ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทยพรีเมียร์ลีก"
บรรทัด 872: | บรรทัด 872: | ||
|- |
|- |
||
| ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
| ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ |
||
| <center> |
| <center>4 |
||
| [[สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ|บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด]]<sup>**</sup> ( |
| [[สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ|บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด]]<sup>**</sup> (4) |
||
|- |
|- |
||
| ภาคตะวันออก |
| ภาคตะวันออก |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:24, 2 พฤศจิกายน 2557
ประเทศ | ไทย |
---|---|
สมาพันธ์ | เอเอฟซี |
ก่อตั้ง | 2539 |
จำนวนทีม | 20 |
ตกชั้นสู่ | ไทยลีกดิวิชัน 1 |
ถ้วยภายในประเทศ | เอฟเอคัพ ลีกคัพ ถ้วยพระราชทาน ก |
ถ้วยระดับนานาชาติ | เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก เอเอฟซีคัพ |
ทีมชนะเลิศปัจจุบัน | แม่แบบ:บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (2556) |
ชนะเลิศมากที่สุด | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3) |
หุ้นส่วนโทรทัศน์ | ทรูวิชั่นส์, สยามกีฬาทีวี |
เว็บไซต์ | ThaiPremierLeague.co.th |
ฤดูกาล 2557 |
ไทยพรีเมียร์ลีก (อังกฤษ: Thai Premier League; ชื่อเดิม: ไทยลีก, ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก, ไทยแลนด์ซอกเกอร์ลีก) เป็นการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ระดับสูงสุดของประเทศไทย บริหารงานโดย บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ซึ่งถือหุ้นโดยสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสโมสรฟุตบอลที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้ง 18 ทีม ตามปกติจะดำเนินการจัดแข่งขัน ระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี โดยแต่ละทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 34 นัดต่อทีมต่อฤดูกาล รวมทั้งหมด 306 นัดต่อฤดูกาล ซึ่งการแข่งขันส่วนมาก จะมีขึ้นในวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่บางนัดอาจแข่งขันในวันอังคารหรือวันพุธ ทั้งนี้ ในฤดูกาลปัจจุบัน (พ.ศ. 2556) เป็นการแข่งขันครั้งที่ 18 และมีผู้สนับสนุนหลักคือบริษัท โตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงมีชื่อเรียกว่า โตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก
ประวัติ
เมื่อปี พ.ศ. 2539 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ปรับปรุงระบบการแข่งขันฟุตบอลในประเทศ จากวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นเลิศ มาเป็นรูปแบบอาชีพ โดยเริ่มก่อตั้งฟุตบอลลีกสูงสุดขึ้น ซึ่งมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมแข่งขัน เริ่มแรกที่ 10 ทีม ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 12 ทีมในเวลาต่อมา โดยในปี พ.ศ. 2550 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ การยุบโปรวินเชียลลีกโดยให้สโมสร 4 อันดับแรก เข้าแข่งขันในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกแทน รวมจำนวนสโมสรในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกเป็น 16 ทีม พร้อมทั้งเพิ่มเงื่อนไขให้สโมสรซึ่งอยู่ใน 3 อันดับสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล ต้องตกชั้นไปสู่ไทยลีกดิวิชัน 1 โดยมีทีมชนะเลิศ กับอันดับ 2 และ 3 ของไทยลีกดิวิชัน 1 ขึ้นชั้นมาสู่ไทยพรีเมียร์ลีกเป็นการทดแทน ทั้งนี้ สโมสรฟุตบอลชลบุรี กลายเป็นทีมแรกซึ่งเพิ่งเข้ามาจากโปรวินเชียลลีก แล้วชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลเดียวกัน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ออกระเบียบว่าด้วยความเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผลให้สมาคมฯ ต้องดำเนินการจัดตั้ง บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ขึ้นเพื่อเป็นผู้จัดการแข่งขัน ฟุตบอลลีกภายในประเทศ อย่างเป็นอาชีพที่แท้จริง โดยมีวิชิต แย้มบุญเรือง เป็นประธานกรรมการ และออกระเบียบให้ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพ ต้องจัดตั้งในรูปนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อดำเนินการบริหารสโมสร ส่งผลให้มีการแข่งขันเชิงรูปแบบ การบริหารจัดการให้เป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น รวมทั้งแพร่หลายออกไปยังส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ จากเดิมที่สโมสรฟุตบอลต่างๆ จะกระจุกตัวอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น จึงกลับมาเป็นที่นิยมของแฟนฟุตบอลไทยอีกครั้ง โดยในฤดูกาล 2554 สมาคมฯ ประกาศเพิ่มจำนวนสโมสรที่ได้สิทธิ เลื่อนชั้นขึ้นจากลีกดิวิชัน 1 เป็นผลให้ไทยพรีเมียร์ลีก มีสโมสรที่เข้าแข่งขันรวมเป็น 18 ทีม
สืบเนื่องจากกรณีที่ สโมสรฟุตบอลอีสานยูไนเต็ด ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาว่า สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ มีสิทธิทำการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2556 หรือไม่ หลังจากแข่งขันผ่านไปได้ 3 นัด ซึ่งระหว่างการพิจารณา ศาลปกครองมีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว เป็นผลให้ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ต้องลงมติให้พักการแข่งขันของสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว โดยเมื่อศาลปกครองวินิจฉัยให้สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ มีสิทธิทำการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกได้ต่อไป สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จึงประชุมร่วมกับ บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก สโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ และสโมสรสมาชิกทั้งหมด โดยที่ประชุมลงมติให้การแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก เพิ่มสมาชิกเป็น 20 สโมสรฟุตบอล ตั้งแต่ฤดูกาล 2557 เป็นต้นไป ด้วยการให้สโมสรอันดับที่ 17 ลงไปแข่งขันในไทยลีกดิวิชัน 1 เพียงแห่งเดียว และให้ทีมชนะเลิศ, อันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 ของไทยลีกดิวิชัน 1 ขึ้นมาแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกตามเดิม[ต้องการอ้างอิง]
ชื่อรายการแข่งขัน
- ครั้งที่ 17-19 (2556-ปัจจุบัน) : โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก[1] (TOYOTA Thai Premier League)
- ครั้งที่ 14-16 (2553–2555) : สปอนเซอร์ ไทย พรีเมียร์ ลีก (Sponsor Thai Premier League)
- ครั้งที่ 13 (2552) : ไทย พรีเมียร์ ลีก (Thai Premier League)
- ครั้งที่ 11-12 (2549–2551) : ไทยแลนด์ พรีเมียร์ ลีก (Thailand Premier League)
- ครั้งที่ 9-10 (2547–2548) : ไทยลีก (Thai League)
- ครั้งที่ 6-8 (2544–2546) : จีเอสเอ็ม ไทย ลีก (GSM Thai League)
- ครั้งที่ 3-5 (2541–2543) : คาลเท็กซ์ ไทยแลนด์ พรีเมียร์ ลีก (Caltex Thailand Premier League)
- ครั้งที่ 1-2 (2539–2540) : จอห์นนี วอล์กเกอร์ ไทยแลนด์ ซอกเกอร์ ลีก (Johnny Walker's Thailand Soccer League)
เครือข่ายถ่ายทอดโทรทัศน์
- ครั้งที่ 18-20 : มูลค่าลิขสิทธิ์ ปีละ 600 ล้านบาท ทรูวิชันส์
- ครั้งที่ 15-17 : มูลค่าลิขสิทธิ์ ปีละ 200 ล้านบาท ทรูวิชันส์ / สยามสปอร์ตแชนแนล (สยามกีฬาทีวี) / สทท.
- ครั้งที่ 13-14 : มูลค่าลิขสิทธิ์ ปีละ 40 ล้านบาท ดีทีวี / สยามกีฬาทีวี / เอ็นบีที / ทีสปอร์ต
- ครั้งที่ 7-12 : ทรูวิชันส์ / ไทยทีวีสีช่อง 3
- ครั้งที่ 1-6 : ช่อง 7 สี
รูปแบบการแข่งขัน
ไทยพรีเมียร์ลีก มีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งหมด 18 ทีม ตามปกติจะดำเนินการจัดแข่งขัน ระหว่างเดือนมีนาคมถึงตุลาคมของทุกปี โดยแต่ละทีมจะแข่งขันแบบพบกันหมด สองนัดเหย้าเยือนรวม 34 นัดต่อทีมต่อฤดูกาล ซึ่งในแต่ละนัด ทีมชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้ไม่ได้คะแนน ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล สโมสรที่ได้คะแนนรวมสูงสุด จะได้รับรางวัลชนะเลิศ และได้สิทธิไปแข่งขันรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ (กรณีสโมสรที่ชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก และไทยเอฟเอคัพฤดูกาลเดียวกัน เป็นสโมสรเดียวกัน สิทธิแข่งขันเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกรอบเพลย์ออฟ ซึ่งปกติเป็นของสโมสรชนะเลิศไทยเอฟเอคัพ จะตกเป็นของสโมสรที่ได้คะแนนอันดับที่ 2 ของไทยพรีเมียร์ลีกแทน) ส่วนทีมที่ได้คะแนนรองลงมา จะเรียงอันดับลดหลั่นกันตามคะแนนรวมที่ได้ โดยสามอันดับสุดท้าย จะตกชั้นสู่ไทยลีกดิวิชัน 1 และสามอันดับแรก จากไทยดิวิชัน 1 จะขึ้นชั้นมาแทน
ในกรณีที่มีทีมมากกว่า 1 ทีมขึ้นไป ได้คะแนนรวมเท่ากันเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาเรียงลำดับดังนี้
- พิจารณาจากผลการแข่งขันของทีมที่มีคะแนนเท่ากันที่เคยแข่งกันมาในฤดูกาลที่เพิ่งจบการแข่งขัน (Head To Head)
- พิจารณาจากจำนวนครั้งที่ชนะ (Number of Wins) ของแต่ละทีมที่คะแนนเท่ากัน
- พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ และประตูเสีย (Goals Difference)
- พิจารณาเฉพาะประตูได้ (Goals For)
- แข่งขันกันใหม่ 1 นัด เพื่อหาทีมชนะ หากผลการแข่งขันเสมอกันในเวลาปกติให้ตัดสินด้วยการเตะลูกโทษ ณ จุดเตะโทษ
- ในกรณีที่พิจารณาตามเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นตามลำดับแล้วและได้เกณฑ์ตัดสินตามข้อหนึ่งข้อใดแล้วให้ยุติการพิจารณาข้อต่อไป
ในการจัดอันดับระหว่างการแข่งขัน เพื่อแสดงลำดับในตารางคะแนนระหว่างฤดูกาล ให้ใช้เกณฑ์พิจารณาดังต่อไปนี้
- พิจารณาจากคะแนนรวมสูงสุด
- ถ้าคะแนนรวมเท่ากันให้พิจารณาจากผลต่างของประตูได้ ประตูเสีย
- ถ้ายังเท่ากันอีกให้ดูเฉพาะประตูได้
- ถ้ายังเท่ากันอีกให้ทำการจับฉลาก
เงินรางวัล
การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนเงินรางวัล สำหรับสโมสรฟุตบอลซึ่งได้คะแนนรวม เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลในอันดับต่างๆ ดังต่อไปนี้
อันดับที่ | รางวัล |
---|---|
อันดับที่ 1 | 10,000,000 บาท |
อันดับที่ 2 | 3,000,000 บาท |
อันดับที่ 3 | 1,500,000 บาท |
อันดับที่ 4 | 800,000 บาท |
อันดับที่ 5 | 700,000 บาท |
