กรมวิชาการเกษตร
Department of Agriculture | |
ภาพรวมกรม | |
---|---|
ก่อตั้ง | 1 ตุลาคม พ.ศ. 2515 |
ประเภท | ส่วนราชการ |
เขตอำนาจ | ทั่วราชอาณาจักร |
สำนักงานใหญ่ | เลขที่ 50 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 |
บุคลากร | 7,367 คน (พ.ศ. 2566)[1] |
งบประมาณต่อปี | 4,045,619,900 บาท (พ.ศ. 2568)[2] |
ฝ่ายบริหารกรม |
|
ต้นสังกัดกรม | กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของกรม |
กรมวิชาการเกษตร เป็นส่วนราชการระดับกรม ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 เพื่อการศึกษา วิจัยและพัฒนาพืช เครื่องจักรกลการเกษตร และปัจจัยการผลิต ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร[3]
ประวัติ
[แก้]กรมวิชาการเกษตรได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2515 โดยก่อนที่จะมาเป็นกรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน ได้มีการก่อตั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2446 จัดตั้งกรมช่างไหมขึ้นในกระทรวงเกษตราธิการ ซึ่งถือเป็นการกำเนิดงานด้านวิชาการเกษตร จนกระทั่งในปี 2515 ได้มีการรวม "กรมการข้าว" กับ "กรมกสิกรรม" เพื่อสถาปนาเป็น กรมวิชาการเกษตร
การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก
[แก้]กรมวิชาการเกษตร ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบการจัดงาน มหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 (อังกฤษ: International Horticulture Exposition for His Majesty the King; Royal Flora Ratchapruek 2006) หรือเรียกย่อๆว่า ราชพฤกษ์ 2549 เป็นงานมหกรรมจัดแสดงด้านพืชสวนกลางแจ้ง จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 – 28 กุมภาพันธ์ 2550 ณ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 2,404 ล้านบาท จัดขึ้นในนามของรัฐบาลไทย และสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนของสมาพันธ์ดอกไม้โลก (WFC) และสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (ISHS) และการรับรองมาตรฐานมหกรรมระดับโลก ระดับ A1 (มาตรฐานมหกรรมขั้นสูงสุด) การจัดงานจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH)[4] และสำนักงานมหกรรมโลก (BIE)[5] โดยประเทศไทยนับเป็นประเทศที่สามในทวีปเอเชีย ที่ได้รับรองการจัดงานมหกรรมระดับโลกจาก BIE ต่อจากจีน และญี่ปุ่น[5]
และได้รับมอบหมายให้จัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 อีกครั้งหนึ่ง
หน่วยงานในสังกัด
[แก้]การแบ่งส่วนราชการกรมวิชาการเกษตร มีดังนี้[6]
- สํานักงานเลขานุการกรม
- กองการเจ้าหน้าที่
- กองคลัง
- กองแผนงานและวิชาการ
- กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช
- กองวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร
- กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร
- กองวิจัยพัฒนาพืชเศรษฐกิจใหม่และ
การจัดการก๊าซเรือนกระจก สำหรับภาคเกษตร
- ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
- สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรม
- สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน
- สถาบันวิจัยพืชสวน
- สํานักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร
- สํานักคุ้มครองพันธุ์พืช
- สํานักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช
- สํานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ
หน่วยงานจัดตั้งภายใน
[แก้]- สำนักนิติการ
- กองประสานงานโครงการพระราชดำริ
- กองการยาง
- กองวิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช
- กองวิจัยพัฒนาพืชเศรษฐกิจใหม่และการจัดการแก๊สเรือนกระจกสำหรับภาคเกษตร
หน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค
[แก้]- สํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1-8
- ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัด 54 ศูนย์
- ด่านตรวจพืช 48 ด่าน
- ศูนย์ควบคุมยาง 6 ศูนย์
- ศูนย์วิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตรขอนแก่น
- ศูนย์วิจัยพืชไร่ 10 ศูนย์
- ศูนย์วิจัยพืชสวน 10 ศูนย์
- ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรม 4 ศูนย์
- ศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืช 5 ศูนย์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ รายงานประจำปี 2566 กรมวิชาการเกษตร
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๔๘, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ กรมวิชาการเกษตร จัดงานใหญ่ "5 ทศวรรษแห่งการพัฒนาวิชาการเกษตรไทยฯ"
- ↑ จดหมายข่าวมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ฉบับที่ 4 ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548
- ↑ 5.0 5.1 จดหมายข่าวมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ฉบับที่ 7 ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2549
- ↑ แผนภูมิโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการ