ข้ามไปเนื้อหา

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล2018–19
ชนะเลิศแมนเชสเตอร์ซิตี
แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4
แชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษสมัยที่ 6
ตกชั้นคาร์ดิฟฟ์ซิตี
ฟูลัม
ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์
แชมเปียนส์ลีกแมนเชสเตอร์ซิตี
ลิเวอร์พูล
เชลซี
ทอตนัมฮอตสเปอร์
ยูโรปาลีกอาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด380
จำนวนประตูทั้งหมด1072 (2.82 ต่อนัด)
ผู้ยิงประตูสูงสุดปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์
ซาดีโย มาเน
มุฮัมมัด เศาะลาห์
(คนละ 22 ประตู)
ทีมเหย้าชนะสูงสุดแมนเชสเตอร์ซิตี 6–0 เชลซี
(10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019)
ทีมเยือนชนะสูงสุดคาร์ดิฟฟ์ซิตี 0–5 แมนเชสเตอร์ซิตี
(22 กันยายน ค.ศ. 2018)
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 0–5 บอร์นมัท
(13 เมษายน ค.ศ. 2019)
ประตูสูงสุดเอฟเวอร์ตัน 2–6 ทอตนัมฮอตสเปอร์
(23 ธันวาคม ค.ศ. 2018)
สถิติชนะติดต่อกันสูงสุด14 นัด
แมนเชสเตอร์ซิตี
สถิติไม่แพ้ติดต่อกันสูงสุด20 นัด
ลิเวอร์พูล
สถิติไม่ชนะติดต่อกันสูงสุด14 นัด
ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์
สถิติแพ้ติดต่อกันสูงสุด9 นัด
ฟูลัม
ผู้เข้าชมมากที่สุด81,332 คน
ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1–1 อาร์เซนอล (2 มีนาคม ค.ศ. 2019)[1]
ผู้เข้าชมน้อยที่สุด9,980 คน
บอร์นมัท 2–1 ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ (4 ธันวาคม ค.ศ. 2018)[1]
ผู้เข้าชมทั้งหมด14,508,981 คน[1]
ผู้เข้าชมโดยเฉลี่ย38,182 คน[1]

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 (อังกฤษ: 2018–19 Premier League) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 27 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 จะเริ่มต้นฤดูกาลเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2018 และสิ้นสุดฤดูกาลเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019[2][3] โปรแกรมการแข่งขันประกาศเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2018 โดยมี 17 ทีมจากการแข่งขันเมื่อฤดูกาล 2017–18 เช่นเดียวกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์, คาร์ดิฟฟ์ซิตี และ ฟูลัม ที่มาจากการเลื่อนชั้นจาก อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2017–18 แทนที่ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน, สวอนซีซิตี และ สโตกซิตี ที่ตกชั้นไป อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2018–19[4]

แมนเชสเตอร์ซิตี ทีมที่ชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ชนะเลิศในฤดูกาลนี้อีกครั้ง เป็นสมัยที่ 4 และในลีกสูงสุดอังกฤษเป็นสมัยที่ 6 โดยทีมชนะรวด 14 นัดสุดท้ายทำให้ป้องกันแชมป์ไว้ได้ในวันสุดท้ายของฤดูกาลด้วยคะแนน 98 คะแนน ขณะที่ ลิเวอร์พูล จบรองชนะเลิศด้วยคะแนน 97 คะแนน – เป็นทีมรองชนะเลิศที่ทำคะแนนสูงสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษ

ทีม

[แก้]

ทีมเข้าแข่งขันมีทั้งหมด 20 ทีมโดยมี 17 ทีมมาจากฤดูกาลก่อนหน้า และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากอีเอฟแอลแชมเปียนชิป

สนาม

[แก้]
ทีม ที่ตั้ง สนาม ความจุ
อาร์เซนอล ลอนดอน (ฮอลโลเวย์) เอมิเรตส์สเตเดียม 59,867
บอร์นมัท บอร์นมัท วีทาลีตีสเตเดียม 11,360
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ไบรตัน อาแม็กซ์สเตเดียม 30,666
เบิร์นลีย์ เบิร์นลีย์ เทิร์ฟมัวร์ 21,944
คาร์ดิฟฟ์ซิตี คาร์ดิฟฟ์ คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม 33,300
เชลซี ลอนดอน (ฟูลัม) สแตมฟอร์ดบริดจ์ 41,631
คริสตัลพาเลซ ลอนดอน (เซลเฮิสต์) เซลเฮิสต์พาร์ก 25,456
เอฟเวอร์ตัน ลิเวอร์พูล กูดิสันพาร์ก 39,572
ฟูลัม ลอนดอน (ฟูลัม) เครเวนคอตทิจ 25,700
ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ ฮัดเดอส์ฟีลด์ สนามกีฬาจอห์นสมิทส์ 24,169
เลสเตอร์ซิตี เลสเตอร์ คิงเพาเวอร์สเตเดียม 32,312
ลิเวอร์พูล ลิเวอร์พูล แอนฟีลด์ 53,394
แมนเชสเตอร์ซิตี แมนเชสเตอร์, เกรเตอร์แมนเชสเตอร์ สนามกีฬาเอทิฮัด 55,017
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แทรฟฟอร์ด, เกรเตอร์แมนเชสเตอร์ โอลด์แทรฟฟอร์ด 74,994
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด นิวคาสเซิลอะพอนไทน์ เซนต์เจมส์พาร์ก 52,405
เซาแทมป์ตัน เซาแทมป์ตัน เซนต์แมรีส์สเตเดียม 32,505
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ลอนดอน (ทอตนัม) สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ 62,062
วอตฟอร์ด วอตฟอร์ด วิคาริจโรด 21,577
เวสต์แฮมยูไนเต็ด ลอนดอน (สแตรตเฟิร์ด) สนามกีฬาลอนดอน 60,000
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ วุลเวอร์แฮมป์ตัน โมลีนิวส์ 31,700

บุคลากรและชุดแข่งขัน

[แก้]
ทีม ผู้จัดการทีม1 กัปตัน ผู้ผลิตเสื้อ ผู้สนับสนุน (อก) ผู้สนับสนุน (แขนซ้าย)
อาร์เซนอล สเปน อูไน เอเมรี ฝรั่งเศส โกเซียลนี, โลร็องโลร็อง โกเซียลนี พูมา[5] เอมิเรตส์[6] วิสิตรวันดา[7]
บอร์นมัท อังกฤษ ฮาว, เอ็ดดีเอ็ดดี ฮาว อังกฤษ ฟรานซิส, ไซมอนไซมอน ฟรานซิส[8] อัมโบร[9] เอ็ม88[10] เอ็ม88[11]
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ฮิวตัน, คริสคริส ฮิวตัน สเปน บรูโน[12] ไนกี้[13] อเมริกันเอ็กซ์เพรส[13] เจดี[14]
เบิร์นลีย์ อังกฤษ ไดช์, ชอนชอน ไดช์ อังกฤษ ฮีตัน, ทอมทอม ฮีตัน[15] พูมา[16] ลาบา360[17]
คาร์ดิฟฟ์ซิตี อังกฤษ วอร์น็อก, นีลนีล วอร์น็อก อังกฤษ ชอน มอร์ริสัน อาดิดาส การท่องเที่ยวมาเลเซีย เจดี[18]
เชลซี อิตาลี ซาร์รี, เมารีซีโอเมารีซีโอ ซาร์รี อังกฤษ เคฮิลล์, แกรีแกรี เคฮิลล์[19] ไนกี้[20] โยโกฮามะไทรส์[21] ฮุนไดมอเตอร์[22]
คริสตัลพาเลซ อังกฤษ ฮอดจ์สัน, รอยรอย ฮอดจ์สัน เซอร์เบีย มิลิวอเยวิช, ลูคาลูคา มิลิวอเยวิช พูมา[23] แมนเบ็ตเอ็กซ์[24] Dongqiudi[25]
เอฟเวอร์ตัน โปรตุเกส ซิลวา, มาร์กูมาร์กู ซิลวา อังกฤษ แจกีเอลกา, ฟิลฟิล แจกีเอลกา อัมโบร[26] สปอร์ตเปซา[27] แอ็งกรีเบิดส์[28]
ฟูลัม อังกฤษ พาร์กเกอร์, สก็อตสก็อต พาร์กเกอร์ (รักษาการ) สกอตแลนด์ แคร์นีย์, ทอมทอม แคร์นีย์ อาดิดาส ดาฟาเบ็ต ไอซีเอ็ม[29]
ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ เยอรมนี แยน ไซแวร์ต อังกฤษ สมิธ, ทอมมีทอมมี สมิธ อัมโบร[30] โอพีอีสปอตส์[31] Leisu Sports[32]
เลสเตอร์ซิตี ไอร์แลนด์เหนือ ร็อดเจอส์, เบรนดันเบรนดัน ร็อดเจอส์ จาเมกา มอร์แกน, เวสเวส มอร์แกน[33] อาดิดาส[34] คิง เพาเวอร์[35] เบียร์ไซ่ง่อน[36]
ลิเวอร์พูล เยอรมนี คล็อพ, เยือร์เกินเยือร์เกิน คล็อพ อังกฤษ เฮนเดอร์สัน, จอร์แดนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน[37] นิวบาลานซ์[38] สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[39] เวสเทิร์นยูเนียน[40]
แมนเชสเตอร์ซิตี สเปน กวาร์ดิออลา, แป็ปแป็ป กวาร์ดิออลา เบลเยียม กงปานี, แว็งซ็องแว็งซ็อง กงปานี[41] ไนกี้[42] สายการบินเอทิฮัด[43] เน็กซ์เซ็นไทร[44]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอร์เวย์ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ เอกวาดอร์ บาเลนเซีย, อันโตนิโออันโตนิโอ บาเลนเซีย อาดิดาส[45] เชฟโรเลต[46] โคห์เลอร์[47]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด สเปน เบนิเตซ, ราฟาเอลราฟาเอล เบนิเตซ อังกฤษ ลาสเซลส์, จามาลจามาล ลาสเซลส์ พูมา[48] ฟัน88[49]
เซาแทมป์ตัน ออสเตรีย ฮาเซินฮุทเทิล, ราล์ฟราล์ฟ ฮาเซินฮุทเทิล ไอร์แลนด์เหนือ เดวิส, สตีเวนสตีเวน เดวิส อันเดอร์อาร์เมอร์[50] เวอร์จินมีเดีย [51] เวอร์จินมีเดีย
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อาร์เจนตินา โปเชติโน, เมาริซิโอเมาริซิโอ โปเชติโน ฝรั่งเศส โยริส, อูว์โกอูว์โก โยริส[52] ไนกี้[53] เอไอเอ[54]
วอตฟอร์ด สเปน กราซิอา, ฆาบิฆาบิ กราซิอา อังกฤษ ดีนีย์, ทรอยทรอย ดีนีย์[55] อาดิดาส[56] เอ็ฟเอ็กซ์โปร โมเพลย์[57]
เวสต์แฮมยูไนเต็ด ชิลี เปเลกรินิ‎, มานูเอลมานูเอล เปเลกรินิ‎ อังกฤษ โนเบิล, มาร์กมาร์ก โนเบิล[58] อัมโบร[59] เบ็ตเวย์[60] บาสเซต & โกลด์[61]
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ โปรตุเกส นือนู เอสปีรีตู ซังตู อังกฤษ คอนอร์ โคอาดี อาดิดาส[62] ดับบลิว88[63] คอยน์ดีล[64]

การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม

[แก้]
ทีม ผู้จัดการคนก่อน สาเหตุที่ออก วันที่ตำแหน่งว่าง อันดับในตารางคะแนน ผู้จัดการคนใหม่ วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
อาร์เซนอล ฝรั่งเศส อาร์แซน แวงแกร์ ลาออก 13 พฤษภาคม 2018[65] ก่อนเริ่มฤดูกาล สเปน อูไน เอเมรี 23 พฤษภาคม 2018[66]
เอฟเวอร์ตัน อังกฤษ แซม อัลลาร์ไดซ์ ถูกไล่ออก 16 พฤษภาคม 2018[67] โปรตุเกส มาร์กู ซิลวา‎ 31 พฤษภาคม 2018[68]
เวสต์แฮมยูไนเต็ด สกอตแลนด์ เดวิด มอยส์ สิ้นสุดสัญญา 16 พฤษภาคม 2018<[69] ชิลี มานูเอล เปเลกรินิ 22 พฤษภาคม 2018[70]
เชลซี อิตาลี อันโตนีโอ กอนเต ถูกไล่ออก 13 กรกฎาคม 2018 อิตาลี เมารีซีโอ ซาร์รี 14 กรกฎาคม 2018
ฟูลัม เซอร์เบีย สลาวีชา ยอคานอวิช 14 พฤศจิกายน 2018 อันดับที่ 20 อิตาลี เกลาดีโอ รานีเอรี 14 พฤศจิกายน 2018
เซาแทมป์ตัน เวลส์ มาร์ก ฮิวส์ 3 ธันวาคม 2018[71] อันดับที่ 18 ออสเตรีย ราล์ฟ ฮาเซินฮุทเทิล 5 ธันวาคม 2018[72]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โปรตุเกส โชเซ มูรีนโย 18 ธันวาคม 2018[73] อันดับที่ 6 นอร์เวย์ อูเล กุนนาร์ ซูลชาร์[a] 19 ธันวาคม 2018[74][75]
ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ สหรัฐ วักเนอร์, เดวิดเดวิด วักเนอร์ ประกาศแยกทางกัน 14 มกราคม 2019[76] อันดับที่ 20 เยอรมนี ไซแวร์ต, แยนแยน ไซแวร์ต 21 มกราคม 2019[77]
เลสเตอร์ซิตี ฝรั่งเศส ปุแอล, โกลดโกลด ปุแอล ถูกไล่ออก 24 กุมภาพันธ์ 2019[78] อันดับที่ 12 ไอร์แลนด์เหนือ ร็อดเจอส์, เบรนดันเบรนดัน ร็อดเจอส์ 26 กุมภาพันธ์ 2019[79]
ฟูลัม อิตาลี รานีเอรี, เกลาดีโอเกลาดีโอ รานีเอรี 28 กุมภาพันธ์ 2019[80] อันดับที่ 19 อังกฤษ พาร์กเกอร์, สก็อตสก็อต พาร์กเกอร์ (รักษาการ) 28 กุมภาพันธ์ 2019[80]
  1. ซูลชาร์ได้รับการแต่งตั้งครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมรักษาการจนกระทั่งสิ้นสุดฤดูกาล, แต่เป็นการย้ายที่ถาวรในวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2019.

ตารางคะแนน

[แก้]
อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น
1 แมนเชสเตอร์ซิตี (C) 38 32 2 4 95 23 +72 98 ผ่านเข้ารอบสู่แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
2 ลิเวอร์พูล 38 30 7 1 89 22 +67 97
3 เชลซี 38 21 9 8 63 39 +24 72
4 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 38 23 2 13 67 39 +28 71
5 อาร์เซนอล 38 21 7 10 73 51 +22 70 ผ่านเข้ารอบสู่ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม[a]
6 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 38 19 9 10 65 54 +11 66
7 วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 38 16 9 13 47 46 +1 57 ผ่านเข้ารอบสู่ยูโรปาลีก รอบคัดเลือกรอบสอง[a]
8 เอฟเวอร์ตัน 38 15 9 14 54 46 +8 54
9 เลสเตอร์ซิตี 38 15 7 16 51 48 +3 52
10 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 38 15 7 16 52 55 −3 52
11 วอตฟอร์ด 38 14 8 16 52 59 −7 50
12 คริสตัลพาเลซ 38 14 7 17 51 53 −2 49
13 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 38 12 9 17 42 48 −6 45
14 บอร์นมัท 38 13 6 19 56 70 −14 45
15 เบิร์นลีย์ 38 11 7 20 45 68 −23 40
16 เซาแทมป์ตัน 38 9 12 17 45 65 −20 39
17 ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 38 9 9 20 35 60 −25 36
18 คาร์ดิฟฟ์ซิตี (R) 38 10 4 24 34 69 −35 34 ตกชั้นสู่อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
19 ฟูลัม (R) 38 7 5 26 34 81 −47 26
20 ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ (R) 38 3 7 28 22 76 −54 16
แหล่งที่มา : พรีเมียร์ลีก
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม; 4) เพลย์ออฟ (ใช้เฉพาะการตัดสินทีมชนะเลิศ ทีมตกชั้น หรือทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันของยูฟ่า)[81]
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :
  1. 1.0 1.1 ผู้ชนะการแข่งขัน อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2018–19 และ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2018–19 คือ แมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งมีสิทธิ์ได้ไปเล่นใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แล้ว ทำให้สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศเอฟเอคัพ (ยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม) ตกมาอยู่อันดับที่ 6 และ สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศลีกคัพ (ยูโรปาลีก รอบคัดเลือกรอบสอง) ตกมาอยู่อันดับที่ 7

ผลการแข่งขัน

[แก้]
เหย้า / เยือน ARS BOU BHA BUR CAR CHE CRY EVE FUL HUD LEI LIV MCI MUN NEW SOU TOT WAT WHU WOL
อาร์เซนอล 5–1 1–1 3–1 2–1 2–0 2–3 2–0 4–1 1–0 3–1 1–1 0–2 2–0 2–0 2–0 4–2 2–0 3–1 1–1
บอร์นมัท 1–2 2–0 1–3 2–0 4–0 2–1 2–2 0–1 2–1 4–2 0–4 0–1 1–2 2–2 0–0 1–0 3–3 2–0 1–1
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 1–1 0–5 1–3 0–2 1–2 3–1 1–0 2–2 1–0 1–1 0–1 1–4 3–2 1–1 0–1 1–2 0–0 1–0 1–0
เบิร์นลีย์ 1–3 4–0 1–0 2–0 0–4 1–3 1–5 2–1 1–1 1–2 1–3 0–1 0–2 1–2 1–1 2–1 1–3 2–0 2–0
คาร์ดิฟฟ์ซิตี 2–3 2–0 2–1 1–2 1–2 2–3 0–3 4–2 0–0 0–1 0–2 0–5 1–5 0–0 1–0 0–3 1–5 2–0 2–1
เชลซี 3–2 2–0 3–0 2–2 4–1 3–1 0–0 2–0 5–0 0–1 1–1 2–0 2–2 2–1 0–0 2–0 3–0 2–0 1–1
คริสตัลพาเลซ 2–2 5–3 1–2 2–0 0–0 0–1 0–0 2–0 2–0 1–0 0–2 1–3 1–3 0–0 0–2 0–1 1–2 1–1 0–1
เอฟเวอร์ตัน 1–0 2–0 3–1 2–0 1–0 2–0 2–0 3–0 1–1 0–1 0–0 0–2 4–0 1–1 2–1 2–6 2–2 1–3 1–3
ฟูลัม 1–5 0–3 4–2 4–2 1–0 1–2 0–2 2–0 1–0 1–1 1–2 0–2 0–3 0–4 3–2 1–2 1–1 0–2 1–1
ฮัดเดอส์ฟิลด์ทาวน์ 1–2 0–2 1–2 1–2 0–0 0–3 0–1 0–1 1–0 1–4 0–1 0–3 1–1 0–1 1–3 0–2 1–2 1–1 1–0
เลสเตอร์ซิตี 3–0 2–0 2–1 0–0 0–1 0–0 1–4 1–2 3–1 3–1 1–2 2–1 0–1 0–1 1–2 0–2 2–0 1–1 2–0
ลิเวอร์พูล 5–1 3–0 1–0 4–2 4–1 2–0 4–3 1–0 2–0 5–0 1–1 0–0 3–1 4–0 3–0 2–1 5–0 4–0 2–0
แมนเชสเตอร์ซิตี 3–1 3–1 2–0 5–0 2–0 6–0 2–3 3–1 3–0 6–1 1–0 2–1 3–1 2–1 6–1 1–0 3–1 1–0 3–0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2–2 4–1 2–1 2–2 0–2 1–1 0–0 2–1 4–1 3–1 2–1 0–0 0–2 3–2 3–2 0–3 2–1 2–1 1–1
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 1–2 2–1 0–1 2–0 3–0 1–2 0–1 3–2 0–0 2–0 0–2 2–3 2–1 0–2 3–1 1–2 1–0 0–3 1–2
เซาแทมป์ตัน 3–2 3–3 2–2 0–0 1–2 0–3 1–1 2–1 2–0 1–1 1–2 1–3 1–3 2–2 0–0 2–1 1–1 1–2 3–1
ทอตนัมฮอตสเปอร์ 1–1 5–0 1–0 1–0 1–0 3–1 2–0 2–2 3–1 4–0 3–1 1–2 0–1 0–1 1–0 3–1 2–1 0–1 1–3
วอตฟอร์ด 0–1 0–4 2–0 0–0 3–2 1–2 2–1 1–0 4–1 3–0 2–1 0–3 1–2 1–2 1–1 1–1 2–1 1–4 1–2
เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1–0 1–2 2–2 4–2 3–1 0–0 3–2 0–2 3–1 4–3 2–2 1–1 0–4 3–1 2–0 3–0 0–1 0–2 0–1
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3–1 2–0 0–0 1–0 2–0 2–1 0–2 2–2 1–0 0–2 4–3 0–2 1–1 2–1 1–1 2–0 2–3 0–2 3–0
นับผลการแข่งขันล่าสุดถึงวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019. ที่มา: Premier League
สีฟ้าหมายถึงทีมเหย้าชนะ สีเหลืองหมายถึงเสมอกัน และสีแดงหมายถึงทีมเยือนชนะ
อักษร "a" สำหรับการแข่งขันที่ยังไม่เกิดขึ้นหมายความว่ามีบทความเกี่ยวกับการแข่งขันนัดนี้

สถิติตลอดฤดูกาล

[แก้]
ณ วันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019

การทำประตู

[แก้]

ผู้ทำประตูสูงสุด

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร ประตู[82]
1 กาบอง ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ อาร์เซนอล 22
เซเนกัล ซาดีโย มาเน ลิเวอร์พูล
อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล
4 อาร์เจนตินา เซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี 21
5 อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี 18
6 อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ 17
อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี
8 เบลเยียม เอแดน อาซาร์ เชลซี 16
9 อังกฤษ แคลลัม วิลสัน บอร์นมัท 14
10 เม็กซิโก ราอุล ฆิเมเนซ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 13
ฝรั่งเศส อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต อาร์เซนอล
อังกฤษ เกลนน์ เมอร์เรย์ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน
ฝรั่งเศส ปอล ปอกบา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
บราซิล ริชาร์ลีซง เอฟเวอร์ตัน
ไอซ์แลนด์ กิลวี ซีกืร์ดซอน เอฟเวอร์ตัน

แฮท-ทริคส์

[แก้]
ผู้เล่น ทีม พบกับทีม ผล วันที่ อ้างอิง
อาร์เจนตินา อาเกวโร, เซร์ฆิโอเซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 6–1 (H) 19 สิงหาคม 2018 [83]
เบลเยียม อาซาร์, เอแดนเอแดน อาซาร์ เชลซี คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4–1 (H) 15 กันยายน 2018 [84]
อียิปต์ เศาะลาห์, มุฮัมมัดมุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล บอร์นมัท 4–0 (A) 8 ธันวาคม 2018 [85]
บราซิล ฟีร์มีนู, โรแบร์ตูโรแบร์ตู ฟีร์มีนู ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล 5–1 (H) 29 ธันวาคม 2018 [86]
โปรตุเกส ฌอตา, ดีโยกูดีโยกู ฌอตา วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เลสเตอร์ซิตี 4–3 (H) 19 มกราคม 2019 [87]
อาร์เจนตินา อาเกวโร, เซร์ฆิโอเซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี อาร์เซนอล 3–1 (H) 3 กุมภาพันธ์ 2019 [88]
อาร์เจนตินา อาเกวโร, เซร์ฆิโอเซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี เชลซี 6–0 (H) 10 กุมภาพันธ์ 2019 [89]
สเปน เด็วลูเฟ็ว, ฌาราร์ตฌาราร์ต เด็วลูเฟ็ว วอตฟอร์ด คาร์ดิฟฟ์ซิตี 5–1 (A) 22 กุมภาพันธ์ 2019 [90]
อังกฤษ สเตอร์ลิง, ราฮีมราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี วอตฟอร์ด 3–1 (H) 9 มีนาคม 2019 [91]
บราซิล มูรา, ลูกัสลูกัส มูรา ทอตนัมฮอตสเปอร์ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 4–0 (H) 13 เมษายน 2019 [92]
สเปน เปเรซ, อาโยเซอาโยเซ เปเรซ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เซาแทมป์ตัน 3–1 (H) 20 เมษายน 2019 [93]
หมายเหตุ

4 ผู้เล่นที่ทำ 4 ประตู; (H) – เหย้า ; (A) – เยือน

อันดับการผ่านบอล

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร การผ่านบอล[94]
1 เบลเยียม เอแดน อาซาร์ เชลซี 15
2 สกอตแลนด์ ไรอัน เฟรเซอร์ บอร์นมัท 14
3 อังกฤษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลิเวอร์พูล 12
เดนมาร์ก คริสเตียน เอริกเซน ทอตนัมฮอตสเปอร์
5 สกอตแลนด์ แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน ลิเวอร์พูล 11
6 เยอรมนี ลีร็อย ซาเน แมนเชสเตอร์ซิตี 10
อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี
8 ฝรั่งเศส ปอล ปอกบา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 9
อังกฤษ แคลลัม วิลสัน บอร์นมัท
10 อาร์เจนตินา เซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี 8
ฝรั่งเศส อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต อาร์เซนอล
โปรตุเกส ฌูเอา โมติญญู วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์
อียิปต์ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ลิเวอร์พูล

คลีนชีตส์

[แก้]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร จำนวนคลีนชีตส์[95]
1 บราซิล อาลีซง ลิเวอร์พูล 21
2 บราซิล แอแดร์ซง แมนเชสเตอร์ซิตี 20
3 สเปน เกปา อาร์ริซาบาลากา เชลซี 14
อังกฤษ จอร์แดน พิกฟอร์ด เอฟเวอร์ตัน
5 ฝรั่งเศส อูว์โก โยริส ทอตนัมฮอตสเปอร์ 12
6 สโลวาเกีย มาร์ติน ดูบรัฟกา นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 11
7 ฟิลิปปินส์ นีล อีเทอริดจ์ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 9
เดนมาร์ก แคสเปอร์ สไมเกิล เลสเตอร์ซิตี
9 โปรตุเกส รุย ปาตรีซียู วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 8
10 สเปน ดาบิด เด เฆอา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 7
โปแลนด์ วูกัช ฟาเบียญสกี เวสต์แฮมยูไนเต็ด
อังกฤษ เบน ฟอสเตอร์ วอตฟอร์ด
สเปน บิเซนเต กวยตา คริสตัลพาเลซ

การคาดโทษ

[แก้]

ผู้เล่น

[แก้]

สโมสร

[แก้]
  • ใบเหลืองมากที่สุด: 76[98]
    • วอตฟอร์ด
  • ใบแดงมากที่สุด: 5[99]
    • เลสเตอร์ซิตี

รางวัล

[แก้]

รางวัลประจำเดือน

[แก้]
เดือน ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน ผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือน ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน อ้างอิง
ผู้จัดการทีม สโมสร ผู้เล่น สโมสร ผู้เล่น สโมสร
สิงหาคม สเปน ฆาบิ กราซิอา วอตฟอร์ด บราซิล ลูกัส มูรา ทอตนัมฮอตสเปอร์ โกตดิวัวร์ ฌ็อง มิชาแอล เซรี ฟูลัม [100][101][102]
กันยายน โปรตุเกส นูนู อึชปีรีตู ซังตู วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เบลเยียม เอแดน อาซาร์ เชลซี อังกฤษ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ลิเวอร์พูล [103][104][105]
ตุลาคม อังกฤษ เอ็ดดี ฮาว บอร์นมัท กาบอง ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ อาร์เซนอล เวลส์ แอรอน แรมซีย์ อาร์เซนอล [106][107][108]
พฤศจิกายน สเปน ราฟาเอล เบนิเตซ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง แมนเชสเตอร์ซิตี เกาหลีใต้ ซน ฮึง-มิน ทอตนัมฮอตสเปอร์ [109][110][111]
ธันวาคม เยอรมนี เยือร์เกิน คล็อพ ลิเวอร์พูล เนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ ลิเวอร์พูล อังกฤษ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ คริสตัลพาเลซ [112][113]
มกราคม นอร์เวย์ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อังกฤษ มาร์คัส แรชฟอร์ด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เยอรมนี อันเดร เชือร์เลอ ฟูลัม [114][115][116]
กุมภาพันธ์ สเปน แป็ป กวาร์ดิออลา แมนเชสเตอร์ซิตี อาร์เจนตินา เซร์ฆิโอ อาเกวโร แมนเชสเตอร์ซิตี สวิตเซอร์แลนด์ ฟาบีอาน แชร์ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด [117][118][119]
มีนาคม เยอรมนี เยือร์เกิน คล็อพ ลิเวอร์พูล เซเนกัล ซาดีโย มาเน ลิเวอร์พูล ฝรั่งเศส อ็องตอนี คน็อคแอร์ต ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน [120][121][122]
เมษายน สเปน แป็ป กวาร์ดิออลา แมนเชสเตอร์ซิตี อังกฤษ เจมี วาร์ดี เลสเตอร์ซิตี เบลเยียม เอแดน อาซาร์ เชลซี [123][124][125]

รางวัลประจำปี

[แก้]
รางวัล ผู้ชนะรางวัล สโมสร
ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก สเปน แป็ป กวาร์ดิออลา[127] แมนเชสเตอร์ซิตี
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก เนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์[128] ลิเวอร์พูล
ประตูยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แอนดรอส ทาวน์เซนด์[129] คริสตัลพาเลซ
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ เนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์[130] ลิเวอร์พูล
นักฟุตบอลดาวรุ่งแห่งปีของพีเอฟเอ อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง[131] แมนเชสเตอร์ซิตี
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง[132] แมนเชสเตอร์ซิตี
นักฟุตบอลแห่งปีของแฟนฟุตบอลพีเอฟเอ เบลเยียม เอแดน อาซาร์[133] เชลซี
ทีมยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ[126]
ผู้รักษาประตู บราซิล แอแดร์ซง (แมนเชสเตอร์ซิตี)
กองหลัง อังกฤษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) ฝรั่งเศส แอมริก ลาปอร์ต (แมนเชสเตอร์ซิตี) เนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ (ลิเวอร์พูล) สกอตแลนด์ แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)
กองกลาง โปรตุเกส บือร์นาร์ดู ซิลวา (แมนเชสเตอร์ซิตี) บราซิล เฟร์นังจิญญู (แมนเชสเตอร์ซิตี) ฝรั่งเศส ปอล ปอกบา (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด)
กองหน้า อังกฤษ ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนเชสเตอร์ซิตี) อาร์เจนตินา เซร์ฆิโอ อาเกวโร (แมนเชสเตอร์ซิตี) เซเนกัล ซาดีโย มาเน (ลิเวอร์พูล)

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 "English Premier League Performance Stats – 2018–19". ESPN. สืบค้นเมื่อ 13 May 2019.
  2. "Start date for 2018–19 Premier League season announced".
  3. "Premier League fixtures for 2018/19 announced". Premier League. 14 June 2018. สืบค้นเมื่อ 29 June 2018.
  4. "New clubs welcomed to Premier League for 2018/19". Premier League. 6 June 2018.
  5. "PUMA and Arsenal announce partnership". Arsenal FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  6. "Arsenal football club in £150m Emirates deal". BBC News. 23 November 2012. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  7. "Arsenal partner with 'Visit Rwanda'". Arsenal FC. สืบค้นเมื่อ 23 May 2018.
  8. "Simon Francis named as AFC Bournemouth club captain for 2016/17 season". afcb.co.uk. สืบค้นเมื่อ 28 November 2016.
  9. "#NextChapter: AFC Bournemouth and Umbro".
  10. "AFC Bournemouth unveil Mansion Group as Premier League shirt sponsor". insideworldfootball.com. สืบค้นเมื่อ 22 June 2017.
  11. "Mansion go all-in with Bournemouth adding sleeve to shirt front sponsorship". insideworldfootball.com. 30 August 2017. สืบค้นเมื่อ 1 September 2017.
  12. "Brighton captain Bruno willing to give Manchester City pal David Silva a pasting in season opener". Mirror. สืบค้นเมื่อ 4 October 2017.
  13. 13.0 13.1 "New Kit Partnership with Nike". seagulls.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-25. สืบค้นเมื่อ 3 June 2014.
  14. "ALBION AGREE SLEEVE SPONSORSHIP DEAL WITH JD". seagulls.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-23. สืบค้นเมื่อ 7 September 2017.
  15. "Tom Heaton – player profile". burnleyfootballclub.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-01. สืบค้นเมื่อ 28 November 2016.
  16. "Burnley sign new Puma kit deal". Lancashire Telegraph. สืบค้นเมื่อ 17 May 2013.
  17. "Puma Home Kit: 2018/19". Burnley F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-07-03. สืบค้นเมื่อ 3 July 2018.
  18. "JD Sports announced s club's first sleeve sponsor". Cardiff City F.C. 4 August 2018. สืบค้นเมื่อ 4 August 2018.
  19. "Captain Cahill: Delighted, proud and excited". chelseafc.com. Chelsea FC. สืบค้นเมื่อ 26 July 2017.
  20. "Chelsea and Nike announce long-term partnership". chelseafc.com. Chelsea FC. สืบค้นเมื่อ 13 October 2016.
  21. "Chelsea seal £200m shirt sponsorship deal with Yokohama Rubber". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  22. "Chelsea and Hyundai Begin New Partnership". chelseafc.com. 11 June 2018. สืบค้นเมื่อ 11 June 2018.
  23. "Revealed: Crystal Palace and Puma 2018/19 Kits". Crystal Palace F.C. 9 May 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-22. สืบค้นเมื่อ 10 May 2018.
  24. "Palace Announce New Shirt Sponsor, ManBetX". Crystal Palace FC. สืบค้นเมื่อ 26 June 2017.
  25. "Dongqiudi Announced As Official Sleeve Partner". Crystal Palace FC. สืบค้นเมื่อ 18 July 2017.
  26. "Everton agree five-year deal with Umbro to supply club kits from start of next season". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  27. "Everton confirm SportPesa as new shirt sponsor". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 15 May 2017.
  28. "Everton Sign Sleeve Deal With Games Giant Rovio Entertainment". Everton FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-19. สืบค้นเมื่อ 17 September 2017.
  29. "New Sleeve Sponsor: ICM". Fulham F.C. 11 August 2018. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  30. "Town Teams Up with Umbro for 2018/19!". Huddersfield Town A.F.C. 9 May 2018. สืบค้นเมื่อ 10 May 2018.
  31. "OPE SPORTS – New Shirt Sponsor". Huddersfield Town AFC. สืบค้นเมื่อ 30 June 2017.
  32. "2018/19 Umbro Home Kit Revealed!". Huddersfield Town AFC. สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
  33. "Leicester City captain Wes Morgan 'fit and ready' for Premier League season after hectic summer". Leicester Mercury. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 August 2015.
  34. "Leak Confirmed – Leicester City Announce Adidas Kit Deal". Footy Headlines. 17 May 2018. สืบค้นเมื่อ 18 May 2018.
  35. "2014/15 PUMA Home Kit Now On Sale!". lcfc.com. Leicester City FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  36. "Leicester City And ThaiBev Agree Multi-Year Global Partnership" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-08-03.
  37. "Henderson appointed Liverpool captain". liverpoolfc.com. Liverpool FC.
  38. "Liverpool announce record-breaking £300m kit deal with New Balance from next season". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  39. "Liverpool stick with shirt sponsor Standard Chartered after penning two-year extension". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  40. "Western Union signs sponsorship deal with Liverpool football club". Financial Times. สืบค้นเมื่อ 9 August 2017.
  41. "Manchester City captain Vincent Kompany finally concedes a goal". Mail Online.
  42. Ogden, Mark (4 May 2012). "Manchester City's six-year kit deal with Nike could earn the Premier League leaders up to £12million a year". The Daily Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  43. Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  44. Edwards, John (17 March 2017). "Man City and Nexen Tire announce Premier League first partnership". London. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-05-09. สืบค้นเมื่อ 17 May 2017.
  45. "Manchester United and Adidas in £750m deal over 10 years". BBC News. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  46. "Manchester United's £53m shirt deal with Chevrolet unaffected despite likely absence of Champions League". telegraph.co.uk. Telegraph Media Group. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  47. "Kohler Unveiled as Shirt Sleeve Sponsor". แมนเชสเตอร์. 12 กรกฎาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 12 กรกฎาคม 2018.
  48. "REVEALED: Newcastle United Officially Announce 125th Anniversary Kit Featuring New Sponsor Fun88". 15 May 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-04. สืบค้นเมื่อ 2018-05-05.
  49. "FUN88 becomes Newcastle United shirt sponsor". nufc.co.uk. Newcastle United FC. สืบค้นเมื่อ 15 May 2017.
  50. "Saints announce multi-year partnership with Under Armour". saintsfc.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-06-05. สืบค้นเมื่อ 14 April 2016.
  51. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-15. สืบค้นเมื่อ 2018-05-13.
  52. "Tottenham news: Spurs 'set to name Harry Kane vice-captain' – Metro News". Metro.
  53. "TOTTENHAM HOTSPUR ANNOUNCES MULTI-YEAR PARTNERSHIP WITH NIKE". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur FC. สืบค้นเมื่อ 30 June 2017.
  54. "AIA TO BECOME TOTTENHAM HOTSPUR'S NEW PRINCIPAL PARTNER". tottenhamhotspur.com. Tottenham Hotspur FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  55. Simon Burnton. "Premier League 2015–16 preview No18: Watford". The Guardian.
  56. "Watford Announce Adidas Deal". footyheadlines.com. สืบค้นเมื่อ 6 December 2016.
  57. "News: Watford Announce Sleeve Partnership With MoPlay". Watford F.C. 11 August 2018. สืบค้นเมื่อ 11 August 2018.
  58. "Slaven Bilic thanks Kevin Nolan as West Ham captain leaves club – video". The Guardian. 27 August 2015.
  59. "West Ham re-united with Umbro". West Ham United FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 May 2015. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  60. "Hammers announce Betway sponsorship". whufc.com. West Ham United FC. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
  61. [1]
  62. "Wolves Unveil Partnership With Adidas". Wolverhampton Wanderers F.C. 8 May 2018. สืบค้นเมื่อ 8 May 2018.
  63. "Wolves Announce W88 As Shirt Sponsor". wolves.co.uk. Wolverhampton Wanderers F.C. 13 June 2018. สืบค้นเมื่อ 13 June 2018.
  64. "Wolves Unveil CoinDeal As Shirt Sleeve Sponsor". wolves.co.uk. Wolverhampton Wanderers F.C. สืบค้นเมื่อ 4 July 2018.
  65. "Arsene Wenger: Arsenal boss to leave club at end of season". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 20 April 2018.
  66. sport, Guardian (23 May 2018). "Arsenal confirm appointment of Unai Emery as club's new manager". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-05-23.
  67. O'Hara, Aidan (14 May 2018). "Bye, bye to Big Sam Allardyce, the year the title race died". Irish Independent. สืบค้นเมื่อ 16 May 2018.
  68. "Marco Silva: Everton appoint former Watford and Hull boss as new manager". BBC.com. 31 May 2018. สืบค้นเมื่อ 31 May 2018.
  69. "David Moyes: West Ham manager departs after just six months in charge". BBC Sport. 16 May 2018. สืบค้นเมื่อ 16 May 2018.
  70. Steinberg, Jacob (2018-05-22). "West Ham appoint Manuel Pellegrini as manager on three-year deal". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 23 May 2018.
  71. "Mark Hughes: Southampton sack manager after eight months in charge". BBC Sport. 3 December 2018. สืบค้นเมื่อ 3 December 2018.
  72. "Ralph Hasenhuttl: Southampton name former RB Leipzig boss as new manager". BBC Sport. 5 December 2018. สืบค้นเมื่อ 5 December 2018.
  73. "Jose Mourinho: Manchester United sack manager". BBC Sport. 18 December 2018. สืบค้นเมื่อ 18 December 2018.
  74. "Ole Gunnar Solskjaer named Man Utd caretaker manager until end of season". BBC Sport. BBC Sport. 19 December 2018. สืบค้นเมื่อ 19 December 2018.
  75. "Man Utd: Ole Gunnar Solskjaer appointed permanent manager" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 28 March 2019. สืบค้นเมื่อ 28 March 2019.
  76. "David Wagner: Huddersfield Town manager leaves club by mutual consent". BBC Sport. BBC Sport. 14 January 2019. สืบค้นเมื่อ 14 January 2019.
  77. "Huddersfield Town appoint Jan Siewert from Borussia Dortmund as new manager". BBC Sport. 21 January 2019. สืบค้นเมื่อ 21 January 2019.
  78. "Claude Puel: Leicester City sack manager after 16 months in charge". BBC Sport. 24 February 2019. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.
  79. "Brendan Rodgers: Leicester City appoint former Celtic boss as manager" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 26 February 2019. สืบค้นเมื่อ 26 February 2019.
  80. 80.0 80.1 "Claudio Ranieri: Fulham sack manager with club 19th in Premier League". BBC Sport. 28 February 2019. สืบค้นเมื่อ 28 February 2019.
  81. "Premier League Handbook 2017/18" (pdf). Premier League. 11 August 2017. pp. 103–104. สืบค้นเมื่อ 5 September 2017.
  82. "Premier League Player Stats – Goals". Premier League. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  83. Rose, Gary (19 August 2018). "Manchester City 6–1 Huddersfield Town". BBC Sport. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 August 2018. สืบค้นเมื่อ 19 August 2018.
  84. Freeman, Jay (15 September 2018). "Chelsea 4–1 Cardiff". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 15 September 2018.
  85. Johnston, Neil (8 December 2018). "Bournemouth 0–4 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 8 December 2018.
  86. McNulty, Phil (29 December 2018). "Liverpool 5–1 Arsenal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 29 December 2018.
  87. Reddy, Luke (19 January 2019). "Wolverhampton Wanderers 4–3 Leicester City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 19 January 2019.
  88. McNulty, Phil (3 February 2019). "Manchester City 3–1 Arsenal". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 3 February 2019.
  89. McNulty, Phil (10 February 2019). "Manchester City 6–0 Chelsea". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 10 February 2019.
  90. Pearlman, Michael (22 February 2019). "Cardiff 1–5 Watford". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 22 February 2019.
  91. Bevan, Chris (9 March 2019). "Manchester City 3–1 Watford". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 9 March 2019.
  92. Bullin, Matt (13 April 2019). "Tottenham Hotspur 4–0 Huddersfield Town". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 13 April 2019.
  93. Bradshaw, Joe (20 April 2019). "Newcastle United 3–1 Southampton". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 20 April 2019.
  94. "Premier League Player Stats – Assists". Premier League. สืบค้นเมื่อ 26 เมษายน ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  95. "Premier League Player Stats – Clean Sheets". Premier League. สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  96. "Premier League Player Stats – Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  97. "Premier League Player Stats – Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  98. "Premier League Club Stats – Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  99. "Premier League Club Stats – Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 2019. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  100. "Gracia enjoying the moment with manager award". Premier League. 7 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  101. "Lucas named EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 7 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  102. "Seri strike wins Carling Goal of the Month". Premier League. 7 September 2018. สืบค้นเมื่อ 7 September 2018.
  103. "Nuno claims Barclays Manager of the Month". Premier League. 12 October 2018. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
  104. "Hazard named EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 12 October 2018. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
  105. "Sturridge wins Carling Goal of the Month". Premier League. 12 October 2018. สืบค้นเมื่อ 12 October 2018.
  106. "Howe thanks 'Bournemouth family' for manager award". Premier League. 9 November 2018. สืบค้นเมื่อ 9 November 2018.
  107. "Aubameyang eyes top four after winning player award". Premier League. 9 November 2018. สืบค้นเมื่อ 9 November 2018.
  108. "Ramsey wins award for 'one of my best goals'". Premier League. 9 November 2018. สืบค้นเมื่อ 9 November 2018.
  109. "Benitez named Barclays Manager of the Month". Premier League. 14 December 2018. สืบค้นเมื่อ 14 December 2018.
  110. "Sterling named EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 12 December 2018. สืบค้นเมื่อ 12 December 2018.
  111. "Son wins Carling Goal of the Month for November". Premier League. 14 December 2018. สืบค้นเมื่อ 14 December 2018.
  112. "Klopp and Van Dijk claim December awards". Premier League. 11 January 2019. สืบค้นเมื่อ 11 January 2019.
  113. "Townsend volley wins Carling Goal of the Month". Premier League. 11 January 2019. สืบค้นเมื่อ 11 January 2019.
  114. "Solskjaer wins Barclays Manager of the Month award". Premier League. 8 February 2019. สืบค้นเมื่อ 8 February 2019.
  115. "Rashford named EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 8 February 2019. สืบค้นเมื่อ 8 February 2019.
  116. "Award-winning goal one of my best, says Schurrle". Premier League. 8 February 2019. สืบค้นเมื่อ 8 February 2019.
  117. "Guardiola wins February 2019 Barclays Manager of the Month". Premier League. 8 March 2019. สืบค้นเมื่อ 8 March 2019.
  118. "Aguero voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 8 March 2019. สืบค้นเมื่อ 8 March 2019.
  119. "Schar delight at Carling Goal of the Month". Premier League. 8 March 2019. สืบค้นเมื่อ 8 March 2019.
  120. "Klopp named Barclays Manager of the Month". Premier League. 12 April 2019. สืบค้นเมื่อ 12 April 2019.
  121. "Mane wins EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 12 April 2019. สืบค้นเมื่อ 12 April 2019.
  122. "Knockaert wins March Carling Goal of the Month". Premier League. 12 April 2019. สืบค้นเมื่อ 12 April 2019.
  123. "Guardiola named Barclays Manager of the Month". Premier League. 7 May 2019. สืบค้นเมื่อ 7 May 2019.
  124. "Vardy voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 7 May 2019. สืบค้นเมื่อ 7 May 2019.
  125. "Hazard wins Carling Goal of the Month award". Premier League. 7 May 2019. สืบค้นเมื่อ 7 May 2019.
  126. 126.0 126.1 "PFA Team of the Year: Paul Pogba, Raheem Sterling and Sadio Mane included in side". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 25 April 2019.
  127. "Guardiola named Barclays Manager of the Season". Premier League. 14 May 2019. สืบค้นเมื่อ 14 May 2019.
  128. "Van Dijk named EA SPORTS Player of the Season". Premier League. 12 May 2019. สืบค้นเมื่อ 12 May 2019.
  129. "Townsend wins Carling Goal of the Season award". Premier League. สืบค้นเมื่อ 21 May 2019.
  130. "Virgil van Dijk and Vivianne Miedema win PFA Player of the Year awards". BBC Sport. 28 April 2019. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.
  131. "Raheem Sterling Wins 2019 PFA Young Player of the Year over Bernardo Silva, More". Bleacher Report. 28 April 2019. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.
  132. "Raheem Sterling and Nikita Parris win Football Writers' Association Footballer of the Year awards". BBC Sport. 29 April 2019. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.
  133. "Raheem Sterling and Nikita Parris win Football Writers' Association Footballer of the Year awards". BBC Sport. 29 April 2019. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]