ผลต่างระหว่างรุ่นของ "องค์การสะพานปลา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 1 sources and tagging 1 as dead.) #IABot (v2.0.8.1
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 51: บรรทัด 51:
|หัวหน้า4_ชื่อ = อมรศักดิ์ พันธุรักษ์
|หัวหน้า4_ชื่อ = อมรศักดิ์ พันธุรักษ์
|หัวหน้า4_ตำแหน่ง = รองผู้อำนวยการ
|หัวหน้า4_ตำแหน่ง = รองผู้อำนวยการ
|หัวหน้า5_ชื่อ =
|หัวหน้า5_ชื่อ = [[ดร.]]​วัชรวิชญ์ กีรติดุสิตโรจน์
|หัวหน้า5_ตำแหน่ง = รองผู้อำนวยการ
|หัวหน้า5_ตำแหน่ง = รองผู้อำนวยการ
|ประเภทหน่วยงาน = [[รัฐวิสาหกิจไทย]]
|ประเภทหน่วยงาน = [[รัฐวิสาหกิจไทย]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:07, 7 ตุลาคม 2564

องค์การสะพานปลา
Fish Marketing Organization
เครื่องหมายราชการ

สะพานปลากรุงเทพ
ภาพรวมหน่วยงาน
ก่อตั้ง21 มกราคม พ.ศ. 2496
สำนักงานใหญ่211 ซอยเจริญกรุง 58 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
งบประมาณประจำปี88.7806 ล้านบาท (พ.ศ. 2559)[1]
ฝ่ายบริหารหน่วยงาน
  • ประยูร ดำรงชิตานนท์, ประธานกรรมการ
  • ปรีดา ยังสุขสถาพร[2], ผู้อำนวยการ
  • สมรัก บุษปธำรง, รองผู้อำนวยการ
  • อมรศักดิ์ พันธุรักษ์, รองผู้อำนวยการ
  • ดร.​วัชรวิชญ์ กีรติดุสิตโรจน์, รองผู้อำนวยการ
ต้นสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เว็บไซต์http://www.fishmarket.co.th

องค์การสะพานปลา (อังกฤษ: Fish Marketing Organization) เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2496 ตามพระราชบัญญัติจัดระเบียบกิจการแพปลา พ.ศ. 2496 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2496 มีผลบังคับใช้ในวันถัดมา เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับสะพานปลา ตลาดสินค้าสัตว์น้ำ และอุตสาหกรรมประมง โดยในระยะแรกได้รับโอนกิจการแพปลา ของกรมการประมง มาจัดตั้งเป็นนิติบุคคล[3]

การดำเนินงาน

องค์การสะพานปลา เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้จากการจำหน่ายสัตว์น้ำ น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมง และค่าบริการ ค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยรายได้ส่วนใหญ่มากจากค่าบริการ ค่าธรรมเนียม (95.2 ล้านบาท) และการจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์แปรรูป (92.1 ล้านบาท) รวมมูลค่ารายได้ในปี พ.ศ. 2553 จำนวน 320 ล้านบาท แต่องค์การสะพานปลา มีรายจ่ายประจำในการบริหารและการดำเนินงานกว่า 174 ล้านบาท รวมแล้วในปี พ.ศ. 2553 มีกำไรสุทธิจำนวน 1.18 ล้านบาท[4]

องค์การสะพานปลา ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2563[5]

สะพานปลา

องค์การสะพานปลา มีอำนาจจัดตั้งสะพานปลา โดยการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปัจจุบันมีสะพานในความดูแลขององค์การสะพานปลา จำนวน 4 แห่ง ได้แก่[6]

  1. สะพานปลากรุงเทพ เป็นท่าเทียบติดแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 62 ตรงข้ามวัดสุทธิวราราม ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2496[7] เป็นตลาดกลางในการประมูลซื้อขายแลกเปลี่ยนสัตว์น้ำแหล่งสำคัญของกรุงเทพฯ
  2. สะพานปลาสมุทรปราการ ตั้งอยู่ที่ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2525[8]
  3. สะพานปลาสมุทรสาคร ริมแม่น้ำท่าจีน ถนนวิเชียรโชฎก ตำบลมหาชัย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ก่อตั้งเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2511[9] เป็นสะพานที่ใหญ่เป็นลำดับ 2 รองจากสะพานปลากรุงเทพ[10]
  4. สะพานปลานครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ที่ตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547[11]

ท่าเทียบเรือประมง

องค์การสะพานปลา มีสำนักงานท่าเทียบเรือประมง ในความดูแลจำนวน 14 แห่ง ได้แก่

  • ระนอง
  • หัวหิน
  • อ่างศิลา
  • ตราด
  • ปราณบุรี
  • สงขลา 1
  • สงขลา 2
  • นราธิวาส
  • ชุมพร
  • ชุมพร หลังสวน
  • สตูล
  • สุราษฎร์ธานี
  • ภูเก็ต
  • ปัตตานี

อ้างอิง

  1. ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เล่ม 132 ตอนที่ 91ก วันที่ 25 กันยายน 2558
  2. เปิดวิสัยทัศน์ “ปรีดา ยังสุขสถาพร” ผอ.องค์การสะพานปลาคนใหม่
  3. พระราชบัญญัติจัดระเบียบแพปลา พ.ศ. 2496
  4. "รายงานของผู้สอบบัญชีและงบการเงิน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2012-03-22.
  5. องค์การสะพานปลา เปิดรับสมัครหามือบริหารนั่งแท่น ผอ.อสป.คนใหม่ ภายใน 17 พ.ค.นี้
  6. ทำเนียบสะพานปลาในประเทศไทย
  7. ประกาศองค์การสะพานปลา เรื่อง ตั้งสะพานปลากรุงเทพ
  8. ประกาศองค์การสะพานปลา เรื่อง ตั้งสะพานปลาสมุทรปราการ
  9. ประกาศองค์การสะพานปลา เรื่อง ตั้งสะพานปลาสมุทรสาคร
  10. สะพานปลาสุมรสาคร[ลิงก์เสีย] จากเว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม
  11. ประกาศองค์การสะพานปลา เรื่อง ตั้งสะพานปลานครศรีธรรมราช