เอนก เหล่าธรรมทัศน์
เอนก เหล่าธรรมทัศน์ | |
---|---|
เอนก ใน พ.ศ. 2565 | |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 5 สิงหาคม พ.ศ. 2563 – 1 กันยายน พ.ศ. 2566 (3 ปี 27 วัน) | |
นายกรัฐมนตรี | ประยุทธ์ จันทร์โอชา |
ก่อนหน้า | สุวิทย์ เมษินทรีย์ |
ถัดไป | ศุภมาส อิศรภักดี |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 20 มกราคม พ.ศ. 2497 อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ประชาธิปัตย์ (2544–2547) มหาชน (2547–2548) รวมใจไทยชาติพัฒนา (2550–2551) รวมพลัง (2561–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | ศาสตราจารย์ พญ.จิรพร เหล่าธรรมทัศน์ |
ลายมือชื่อ | |
ศาสตราจารย์พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ (เกิด 20 มกราคม พ.ศ. 2497[1]) นักวิชาการและนักการเมืองชาวไทย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมาชิกและกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[2] ที่ปรึกษาและกรรมการคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ประธานกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง[3] ในรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 7/2560 ประธานคณะกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ ตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 14/2560 อธิการ วิทยาลัยบริหารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต นักวิชาการและนักการเมือง อดีตหัวหน้าพรรคมหาชน และอดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเจ้าของทฤษฎี "สองนคราประชาธิปไตย" ที่สรุปว่า "คนต่างจังหวัดตั้งรัฐบาล คนกรุงเทพฯล้มรัฐบาล" เคยได้รับสมญานามจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง"[4][5]
ประวัติ
[แก้]ศาสตราจารย์พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ จบการศึกษาชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก หลังจากนั้นปี พ.ศ. 2515 ได้สอบเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต่อมาได้ร่วมก่อตั้ง พรรคจุฬาประชาชน ปี พ.ศ. 2519 ได้รับเลือกตั้งเป็น นายกสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[6] เมื่อเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ได้ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ในป่าที่ เขตจังหวัดพัทลุง ตรัง และสตูลอยู่ประมาณ 4 ปี
เมื่อเหตุการณ์สงบแล้วจึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางการศึกษาจากแพทยศาสตร์มาศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สมรสกับจิรพร และไปศึกษาต่อด้วยกันที่นั่น โดยได้เข้าศึกษาในระดับปริญาตรีที่วิทยาลัยชาร์ลสตัน จากนั้นก็ได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยจอร์เจีย จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท และต่อมาก็ได้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งสำเร็จการศึกษาเป็นคนแรกในระดับชั้น เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็ได้รับมอบหมายให้สอนวิชาเศรษฐกิจการเมืองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและคณบดี คณะรัฐศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้รับเชิญไปเป็นศาสตราจารย์เยี่ยมเยือนที่วิทยาลัยระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูงพอล เอช. นิทซ์ (SAIS) ของมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อีกด้วย[7]
เอนกได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษ สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553[8]
ครอบครัว
[แก้]เอนกสมรสกับจิรพร เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ มีบุตรทั้งสิ้น 4 คน คือ อิศรา เหล่าธรรมทัศน์ (อิศ) เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ (เขต) อินทิรา เหล่าธรรมทัศน์ (อิน) และเขมรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ (เขม) และเป็นอาของจุฑาภัทร เหล่าธรรมทัศน์ (น้องพลับ) นักร้อง นักแสดง และจุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ (พลัม) ผู้จัดการและเจ้าของโรงแรมห้าดาว เทวมันตร์ทรา รีสอร์ท จังหวัดกาญจนบุรี
ชีวิตทางการเมือง
[แก้]เอนกเริ่มชีวิตทางการเมืองโดยเป็นที่ปรึกษาให้กับมารุต บุนนาค ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มีส่วนร่วมในการก่อตั้ง สถาบันพระปกเกล้า ต่อมาในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธได้เป็นที่ปรึกษาให้กับจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนจะมาเป็นที่ปรึกษาให้กับ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลชวน 2
ช่วงหลังจากนั้นจึงได้มีบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์ จนสุดท้ายได้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ต่อมาเมื่อพลตรีสนั่น เกิดความขัดแย้งกับ สมาชิกพรรคสายนายชวน หลีกภัย และลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เอนกก็ลาออกตามสนั่นมาก่อตั้งพรรคมหาชน และรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคมหาชนคนแรก หลังก่อตั้งพรรคได้ไม่นานนัก พรรคก็ต้องส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในไทย พ.ศ. 2548 และได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพียง 2 คนจากที่เคยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 20 คน เอนกในฐานะหัวหน้าพรรคจึงแสดงความรับผิดชอบโดยลาออกจากตำแหน่ง และต่อมากรรมการบริหารพรรคมหาชนมีมติให้สนั่นรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งในหาเสียงเลือกตั้งคราวนี้เอนกได้ถูกปรามาสจาก พ.ต.ท.ด.ร.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยว่าเป็นเพียง "ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง"