อันดับที่ 6 | 600,000 บาท |
อันดับที่ 7 | 500,000 บาท |
อันดับที่ 8 | 400,000 บาท |
นอกจากนี้ ยังมีเงินบำรุงสโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน สโมสรละ 1,000,000 บาท[ต้องการอ้างอิง] โล่พร้อมเงินรางวัล 100,000 บาท สำหรับผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม และผู้ทำประตูสูงสุด, โล่พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท สำหรับสโมสรที่มีมารยาทยอดเยี่ยม, นักฟุตบอลเยาวชนผู้มีผลงานโดดเด่น และผู้เล่นยอดเยี่ยมตำแหน่งต่างๆ คือผู้รักษาประตู, กองหลัง, กองกลาง, กองหน้า[2]
ทีมชนะเลิศไทยพรีเมียร์ลีก
ผู้ทำประตูสูงสุด
อายุผู้เล่น
ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด
- อาทิตย์ ดาวสว่าง :สโมสรทีโอที เอสซี 16 ปี 4 เดือน 11 วัน (ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2552 ทีโอที 0-0 เมืองทองฯ ยูไนเต็ด วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2552 สนามกีฬากองทัพบก)
ผู้เล่นที่อายุมากที่สุด
- อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์ :สโมสรธนาคารกรุงเทพ 43 ปี 9 เดือน 1 วัน (ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2551 ธนาคารกรุงเทพ 1-2 ชลบุรี เอฟซี วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551 สนามธนาคารกรุงเทพ อุดมสุข)
ผู้จัดการทีม/หัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม
สโมสรที่เข้าร่วมแข่งขัน
สโมสร | สถานที่สนามเหย้า | ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก | อันดับที่ดีที่สุด (ฤดูกาล) | อันดับที่แย่ที่สุด (ฤดูกาล) |
---|---|---|---|---|
ชัยนาท ฮอร์นบิล | ชัยนาท | 2555 - ปัจจุบัน | อันดับ 10 (2556) | อันดับ 14 (2555) |
ชลบุรี เอฟซี | ชลบุรี | 2549-2555 | ชนะเลิศ (2550) | อันดับ 8 (2549) |
เชียงราย ยูไนเต็ด | เชียงราย | 2554-2555 | อันดับ 9 (2555) | อันดับ 10 (2554) |
การท่าเรือ | คลองเตย | 2539-2555 | อันดับ 2 (2542) | อันดับ 13 (2551) |
ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ | แม่ริม เชียงใหม่ | 2539, 2544-51 (พนักงานยาสูบ), 2552 (ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร), 2553-2554 (ทีทีเอ็ม เอฟซี พิจิตร), 2555 (ทีทีเอ็ม เอฟซี เชียงใหม่) |
ชนะเลิศ (2547/48) | อันดับ 13 (2539) |
ทีโอที เอสซี | หลักสี่ | 2539-46 (องค์การโทรศัพท์), 2547-48 (ทศท), 2550-52 (ทีโอที), 2553-2555 (ทีโอที แคท) | อันดับ 3 (2539) | อันดับ 14 (2554) |
พัทยา ยูไนเต็ด | เมืองพัทยา (บางละมุง) | 2551 (โค้ก-บางพระ ยุไนเต็ด), 2552-2555 (พัทยา ยูไนเต็ด) | อันดับ 4 (2554) | อันดับ 15 (2555) |
บางกอกกล๊าส | ธัญบุรี ปทุมธานี | 2539, 2541-51 (ธ.กรุงไทย), 2552-2555 (บางกอกกล๊าส) | ชนะเลิศ (2545/46, 2546/47) | อันดับ 17 (2539) |
