พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24
ฤดูกาล | 2023–24 |
---|---|
วันที่ | 11 สิงหาคม ค.ศ. 2023 – 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 |
ทีมชนะเลิศ | แมนเชสเตอร์ซิตี |
ตกชั้น | |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก |
|
ยูโรปาลีก | |
คอนเฟอเรนซ์ลีก | เชลซี |
จำนวนนัด | 380 |
จำนวนประตู | 1,246 (3.28 ประตูต่อนัด) |
ผู้ทำประตูสูงสุด | อาลิง โฮลัน (27 ประตู) |
ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด | ดาบิด รายา (16 คลีนชีตส์) |
ทีมเหย้า ชนะสูงสุด | เชลซี 6–0 เอฟเวอร์ตัน (15 เมษายน 2024) |
ทีมเยือน ชนะสูงสุด | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 0–8 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (24 กันยายน 2023) |
จำนวนประตูสูงสุด | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 0–8 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (24 กันยายน 2023) เชลซี 4–4 แมนเชสเตอร์ซิตี (12 พฤศจิกายน 2023) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4–4 ลูตันทาวน์ (3 กุมภาพันธ์ 2024) |
ชนะติดต่อกัน มากที่สุด | 9 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี[1] |
ไม่แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด | 23 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี[1] |
ไม่ชนะติดต่อกัน มากที่สุด | 14 นัด เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด[1] |
แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด | 7 นัด เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด[1] |
จำนวนผู้ชมสูงสุด | 73,612 คน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-0 เวสต์แฮมยูไนเต็ด (4 กุมภาพันธ์ 2024) |
จำนวนผู้ชมต่ำสุด | 10,421 คน บอร์นมัท 0–0 เชลซี (17 กันยายน 2023) |
จำนวนผู้ชมรวม | 14,674,624 |
จำนวนผู้ชมเฉลี่ย | 38,617 |
← 2022–23 2024–25 → |
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 จะเป็นฤดูกาลที่ 32 ของพรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 125 ของฟุตบอลลีกสูงสุด ฤดูกาลเริ่มต้นในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2023 และสิ้นสุดในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024[2][3][4][5]
แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นทีมที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้ สามารถคว้าแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน และกลายเป็นสโมสรฟุตบอลชายแห่งแรกในประวัติศาสตร์ลีกอังกฤษที่บรรลุเป้าหมายนี้[6][7][8]
ฤดูกาลนี้เป็นการกลับมาของช่วงพักกลางฤดูกาลซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 ถึง 20 มกราคม ค.ศ. 2024[9] พรีเมียร์ลีกยืนยันว่าตลาดซื้อขายช่วงฤดูร้อนจะเปิดในวันที่ 14 มิถุนายนและจะปิดเวลา 23:00 น. ตามเวลาฤดูร้อนของอังกฤษในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2023 ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูหนาวจะเปิดในวันที่ 1 มกราคม และจะปิดในเวลา 23:00 (เวลามาตรฐานกรีนิช) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024[10]
ระหว่างฤดูกาลมีสถิติการทำประตูเป็นประวัติการณ์ถึง 1,246 ประตู (380 นัด เฉลี่ย 3.28 ประตูต่อนัด) ทำลายสถิติก่อนหน้าที่ 1,222 ประตูในฤดูกาล 1992–93 (ซึ่งมี 462 นัด เฉลี่ย 2.65 ประตูต่อนัด) ประตูเฉลี่ยต่อนัดสูงที่สุดในลีกสูงสุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1964–65 ทั้งสามทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลนี้ตกชั้น (ลูตันทาวน์, เบิร์นลีย์ และเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด) เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ฤดูกาล 1997–98 ทั้งสามทีมมีคะแนนรวมกัน 66 แต้ม น็อตทิงแฮมฟอเรสต์รอดจากการตกชั้นด้วยคะแนน 32 แต้ม (รวมการถูกหัก 4 แต้ม) ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับทีมที่รอดจากการตกชั้น
เหตุการณ์
[แก้]เป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (ต่อจากมิดเดิลส์เบรอในฤดูกาล 1996–97 และพอร์ทสมัทในฤดูกาล 2009–10) ที่ทีมในพรีเมียร์ลีกถูกหักคะแนน เมื่อเอฟเวอร์ตันถูกหัก 10 แต้มจากคะแนนรวมของพวกเขาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 เนื่องจากละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก การหักคะแนนดังกล่าวถือเป็นการหักคะแนนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก[11] เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2024 หลังจากการอุทธรณ์ ได้มีการประกาศว่าการหักคะแนนได้ลดลงเหลือแค่หัก 6 แต้มจากคะแนนรวมของพวกเขา[12] เมื่อวันที่ 8 เมษายน สโมสรถูกหักคะแนนเพิ่มเติมอีก 2 แต้ม เนื่องจากการละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่าถูกหักคะแนนรวม 8 แต้ม[13] ขณะนี้การตัดสินหักคะแนนครั้งที่สองยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์[14]
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2023 ในการแข่งขันระหว่างทอตนัมฮอตสเปอร์และลิเวอร์พูล ดาร์เรน อิงแลนด์ ผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์ (VAR) ของพรีเมียร์ลีก มีความผิดพลาดในการตัดสินที่ระงับการทำประตูของ ลุยส์ ดิอัซ ซึ่งเป็นการทำประตูทีถูกต้องตามกฎ ทำให้ลิเวอร์พูลแพ้การแข่งขัน 2–1 และสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PGMOL) ยอมรับว่าการตัดสินล้ำหน้านั้นเป็น "ข้อผิดพลาดของมนุษย์ที่มีนัยสำคัญ" มีการเปิดเผยว่าอิงแลนด์และผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์ แดน คุก ใช้เวลาโดยสารเที่ยวบิน 8 ชั่วโมงกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันก่อน เจ้าหน้าที่ PGMOL กลุ่มหนึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อดูแลการแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลชาร์จาห์และสโมสรฟุตบอลอัลอิน ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ PGMOL ที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของการแข่งขันชั้นนำเข้ารับงานที่มีรายได้ในยูเออีโปรลีก แม้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ซิตีก็ตาม[15]
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2023 เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรแรกที่ปลดพอล เฮคกิงบอททอม ผู้จัดการทีมของพวกเขาออกจากตำแหน่งหลังจากแพ้เบิร์นลีย์ของแว็งซ็อง กงปานี 0–5 เขาถูกแทนที่โดยคริส วิลเดอร์ อดีตผู้จัดการทีมที่นำเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019–20 ถือเป็นการกลับมาที่สโมสรของเขาตั้งแต่ฤดูกาล 2020–21 ในเวลานั้นเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดอยู่บ๊วยของตารางโดยเก็บได้เพียง 5 แต้มจาก 14 นัด
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2023 การแข่งขันระหว่างบอร์นมัทและลูตันทาวน์ที่ไวทาลิตีสเตเดียมถูกยกเลิกหลังจากเล่นไปได้ 65 นาที เนื่องจากทอม ล็อคเยอร์ กัปตันทีมลูตันทาวน์ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นล้มลงกลางสนาม การแข่งขันถูกระงับในตอนแรก โดยผู้ตัดสินนำผู้เล่นทั้งสองทีมออกจากสนามในช่วงกลางครึ่งหลัง ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ดูแลล็อคเยอร์ ในที่สุดเขาก็ถูกเปลหามและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาได้รับแจ้งว่าเขาตอบสนองได้ดีแล้ว และอยู่ในอาการทรงตัวแล้ว จากนั้นผู้ตัดสินก็ระงับการแข่งขันหลังจากผ่านไป 65 นาที โดยมีคะแนนอยู่ที่ 1–1 [16]
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2023 นอตทิงแฮมฟอเรสต์เป็นสโมสรที่สองที่ปลดผู้จัดการทีม โดยปลดสตีฟ คูเปอร์ออกจากตำแหน่งหลังจากไร้ชัยชนะมา 6 นัดติดต่อกัน นัดสุดท้ายที่เขาคุมทีมคือแพ้ในบ้าน 0–2 ต่อ ทอตนัมฮอตสเปอร์ เขาถูกแทนที่โดยนูนู อึชปีรีตู ซังตู อดีตผู้จัดการทีมวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และทอตนัมฮอตสเปอร์ ซึ่งนัดแรกของเขาในการคุมทีมคือแพ้ในบ้าน 2–3 ต่อบอร์นมัท ทำให้สโมสรไร้ชัย 7 นัดติดต่อกัน ในนัดที่ 2 ของเขา นูนูจบสถิติไร้ชัยของนอตทิงแฮมฟอเรสต์ด้วยการชนะ 3–1 ในการแข่งขันกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่เซนต์เจมส์พาร์ก โดยคริส วูดทำแฮตทริกใส่สโมสรเก่าของเขา ซึ่งเขาออกจากสโมสรในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมของฤดูกาล 2022–23
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024, เยือร์เกิน คล็อพ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ประกาศอำลาการเป็นผู้จัดการทีมในช่วงท้ายของฤดูกาล หลังจากอยู่กับทีมเป็นระยะเวลา 8 ปี[17]
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2024 รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคริสตัลพาเลซ ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม พาเลซแพ้ 10 นัด จากนัดก่อนหน้า 16 นัด และอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางคะแนน มี 5 แต้มเหนือโซนตกชั้น ฮอดจ์สันซึ่งป่วยในช่วงการฝึกซ้อมกับทีม ถูกแทนที่โดยโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ อดีตผู้จัดการทีมไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท[18]
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2024 นอตทิงแฮมฟอเรสต์ เป็นสโมสรที่สี่ในพรีเมียร์ลีกที่ถูกหักคะแนน พวกเขาถูกหัก 4 แต้ม เนื่องจากละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก[19] ขณะนี้การตัดสินยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์[20]
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2024 เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรแรกที่ตกชั้นสู่แชมเปียนชิป หลังจากแพ้ในเกมเยือน 5–1 ต่อนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 10 แต้มในการแข่งขันอีกสามนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น[21] เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พวกเขากลายเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่เสียประตู 100 ประตู จาก 38 นัดในฤดูกาล เท่ากับสถิติของสวินดอนทาวน์ที่เสียประตู 100 ประตู ในฤดูกาล 1993–94 จาก 42 นัดในฤดูกาล[22] เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พวกเขาทำลายสถิติของพรีเมียร์ลีกด้วยการเสียประตูที่ 101 ในความพ่ายแพ้ 1–0 ต่อเอฟเวอร์ตัน โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเสียประตูทั้งหมด 104 ประตู ซึ่งมากที่สุดของทีมในลีกสูงสุดนับตั้งแต่อิปสวิชทาวน์ที่เสียประตู 121 ประตูในฤดูกาล 1963–64[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2024 เวสต์แฮมยูไนเต็ด ประกาศว่า เดวิด มอยส์ จะออกจากการเป็นผู้จัดการทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาล เมื่อสัญญาของเขาหมดอายุลง[23]
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2024 เบิร์นลีย์กลายเป็นสโมสรที่สองที่ตกชั้น หลังจากแพ้ในเกมเยือน 2–1 ต่อทอตนัมฮอตสเปอร์ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 5 แต้มในการแข่งขันอีกหนึ่งนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น โดยล้มเหลวในการออกจากโซนตกชั้นนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล[24][25]
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2024 เช่นกันนั้น ลูตันทาวน์ แพ้ในเกมเยือน 3–1 ต่อเวสต์แฮมยูไนเต็ด ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 3 แต้มในการแข่งขันอีกหนึ่งนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น แม้จะไม่ยืนยันการตกชั้นในทางคณิตศาสตร์ แต่ก็ต้องใช้การพลิกผันผลต่างประตูถึง 13 ประตู ในวันสุดท้ายของฤดูกาลเพื่อจะแย่งอันดับที่ 17 จากนอตทิงแฮมฟอเรสต์[26] การตกชั้นของพวกเขาได้รับการยืนยันในวันสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อพวกเขาแพ้ 4–2 ต่อฟูลัม และนอตทิงแฮมฟอเรสต์ชนะเบิร์นลีย์ 2–1[27][28]
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2024 ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ประกาศว่าพวกเขาได้รับความยินยอมร่วมกันกับโรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีม ในการสิ้นสุดสัญญาหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลในวันรุ่งขึ้น[29]
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2024 วันสุดท้ายของฤดูกาล แมนเชสเตอร์ซิตีชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 3–1 ในเกมเหย้า เพื่อคว้าแชมป์ด้วยคะแนน 91 แต้ม นำหน้าคู่แข่งอย่างอาร์เซนอลด้วยคะแนน 2 แต้ม ซึ่งชนะเอฟเวอร์ตัน 2–1 ในเกมเหย้า อาร์เซนอลจบอันดับรองชนะเลิศด้วยคะแนน 89 แต้ม กลายเป็นทีมอันดับรองชนะเลิศที่มีคะแนนมากที่สุดเป็นอันดับที่สามในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก[30]
ในฤดูกาลนี้เห็นได้ถึงการเติบโดอย่างต่อเนื่องของแอสตันวิลลา ภายใต้การคุมทีมโดยอูไน เอเมรี โดยพวกเขาคว้าอันดับที่จะได้ไปแข่งขันในแชมเปียนส์ลีก ภายใต้'รูปแบบลีก'ที่เป็นรูปแบบใหม่ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1983 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประสบกับฤดูกาลที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังจากจบอันดับที่ 3 และคว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพในฤดูกาลเปิดตัวของเอริก เติน ฮัค ยูไนเต็ดทำสถิติอันดับต่ำที่สุดครั้งใหม่ในฤดูกาลที่สองของเขา รวมถึงอันดับต่ำที่สุดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล (อันดับที่ 8 โดยสถิติก่อนหน้านี้เป็นอันดับที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013–14 ภายใต้การคุมทีมของเดวิด มอยส์) จำนวนนัดที่แพ้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก (แพ้ 14 นัด) ผลต่างประตู -1 และเสียประตู 58 ประตู (เสียประตู 82 ประตูในทุกรายการ) มากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1976–77[ต้องการอ้างอิง] อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ดกอบกู้ฤดูกาลนี้ได้โดยการชนะแมนเชสเตอร์ซิตี ในเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตีไม่ได้แชมป์ลีกพร้อมแชมป์บอลถ้วยติดต่อกัน และได้ที่นั่งเข้าสู่ยูโรปาลีกรอบลีกสำหรับฤดูกาลถัดไป
การพัฒนา
[แก้]เช่นเดียวกับฟุตบอลโลก 2022 กฎการหยุดเวลาใหม่จะนำมาใช้ในพรีเมียร์ลีก จากความพยายามที่ควบคุมการเสียเวลา และเพื่อปรับปรุงความแม่นยำของเวลาที่ทดเข้าไป เวลาทดบาดเจ็บจะนานขึ้นในแต่ละการแข่งขัน กฎใหม่จะคำนึงถึงการหยุดการแข่งขันเนื่องจากอาการบาดเจ็บ การฉลองประตู ใบเหลืองและใบแดง และการตรวจสอบ VAR นอกจากนี้ จะมีความผิดเกี่ยวกับใบเหลือง/ใบแดง จากการไม่เห็นด้วยและการถ่วงเวลา ซึ่งส่งผลให้ใบเหลืองและใบแดงเพิ่มขึ้นอย่างมากในฤดูกาลนี้[31]
ทีม
[แก้]ประกอบด้วย 17 ทีมจากฤดูกาลที่แล้ว และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นมาจากแชมเปียนชิป ณ วันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 มี 14 ทีมจากทั้งหมด 17 ทีมที่ได้รับการการันตี เนื่องจากพวกเขามีคะแนนเพียงพอที่จะไม่ตกชั้น[32] ทีมที่เลื่อนชั้นคือ เบิร์นลีย์, เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด และ ลูตันทาวน์ ซึ่งจะกลับสู่ลีกสูงสุดหลังจากห่างหายไป 1, 2 และ 31 ปีตามลำดับ นี่จะเป็นฤดูกาลแรกของลูตันทาวน์ในพรีเมียร์ลีกด้วย ด้วยการเลื่อนชั้นของพวกเขาครั้งนี้ ลูตันทาวน์จะกลายเป็นทีมแรกที่ได้เลื่อนชั้นจากนอกลีกสู่ลีกสูงสุดในยุคพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันก็เท่ากับสถิติเดิมของวิมเบิลดันที่เร็วที่สุดในการขึ้นสู่ลีกสูงสุดจากนอกลีก (9 ปี) พวกเขาจะแทนที่เซาแธมป์ตัน, ลีดส์ยูไนเต็ดและเลสเตอร์ซิตี้ที่ตกชั้นสู่อีเอฟแอลแชมเปียนชิป หลังจากเล่นเป็นเวลา 11, 3 และ 9 ปีในลีกสูงสุด
สนามและที่ตั้ง
[แก้]บุคลากรและชุดแข่ง
[แก้]การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม
[แก้]ทีม | ผู้จัดการที่ออก | สาเหตุที่ออก | วันที่ตำแหน่งว่าง | อันดับในตารางคะแนน | ผู้จัดการคนใหม่ | วันที่ได้รับการแต่งตั้ง |
---|---|---|---|---|---|---|
เชลซี | แฟรงก์ แลมพาร์ด[86] | สิ้นสุดการจัดการทีมชั่วคราว | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 | ก่อนฤดูกาล | เมาริซิโอ โปเชติโน | 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2023[87][88] |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | ไรอัน เมสัน[89] | แอนจ์ พอสเตคอกลู | 6 มิถุนายน ค.ศ. 2023[90] | |||
บอร์นมัท | แกรี โอนีล[91] | ถูกไล่ออก | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2023 | อันโดนี อิราโอลา | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2023[92] | |
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | ยูเลน โลเปเตกี[93] | ได้รับความยินยอมร่วมกัน | 8 สิงหาคม ค.ศ. 2023 | แกรี โอนีล[94] | 9 สิงหาคม ค.ศ. 2023 | |
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | พอล เฮคกิงบ็อททอม[95] | ถูกไล่ออก | 5 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | อันดับที่ 20 | คริส วิลเดอร์[96] | 5 ธันวาคม ค.ศ. 2023 |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | สตีฟ คูเปอร์[97] | 19 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | อันดับที่ 17 | นูนู อึชปีรีตู ซังตู[98] | 20 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | |
คริสตัลพาเลซ | รอย ฮอดจ์สัน[99] | ลาออก | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 | อันดับที่ 16 | โอลิเวอร์ กลาสเนอร์[100] | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 |
ตารางคะแนน
[แก้]อันดับ | ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน | การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | แมนเชสเตอร์ซิตี (C) | 38 | 28 | 7 | 3 | 96 | 34 | +62 | 91 | ผ่านเข้าสู่ แชมเปียนส์ลีก รอบลีก |
2 | อาร์เซนอล | 38 | 28 | 5 | 5 | 91 | 29 | +62 | 89 | |
3 | ลิเวอร์พูล | 38 | 24 | 10 | 4 | 86 | 41 | +45 | 82 | |
4 | แอสตันวิลลา | 38 | 20 | 8 | 10 | 76 | 61 | +15 | 68 | |
5 | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 38 | 20 | 6 | 12 | 74 | 61 | +13 | 66 | ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบลีก |
6 | เชลซี | 38 | 18 | 9 | 11 | 77 | 63 | +14 | 63 | ผ่านเข้าสู่ คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์-ออฟ[a] |
7 | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 38 | 18 | 6 | 14 | 85 | 62 | +23 | 60 | |
8 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 38 | 18 | 6 | 14 | 57 | 58 | −1 | 60 | ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบลีก[b] |
9 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 38 | 14 | 10 | 14 | 60 | 74 | −14 | 52 | |
10 | คริสตัลพาเลซ | 38 | 13 | 10 | 15 | 57 | 58 | −1 | 49 | |
11 | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 38 | 12 | 12 | 14 | 55 | 62 | −7 | 48 | |
12 | บอร์นมัท | 38 | 13 | 9 | 16 | 54 | 67 | −13 | 48 | |
13 | ฟูลัม | 38 | 13 | 8 | 17 | 55 | 61 | −6 | 47 | |
14 | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 38 | 13 | 7 | 18 | 50 | 65 | −15 | 46 | |
15 | เอฟเวอร์ตัน | 38 | 13 | 9 | 16 | 40 | 51 | −11 | 40[c] | |
16 | เบรนต์ฟอร์ด | 38 | 10 | 9 | 19 | 56 | 65 | −9 | 39 | |
17 | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 38 | 9 | 9 | 20 | 49 | 67 | −18 | 32[d] | |
18 | ลูตันทาวน์ (R) | 38 | 6 | 8 | 24 | 52 | 85 | −33 | 26 | ตกชั้นสู่ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป |
19 | เบิร์นลีย์ (R) | 38 | 5 | 9 | 24 | 41 | 78 | −37 | 24 | |
20 | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (R) | 38 | 3 | 7 | 28 | 35 | 104 | −69 | 16 |
กฎการจัดอันดับ : 1) คะแนน; 2) ผลต่างประตู; 3) ประตูรวม; 4) หากทีมที่ชนะเลิศ, ทีมที่ตกชั้นหรือทีมที่ผ่านเข้าสู่การแข่งขันของยูฟ่า ไม่สามารถตัดสินได้ตามกฎ 1 ถึง 3, จะมีการบังคับใช้กฎ 4.1 ถึง 4.3 – 4.1) คะแนนที่ได้จากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.2) ประตูทีมเยือนจากเฮด-ทู-เฮดระหว่างทีมดังกล่าว; 4.3) เพลย์ออฟ[103]
(C) ชนะเลิศ; (R) ตกชั้น.
หมายเหตุ :
- ↑ ตั้งแต่ผู้ชนะเลิศ อีเอฟแอลคัพ ฤดูกาล 2023–24 คือลิเวอร์พูลมีสิทธิ์แข่งขันในรายการแชมเปียนส์ลีกจากอันดับในลีก ทำให้สิทธิ์ของผู้ชนะเลิศลีกคัพ (คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์-ออฟ) จะถูกส่งต่อไปยังทีมอันดับที่หก
- ↑ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้สิทธิ์เข้าร่วมสำหรับยูโรปาลีก รอบลีก ในฐานะทีมชนะเลิศ เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2023–24
- ↑ เอฟเวอร์ตันถูกหัก 8 คะแนนจากการละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน เดิมพวกเขาถูกหัก 10 คะแนน แต่ลดลงเหลือ 6 คะแนนหลังจากการอุทธรณ์ จากนั้นสโมสรถูกหักเพิ่มอีก 2 คะแนนสำหรับการละเมิดกฎเพิ่มเติม[101][12][13]
- ↑ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ถูกหัก 4 คะแนน ฐานละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืน สโมสรยื่นอุทธรณ์คำตัดสินแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ[19][20][102]
ผลการแข่งขัน
[แก้]เหย้า / เยือน | ARS | AVL | BOU | BRE | BHA | BUR | CHE | CRY | EVE | FUL | LIV | LUT | MCI | MUN | NEW | NFO | SHU | TOT | WHU | WOL |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อาร์เซนอล | — | 0–2 | 3–0 | 2–1 | 2–0 | 3–1 | 5–0 | 5–0 | 2–1 | 2–2 | 3–1 | 2–0 | 1–0 | 3–1 | 4–1 | 2–1 | 5–0 | 2–2 | 0–2 | 2–1 |
แอสตันวิลลา | 1–0 | — | 3–1 | 3–3 | 6–1 | 3–2 | 2–2 | 3–1 | 4–0 | 3–1 | 3–3 | 3–1 | 1–0 | 1–2 | 1–3 | 4–2 | 1–1 | 0–4 | 4–1 | 2–0 |
บอร์นมัท | 0–4 | 2–2 | — | 1–2 | 3–0 | 2–1 | 0–0 | 1–0 | 2–1 | 3–0 | 0–4 | 4–3 | 0–1 | 2–2 | 2–0 | 1–1 | 2–2 | 0–2 | 1–1 | 1–2 |
เบรนต์ฟอร์ด | 0–1 | 1–2 | 2–2 | — | 0–0 | 3–0 | 2–2 | 1–1 | 1–3 | 0–0 | 1–4 | 3–1 | 1–3 | 1–1 | 2–4 | 3–2 | 2–0 | 2–2 | 3–2 | 1–4 |
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 0–3 | 1–0 | 3–1 | 2–1 | — | 1–1 | 1–2 | 4–1 | 1–1 | 1–1 | 2–2 | 4–1 | 0–4 | 0–2 | 3–1 | 1–0 | 1–1 | 4–2 | 1–3 | 0–0 |
เบิร์นลีย์ | 0–5 | 1–3 | 0–2 | 2–1 | 1–1 | — | 1–4 | 0–2 | 0–2 | 2–2 | 0–2 | 1–1 | 0–3 | 0–1 | 1–4 | 1–2 | 5–0 | 2–5 | 1–2 | 1–1 |
เชลซี | 2–2 | 0–1 | 2–1 | 0–2 | 3–2 | 2–2 | — | 2–1 | 6–0 | 1–0 | 1–1 | 3–0 | 4–4 | 4–3 | 3–2 | 0–1 | 2–0 | 2–0 | 5–0 | 2–4 |
คริสตัลพาเลซ | 0–1 | 5–0 | 0–2 | 3–1 | 1–1 | 3–0 | 1–3 | — | 2–3 | 0–0 | 1–2 | 1–1 | 2–4 | 4–0 | 2–0 | 0–0 | 3–2 | 1–2 | 5–2 | 3–2 |
เอฟเวอร์ตัน | 0–1 | 0–0 | 2–0 | 1–0 | 1–1 | 1–0 | 2–0 | 1–1 | — | 0–1 | 2–0 | 1–2 | 1–3 | 0–3 | 3–0 | 2–0 | 1–0 | 2–2 | 1–3 | 0–1 |
ฟูลัม | 2–1 | 1–2 | 3–1 | 0–3 | 3–0 | 0–2 | 0–2 | 1–1 | 0–0 | — | 1–3 | 1–0 | 0–4 | 0–1 | 0–1 | 5–0 | 3–1 | 3–0 | 5–0 | 3–2 |
ลิเวอร์พูล | 1–1 | 3–0 | 3–1 | 3–0 | 2–1 | 3–1 | 4–1 | 0–1 | 2–0 | 4–3 | — | 4–1 | 1–1 | 0–0 | 4–2 | 3–0 | 3–1 | 4–2 | 3–1 | 2–0 |
ลูตันทาวน์ | 3–4 | 2–3 | 2–1 | 1–5 | 4–0 | 1–2 | 2–3 | 2–1 | 1–1 | 2–4 | 1–1 | — | 1–2 | 1–2 | 1–0 | 1–1 | 1–3 | 0–1 | 1–2 | 1–1 |
แมนเชสเตอร์ซิตี | 0–0 | 4–1 | 6–1 | 1–0 | 2–1 | 3–1 | 1–1 | 2–2 | 2–0 | 5–1 | 1–1 | 5–1 | — | 3–1 | 1–0 | 2–0 | 2–0 | 3–3 | 3–1 | 5–1 |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 0–1 | 3–2 | 0–3 | 2–1 | 1–3 | 1–1 | 2–1 | 0–1 | 2–0 | 1–2 | 2–2 | 1–0 | 0–3 | — | 3–2 | 3–2 | 4–2 | 2–2 | 3–0 | 1–0 |
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 1–0 | 5–1 | 2–2 | 1–0 | 1–1 | 2–0 | 4–1 | 4–0 | 1–1 | 3–0 | 1–2 | 4–4 | 2–3 | 1–0 | — | 1–3 | 5–1 | 4–0 | 4–3 | 3–0 |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 1–2 | 2–0 | 2–3 | 1–1 | 2–3 | 1–1 | 2–3 | 1–1 | 0–1 | 3–1 | 0–1 | 2–2 | 0–2 | 2–1 | 2–3 | — | 2–1 | 0–2 | 2–0 | 2–2 |
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | 0–6 | 0–5 | 1–3 | 1–0 | 0–5 | 1–4 | 2–2 | 0–1 | 2–2 | 3–3 | 0–2 | 2–3 | 1–2 | 1–2 | 0–8 | 1–3 | — | 0–3 | 2–2 | 2–1 |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 2–3 | 1–2 | 3–1 | 3–2 | 2–1 | 2–1 | 1–4 | 3–1 | 2–1 | 2–0 | 2–1 | 2–1 | 0–2 | 2–0 | 4–1 | 3–1 | 2–1 | — | 1–2 | 1–2 |
เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 0–6 | 1–1 | 1–1 | 4–2 | 0–0 | 2–2 | 3–1 | 1–1 | 0–1 | 0–2 | 2–2 | 3–1 | 1–3 | 2–0 | 2–2 | 3–2 | 2–0 | 1–1 | — | 3–0 |
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 0–2 | 1–1 | 0–1 | 0–2 | 1–4 | 1–0 | 2–1 | 1–3 | 2–0 | 2–1 | 1–3 | 2–1 | 2–1 | 3–4 | 2–2 | 1–1 | 1–0 | 2–1 | 1–2 | — |
สีฟ้าหมายถึงทีมเหย้าชนะ สีเหลืองหมายถึงเสมอกัน และสีแดงหมายถึงทีมเยือนชนะ
อักษร "a" สำหรับการแข่งขันที่ยังไม่เกิดขึ้นหมายความว่ามีบทความเกี่ยวกับการแข่งขันนัดนี้
สถิติตลอดฤดูกาล
[แก้]ผู้ทำประตูสูงสุด
[แก้]อันดับ | ผู้เล่น | สโมสร | ประตู[104] |
---|---|---|---|
1 | อาลิง โฮลัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | 27 |
2 | โคล พาลเมอร์ | เชลซี | 22 |
3 | อาเล็กซันเดอร์ อีซัก | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 21 |
4 | ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | 19 |
ดอมินิก โชลังเก | บอร์นมัท | ||
ออลลี วอตกินส์ | แอสตันวิลลา | ||
7 | มุฮัมมัด เศาะลาห์ | ลิเวอร์พูล | 18 |
8 | ซน ฮึง-มิน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 17 |
9 | จาร์ร็อด โบเวน | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 16 |
ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตตา | คริสตัลพาเลซ | ||
บูกาโย ซากา | อาร์เซนอล |
แฮท-ทริคส์
[แก้]ผู้เล่น | ทีม | พบกับทีม | ผล | วันที่ |
---|---|---|---|---|
ซน ฮึง-มิน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | เบิร์นลีย์ | 5–2 (A)[105] | 2 กันยายน 2023 |
อาลิง โฮลัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | ฟูลัม | 5–1 (H)[106] | |
เอฟวัน เฟอร์กูสัน | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 3–1 (H)[107] | |
ออลลี วอตกินส์ | แอสตันวิลลา | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 6–1 (H)[108] | 30 กันยายน 2023 |
เอ็ดดี เอ็นเคเตียห์ | อาร์เซนอล | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | 5–0 (H)[109] | 28 ตุลาคม 2023 |
นิโคลัส แจ็คสัน | เชลซี | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 4–1 (A)[110] | 6 พฤศจิกายน 2023 |
ดอมินิก โชลังเก | บอร์นมัท | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 3–2 (A)[111] | 23 ธันวาคม 2023 |
คริส วูด | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 3–1 (A)[112] | 26 ธันวาคม 2023 |
เอไลจาห์ อาเดบาโย | ลูตันทาวน์ | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 4–0 (H)[113] | 30 มกราคม 2024 |
มาเทอุส คุนญา | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | เชลซี | 4–2 (A)[114] | 4 กุมภาพันธ์ 2024 |
ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | เบรนต์ฟอร์ด | 3–1 (A)[115] | 5 กุมภาพันธ์ 2024 |
จาร์ร็อด โบเวน | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 4–2 (H)[116] | 26 กุมภาพันธ์ 2024 | |
ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | แอสตันวิลลา | 4–1 (H)[117] | 3 เมษายน 2024 |
โคล พาลเมอร์ | เชลซี | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 4–3 (H)[118] | 4 เมษายน 2024 |
โคล พาลเมอร์4 | เอฟเวอร์ตัน | 5–0 (H) | 15 เมษายน 2024 | |
อาลิง โฮลัน4 | แมนเชสเตอร์ซิตี | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 5–1 (H)[119] | 4 พฤษภาคม 2024 |
ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตตา | คริสตัลพาเลซ | แอสตันวิลลา | 5–0 (H)[120] | 19 พฤษภาคม 2024 |
- หมายเหตุ
4 ผู้เล่นทำประตู 4 ประตู
คลีนชีตส์
[แก้]อันดับ | ผู้เล่น | สโมสร | จำนวนคลีนชีตส์[121] |
---|---|---|---|
1 | ดาบิด รายา | อาร์เซนอล | 16 |
2 | จอร์แดน พิกฟอร์ด | เอฟเวอร์ตัน | 13 |
3 | แบนท์ เลโน | ฟูลัม | 10 |
แอแดร์ซง | แมนเชสเตอร์ซิตี | ||
5 | เอมิเลียโน มาร์ติเนซ | แอสตันวิลลา | 8 |
อ็องเดร ออนานา | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||
7 | อาลีซง | ลิเวอร์พูล | 7 |
มาร์ก เฟล็คเคิน | เบรนต์ฟอร์ด | ||
แนตู | บอร์นมัท | ||
10 | แซม จอห์นสโตน | คริสตัลพาเลซ | 6 |
กูลเยลโม วีการีโอ | ทอตนัมฮอตสเปอร์ |
การคาดโทษ
[แก้]ผู้เล่น
[แก้]- ใบเหลืองมากที่สุด: 13[122]
- ฌูเวา ปัลยีญา (ฟูลัม)
- ใบแดงมากที่สุด: 2[123]
- อีฟส์ บิสซูมา (ทอตนัมฮอตสเปอร์)
- โอลี แมคเบอร์นี (เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด)
สโมสร
[แก้]- ใบเหลืองมากที่สุด: 101[124]
- เชลซี
- ใบเหลืองน้อยที่สุด: 52[124]
- แมนเชสเตอร์ซิตี
- ใบแดงมากที่สุด: 7[125]
- เบิร์นลีย์
- ใบแดงน้อยที่สุด: 0[125]
- ลูตันทาวน์
รางวัล
[แก้]รางวัลประจำเดือน
[แก้]รางวัลประจำเดือน
[แก้]รางวัล | ผู้ชนะเลิศ | สโมสร |
---|---|---|
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล[162] | ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "English Premier League Performance Stats, 2023–24 Season". ESPN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 May 2024.
- ↑ "Dates for 2023/24 season confirmed" (Press release) (ภาษาอังกฤษ). London: The Football Association Premier League Limited. สืบค้นเมื่อ 28 February 2024.
- ↑ "Fixture release date for 2023/24 season announced" (Press release) (ภาษาอังกฤษ). The Football Association Premier League Limited. สืบค้นเมื่อ 28 February 2024.
- ↑ "Fixture release date for 2023/24 season announced" (Press release) (ภาษาอังกฤษ). London: The Football Association Premier League Limited. 15 June 2023. สืบค้นเมื่อ 28 February 2024.
- ↑ "When does the 2023/24 Premier League season start? Key dates, transfer window, winter break and more". Sky Sports (ภาษาอังกฤษ). London. สืบค้นเมื่อ 28 February 2024.
- ↑ Hytner, David (19 May 2024). "Manchester City beat West Ham to win fourth Premier League title in a row". The Guardian. Manchester. สืบค้นเมื่อ 21 May 2024.
- ↑ "Manchester City wins record fourth consecutive Premier League title, the first men's team in English league history to achieve this feat". Sportsnet (ภาษาอังกฤษ). Toronto: Rogers Media. AP. สืบค้นเมื่อ 2024-05-19.
- ↑ "Premier League 2024: Manchester City's Triumph and Arsenal's Close Cha". Fitknit (ภาษาอังกฤษ). 2024-05-27. สืบค้นเมื่อ 2024-06-14.
- ↑ "When does the 2023/24 Premier League season start? Key dates, transfer window, winter break and more". Sky Sports. 24 May 2023. สืบค้นเมื่อ 24 May 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Dates for summer 2023 and winter 2024 transfer windows confirmed". Premier League. 24 May 2023. สืบค้นเมื่อ 24 May 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ Poole, Harry (17 November 2023). "Everton receive immediate 10-point Premier League deduction". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 17 November 2023.
- ↑ 12.0 12.1 Jackson, Bobbie. "Everton punishment reduced to six points". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 26 February 2024.
- ↑ 13.0 13.1 "Everton deducted two points for breaching Premier League Profitability and Sustainability Rules for second time". Sky Sports (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 8 April 2024. สืบค้นเมื่อ 8 April 2024.
- ↑ "Everton lodge appeal against second points deduction". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2024-04-15.
- ↑ Kay, Oliver. "Premier League referees freelancing in the UAE and Saudi? Webb has got himself in a tangle". The Athletic (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 5 January 2024.
- ↑ "Tom Lockyer: Luton captain 'stable' after suffering cardiac arrest". BBC Sport. 16 December 2023. สืบค้นเมื่อ 17 December 2023.
- ↑ Sanghera, Mandeep; Abraham, Timothy (26 January 2024). "Jurgen Klopp to step down as Liverpool manager at end of season". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 26 January 2024.
- ↑ "Crystal Palace appoint Glasner as new manager". BBC Sport. 19 February 2024. สืบค้นเมื่อ 19 February 2024.
- ↑ 19.0 19.1 Unwin, Will (18 March 2024). "Nottingham Forest docked four points for Premier League financial rules breach". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 18 March 2024.
- ↑ 20.0 20.1 "Forest lodge appeal against points deduction". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2024-03-28.
- ↑ Howarth, Matthew (26 April 2024). "Newcastle United v Sheffield United". BBC Sport. Manchester. สืบค้นเมื่อ 27 April 2024.
- ↑ Drury, Sam (4 May 2024). "Sheffield United v Nottingham Forest". BBC Sport. Manchester. สืบค้นเมื่อ 4 May 2024.
- ↑ "Club Statement – David Moyes" (Press release). London: West Ham United Football Club. 6 May 2024. สืบค้นเมื่อ 6 May 2024.
- ↑ Aarons, Ed (11 May 2024). "Burnley relegated after Micky van de Ven keeps Tottenham's season alive". The Observer. London. สืบค้นเมื่อ 13 May 2024.
- ↑ https://x.com/premierleague/status/1791733072385241592
- ↑ Steinberg, Jacob (11 May 2024). "Luton on brink of relegation after West Ham see David Moyes off in style". The Observer. London. สืบค้นเมื่อ 13 May 2024.
- ↑ Thomas, Marissa (2024-05-19). "Jimenez scores as Fulham beat relegated Luton". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). Manchester. สืบค้นเมื่อ 2024-06-29.
- ↑ Millington, Adam (2024-05-19). "Chris Wood's double sealed Premier League safety for Forest". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). Manchester. สืบค้นเมื่อ 2024-05-19.
- ↑ "Brighton: Boss Roberto de Zerbi to leave after final game". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). Manchester. 2024-05-18. สืบค้นเมื่อ 2024-05-18.
- ↑ Rose, Ajay (19 May 2024). "How the number of points required to win the Premier League title has gone up and up". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 11 Jun 2024.
- ↑ Tweedale, Ali (22 August 2023). "Why Time-Wasting and Dissent Crackdown Will Help the Big Teams". The Analyst (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 December 2023.
- ↑ "Has it Happened? Possible Season Outcomes". 22 April 2023. สืบค้นเมื่อ 22 April 2023.
- ↑ "Adidas and Arsenal launch new partnership". Adidas. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2020. สืบค้นเมื่อ 1 July 2019.
- ↑ "Emirates and Arsenal Renew Sponsorship Deal". Emirates.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2021. สืบค้นเมื่อ 24 February 2019.
- ↑ "Arsenal partner with 'Visit Rwanda'". Arsenal F.C. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 August 2021. สืบค้นเมื่อ 23 May 2018.
- ↑ "Aston Villa and Castore sign landmark multi-year partnership". Aston Villa F.C. 31 May 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 June 2022. สืบค้นเมื่อ 31 May 2022.
- ↑ "Aston Villa agree Principal Partnership with BK8". Aston Villa Football Club. 2023-06-22. สืบค้นเมื่อ 2023-06-22.
- ↑ "Aston Villa announce Trade Nation as new partner". Aston Villa Football Club. 2023-06-22. สืบค้นเมื่อ 2023-06-22.
- ↑ "AFC Bournemouth sign new Umbro deal". A.F.C. Bournemouth. 9 July 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 September 2022. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ "AFC Bournemouth announce Dafabet as new front-of-shirt sponsors". Bournemouth Echo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 June 2022. สืบค้นเมื่อ 25 June 2022.
- ↑ Williams, Matthew (28 July 2022). "Bournemouth fill sleeve sponsor role with DeWalt". SportBusiness. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 July 2022. สืบค้นเมื่อ 28 July 2022.
- ↑ "Brentford and Umbro extension of partnership". Brentford F.C. 12 August 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 January 2023. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ "Brentford Announce Hollywoodbets as New principal Sponsor". Brentford F.C. 29 June 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2021. สืบค้นเมื่อ 16 July 2021.
- ↑ "SafetyCulture named Official Sleeve Sponsor". Brentford F.C. 15 July 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 January 2023. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ 45.0 45.1 "New Kit Partnership with Nike". Brighton & Hove Albion F.C. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2014. สืบค้นเมื่อ 6 June 2014.
- ↑ "Sleeve sponsor SnickersUK.com joins Amex on Brighton shirt to make local double". SportBusiness. 11 September 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2019. สืบค้นเมื่อ 12 September 2020.
- ↑ "No More Puma - Umbra Burnley 19-20 Home Kit Released + Kit & Sponsor Deal Announced". Footy Headlines. สืบค้นเมื่อ 30 May 2022.
- ↑ "Burnley Partnership". Classic Football Shirts. สืบค้นเมื่อ 9 April 2023.
- ↑ "Chelsea signs record-breaking £900m Nike kit deal". BBC News. 14 October 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 January 2023. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ "Infinite Athlete becomes Chelsea FC's Principal Partner for 2023/24 season". Chelsea F.C. 30 September 2023. สืบค้นเมื่อ 30 September 2023.
- ↑ "BingX to join Chelsea as Official Sleeve Partner". www.chelseafc.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2024-01-06.
- ↑ "Crystal Palace announce kit deal with Macron". Crystal Palace F.C. 22 June 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2022. สืบค้นเมื่อ 22 June 2022.
- ↑ "cinch to become official front of shirt sponsor of Crystal Palace". Crystal Palace F.C. 26 May 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 May 2022. สืบค้นเมื่อ 26 May 2022.
- ↑ "Crystal Palace announce Kaiyun Sports partnership". Crystal Palace F.C. 27 May 2023. สืบค้นเมื่อ 27 May 2023.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Everton Agrees Club-Record Kit Deal With hummel". Everton F.C. 20 May 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 May 2020. สืบค้นเมื่อ 4 July 2020.
- ↑ "Everton signs club-record deal with Stake.com". Everton F.C. 9 June 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 June 2022. สืบค้นเมื่อ 9 June 2022.
- ↑ "Everton signs up BOXT as shirt sleeve partner". Everton F.C. 4 August 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2022. สืบค้นเมื่อ 4 August 2022.
- ↑ "New Adidas partnership". Fulham F.C. 12 October 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 August 2020. สืบค้นเมื่อ 20 April 2022.
- ↑ "Club announces record sponsorship with W88". Fulham F.C. 25 July 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 July 2022. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ "Fulham Extends Partnership with World Mobile". Fulham F.C. 28 June 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 June 2022. สืบค้นเมื่อ 29 June 2022.
- ↑ "LFC announces multi-year partnership with Nike as official kit supplier from 2020–21". Liverpool F.C. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2021. สืบค้นเมื่อ 7 January 2020.
- ↑ "Liverpool renew Standard Chartered sponsorship deal". Reuters. 24 May 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 April 2021. สืบค้นเมื่อ 12 January 2020.
- ↑ "Liverpool Embarks on a Journey with Expedia". Liverpool F.C. 17 October 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 January 2021. สืบค้นเมื่อ 17 October 2020.
- ↑ "Umbro get on board with Luton Town". Luton Town F.C. 24 July 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-28. สืบค้นเมื่อ 27 June 2023.
- ↑ "Why Kyle Walker Will Remain As Man City Captain Despite Kevin De Bruyne's Return From Injury" (ภาษาอังกฤษ). FanNation. 8 January 2024. สืบค้นเมื่อ 20 January 2024.
- ↑ "Manchester City strike 10-year kit deal with Puma". Sky Sports. 28 February 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2019. สืบค้นเมื่อ 28 February 2019.
- ↑ Taylor, Daniel (8 July 2011). "Manchester City bank record £400m sponsorship deal with Etihad Airways". The Guardian. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2020. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
- ↑ MCFCEditorial. "Manchester City and Okx announce new shirt sleeve Partnership". Man City. สืบค้นเมื่อ 30 June 2023.
- ↑ "Manchester United and Adidas in £750m deal over 10 years". BBC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2020. สืบค้นเมื่อ 23 June 2015.
- ↑ "United and TeamViewer announce new principal shirt partnership". 19 March 2021.
{{cite news}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "United and Adidas launch new home shirt". Manchester United. 8 July 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 July 2022. สืบค้นเมื่อ 8 July 2022.
- ↑ "Castore reportedly agreed deal with leading La Liga club on the eve of Newcastle kit announcement". 29 June 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 July 2021. สืบค้นเมื่อ 11 May 2022.
- ↑ "Newcastle United & Sela agree multi-year front of shirt partnership". Newcastle United. 9 June 2023. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-10. สืบค้นเมื่อ 9 June 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "noon.com becomes official sleeve partner". Newcastle United. 27 June 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-29. สืบค้นเมื่อ 9 June 2023.
{{cite news}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ Club, Nottingham Forest Football (2023-06-28). "adidas becomes official kit partner of Nottingham Forest". Nottingham Forest Football Club. สืบค้นเมื่อ 2023-06-28.
- ↑ F.C., Nottingham Forest (22 December 2022). "Forest and UK for UNHCR launch charity shirt partnership". Nottingham Forest F.C. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 December 2022. สืบค้นเมื่อ 22 December 2022.
- ↑ "Tottenham Hotspur announces multi-year partnership with Nike". Tottenham Hotspur F.C. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 June 2018. สืบค้นเมื่อ 30 June 2017.
- ↑ "Tottenham Hotspur announce new £320m shirt deal". BBC Sport. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 November 2020. สืบค้นเมื่อ 25 July 2019.
- ↑ "cinch becomes Club's Official Sleeve Partner". Tottenham Hotspur F.C. 8 January 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 January 2021. สืบค้นเมื่อ 8 January 2021.
- ↑ "Umbro extends partnership with West Ham United as official technical partner". West Ham United F.C. 2 May 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 January 2023. สืบค้นเมื่อ 4 January 2023.
- ↑ "Hammers renew partnership with Betway | West Ham United F.C." www.whufc.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-05-28.
- ↑ "JD announced as official sleeve partner of West Ham United". West Ham United F.C. สืบค้นเมื่อ 7 July 2023.
- ↑ Neville, Simon (21 May 2021). "Sir Andy Murray's sportswear brand signs up Wolves in first Premier kit deal". Yahoo! Sports. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 May 2021. สืบค้นเมื่อ 10 April 2022.
- ↑ "AstroPay announces new Premier League partnership with Wolverhampton Wanderers". AstroPay.com (ภาษาอังกฤษ). 25 August 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 August 2022. สืบค้นเมื่อ 3 June 2022.
- ↑ "New goalkeeper kits unveiled". Wolves.co.uk. 8 June 2023. สืบค้นเมื่อ 22 June 2023.
- ↑ "Club statement - Frank Lampard" (ภาษาอังกฤษ). Chelsea F.C. 6 April 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-05-06.
- ↑ sport, Guardian (2023-05-28). "Mauricio Pochettino signs contract to become Chelsea head coach until 2026". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2023-05-29.
- ↑ "Mauricio Pochettino to become Chelsea head coach". www.chelseafc.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2023-05-29.
- ↑ "Club update from Daniel" (ภาษาอังกฤษ). Tottenham Hotspur F.C. 24 April 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-05-05.
- ↑ "Club announcement – Appointment of Ange Postecoglou as Head Coach" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). Tottenham Hotspur. 6 June 2023.
- ↑ "Club statement: Gary O'Neil". AFC Bournemouth. 2023-06-19. สืบค้นเมื่อ 2023-06-19.
- ↑ "Club announcement – Appointment of Andoni Iraola as Manager" (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). AFC Bournemouth. 19 June 2023.
- ↑ "Wolves and Lopetegui agree to part ways". Wolverhampton Wanderers F.C. 8 August 2023. สืบค้นเมื่อ 8 August 2023.
- ↑ "Gary O'Neil appointed new head coach". Wolverhampton Wanderers F.C. 9 August 2023. สืบค้นเมื่อ 9 August 2023.
- ↑ "Heckingbottom Departs". Sheffield United F.C. 5 December 2023. สืบค้นเมื่อ 5 December 2023.
- ↑ "Sheff Utd sack Heckingbottom and appoint Wilder". BBC Sport. 5 December 2023. สืบค้นเมื่อ 5 December 2023.
- ↑ "Nottingham Forest sack Steve Cooper and hold talks with Nuno Espirito Santo". BBC Sport. 19 December 2023. สืบค้นเมื่อ 19 December 2023.
- ↑ "Nottingham Forest: Nuno Espirito Santo replaces Steve Cooper as manager". BBC Sport. 20 December 2023. สืบค้นเมื่อ 20 December 2023.
- ↑ "Statement: Roy Hodgson". Crystal Palace F.C. 19 February 2024. สืบค้นเมื่อ 19 February 2024.
- ↑ "Oliver Glasner appointed as Palace manager". Crystal Palace F.C. 19 February 2024. สืบค้นเมื่อ 19 February 2024.
- ↑ "Everton FC deducted 10 points by independent Commission". Premier League. 17 November 2023. สืบค้นเมื่อ 17 November 2023.
- ↑ "Forest points deduction appeal rejected". BBC Sport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2024-05-07.
- ↑ Premier League Handbook: Season 2023/24 (PDF). 29 August 2023. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 1 September 2023. สืบค้นเมื่อ 22 September 2023.
- ↑ "Premier League Player Stats: Goals". Premier League. สืบค้นเมื่อ 19 May 2024.
- ↑ Howarth, Matthew (2 September 2023). "Burnley 2–5 Tottenham Hotspur: Son Heung-min nets hat-trick as Spurs recover to thrash Clarets". BBC Sport. BBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 September 2023. สืบค้นเมื่อ 2 September 2023.
- ↑ Stone, Simone (2 September 2023). "Manchester City 5–1 Fulham: Erling Haaland scores hat-trick as champions return to the top of the Premier League". BBC Sport. BBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 September 2023. สืบค้นเมื่อ 2 September 2023.
- ↑ Begley, Emlyn (2 September 2023). "Brighton & Hove Albion 3–1 Newcastle United: Teenager Evan Ferguson scores hat-trick in fine win". BBC Sport. BBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 September 2023. สืบค้นเมื่อ 2 September 2023.
- ↑ Howarth, Matthew (30 September 2023). "Aston Villa 6–1 Brighton & Hove Albion: Ollie Watkins scores hat-trick". BBC Sport. BBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 September 2023. สืบค้นเมื่อ 30 September 2023.
- ↑ Thomas, Marissa (28 October 2023). "Arsenal 5–0 Sheffield United: Eddie Nketiah scores hat-trick as Gunners remain unbeaten". BBC Sport. BBC. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 October 2023. สืบค้นเมื่อ 28 October 2023.
- ↑ "Tottenham 1–4 Chelsea: Chelsea beat nine-man Tottenham in chaotic epic". BBC Sport. BBC. 6 November 2023. สืบค้นเมื่อ 6 November 2023.
- ↑ "Nottingham Forest 2-3 Bournemouth: Dominic Solanke hat-trick sinks Nuno's 10 men". BBC Sport. BBC. 23 December 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 December 2023. สืบค้นเมื่อ 23 December 2023.
- ↑ "Newcastle United 1-3 Nottingham Forest: Chris Wood hat-trick against former club helps visitors to stunning win". BBC Sport. BBC. 26 December 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 December 2023. สืบค้นเมื่อ 26 December 2023.
- ↑ Howarth, Matthew (30 January 2024). "Luton Town 4–0 Brighton: Hatters score twice in first 3 minutes in remarkable victory". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2024. สืบค้นเมื่อ 30 January 2024.
- ↑ Poole, Harry (4 February 2024). "Chelsea 2-4 Wolverhampton Wanderers: Matheus Cunha hat-trick as Wolves stun Blues". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 February 2024. สืบค้นเมื่อ 4 February 2024.
- ↑ McNulty, Phil (5 February 2024). "Brentford 1-3 Manchester City: Phil Foden scores hat-trick in comeback win as City go second". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 February 2024. สืบค้นเมื่อ 5 February 2024.
- ↑ Rose, Gary (26 February 2024). "West Ham 4-2 Brentford: Jarrod Bowen scores hat-trick in Premier League win". BBC Sport. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 February 2024. สืบค้นเมื่อ 26 February 2024.
- ↑ McNulty, Phil (3 April 2024). "Manchester City 4-1 Aston Villa: Phil Foden hits stunning hat-trick in victory at Etihad Stadium". BBC Sport. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2024. สืบค้นเมื่อ 3 April 2024.
- ↑ Howell, Alex (4 April 2024). "Chelsea 4–3 Manchester United: Cole Palmer hits hat-trick to earn remarkable win". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 April 2024. สืบค้นเมื่อ 4 April 2024.
- ↑ Stone, Simon (4 May 2024). "Manchester City 5–1 Wolverhampton Wanderers: Erling Haaland scores four as City move a point behind Arsenal". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 May 2024. สืบค้นเมื่อ 4 May 2024.
- ↑ Oscroft, Tim (19 May 2024). "Mateta hat-trick helps Palace thrash Villa". Manchester: BBC Sport. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 May 2024. สืบค้นเมื่อ 20 May 2024.
- ↑ "Premier League Player Stats – Clean Sheets". Premier League. สืบค้นเมื่อ 11 May 2024.
- ↑ "Premier League Player Stats – Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 11 May 2024.
- ↑ "Premier League Player Stats – Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 11 May 2024.
- ↑ 124.0 124.1 "Premier League Club Stats – Yellow Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 11 May 2024.
- ↑ 125.0 125.1 "Premier League Club Stats – Red Cards". Premier League. สืบค้นเมื่อ 11 May 2024.
- ↑ "Postecoglou ends wait for Australia with Barclays Manager award". Premier League. 15 September 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-15. สืบค้นเมื่อ 15 September 2023.
- ↑ "Maddison joy in joining 'elite' club with EA SPORTS Player award". Premier League. 15 September 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-15. สืบค้นเมื่อ 15 September 2023.
- ↑ "Mitoma makes history with Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 15 September 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-15. สืบค้นเมื่อ 15 September 2023.
- ↑ "Alisson ranks Castrol Save of the Month winner among his best". Premier League. 15 September 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 September 2023. สืบค้นเมื่อ 15 September 2023.
- ↑ "Postecoglou makes history as Barclays Manager of the Month". Premier League. 13 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 October 2023. สืบค้นเมื่อ 13 October 2023.
- ↑ "Son matches Shearer and Henry with EA SPORTS Player award". Premier League. 13 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 October 2023. สืบค้นเมื่อ 13 October 2023.
- ↑ "Fernandes equals record with Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 13 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 October 2023. สืบค้นเมื่อ 13 October 2023.
- ↑ "Sanchez claims Castrol Save of the Month award". Premier League. 13 October 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 October 2023. สืบค้นเมื่อ 13 October 2023.
- ↑ "Hat-trick as Postecoglou wins Barclays Manager of the Month". Premier League. 10 November 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 November 2023. สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ "Salah wins EA SPORTS Player of the Month for a fifth time". Premier League. 10 November 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 November 2023. สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ "Ghoddos strike awarded Budweiser Goal of the Month". Premier League. 10 November 2023. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 November 2023. สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ "Areola claims Castrol Save of the Month award". Premier League. 10 November 2023. สืบค้นเมื่อ 10 November 2023.
- ↑ "Ten Hag named Barclays Manager of the Month". Premier League. 8 December 2023. สืบค้นเมื่อ 8 December 2023.
- ↑ "Maguire voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 8 December 2023. สืบค้นเมื่อ 8 December 2023.
- ↑ "Garnacho overhead kick wins Budweiser Goal of the Month". Premier League. 8 December 2023. สืบค้นเมื่อ 8 December 2023.
- ↑ "Kaminski claims Castrol Save of the Month". Premier League. 8 December 2023. สืบค้นเมื่อ 8 December 2023.
- ↑ "Emery named Barclays Manager of the Month". Premier League. 12 January 2024. สืบค้นเมื่อ 12 January 2024.
- ↑ "Solanke wins historic EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 12 January 2024. สืบค้นเมื่อ 12 January 2024.
- ↑ "Mac Allister worldie wins Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 12 January 2024. สืบค้นเมื่อ 12 January 2024.
- ↑ "Foderingham wins Castrol Save of the Month award". Premier League. 12 January 2024. สืบค้นเมื่อ 12 January 2024.
- ↑ "Klopp named Barclays Manager of the Month". Premier League. 16 February 2024. สืบค้นเมื่อ 16 February 2024.
- ↑ "Jota wins first EA SPORTS Player of the Month award". Premier League. 16 February 2024. สืบค้นเมื่อ 16 February 2024.
- ↑ "Bobb's brilliant strike wins Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 16 February 2024. สืบค้นเมื่อ 16 February 2024.
- ↑ "Pickford claims Castrol Save of the Month award". Premier League. 16 February 2024. สืบค้นเมื่อ 16 February 2024.
- ↑ "Arteta wins seventh Barclays Manager of the Month award". Premier League. 8 March 2024. สืบค้นเมื่อ 8 March 2024.
- ↑ "Hojlund makes history as EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 8 March 2024. สืบค้นเมื่อ 8 March 2024.
- ↑ "Mainoo's late stunner wins Budweiser Goal of the Month award". Premier League. 8 March 2024. สืบค้นเมื่อ 8 March 2024.
- ↑ "Flekken wins Castrol Save of the Month award". Premier League. 8 March 2024. สืบค้นเมื่อ 8 March 2024.
- ↑ "Iraola wins Barclays Manager of the Month award". Premier League. 12 April 2024. สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.
- ↑ "Muniz voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 12 April 2024. สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.
- ↑ "Rashford screamer voted Budweiser Goal of the Month". Premier League. 12 April 2024. สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.
- ↑ "Sels makes history with Castrol Save of the Month award". Premier League. 12 April 2024. สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.
- ↑ "Dyche named Barclays Manager of the Month". Premier League. 10 May 2024. สืบค้นเมื่อ 10 May 2024.
- ↑ "Palmer voted EA SPORTS Player of the Month". Premier League. 10 May 2024. สืบค้นเมื่อ 10 May 2024.
- ↑ "Palmer wins awards DOUBLE with Budweiser Goal of the Month". Premier League. 10 May 2024. สืบค้นเมื่อ 10 May 2024.
- ↑ "Onana wins Castrol Save of the Month award". Premier League. 10 May 2024. สืบค้นเมื่อ 10 May 2024.
- ↑ "Phil Foden and Bunny Shaw win FWA Footballer of the Year awards". Football Writers' Association. 3 May 2024. สืบค้นเมื่อ 4 May 2024.