ข้ามไปเนื้อหา

นีล อีเทอริดจ์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
นีล อีเทอริดจ์
อีเทอริดจ์กับคาร์ดิฟฟ์ซิตีในปี ค.ศ. 2018
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม นีล ลีโอนาร์ด ดูลา อีเทอริดจ์[1]
วันเกิด (1990-02-07) 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (34 ปี)[2]
สถานที่เกิด เอนฟีลด์, เกรเทอร์ลอนดอน
ประเทศอังกฤษ
ส่วนสูง 1.88 เมตร (6 ฟุต 2 นิ้ว)[3]
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
หมายเลข 13
สโมสรเยาวชน
2003–2006 เชลซี
2006–2008 ฟูลัม
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2008–2014 ฟูลัม 0 (0)
2008–2009เลเธอร์เฮด​ (ยืมตัว) 6 (0)
2011ชาร์ลตันแอธเลติก (ยืมตัว) 0 (0)
2012บริสตอล​ โรเวอส์ (ยืมตัว) 12 (0)
2013–2014ครูว์​ อเล็กซานดรา (ยืมตัว) 4 (0)
2014–2015 โอลดัมแอทเลติก 0 (0)
2014ชาร์ลตันแอธเลติก (ยืมตัว) 2 (0)
2015 ชาร์ลตันแอธเลติก 2 (0)
2015–2017 วอลซอลล์ 81 (0)
2017–2020 คาร์ดิฟฟ์ซิตี 99 (0)
2020–2024 เบอร์มิงแฮมซิตี 70 (0)
2024– บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0 (0)
ทีมชาติ
2005 อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี 1 (0)
2008– ฟิลิปปินส์ 80 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2024
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 00:09, 14 มิถุนายน 2022 (UTC)

นีล ลีโอนาร์ด ดูลา อีเทอริดจ์ (อังกฤษ: Neil Leonard Dula Etheridge;[4]เกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวฟิลิปปินส์​ ตำแหน่งผู้รักษาประตู ปัจจุบันเล่นให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและทีมชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเขาเป็นกัปตันทีมตั้งแต่ปี 2022

นีล อีเทอริดจ์ เคยเป็นผู้เล่นชุดเยาวชนของสโมสรฟุตบอลเชลซี​และฟูลัม และได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ของฟูลัมเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม​ ค.ศ.​ 2011 ในการแข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก​นัดที่พบกับสโมสรฟุตบอลโอเด็นเซ จากเดนิชซูเปอร์ลีกา​ แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของฟูลัมอีกเลย​ ซึ่งระหว่างปี​ ค.ศ.​ 2008 ถึง​ ค.ศ.​ 2014 หรือตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่กับฟูลัม ส่วนใหญ่จะถูกปล่อยตัวให้ไปเล่นกับสโมสรอื่นอย่างชาร์ลตัน​ แอทเลติก, บริสตอล​ โรเวอส์, ครูว์​ อเล็กซานดรา​ หรือแม้แต่เลเธอร์เฮด​ ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลในลีกสมัครเล่น​ ด้วยสัญญายืมตัว​

หลังหมดสัญญากับฟูลัม​ในปี​ ค.ศ.​ 2014​ อีเทอริดจ์​ย้ายไปเล่นให้กับโอลดัม แอทเลติก ในอีเอฟแอลลีกวัน แต่ก็ไม่สามารถสอดแทรกตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้​ โดยเขาถูกส่งลงสนามแค่​ 1​ นัด​ ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเอฟเอ โทรฟี​ ซึ่งเป็นฟุตบอลถ้วยรายการเล็กๆที่แข่งขันกันแค่สโมสรในระดับลีกวันและลีกทู​ เขาจึงย้ายไปเล่นให้กับชาร์ลตัน​ แอทเลติกอีกครั้​ง​ หลังจากเคยถูกยืมตัวมาแล้ว​ แต่ก็ยังเป็นแค่ผู้รักษาประตูมือสองของทีม

ปี​ ค.ศ.​ 2015​ อีเทอริดจ์​ ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลวอลซอลล์ในลีกวัน และได้เป็นผู้เล่นตัวจริงตลอด​ 2​ ฤดูกาลกับสโมสร​ โดยฟอร์มการเล่นของเขาได้รับความสนใจจากหลายทีม​ เมื่อหมดสัญญากับวอลซอลล์เขาจึงได้ย้ายมาเล่นให้กับคาร์ดิฟฟ์​ ซิตีที่ลงแข่งขันในอีเอฟแอลแชมเปียนชิป​แบบไม่มีค่าตัว​และเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสร​ที่มีส่วนในการพาสโมสรคว้าตำแหน่งรองแชมป์อีเอฟแอลแชมเปียนชิป​ฤดูกาล​ 2017–18​ และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก

ฤดูกาล​ 2018–19​ เอเทอริดจ์​ ที่​เป็น​ผู้รักษาประตูตัวหลักของคาร์ดิฟฟ์​ ซิตี ได้รับการบันทึกว่าเป็นผู้รักษาประตูชาวฟิลิปปินส์และเป็นชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้​คนแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก[5] และเป็นผู้รักษาประตูจากทวีปเอเชีย​คนที่สองที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกต่อจากอะลี อัลฮับซี

อีเทอริดจ์เซ็นสัญญากับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในศึกไทยลีกเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2024[6]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Club list of registered players: As at 19th May 2018: Cardiff City" (PDF). English Football League. p. 12. สืบค้นเมื่อ 17 June 2018.
  2. "นีล อีเทอริดจ์". Barry Hugman's Footballers. สืบค้นเมื่อ 12 มิถุนายน 2018.
  3. "N. Etheridge: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 5 May 2018.
  4. "Men's national team set to play Uzbekistan squad on 24 March 2016". Philippine Football Federation. 21 March 2016. สืบค้นเมื่อ 5 May 2018.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-04-12. สืบค้นเมื่อ 2019-04-12.
  6. Fenix, Ryan (1 July 2024). "Neil Etheridge opens up about move to Thai club Buriram United". GMA News Online. สืบค้นเมื่อ 1 July 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]