ปัจจุบันเอนก เป็นนักวิชาการ และอธิการวิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต และเป็นกรรมการสถามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เอนกได้แต่งหนังสือกว่าสิบเล่ม โดยเฉพาะหนังสือ "สองนคราประชาธิปไตย" ที่กล่าวว่าการเมืองในประเทศไทยนั้น คนจากชนบทจัดตั้งรัฐบาล คนในกรุงเทพมหานครเป็นผู้ล้มรัฐบาล และมีหนังสือ "พิศการเมือง" ที่กล่าวถึงประวัติของตนเอง ช่วงการก่อตั้งพรรคมหาชน จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ openbooks
ในกลางปี พ.ศ. 2550 เอนกได้ร่วมกับประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ คือ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่เอนกก็ได้ลาออกจากพรรคดังกล่าวในปีต่อมา[9]
หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 2557
[แก้]เขาดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาและกรรมการคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 7/2560 และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ ตามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ 14/2560 เขาเคยกล่าวในเวทีเสวนาว่า เขาเคยเข้าร่วมชุมนุม เหตการณ์ 14 ตุลา ซึ่ง ถ้าเขารู้ว่าประชาธิปไตยเป็นแบบนี้ เขาจะไม่เข้าร่วมชุมนุม 14 ตุลาหรอก[10]
ในปี พ.ศ. 2561 เอนกเป็นสมาชิก และกรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งต่อมาเอนกดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี พ.ศ. 2564[11] หลังจากนั้นพรรคได้เปลี่ยนชื่อเป็นพรรครวมพลัง ในปี พ.ศ. 2565[12]
ในปี พ.ศ. 2563 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปรับคณะรัฐมนตรีเดือนสิงหาคม[13]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
[แก้]ศาสตราจารย์ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 2 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรครวมพลัง (เลื่อนแทน)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2557 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[14]
- พ.ศ. 2552 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[15]
- พ.ศ. 2558 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 4 จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)[16]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ประวัติผู้สมัคร ส.ส.[ลิงก์เสีย]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๑๙ ง หน้า ๑๐, ๑๗ มกราคม ๒๕๖๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ, เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๐๕ ง หน้า ๑, ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๐
- ↑ ย้อนรอย “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” ฉายาไอ้หนุ่มซินตึ๊ง
- ↑ 'ธนาธร'เคืองแค้นไทยไปทำไม'เอนก'กระตุกสำนึกไม่มีแผ่นดินไหนให้โอกาสคนพันธุ์อื่นได้ดีกว่าประเทศไทย
- ↑ "รายนามนายกสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-19. สืบค้นเมื่อ 2012-06-12.
- ↑ มหาวิทยาลัยของผม: ในอเมริกา เอนก เหล่าธรรมทัศน์
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งศาสตราจารย์พิเศษ, เล่ม ๑๒๗ ตอนพิเศษ ๑๐๔ ง หน้า ๑๗, ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓
- ↑ ""เอนก"ไขก๊อกลาออกจากพรรครวมใจไทยฯ อ้างอยากกลับไปเป็นนักวิชาการ". ryt9.com. 24 Apr 2008. สืบค้นเมื่อ 4 Aug 2022.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ เมื่อ “เอนก” บอก “ถ้าย้อนเวลาได้ อาจไม่ร่วม 14 ตุลาฯ”
- ↑ ""เอนก" นั่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย คนใหม่". Thai PBS. 2021-11-21. สืบค้นเมื่อ 2022-08-04.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Pafun (2022-04-24). "พรรคสุเทพ เปลี่ยนชื่อเป็น "พรรครวมพลัง" แต่งตั้งเลขาธิการพรรคใหม่". ประชาชาติธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 2022-08-04.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี, เล่ม ๑๓๗ ตอนพิเศษ ๑๘๐ ง หน้า ๑, ๖ สิงหาคม ๒๕๖๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๗, เล่ม ๑๓๑ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๗, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๒๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๘, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๒ ข หน้า ๒๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]ก่อนหน้า | เอนก เหล่าธรรมทัศน์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สุวิทย์ เมษินทรีย์ | รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ครม. 62) (5 สิงหาคม พ.ศ. 2563 - 1 กันยายน พ.ศ. 2566) |
ศุภมาส อิศรภักดี |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2497
- สกุลเหล่าธรรมทัศน์
- บุคคลจากอำเภอแจ้ห่ม
- นักวิชาการจากจังหวัดลำปาง
- อาจารย์คณะรัฐศาสตร์
- ศาสตราจารย์พิเศษ
- นักการเมืองจากจังหวัดลำปาง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ
- สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
- พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
- นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์
- พรรคมหาชน
- พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2550)
- พรรครวมพลัง
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 14 ตุลา
- บุคคลจากโรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง
- บุคคลจากโรงเรียนอัสสัมชัญ
- บุคคลจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- นายกองค์การนักศึกษาในประเทศไทย
- ศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย
- บุคคลจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จ.ภ.
- หัวหน้าพรรคการเมืองในประเทศไทย
- ผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองในประเทศไทย