พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล2014–15
ชนะเลิศเชลซี
ตกชั้นฮัลล์ซิตี
เบิร์นลีย์
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเชลซี
แมนเชสเตอร์ซิตี
อาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ยูฟ่ายูโรปาลีกทอตนัมฮอตสเปอร์
ลิเวอร์พูล
เวสต์แฮมยูไนเต็ด
จำนวนการแข่งขันทั้งหมด380
จำนวนประตูทั้งหมด975 (2.57 ต่อนัด)
ผู้ยิงประตูสูงสุดเซร์คีโอ อะกูเอโร
(26 ประตู)[1]
ทีมเหย้าชนะสูงสุดเซาแทมป์ตัน 8–0 ซันเดอร์แลนด์
(18 ตุลาคม 2014)
ทีมเยือนชนะสูงสุดสวอนซี ซิตี 0–5 เชลซี
(17 มกราคม 2015)
ประตูสูงสุดเอฟเวอร์ตัน 3–6 เชลซี
(30 สิงหาคม 2014)
สถิติชนะติดต่อกันสูงสุด8 นัด[2]
อาร์เซนอล
สถิติไม่แพ้ติดต่อกันสูงสุด16 นัด[2]
เชลซี
สถิติไม่ชนะติดต่อกันสูงสุด13 นัด[2]
เลสเตอร์ซิตี
สถิติแพ้ติดต่อกันสูงสุด8 นัด[2]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด
ผู้เข้าชมมากที่สุด75,454 คน[3]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 0–1 เวสต์บรอมมิชอัลเบียน
(2 พฤษภาคม 2015)
ผู้เข้าชมน้อยที่สุด16,163 คน[3]
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 2–2 สโตกซิตี
(20 กันยายน 2014)
ผู้เข้าชมทั้งหมด13,746,753 คน[3]
ผู้เข้าชมโดยเฉลี่ย36,175 คน[3]

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15 (หรือเรียกว่า บาร์คลีส์พรีเมียร์ลีก ด้วยเหตุผลด้านผู้สนับสนุน) เป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลที่ 23 นับแต่เริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 เริ่มต้นฤดูกาลวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2014[4] และสิ้นสุดฤดูกาลวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 2015.[5] มีทีมเข้าร่วมแข่งขันในลีก 20 ทีม โดยมี 17 ทีมเดิมจากฤดูกาลก่อน และอีก 3 ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิพ โดยมี 2 ทีมที่ได้เลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ ได้แก่ เลสเตอร์ซิตี, เบิร์นลีย์ และอีก 1 ทีมที่เป็นผู้ชนะในรอบเพลย์ออฟ คือ ควีนส์พาร์กเรนเจอส์

นอกจากนี้แล้ว พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังทำสถิติมูลค่าการซื้อขายนักฟุตบอลในแต่ละทีมต่าง ๆ สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยเพียงแค่ในการซื้อขายรอบแรก (ก่อนถึงวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2014 เวลา 22.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช) โดยมีมูลค่ารวมกันถึง 835 ล้านปอนด์ ซึ่งนอกจากจะทำลายสถิติสูงสุดของการซื้อขายรอบแรกที่เคยทำไว้เมื่อฤดูกาลก่อน คือ 630 ล้านปอนด์ เพียงเฉพาะยอดการซื้อขายเฉพาะแค่รอบแรกครั้งนี้ ยังมากกว่าสถิติซื้อขายทั้ง 2 รอบของฤดูกาลก่อนที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ คือ 760 ล้านปอนด์ อีกด้วย โดยทีมที่ทำสถิติซื้อตัวนักฟุตบอลสูงสุด คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในราคาเกือบ 150 ล้านปอนด์[6] อีกทั้งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ซื้อตัวอังเคล ดี มารีอา นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินามาจากเรอัลมาดริดในลาลิกาของสเปน ด้วยค่าตัวเกือบถึง 60 ล้านปอนด์ นับว่าเป็นสถิติสูงสุดของการซื้อขายตัวนักฟุตบอลของวงการฟุตบอลอังกฤษ นอกจากนี้แล้วภาพโดยรวมยังถือว่า ใช้จำนวนเงินซื้อขายนักฟุตบอลแพงกว่าลีกอื่น ๆ ในทวีปยุโรปด้วยกัน (เช่น ลาลิกาของสเปน หรือเซเรียอาของอิตาลี) ถึงเกือบเท่าตัว[7]

ผลการแข่งขัน เชลซี เป็นทีมที่ได้แชมป์ไป นับเป็นการครองตำแหน่งแชมป์เป็นสมัยที่ 5 โดยได้แชมป์ตั้งแต่การแข่งขัดนัดที่ 35 ซึ่งยังไม่จบฤดูกาล เนื่องจากทีมที่อยู่ตารางคะแนนอันดับ 2 และ 3 คือ แมนเชสเตอร์ซิตี และอาร์เซนอล ไม่สามารถทำคะแนนไล่ทันได้แล้ว โดยเชลซีเป็นฝ่ายเอาชนะ คริสตัลพาเลซ ไปได้ 1-0 ที่สนามสแตมฟอร์ดบริดจ์ จากซ้ำลูกจุดโทษของเอแดน อาซาร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นอกจากนี้แล้วเชลซียังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ คือ เป็นทีมที่ขึ้นนำในตารางคะแนนตั้งแต่เริ่มเปิดฤดูกาล จนถึงจบ โดยที่ไม่มีทีมใดสามารถแซงขึ้นนำได้ [8]

นอกจากนี้แล้ว ในฤดูกาลนี้ยังมีสถิติใหม่เกิดขึ้น คือ การทำแฮตทริกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยซาดิโน มาเน นักฟุตบอลชาวเซเนกัล ของเซาแทมป์ตัน ที่เอาชนะ แอสตันวิลลา ไปได้ถึง 6-1 ที่สนามเซนต์แมรีส์ โดยใช้เวลาไปทั้งหมดเพียง 2.56 นาที ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูล ที่ทำไว้ 4.33 นาที ตั้งแต่ฤดูกาล 1994–95 ที่พบกับ อาร์เซนอล[9]

ทีม[แก้]

ทีมเข้าแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม โดยเป็น 17 ทีมจากในฤดูกาล 2013-14 และอีก 3 ทีมที่เลื่อนขึ้นจากฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2013-14

ที่อยู่ของทีมจากลอนดอนในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014-15

สนามแข่งขัน[แก้]

ทีม สนาม ความจุ
อาร์เซนอล เอมิเรตส์สเตเดียม 60,362
แอสตันวิลลา วิลลาพาร์ก 42,682
เบิร์นลีย์ เทิร์ฟมัวร์ 22,546
เชลซี สแตมฟอร์ดบริดจ์ 41,798
คริสตัลพาเลซ เซลเฮิสต์พาร์ก 26,255
เอฟเวอร์ตัน กูดิสันพาร์ก 39,571
ฮัลล์ซิตี เคซีสเตเดียม 25,400
เลสเตอร์ซิตี คิงพาวเวอร์สเตเดียม 32,562
ลิเวอร์พูล แอนฟีลด์ 45,276
แมนเชสเตอร์ซิตี เอติฮัดสเตเดียม 47,405
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โอลด์แทรฟฟอร์ด 75,731
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เซนต์เจมส์พาร์ก 52,405
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ลอฟตัส โรด 18,360
เซาแทมป์ตัน เซนต์แมรีส์สเตเดียม 32,589
สโตกซิตี บริแทนเนียสเตเดียม 27,740
ซันเดอร์แลนด์ สเตเดียมออฟไลต์ 48,707
สวอนซีซิตี ลิเบอร์ตีสเตเดียม 20,750
ทอตนัมฮอตสเปอร์ ไวต์ฮาร์ตเลน 36,284
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน เดอะฮอว์ทอนส์ 26,445
เวสต์แฮมยูไนเต็ด โบลีนกราวนด์ 35,016

ทีมและชุดแข่งขัน[แก้]

หมายเหตุ: ธงแสดงชาตินั้นเป็นไปภายใต้กฎของฟีฟ่า นักฟุตบอลและผู้จัดการอาจจะถือมากกว่า 1 สัญชาติ

ทีม ผู้จัดการทีม1 กัปตันทีม ผู้ผลิตเสื้อ สปอนเซอร์
อาร์เซนอล ฝรั่งเศส แวงแกร์, อาร์แซนอาร์แซน แวงแกร์ สเปน อาร์เตตา, มีเกลมีเกล อาร์เตตา พูม่า[10] เอมิเรตส์[11]
แอสตันวิลลา อังกฤษ เชอร์วูด, ทิมทิม เชอร์วูด เนเธอร์แลนด์ ฟลาร์, โรนโรน ฟลาร์ มาครอน[12] ดาฟาเบต[13]
เบิร์นลีย์ อังกฤษ ไดช์, ชอนชอน ไดช์ อังกฤษ แช็กเคลล์, เจสันเจสัน แช็กเคลล์ พูม่า[14] fun88
เชลซี โปรตุเกส มูรีนโย, โชเซโชเซ มูรีนโย อังกฤษ เทร์รี, จอห์นจอห์น เทร์รี อาดิดาส[15] ซัมซุง[16]
คริสตัลพาเลซ อังกฤษ พาร์ดิว, แอลันแอลัน พาร์ดิว สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เยดีนัค, ไมล์ไมล์ เยดีนัค มาครอน[17] เน็ตเทลเลอร์
เอฟเวอร์ตัน สเปน มาร์ตีเนซ, โรเบร์โตโรเบร์โต มาร์ตีเนซ อังกฤษ จากีลกา, ฟิลฟิล จากีลกา อัมโบร[18] ช้าง[19]
ฮัลล์ซิตี อังกฤษ บรูซ, สตีฟสตีฟ บรูซ อังกฤษ เดวีส์, เคอร์ติสเคอร์ติส เดวีส์ อัมโบร[20] 12BET[21]
เลสเตอร์ซิตี อังกฤษ เพียร์สัน, ไนเจลไนเจล เพียร์สัน จาเมกา มอร์แกน, เวสเวส มอร์แกน พูม่า[22] คิงพาวเวอร์[23]
ลิเวอร์พูล ไอร์แลนด์เหนือ ร็อดเจอส์, เบรนดันเบรนดัน ร็อดเจอส์ อังกฤษ เจอร์ราร์ด, สตีเวนสตีเวน เจอร์ราร์ด วอร์ริเออร์[24] สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[25]
แมนเชสเตอร์ซิตี ชิลี เปเยกรีนี, มานวยล์มานวยล์ เปเยกรีนี เบลเยียม กงปานี, แว็งซ็องแว็งซ็อง กงปานี ไนกี้[26] เอติฮัด[27]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เนเธอร์แลนด์ ฟัน คาล, ลูวีลูวี ฟัน คาล อังกฤษ รูนีย์, เวย์นเวย์น รูนีย์ ไนกี้[28] เชฟโรเลต[29]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ คาร์เวอร์, จอห์นจอห์น คาร์เวอร์ อาร์เจนตินา โคลอชชินี, ฟาบริซิโอฟาบริซิโอ โคลอชชินี พูม่า[30] วองกา[31]
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ อังกฤษ คริส แรมซีย์ อังกฤษ ฮิลล์, คลินต์คลินต์ ฮิลล์ ไนกี้[32] แอร์เอเชีย[33]
เซาแทมป์ตัน เนเธอร์แลนด์ กุมัน, โรนัลด์โรนัลด์ กุมัน อังกฤษ เดวิส, เคลวินเคลวิน เดวิส ผลิตเองโดยสโมสร[34] วีโฮ[35]
สโตกซิตี เวลส์ ฮิวส์, มาร์กมาร์ก ฮิวส์ อังกฤษ ชอว์ครอส, ไรอันไรอัน ชอว์ครอส วอร์ริเออร์[36] เบต365[37]
ซันเดอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ อัดโฟกาต, ดิกดิก อัดโฟกาต สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โอเช, จอห์นจอห์น โอเช อาดิดาส[38] บีเอฟเอสกรุ๊ป[39]
สวอนซีซิตี อังกฤษ มังก์, แกรีแกรี มังก์ เวลส์ วิลเลียมส์, แอชลีย์แอชลีย์ วิลเลียมส์ อาดิดาส[40] จีดับเบิลยูเอฟเอ็กซ์[41]
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อาร์เจนตินา โปเซตีโน, เมารีซีโอเมารีซีโอ โปเซตีโน ฝรั่งเศส กาบูล, ยูแน็สยูแน็ส กาบูล อันเดอร์อามัวร์[42] เอไอเอ[43]
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน เวลส์ พูลิส, โทนีโทนี พูลิส ไอร์แลนด์เหนือ บรันต์, คริสคริส บรันต์ อาดิดาส[44] อินทูอิช ควิกบุ๊คส์[45]
เวสต์แฮมยูไนเต็ด อังกฤษ อัลลาร์ไดซ์, แซมแซม อัลลาร์ไดซ์ อังกฤษ โนแลน, เควินเควิน โนแลน อาดิดาส[46] อัลปารี[47]

เปลี่ยนผู้จัดการทีม[แก้]

ทีม ผู้จัดการคนก่อน เหตุที่ออก วันที่ อันดับในตารางคะแนน ผู้จัดการคนใหม่ วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
เวสต์บรอมวิชอัลเบียน สเปน เมล, เปเปเปเป เมล ความยินยอมร่วมกัน 12 พฤษภาคม 2014[48] ก่อนเริ่มฤดูกาล สกอตแลนด์ เออร์วิน, แอลันแอลัน เออร์วิน 14 มิถุนายน 2014[49]
ทอตนัมฮอตสเปอร์ อังกฤษ เชอร์วูด, ทิมทิม เชอร์วูด ถูกไล่ออก 13 พฤษภาคม 2014[50] อาร์เจนตินา โปเชตีโน, เมารีซีโอเมารีซีโอ โปเชตีโน 27 พฤษภาคม 2014[51]
เซาแทมป์ตัน อาร์เจนตินา โปเซตีโน, เมารีซิโอเมารีซิโอ โปเซตีโน ลาออก 27 พฤษภาคม 2014[51] เนเธอร์แลนด์ กุมัน, โรนัลด์โรนัลด์ กุมัน 16 มิถุนายน 2014[52]
คริสตัลพาเลซ เวลส์ พูลิส, โทนีโทนี พูลิส ความยินยอมร่วมกัน 14 สิงหาคม 2014[53] อังกฤษ วอร์น็อค, นีลนีล วอร์น็อค 27 สิงหาคม 2014[54]
คริสตัลพาเลซ อังกฤษ วอร์น็อค, นีลนีล วอร์น็อค ถูกไล่ออก 27 ธันวาคม 2014[55] อันดับที่ 18 อังกฤษ พาร์ดิว, แอลันแอลัน พาร์ดิว 2 มกราคม 2015[56]
เวสต์บรอมวิชอัลเบียน สกอตแลนด์ เออร์วิน, แอลันแอลัน เออร์วิน ถูกไล่ออก 29 ธันวาคม 2014[57] อันดับที่ 16 เวลส์ พูลิส, โทนีโทนี พูลิส 1 มกราคม 2015[58]
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด อังกฤษ พาร์ดิว, แอลันแอลัน พาร์ดิว ลาออก 2 มกราคม 2015[56] อันดับที่ 10 อังกฤษ คาร์เวอร์, จอห์นจอห์น คาร์เวอร์ 26 มกราคม 2015[59]
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ อังกฤษ เรดแนปป์, แฮร์รีแฮร์รี เรดแนปป์ ขอลาออก 3 กุมภาพันธ์ 2015[60] อันดับที่ 19 อังกฤษ คริส แรมซีย์ 12 กุมภาพันธ์ 2015[61]
แอสตันวิลลา สกอตแลนด์ แลมเบิร์ต, พอลพอล แลมเบิร์ต ถูกไล่ออก 11 กุมภาพันธ์ 2015[62] อันดับที่ 18 อังกฤษ เชอร์วูด, ทิมทิม เชอร์วูด 14 กุมภาพันธ์ 2015[63]
ซันเดอร์แลนด์ อุรุกวัย โปเยต์, กุสตาโวกุสตาโว โปเยต์ ถูกไล่ออก 16 มีนาคม 2015[64] อันดับที่ 17 เนเธอร์แลนด์ อัดโฟกาต, ดิกดิก อัดโฟกาต 17 มีนาคม 2015[65]

ตารางคะแนน[แก้]

อันดับ ทีม เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น
1 เชลซี (C) 38 26 9 3 73 32 +41 87 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม
2 แมนเชสเตอร์ซิตี 38 24 7 7 83 38 +45 79
3 อาร์เซนอล 38 22 9 7 71 36 +35 75
4 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 38 20 10 8 62 37 +25 70 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบเพลย์-ออฟ
5 ทอตนัมฮอตสเปอร์ 38 19 7 12 58 53 +5 64 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม[a]
6 ลิเวอร์พูล 38 18 8 12 52 48 +4 62
7 เซาแทมป์ตัน 38 18 6 14 54 33 +21 60 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบคัดเลือก รอบสาม[a]
8 สวอนซีซิตี 38 16 8 14 46 49 −3 56
9 สโตกซิตี 38 15 9 14 48 45 +3 54
10 คริสตัลพาเลซ 38 13 9 16 47 51 −4 48
11 เอฟเวอร์ตัน 38 12 11 15 48 50 −2 47
12 เวสต์แฮมยูไนเต็ด 38 12 11 15 44 47 −3 47 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบคัดเลือก รอบแรก[b]
13 เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 38 11 11 16 38 51 −13 44
14 เลสเตอร์ซิตี 38 11 8 19 46 55 −9 41
15 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 38 10 9 19 40 63 −23 39
16 ซันเดอร์แลนด์ 38 7 17 14 31 53 −22 38
17 แอสตันวิลลา 38 10 8 20 31 57 −26 38
18 ฮัลล์ซิตี (R) 38 8 11 19 33 51 −18 35 ตกชั้นสู่ ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป ฤดูกาล 2015–16
19 เบิร์นลีย์ (R) 38 7 12 19 28 53 −25 33
20 ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ (R) 38 8 6 24 42 73 −31 30
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด วันที่ 24 พฤษภาคม 2015. แหล่งที่มา : http://www.premierleague.com/en-gb/matchday/league-table.html พรีเมียร์ลีก]
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :
  1. 1.0 1.1 ตั้งแต่ผู้ชนะเลิศในรายการ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2014–15 คือ อาร์เซนอล และผู้ชนะเลิศในรายการ ฟุตบอลลีกคัพ ฤดูกาล 2014–15 คือ เชลซี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในอันดับที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ ทำให้ทีมอันดับที่หกก็คือ ลิเวอร์พูล จะได้สิทธิ์ในการผ่านเข้ารอบ ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม และทีมอันดับที่เจ็ดก็คือ เซาแทมป์ตัน ได้สิทธิ์ในการผ่านเข้ารอบ ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบคัดเลือก รอบสาม
  2. ทางลีกของอังกฤษได้รับโควต้าพิเศษจากยูฟ่าสำหรับการเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอล ยูโรปาลีก รอบคัดเลือก รอบแรก จากการที่ปัจจุบันลีกอังกฤษได้อยู่ในสามอันดับแรกของ อันดับคะแนนลีกแฟร์เพลย์ยูฟ่า.[66] ซึ่งสาเหตุนี้ทำให้ทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้รับในกรณีนี้ไปหลังจากเสร็จสิ้นตารางคะแนนอันดับลีกแฟร์เพลย์ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า).[67][68]

ผลการแข่งขัน[แก้]

เหย้า \ เยือน1 ARS AST BUR CHE CRY EVE HUL LEI LIV MCI MUN NEW QPR SOU STK SUN SWA TOT WBA WHU
อาร์เซนอล 5–0 3–0 0–0 2–1 2–0 2–2 2–1 4–1 2–2 1–2 4–1 2–1 1–0 3–0 0–0 0–1 1–1 4–1 3–0
แอสตันวิลลา 0–3 0–1 1–2 0–0 3–2 2–1 2–1 0–2 0–2 1–1 0–0 3–3 1–1 1–2 0–0 0–1 1–2 2–1 1–0
เบิร์นลีย์ 0–1 1–1 1–3 2–3 1–3 1–0 0–1 0–1 1–0 0–0 1–1 2–1 1–0 0–0 0–1 0–0 2–2 1–3
เชลซี 2–0 3–0 1–1 1–0 1–0 2–0 2–0 1–1 1–1 1–0 2–0 2–1 1–1 2–1 3–1 4–2 3–0 2–0 2–0
คริสตัลพาเลซ 1–2 0–1 0–0 1–2 0–1 0–2 2–0 3–1 2–1 1–2 1–1 3–1 1–3 1–1 1–3 1–0 2–1 0–2 1–3
เอฟเวอร์ตัน 2–2 3–0 1–0 3–6 2–3 1–1 2–2 0–0 1–1 3–0 3–0 3–1 1–0 0–1 0–2 0–0 0–1 0–0 2–1
ฮัลล์ซิตี 1–3 2–0 0–1 2–3 2–0 2–0 0–1 1–0 2–4 0–0 0–3 2–1 0–1 1–1 1–1 0–1 1–2 0–0 2–2
เลสเตอร์ซิตี 1–1 1–0 2–2 1–3 0–1 2–2 0–0 1–3 0–1 5–3 3–0 5–1 2–0 0–1 0–0 2–0 1–2 0–1 2–1
ลิเวอร์พูล 2–2 0–1 2–0 1–2 1–3 1–1 0–0 2–2 2–1 1–2 2–0 2–1 2–1 1–0 0–0 4–1 3–2 2–1 2–0
แมนเชสเตอร์ซิตี 0–2 3–2 2–2 1–1 3–0 1–0 1–1 2–0 3–1 1–0 5–0 6–0 2–0 0–1 2–1 4–1 3–0 2–0
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1–1 3–1 3–1 1–1 1–0 2–1 3–0 3–1 3–0 4–2 3–1 4–0 0–1 2–1 2–0 1–2 3–0 0–1 2–1
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 1–2 1–0 3–3 2–1 3–3 3–2 2–2 1–0 1–0 0–2 0–1 1–0 1–2 1–1 0–1 2–3 1–3 1–1 2–0
ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 1–2 2–0 2–0 0–1 0–0 1–2 0–1 3–2 2–3 2–2 0–2 2–1 0–1 2–2 1–0 1–1 1–2 3–2 0–0
เซาแทมป์ตัน 2–0 6–1 2–0 1–1 1–0 3–0 2–0 2–0 0–2 0–3 1–2 4–0 2–1 1–0 8–0 0–1 2–2 0–0 0–0
สโตกซิตี 3–2 0–1 1–2 0–2 1–2 2–0 1–0 0–1 6–1 1–4 1–1 1–0 3–1 2–1 1–1 2–1 3–0 2–0 2–2
ซันเดอร์แลนด์ 0–2 0–4 2–0 0–0 1–4 1–1 1–3 0–0 0–1 1–4 1–1 1–0 0–2 2–1 3–1 0–0 2–2 0–0 1–1
สวอนซีซิตี 2–1 1–0 1–0 0–5 1–1 1–1 3–1 2–0 0–1 2–4 2–1 2–2 2–0 0–1 2–0 1–1 1–2 3–0 1–1
ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2–1 0–1 2–1 5–3 0–0 2–1 2–0 4–3 0–3 0–1 0–0 1–2 4–0 1–0 1–2 2–1 3–2 0–1 2–2
เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 0–1 1–0 4–0 3–0 2–2 0–2 1–0 2–3 0–0 1–3 2–2 0–2 1–4 1–0 1–0 2–2 2–0 0–3 1–2
เวสต์แฮมยูไนเต็ด 1–2 0–0 1–0 0–1 1–3 1–2 3–0 2–0 3–1 2–1 1–1 1–0 2–0 1–3 1–1 1–0 3–1 0–1 1–1

อัปเดตล่าสุดวันที่ 24 พฤษภาคม 2015
แหล่งข้อมูล:[ต้องการอ้างอิง]
1คอลัมน์ด้านซ้ายมือหมายถึงทีมเหย้า
สี: ฟ้า = ทีมเหย้าชนะ; เหลือง = เสมอ; แดง = ทีมเยือนชนะ
สำหรับแมตช์ที่กำลังมาถึง อักษร a หมายถึง มีบทความเกี่ยวกับแมตช์นั้น

สถิติตลอดฤดูกาล[แก้]

การทำประตู[แก้]

ผู้ทำประตูสูงสุด[แก้]

ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2015
อันดับ ชื่อ สโมสร ประตู[1]
1 อาร์เจนตินา เซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี 26
2 อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ 21
3 สเปน เดียโก โกสตา เชลซี 20
4 อังกฤษ ชาร์ลี ออสติน ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 18
5 ชิลี อาเลกซิส ซานเชซ อาร์เซนอล 16
6 ฝรั่งเศส ออลีวีเย ฌีรู อาร์เซนอล 14
เบลเยียม เอแดน อาซาร์ เชลซี
อังกฤษ ไซโด เบราฮีโน เวสต์บรอมมิชอัลเบียน
9 เบลเยียม คริสตีย็อง แบนเตเก แอสตันวิลลา 13
10 อังกฤษ เวย์น รูนีย์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 12
สเปน ดาบิด ซิลบา แมนเชสเตอร์ซิตี
อิตาลี กราซีอาโน เปลแล เซาแทมป์ตัน

แฮท-ทริคส์[แก้]

ผู้เล่น ทีม พบกับทีม ผล วันที่
สเปน โกสตา, เดียโกเดียโก โกสตา เชลซี สวอนซีซิตี 4–2[69] 13 กันยายน 2014
อาร์เจนตินา อะกูเอโร, เซร์คีโอเซร์คีโอ อะกูเอโร4 แมนเชสเตอร์ซิตี ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4–1[70] 18 ตุลาคม 2014
อังกฤษ ออสติน, ชาร์ลีชาร์ลี ออสติน ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 3–2[71] 20 ธันวาคม 2014
สาธารณรัฐไอร์แลนด์ วอลเตอส์, จอนาทันจอนาทัน วอลเตอส์ สโตกซิตี ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 3–1[72] 31 มกราคม 2015
อังกฤษ เคน, แฮร์รีแฮร์รี เคน ทอตนัมฮอตสเปอร์ เลสเตอร์ซิตี 4–3[73] 21 มีนาคม 2015
เบลเยียม แบนเตเก, คริสตีย็องคริสตีย็อง แบนเตเก แอสตันวิลลา ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 3–3[74] 7 เมษายน 2015
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โบลาซี, ยานนิคยานนิค โบลาซี คริสตัลพาเลซ ซันเดอร์แลนด์ 4–1[75] 11 เมษายน 2015
อาร์เจนตินา อะกูเอโร, เซร์คีโอเซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ 6–0[76] 10 พฤษภาคม 2015
เซเนกัล มาเน, ซาดีโยซาดีโย มาเน เซาแทมป์ตัน แอสตันวิลลา 6–1[77] 16 พฤษภาคม 2015
อังกฤษ วอลคอตต์, ทีโอทีโอ วอลคอตต์ อาร์เซนอล เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 4–1[78] 24 พฤษภาคม 2015

4 ผู้เล่นที่ทำคนเดียว 4 ประตู

คลีนชีต[แก้]

ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2015.[79]
อันดับ ผู้เล่น สโมสร คลีนชีต
1 อังกฤษ โจ ฮาร์ต แมนเชสเตอร์ซิตี 14
2 โปแลนด์ วูกัช ฟาเบียญสกี สวอนซีซิตี 13
อังกฤษ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เซาแทมป์ตัน
เบลเยียม ซีมง มีญอแล ลิเวอร์พูล
5 เบลเยียม ตีโบ กูร์ตัว เชลซี 12
6 อังกฤษ เบน ฟอสเตอร์ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 11
โรมาเนีย คอสเทล พานทิลิมอน ซันเดอร์แลนด์
8 สเปน ดาบิด เด เคอา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 10
อังกฤษ ทอม ฮีตัน เบิร์นลีย์
10 สหรัฐ แบรด กูซาน แอสตันวิลลา 9

กฎ-กติกา[แก้]

ผู้เล่น[แก้]

ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2015.

สโมสร[แก้]

  • ใบเหลืองมากที่สุด:[81] 94
    • ซันเดอร์แลนด์
  • ใบแดงมากที่สุด:[81] 7
    • แอสตันวิลลา
    • นิวคาสเซิลยูไนเต็ด

รางวัล[แก้]

รางวัลประจำเดือน[แก้]

เดือน ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน ผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือน อ้างอิง
ผู้จัดการทีม สโมสร ผู้เล่น สโมสร
สิงหาคม อังกฤษ แกรี มังก์ สวอนซี ซิตี สเปน เดียโก โกสตา เชลซี [82]
กันยายน เนเธอร์แลนด์ โรนัลด์ กุมัน เซาแทมป์ตัน อิตาลี กราซีอาโน เปลแล เซาแทมป์ตัน [83]
ตุลาคม อังกฤษ แซม อัลลาร์ไดซ์ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เซเนกัล ดีอาฟรา ซาโก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด [84]
พฤศจิกายน อังกฤษ แอลัน พาร์ดิว นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อาร์เจนตินา เซร์คีโอ อะกูเอโร แมนเชสเตอร์ซิตี [85]
ธันวาคม ชิลี มานวยล์ เปเยกรีนี แมนเชสเตอร์ซิตี อังกฤษ ชาร์ลี ออสติน ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์ [86]
มกราคม เนเธอร์แลนด์ โรนัลด์ กุมัน เซาแทมป์ตัน อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัม ฮอตสเปอร์ [87]
กุมภาพันธ์ เวลส์ โทนี พูลิส เวสต์บรอมมิช อัลเบียน อังกฤษ แฮร์รี เคน ทอตนัม ฮอตสเปอร์ [88]
มีนาคม ฝรั่งเศส อาร์แซน แวงแกร์ อาร์เซนอล ฝรั่งเศส ออลีวีเย ฌีรู อาร์เซนอล [89]
เมษายน อังกฤษ ไนเจล เพียร์สัน เลสเตอร์ซิตี เบลเยียม คริสตีย็อง แบนเตเก แอสตันวิลลา [90]

รางวัลประจำปี[แก้]

ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก[แก้]

โชเซ มูรีนโย คว้ารางวัล ผู้จัดการทีมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก.[91]

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก ได้แก่ เอแดน อาซาร์.[91]

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ เอแดน อาซาร์.[92]

ทีมยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ[แก้]

ทีมยอดเยี่ยมประจำปีของพีเอฟเอ ได้แก่:[92]

นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ ได้แก่ เอแดน อาซาร์.[93]

นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ[แก้]

รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ได้แก่ แฮร์รี เคน.[92]

รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก[แก้]

รางวัล รองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีก ได้แก่ เซร์คีโอ อะกูเอโร ผู้ที่ทำประตู 26 ประตู.[94]

ถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก[แก้]

รางวัล ถุงมือทองคำพรีเมียร์ลีก ได้แก่ โจ ฮาร์ต ผู้เก็บคลีนชีตส์ 14 ครั้ง.[94]

พรีเมียร์ลีก แฟร์เพลย์ ลีก[แก้]

พรีเมียร์ลีก แฟร์เพลย์ ลีก ได้แก่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด. นอกจากนี้, พวกเขาได้รับพิ้นที่ในการไปแข่งขัน ยูโรปาลีก รอบคัดเลือกรอบแรก.[95]

ค่าเฉลี่ยยอดผู้ชม[แก้]

สโมสร ค่าเฉลี่ยยอดผู้ชม[96]
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 75,335
อาร์เซนอล 59,992
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 50,359
แมนเชสเตอร์ซิตี 45,365
ลิเวอร์พูล 44,659
ซันเดอร์แลนด์ 43,157
เชลซี 41,546
เอฟเวอร์ตัน 38,406
ทอตนัม ฮอตสเปอร์ 35,728
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 34,846
แอสตันวิลลา 34,133
เลสเตอร์ซิตี 31,693
เซาแทมป์ตัน 30,741
สโตก ซิตี 27,081
เวสต์บรอมมิช อัลเบียน 25,064
คริสตัล พาเลซ 24,421
ฮัลล์ ซิตี 23,557
สวอนซี ซิตี 20,555
เบิร์นลีย์ 19,131
ควีนส์พาร์ก เรนเจอส์ 17,809

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Aguero and Hart seal Golden Awards double for Man City". Premier League. Barclay's Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 11 April 2016.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 "Season: 2014–2015". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-07. สืบค้นเมื่อ 2 January 2015.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 "Barclays Premier League Statistics – 2014–15". ESPN FC. Entertainment and Sports Programming Network (ESPN). สืบค้นเมื่อ 31 August 2014.
  4. "When does the 2014/15 season start? - Premier League website". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-15. สืบค้นเมื่อ 13 March 2014.
  5. "When does the 2014/15 season start? - Premier League website". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-04-15. สืบค้นเมื่อ 13 March 2014.
  6. "เผยศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษถลุงเงินตลาดรอบแรกกระจายเฉียดหลักครึ่งแสนล้านบาท!". สืบค้นเมื่อ 3 September 2014.
  7. หน้า 20 กีฬา, พรีเมียร์ลีก : ลีก 'เจ้าบุญทุ่ม' ! โดย ผยองเดช. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,703: วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2557 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเมีย
  8. หน้า 17 ต่อ 19 กีฬา, 'เชลซี'เข้าป้ายแชมป์พรีเมียร์ลีก. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,944: วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 แรม 2 ค่ำ เดือน 6 ปีมะแม
  9. "นักบุญยำวิลลามาเนแฮตทริกเร็วสุด". เดลินิวส์ออนไลน์. 16 May 2015. สืบค้นเมื่อ 19 May 2015.
  10. "PUMA and Arsenal announce partnership". arsenal.com. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  11. "Arsenal football club in £150m Emirates deal". BBC News. 23 November 2012. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  12. "Aston Villa secure new £15 million kit deal with Macron". fcbusiness. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-11-25. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  13. "Dafabet announced as official main club sponsor". Aston Filla FC. สืบค้นเมื่อ 11 June 2013.
  14. "Burnley FC Home Kit 2014/15". Burnley F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-15. สืบค้นเมื่อ 8 July 2014.
  15. "Chelsea agree whopping £300m kit deal with sportswear giants adidas". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  16. "New shirts please! Chelsea extend Samsung sponsorship deal". The Daily Mirror. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  17. "CPFC And Macron Sign New Kit Deal". cpfc.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-06-06. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  18. "Everton agree five-year deal with Umbro to supply club kits from start of next season". dailymail.co.uk. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  19. "Blues Strike Record Chang Deal". evertonfc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-24. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  20. "Umbro continue brand revival, announce Hull City kit deal". sbnation.com. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  21. "12BET Becomes Official Shirt Sponsor Of Hull City". The Tigers Official Website. Hull City A.F.C. 17 July 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-17. สืบค้นเมื่อ 17 July 2014.
  22. "Leicester City announce Puma Kit Deal". footballshirtculture.com. สืบค้นเมื่อ 17 May 2013.
  23. "2014/15 PUMA Home Kit Now On Sale!". lcfc.com. สืบค้นเมื่อ 19 June 2014.
  24. "Liverpool announce new £150m kit deal after Adidas row". telegraph.co.uk. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  25. "Liverpool stick with shirt sponsor Standard Charter after penning two-year extension". Daily Mail. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  26. Ogden, Mark (4 May 2012). "Manchester City's six-year kit deal with Nike could earn the Premier League leaders up to £12million a year". The Daily Telegraph. London. สืบค้นเมื่อ 2 May 2013.
  27. Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  28. de Menezes, Jack. "Manchester United and adidas announce record £75m-per-year deal after Nike pull out". The Independent. London. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-07-17. สืบค้นเมื่อ 14 July 2014.
  29. "Manchester United's £53m shirt deal with Chevrolet unaffected despite likely absence of Champions League". telegraph.co.uk. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  30. "Newcastle Unveil 2014/15 Away Kit". nufc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  31. "Newcastle Agree Four-Year Wonga Deal". nufc.co.uk. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  32. "EXCLUSIVE: R'S SIGN NIKE DEAL". qpr.co.uk. สืบค้นเมื่อ 25 May 2014.
  33. "QPR agree new AirAsia sponsorship deal" (Press release). Queens Park Rangers F.C. 4 June 2014. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
  34. "STATEMENT: Saints produce unique 2014/15 kit collection". Southampton F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-17. สืบค้นเมื่อ 30 June 2014.
  35. "Veho becomes Southampton FC shirt sponsor". pcr-online.biz. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  36. "Stoke City reveal new kit for 2014/15 - PICTURES". stokesentinel.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-12. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  37. "Stoke City: bet365 put their shirts on Stoke City". thisisstaffordshire.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-03. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  38. "Sunderland sign new kit deal with Adidas". goal.com. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
  39. "Sunderland Sign New Shirt Sponsorship Deal With South African Multinational". tyneandwear.sky.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-21. สืบค้นเมื่อ 1 June 2013.
  40. "Swansea Extend Adidas Kit Deal". footballshirtculture.com. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  41. "NEW SWANSEA CITY 14-15 KITS RELEASED". สืบค้นเมื่อ 25 June 2014.
  42. "Spurs announce £50million kit deal". The Daily Mirror. สืบค้นเมื่อ 2 May 2013.
  43. "AIA TO BECOME TOTTENHAM HOTSPUR'S NEW PRINCIPAL PARTNER". tottenhamhotspur.com. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  44. "West Brom extend Adidas deal". expressandstar.com. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  45. "West Brom agree shirt sponsorship deal with Intuit QuickBooks". Birmingham Mail. สืบค้นเมื่อ 12 July 2014.
  46. "West Ham United and adidas". West Ham United FC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-10. สืบค้นเมื่อ 7 May 2013.
  47. "Alpari named new Principal Sponsor". whufc.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-17. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  48. "Pepe Mel: West Bromwich Albion part company with manager". BBC Sport. 12 May 2014. สืบค้นเมื่อ 12 May 2014.
  49. "Alan Irvine: West Bromwich Albion announce new manager". BBC Sport. 14 June 2014. สืบค้นเมื่อ 14 June 2014.
  50. "Tim Sherwood sacked as Tottenham manager". BBC Sport. 13 May 2014. สืบค้นเมื่อ 13 May 2014.
  51. 51.0 51.1 "Mauricio Pochettino: Tottenham appoint Southampton boss". BBC Sport. 27 May 2014. สืบค้นเมื่อ 27 May 2014.
  52. "Ronald Koeman: Southampton confirm Dutchman as new manager". BBC Sport. 16 June 2014. สืบค้นเมื่อ 16 June 2014.
  53. "Crystal Palace and Tony Pulis part company". BBC Sport. 14 August 2014. สืบค้นเมื่อ 14 August 2014.
  54. "Neil Warnock: Crystal Palace has named Neil Warnock as new manager". BBC Sport. 27 August 2014. สืบค้นเมื่อ 27 August 2014.
  55. "Neil Warnock: Crystal Palace sack manager after Southampton defeat". BBC Sport. 27 December 2014. สืบค้นเมื่อ 27 December 2014.
  56. 56.0 56.1 "Alan Pardew: Crystal Palace appoint Newcastle manager". BBC Sport. 2 January 2015. สืบค้นเมื่อ 2 January 2015.
  57. "Alan Irvine: West Brom sack manager after Stoke defeat". BBC Sport. 29 December 2014. สืบค้นเมื่อ 29 December 2014.
  58. "Tony Pulis: West Brom appoint Tony Pulis as head coach". BBC Sport. 1 January 2014. สืบค้นเมื่อ 1 January 2014.
  59. "Newcastle United: John Carver to stay in charge until end of season". BBC Sport. 26 January 2015. สืบค้นเมื่อ 26 January 2015.
  60. "Harry Redknapp resigns as QPR manager". BBC Sport. 3 February 2015. สืบค้นเมื่อ 3 February 2015.
  61. De Menezes, Jack (12 February 2015). "Chris Ramsey appointed QPR manager: Caretaker boss set to manage Queens Park Rangers until the end of the season". The Independent. สืบค้นเมื่อ 12 February 2015.
  62. Percy, John (11 February 2015). "Paul Lambert sacked by Aston Villa". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 11 February 2015.
  63. "Tim Sherwood appointed new Aston Villa boss". BBC Sport. 14 February 2015. สืบค้นเมื่อ 14 February 2015.
  64. "Club parts company with head coach". Sunderland Official Site. 16 March 2015. สืบค้นเมื่อ 16 March 2015.
  65. "Black Cats appoint Advocaat". Sunderland AFC. 17 March 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-12. สืบค้นเมื่อ 17 March 2015.
  66. "Netherlands, England, Ireland get Fair Play bonus". UEFA.com. 8 May 2015. สืบค้นเมื่อ 8 May 2015.
  67. "West Ham get UEFA Europa League place after topping Fair Play Table". premierleague.com. 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 26 May 2015.
  68. "West Ham qualify for Europa League through Fair Play system". BBC Sport. 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 26 May 2015.
  69. "Chelsea 4–1 Swansea City". BBC Sport. 13 September 2014.
  70. "Manchester City 4–1 Tottenham Hotspur". BBC Sport. 18 October 2014.
  71. "Queens Park Rangers 3–2 West Bromwich Albion". BBC Sport. 20 December 2014.
  72. "Stoke City 3–1 Queen's Park Rangers". BBC Sport. 31 January 2015.
  73. "Spurs 4–3 Leicester City". BBC Sport. 21 March 2015.
  74. "Aston Villa 3–3 Queens Park Rangers". BBC Sport. 7 April 2015.
  75. "Sunderland 1–4 Crystal Palace". BBC Sport. 11 April 2015.
  76. "Man City 6–0 QPR". BBC Sport. 10 May 2015.
  77. "Southampton 6–1 Aston Villa". BBC Sport. 16 May 2015.
  78. "Arsenal 4–1 West Brom". BBC Sport. 24 May 2015.
  79. "Statistical Leaders – Clean Sheets". NBC Sports. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2013. สืบค้นเมื่อ 23 August 2014.
  80. 80.0 80.1 "Players Index". premierleague.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-19. สืบค้นเมื่อ 22 August 2014.
  81. 81.0 81.1 "Club Index". premierleague.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-26. สืบค้นเมื่อ 22 August 2014.
  82. "Diego Costa wins Premier League Player of the Month for August after fine Chelsea start while Garry Monk takes manager's award". dailymail.co.uk. 12 September 2014. สืบค้นเมื่อ 12 September 2014.
  83. "Koeman and Pelle earn Barclays Premier League awards". premierleague.com. 17 October 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-23. สืบค้นเมื่อ 17 October 2014.
  84. "West Ham exceed Allardyce's expectations". premierleague.com. 7 November 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-08. สืบค้นเมื่อ 7 November 2014.
  85. "Aguero and Pardew claim Barclays' monthly awards". premierleague.com. 12 December 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-16. สืบค้นเมื่อ 12 December 2014.
  86. "Austin and Pellegrini claim Barclays' monthly awards". premierleague.com. 16 January 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-22. สืบค้นเมื่อ 16 January 2015.
  87. "Kane and Koeman claim Barclays monthly awards". premierleague.com. 13 February 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-02-15. สืบค้นเมื่อ 13 February 2015.
  88. "Kane and Pulis claim Barclays monthly awards". premierleague.com. 13 March 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-03-13. สืบค้นเมื่อ 13 March 2015.
  89. "Giroud and Wenger secure Barclays Monthly Awards". premierleague.com. 3 April 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-08-12. สืบค้นเมื่อ 3 April 2015.
  90. "Benteke and Pearson win Barclays monthly awards". premierleague.com. 8 May 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-10. สืบค้นเมื่อ 8 May 2015.
  91. 91.0 91.1 "Chelsea: Jose Mourinho and Eden Hazard win award double". BBC Sport. 22 May 2015. สืบค้นเมื่อ 22 May 2015.
  92. 92.0 92.1 92.2 92.3 "Chelsea's Eden Hazard named PFA Player of the Year". BBC Sport. 26 April 2015. สืบค้นเมื่อ 22 May 2015.
  93. "Eden Hazard adds Footballer of the Year title to PFA award". Sky Sports. 12 May 2015. สืบค้นเมื่อ 22 May 2015.
  94. 94.0 94.1 "Sergio Aguero and Joe Hart complete golden double for Man City". skysports.com. 24 May 2015. สืบค้นเมื่อ 25 May 2015.
  95. "West Ham qualify for Europa League". BBC Sport. 26 May 2015. สืบค้นเมื่อ 27 May 2015.
  96. http://www.european-football-statistics.co.uk/attn.htm