บีบีซียู | บางกะปิ | 2539-2546/47 (สินธนา), 2551-2552 (จุฬา ยูไนเต็ด),2555 | ชนะเลิศ (2541) | อันดับ 15 (2552) |
บีอีซี เทโรศาสน | มีนบุรี | 2539-2555 | ชนะเลิศ (2543, 2544/45) | อันดับ 12 (2539) |
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | บุรีรัมย์ | 2547-2555 | ชนะเลิศ (2551,2554,2556) | อันดับ 10 (2549) |
เมืองทอง ยูไนเต็ด | ปากเกร็ด | 2552-2555 | ชนะเลิศ (2552, 2553, 2555) | อันดับ 3 (2554) |
สงขลา ยูไนเต็ด | สงขลา | 2555 | - | - |
ศรีสะเกษ เอฟซี | ศรีสะเกษ | 2553-2555 | อันดับ 12 (2554) | อันดับ 14 (2553) |
อินทรีเพื่อนตำรวจ | คลองหลวง | 2550, 2553-2555 | อันดับ 9 (2554) | อันดับ 16 (2550) |
สมุทรสงคราม | สมุทรสงคราม | 2551-2555 | อันดับ 7 (2551, 2552) | อันดับ 15 (2554) |
อาร์มี่ ยูไนเต็ด | พญาไท | 2539-2542, 2549-2551, 2553-2555 | อันดับ 5 (2550) | อันดับ 16 (2553) |
โอสถสภา เอ็ม-150 | สระบุรี | 2539, 2541-2555 | อันดับ 2 (2544/45, 2549) | อันดับ 10 (2541) |
สนามที่ใช้แข่งขัน (ฤดูกาลปัจจุบัน 2557)
อันดับในแต่ละฤดูกาล ของสโมสรที่เข้าแข่งขัน
ครั้งที่ | 2539 | 2540 | 2541 | 2542 | 2543 | 2544/45 | 2545/46 | 2546/47 | 2547/48 | 2549 | 2550 | 2551 | 2552 | 2553 | 2554 | 2555 | 2556 | 2557 | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชัยนาท ฮอร์นบิล | 14 | 10 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
กรุงเทพคริสเตียน | 10 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ชลบุรี | 8 | C | 2 | 2 | 3 | 2 | 2 | 3 | |||||||||||||||||||||||||||
บีอีซี เทโรศาสน | 12 | 5 | 3 | 3 | C | C | 2 | 2 | 6 | 3 | 3 | 3 | 4 | 9 | 8 | 3 | 7 | ||||||||||||||||||
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 2 | 10 | 8 | C | 9 | 2 | C | 4 | C | C | |||||||||||||||||||||||||
โอสถสภา สระบุรี | 14 | 10 | 4 | 8 | 2 | 6 | 3 | 3 | 2 | 9 | 4 | 5 | 7 | 6 | 5 | 8 | |||||||||||||||||||
ศรีสะเกษ | 14 | 12 | 6 | ||||||||||||||||||||||||||||||||
สมุทรสงคราม | 7 | 10 | 8 | 15 | 7 | 16 | |||||||||||||||||||||||||||||
บางกอกกล๊าส | 17 | 9 | 10 | 10 | 7 | C | C | 5 | 9 | 2 | 6 | 3 | 5 | 5 | 8 | 5 | |||||||||||||||||||
เชียงราย ยูไนเต็ด | 10 | 9 | 11 | ||||||||||||||||||||||||||||||||
ทหารบก | 8 | 9 | 7 | 11 | 6 | 5 | 15 | 16 | 13 | 10 | 6 | ||||||||||||||||||||||||
ทีโอที | 3 (2) | 8 | 6 | 5 | 12 | 9 | 9 | 9 | 10 | 5 | 7 | 12 | 14 | 11 | 14 | ||||||||||||||||||||
อินทรีเพื่อนตำรวจ | 10 | 11 | 7 | 11 | 16 | 11 | 9 | 12 | 9 | ||||||||||||||||||||||||||
วัวชน ยูไนเต็ด | 13 | 12 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
พัทยา ยูไนเต็ด | 11 | 12 | 6 | 4 | 15 | 17 | |||||||||||||||||||||||||||||
การท่าเรือไทย | 11 | 4 | 4 | 2 | 5 | 6 | 3 | 5 | 4 | 7 | 12 | 13 | 6 | 4 | 7 | 16 | |||||||||||||||||||
บีบีซียู | 6 | 2 | C | 7 | 11 | 5 | 7 | 10 | 8 | 15 | 17 | ||||||||||||||||||||||||
ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ | 13 | 8 | 8 | 8 | C | 4 | 6 | 12 | 8 | 13 | 11 | 18 | |||||||||||||||||||||||
ราชบุรี | 15 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
แบงค็อก ยูไนเต็ด | 4 | 7 | C | 4 | 10 | 13 | 15 | 13 | |||||||||||||||||||||||||||
สุพรรณบุรี | 12 | 13 | 4 | ||||||||||||||||||||||||||||||||
ปตท.ระยอง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชนาวี-ระยอง | 9 | 12 | 6 | 10 | 7 | 10 | 15 | 11 | 10 | 16 | |||||||||||||||||||||||||
ศรีราชา | 14 | 17 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
นครปฐม | 11 | 9 | 16 | ||||||||||||||||||||||||||||||||
ไทยฮอนด้า | 11 | 14 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ทหารอากาศ | 7 | C | 2 | C | 2 | 4 | 5 | 9 | |||||||||||||||||||||||||||
ศุลกากร | 16 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาร์แบค-บีอีซี | 2 (4) | 7 | 11 | 9 | 4 | 12 | |||||||||||||||||||||||||||||
ราชประชา | 5 | 10 | 12 | ||||||||||||||||||||||||||||||||
ราชวิถี | 16 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||
ธ.กสิกรไทย | 3 (1) | 6 | 8 | 6 | 3 | ||||||||||||||||||||||||||||||
ธ.กรุงเทพ | C (3) | 3 | 5 | 8 | 9 | 3 | 4 | 6 | 8 | 5 | 7 | 14 | |||||||||||||||||||||||
เมืองทอง ยูไนเต็ด | C | C | 3 | C | 2 | ||||||||||||||||||||||||||||||
ไดสตาร์กรุงเทพ | 15 | 12 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
ธำรงไทยสโมสร | 18 |
ชนะเลิศ | |
รองชนะเลิศ | |
5 อันดับแรก | |
ตกชั้น | |
ไม่ได้เข้าร่วม |
สโมสรที่ชนะเลิศการแข่งขันมากที่สุด
สโมสรที่ชนะเลิศการแข่งขัน-แยกตามรายชื่อสโมสร
สโมสร | จำนวนครั้ง | ปีที่ชนะเลิศ |
---|---|---|
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 2551, 2554,2556,2557 | |
เมืองทองฯ ยูไนเต็ด | 2552, 2553, 2555 | |
บีอีซี เทโรศาสน | 2543, 2544/45 | |
ธ.กรุงไทย | 2545/46, 2546/47 | |
ทหารอากาศ | 2540, 2542 | |
ธ.กรุงเทพ | 2539 | |
ม.กรุงเทพ | 2549 | |
ชลบุรี | 2550 | |
สินธนา | 2541 | |
พนักงานยาสูบ | 2547/48 |
สโมสรที่ชนะเลิศการแข่งขัน-แยกตามจังหวัด
จังหวัด | ครั้ง | สโมสร |
---|---|---|
กรุงเทพ | บีอีซี เทโรศาสน (2), ธ.กรุงไทย (2), ทหารอากาศ (2), ธ.กรุงเทพ (1), ม.กรุงเทพ (1), พนักงานยาสูบ(1), สินธนา* (1) | |
นนทบุรี | เมืองทองฯ ยูไนเต็ด (3) | |
บุรีรัมย์ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด** (2) | |
อยุธยา | การไฟฟ้า** (1) | |
ชลบุรี | ชลบุรี (1) |
* สินธนา แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บีบีซียู ** บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ 1 ครั้งในชื่อ การไฟฟ้า ในขณะนั้นใช้สนามเหย้าที่อยุธยา และได้แชมป์อีก 2 ครั้งในชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ
สโมสรที่ชนะเลิศการแข่งขัน-แยกตามภาค
ภาค | จำนวน | สโมสร |
---|---|---|
กรุงเทพและปริมณฑล | บีอีซี เทโรศาสน (2), ธ.กรุงไทย (2), เมืองทองฯ ยูไนเต็ด (3), ทหารอากาศ (2), ธ.กรุงเทพ (1), ม.กรุงเทพ (1), สินธนา** (1), พนักงานยาสูบ*** (1)*** | |
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด** (4) | |
ภาคตะวันออก | ชลบุรี (1) | |
ภาคเหนือ | ||
ภาคใต้ | ||
ภาคกลาง | ||
ภาคตะวันตก |
* สินธนา แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บีบีซียู ** บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์ 1 ครั้งในชื่อ การไฟฟ้า ในขณะนั้นใช้สนามเหย้าที่อยุธยา และได้แชมป์อีก 2 ครั้งที่ บุรีรัมย์ *** พนักงานยาสูบ ได้แชมป์ในขณะที่ยังอยู่ในกรุงเทพ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ และย้ายสนามเหย้าไปที่จังหวัดเชียงใหม่
สโมสรไทยจับมือเป็นพันธมิตรกับสโมสรญี่ปุ่น
เมื่อปี พ.ศ. 2555 บจก.ไทยพรีเมียร์ลีก ลงนามข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับเจลีกของญี่ปุ่น โดยมีเนื้อหาครอบคลุมดังต่อไปนี้
- มีการแลกเปลียนข้อมูลที่จะนำไปพัฒนาการจัดการแข่งขันฟุตบอลในลีกของตัวเอง
- มีการแลกเปลียนองค์ความรู้ เป็นเจ้าภาพในการจัดฟุตบอลคลินิก ตลอดจนการอบรมสัมมนาให้ความรู้ เกี่ยวกับการบริหารจัดการของสโมสรในประเทศ
- มีการแลกเปลี่ยนการฝึกอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน นักกีฬา และบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงการจัดแข่งขันและสถาบันฝึกอบรม (Academy)
- มีการจัดแมตช์กระชับมิตรระหว่างสโมสรไทยและญี่ปุ่น
- เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แมตช์อุ่นเครื่องกระชับมิตร และการเข้าแคมป์เพื่อฝึกซ้อมของนักกีฬาในแต่ละระดับชั้น
- ส่งเสริมให้นักกีฬาไทยมีโอกาสเข้าร่วมสโมสรในเจลีก
- ให้การสนับสนุนในด้านการตลาด
- ให้การสนับสนุนในการถ่ายทอดแมตช์การแข่งขันของแต่ละประเทศ
- ส่งเสริมความร่วมมือกับสโมสรในลีกอื่นๆ
- ร่วมกันจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคมภายในประเทศ
และส่งผลให้สโมสรไทยลีกและสโมสรเจลีก เริ่มจับมือเป็นพันธมิตรกัน ดังนี้
- ชัยนาท ฮอร์นบิล กับ คาชิวา เรย์โซล
- เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ จูบิโล่ อิวาตะ
- บางกอกกล๊าส เอฟซี กับ เซเรโซ่ โอซาก้า
- ชลบุรี เอฟซี กับ วิสเซิ่ล โกเบ
- บีอีซี เทโรศาสน กับ ชิมิสุ เอสพัลส์
- ขอนแก่น เอฟซี กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
- สุพรรณบุรี เอฟซี กับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส