ในแกง อาจเป็นปลาย่างหรือเนื้อหมูย่าง[1] พริกแกงขี้เหล็กประกอบด้วยพริกแห้ง หอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ กระชาย กะปิ พอละเอียดดีใส่ปลาย่างโขลกให้เข้ากับนำพริกแกง ด้วยรสชาติของขี้เหล็กมีรสขม จึงมีการปรุงมีรสชาติหวาน มัน เผ็ดเล็กน้อย

นอกจากจะรับประทานในครัวเรือน ยังนิยมปรุงเลี้ยงแขกเทศกาลงานต่าง ๆ เช่น งานบวช งานแต่งงาน งานศพ[2] ชาวนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร มีประเพณีการกินแกงขี้เหล็กในวันเพ็ญ เดือน 12 โดยจะเก็บใบและดอกขี้เหล็กตอนเช้ามืดของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12[3]

แกงขี้เหล็กภาคเหนือของไทยมีลักษณะคล้ายกับภาคกลางคือเป็นแกงกะทิ ใส่เนื้อวัว เนื้อหมู หรือปลาย่าง ภาคกลางมักใช้ใบและดอกขี้เหล็กในสัดส่วนเท่า ๆ กัน ภาคอีสานไม่นิยมใช้ดอกในการปรุง[4] แกงขี้เหล็กในภาคใต้จะใส่พริกแกงใต้ที่ใส่ขมิ้นและเครื่องเทศที่เผ็ดร้อนกว่า แกงขี้เหล็กแบบอีสานและลาวจะไม่ใส่กะทิ นอกจากนั้นชาวกูย (เขมร) มีอาหารในลักษณะแกงขี้เหล็กเรียกว่า "ซัมลอร์อ็องกัญ" ชาวมอญมีอาหารที่เรียกว่า "ฟะแป่คัด"[5]

ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ใบขี้เหล็กมีโปรตีน วิตามินบี 2 มีธาตุเหล็กสูง มีไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไนอาซิน อยู่จำนวนหนึ่ง ถ้าเอาดอกอ่อนมาแกงด้วยก็จะได้วิตามินเอในปริมาณสูง ใบขี้เหล็กมีใยอาหารสูง เป็นยาระบายอ่อน ๆ และช่วยดูดซับสารพิษ หมอพื้นบ้านเชื่อว่าการกินแกงขี้เหล็กจะช่วยแก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงลำไส้ บำรุงเลือด บำรุงกระดูก[6]

แกงขี้เหล็กได้รับการกล่าวถึงในนิราศสุพรรณของสุนทรภู่ ความว่า[7]

ทับคีเลกเดกว่าต้ม ขมเหลือ
ครั้นแต่งแกงต้มเกลือ กลบคั้น
พรีกขิงสิ่งไส่เจือ จิบอร่อย น้อยฤๅ
ขมฃื่นคลื่นไสร้นั้น แต่น้ำคำขม ฯ

อ้างอิง[แก้]

  1. รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล. "แกงขี้เหล็ก อาหารที่ถูกลืม". คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  2. "แกงขี้เหล็ก". ศูนย์การเรียนรู้ อาหารไทย.
  3. "ประเพณีกินแกงขี้เหล็กในวันเพ็ญเดือน 12". ฐานข้อมูลท้องถิ่น จังหวัดกำแพงเพชร-ตาก.
  4. "ยำขี้เหล็ก (แปลง) หรือ "แสร้งว่าขมไก่"". ศิลปวัฒนธรรม.
  5. "'ฟะแป่คัด ซันลอร์อังกัญ' แกงขี้เหล็กวัฒนธรรมมอญ-เขมร". เส้นทางเศรษฐีออนไลน์.
  6. "ขี้เหล็ก อาหารริมรั้ว สุดยอดสรรพคุณแก้กษัย". คมชัดลึก.
  7. "โคลงนิราศสุพรรณ". วัชรญาณ.